MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 105
เพื่อที่จะปราบปรามจิตวิญญาณต่อสู้ของกองกำลัง 450,000 นาย ที่เหลือของ ราชาเมกาทรอน ลู่เว่ย ซุนฮก จึงคิดวิธีนี้ขึ้นมา
เขาใช้แหวนเก็บของสองอันที่ได้รับมาจากนิกายหยุนกงครั้งสุดท้ายเพื่อเก็บศพทหารหลังจากนั้นก็นำไปจัดวางไว้ที่ค่ายทหารของราชาเมกาทรอน
ด้วยศพทหาร 50,000 นายนี้ กระทั่งทำให้ส่งผลกระทบต่อ จิตวิญญาณต่อสู้ของทหารจำนวนมาก
ลู่เฟิง ได้ยิ้มและตอบกลับ”ข้าอยากจะเห็นสีหน้าลุงของข้ามากกว่าเมื่อเขาเห็นกองทัพ 500,000 นาย ของข้าในตอนนี้”
“มันคงจะเป็นสีหน้าที่ตกใจหน้าดูพะยะค่ะ!”ซุนฮก ได้ยิ้มและตอบกลับ
“ข้าเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ฮ่า ๆ !”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา กองทัพของลู่เฟิง ก็มาถึงประตูทางทิศเหนือของเมืองงูหยก ด้านหน้าของเขาเป็นค่ายทหารของราชาเมกาทรอน ลู่เว่ย
เหลียนป๋อ ซุนฮก ได้ถอยหลังไปอยู่ด้านหลังของ ลู่เฟิง โดยทิ้งตำแหน่งไว้ นี่คือการเคารพจักรพรรดิในสนามรบ
ลู่เว่ย ที่ยินข่าวกองทัพเดินทัพมาหาเขา เขาก็ได้ออกมาจากค่ายพร้อมกับทหาร 450,000 นาย และ ต้องการจะเปิดศึกเผชิญหน้ากับลู่เฟิง
แต่เมื่อเขาเห็นเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกอับอาย ภูมิประเทศนี้ไม่กว้างพอที่จะวางกองกำลังทหารราบพร้อมกับปล่อยให้ทหารม้าเข้าชาร์จ
หากเป็นเช่นนี้ นี่จะเป็นศึกการดวลระหว่างทหารราบทันที
เมื่อคิดได้เขาก็รู้สึกเสียใจ
แน่นอนว่าเหตุผลทั้งหมดเป็นเพราะเขาไม่คิดว่า เหลียนป๋อ จะส่งกองกำลังมากช่วยเหลือและมาถึงเมืองงูหยกในะระยะเวลาอันสั้น
กองทัพทหารม้า 50,000 นาย ของเขาถูกสังหารโดยกองทัพของเหลียนป๋อ อย่างแน่นอน เขาไม่คิดว่า จักรพรรดิน้อยลู่เฟิง จะมีความสามารถบัญชาทัพมากขนาดนั้น
ยังไง ลู่เว่ย ก็ยังคงดูถูก ลู่เฟิง อยู่ดี
“ฝ่าบาท สถานการณ์ไม่สู้ดี เหลียนป๋อ เป็นผู้นำทัพด้วยตัวเอง ตอนนี้ ภูมิประเทศที่นี่ไม่เหมาะกับกองกำลังทหารม้าของพวกเรา ข้าน้อยแนะนำให้พวกเราวางทหารม้าไว้ข้างหลังชั่วคราว และ ปล่อยให้ทหารราบของเราต่อสู้กับกองทัพของ เหลียนป๋อ!”
“แน่นอนว่าสถานที่แห่งนี้ ก็ไม่ได้เอื้ออำนวยเหลียนป๋อเช่นเดียวกัน ข้าน้อยเชื่อว่าทหารราบของเราย่อมส่งกองทัพของเหลียนป๋อกลับบ้านเกิดได้อย่างแน่นอน!”ฟ่านจุน ได้แนะนำทันที
ลู่เว่ย ได้คิดสักพักและพยักหน้า”สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะสำหรับทหารม้าให้เข้าชาร์จ ดังนั้นนี่จึงเป็นศึกของทหารราบ สั่งให้ทหารราบทั้งหมดเข้าแถวทันที!”
“ขอรับ!”
ทหารราบ ที่อยู่ด้านหลังของ ลู่เว่ย ได้เริ่มทยอยจัดกองทัพ ทางด้านลู่เฟิง เขาได้ควบม้าเดินออกไปด้านหน้า และ มองไปที่ ลู่เว่ย ที่ยืนอยู่ใจกลางกองทัพของฝ่ายตรงข้าม นี่เป็นการพบกันระหว่าง หลานชาย และ ลุงแท้ ๆ ในสยามรบ
ลู่เว่ย ครุ่นคิดเล็กน้อย หากเขาไม่ออกไปในเวลานี้มันจะทำให้ทหารของเขารู้สึกว่าเขาเป็นราชาที่เกรงกลัวเด็กน้อยจนดกคนนึง ซึ่งนี่ไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
เขาควบม้าออกไปด้านหน้าและจ้องมองไปที่ลู่เฟิง”เสี่ยวเฟิง ดูเหมือนว่าเจ้าจะสบายดีสินะ?”
ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะและตอบกลับ”ท่านลุง ต่อหน้าทหารครึ่งล้านของท่าน ท่านยังคิดว่าข้ายังสบายดีอยู่อีกงั้นเหรอ?”
ลู่เว่ย ได้หัวเราะออกมา”ฮ่าฮ่า,เสี่ยวเฟิง การกระทำของเจ้าในมณฑลจงซาน ข้าเองก็พอรับรู้มาแล้ว และ ข้าคิดว่าเจ้าไม่เหมาะสมที่จะนั่งบัลลังก์จักรพรรดิ!”
“ท่านลุง ข้าไม่เห็นด้วยกับท่านหรอกนะ อะไรทำให้ท่านคิดว่าข้าไม่เหมาะสมที่จะเป็นจักรพรรดิ หรือเพราะเรื่องที่มณฑลจงซาน?”
“ข้านำทหารองค์รักษ์ 150,000 นาย และ ทหารม้า 100,000 นาย ไล่ล่าสังหารข้าศึกของอาณาจักรซีหยาง 1.3 ล้านคน ทั้งยังยึดครองเมืองหลวงอาณาจักรซีหยาง,หุบเขาหยางผิง และ เมืองหยุนไห่ นี่คือสิ่งที่ข้าทำเพื่ออาณาจักร ข้าได้ขยายอาณาเขตของพวกเราเพื่อคนนับร้อยล้านในอนาคต ท่านลุง ข้ายังไม่มีความเหมาะสมอีกงั้นหรือ เช่นนั้นข้าขอถามท่าน…”
“ท่านคิดจะให้ข้าเปิดประตูเมืองว่านเหอและให้กองทัพของอาณาจักรซีหยางบุกเข้ามายังอาณาจักรหนานหยานของพวกเราและสังหารผู้คนนับล้านในมณฑลจงซาน ? จากนั้นก็ปล่อยให้ศัตรูยึดเมืองหลวง หรือไม่?”
“ท่านลุงลู่เว่ย, ท่านเป็นลุงของข้า เป็นราชาแห่งอาณาจักรหนานหยาน และ เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด ข้าขอถาม สิ่งไหนกันที่เหมาะสมกว่า?”
“หรือว่าจะเป็นท่านที่ยกทัพมาก่อการกบฏเพื่อที่จะแย่งชิงบัลลังก์ ไม่สิ สำหรับเจ้า เจ้ามีคุณสมบัติอะไรถึงเรียกตัวเองว่าราชาแห่งอาณาจักรหนานหยาน เจ้ามีคุณสมบัติอะไรถึงได้กล่าวอ้างตัวเองเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอาณาจักรหนานหยาน ไม่เลย เจ้าไม่มีคุณสมบัติใด ๆ ทั้งสิ้น!”
การแสดงออกของลู่เว่ย ได้มืดมนไปชั่วขณะ นี่คือสิ่งที่ ลู่เฟิง กำลังทำให้เขารู้สึกอับอาย
เดิมเขาตั้งใจจะตอกกลับลู่เฟิง ด้วยเหตุผลที่อีกฝ่ายสังหารตระกูลชนชั้นสูงหลายร้อยตระกูลในมณฑลจงซาน แต่มาตอนนี้ เขากลับไม่สามารถต่อต้านฝีปากอันคมกริบนี้ได้
ทหารของเขาแม้จะเป็นยอดฝีมือ แต่ก็เป็นทหารของอาณาจักรหนานหยาน เมื่อฟังความหมายของลู่เฟิง ไม่ใช่ว่าการที่พวกเขารับใช้ ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย จะเป็นการขายประเทศของตัวเองหรอกหรอ ?
คนนึงต้องการแก่งแย่งชิงบัลลังก์ ส่วนอีกคนได้ใช้ทุกสิ่งที่มีเพื่อปกป้องอาณาจักรและบ้านเกิด
ดังนั้น สิ่งที่ลู่เฟิง กล่าวพูดออกมา ทำให้ ราชาเมกาทรอน มีสีหน้าที่บิดเบี้ยวและเต็มไปด้วยความโกรธ
จิตวิญญาณต่อสู้ของ ราชาเมกาทรอนได้อ่อนเเอลงหลายจุด
เพราะคำพูดของลู่เฟิง ก็เป็นการบอกเขานัย ๆ ว่า เขาเป็นผู้ทรยศต่ออาณาจักรหนานหยาน
เขาไม่คิดเลยว่า หลานชายของเขาก่อนหน้านี้ที่ถูกเรียกว่าขยะ จะกลับกลายเป็นคนที่สง่างามเช่นนี้ได้ นี่มันคนละคนกันโดยสิ้นเชิง!
ในอดีต ลู่เฟิง มักตัวสั่น เมื่อเห็นเขา กระทั่งไม่กล้าสบตาด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ อีกฝ่ายกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไม่หวาดกลัว
ถ้าจะบอกว่าเป็นคนละคนเขา เขาก็ยังทำใจเชื่อได้
เมื่อซุนฮก ได้ยินดังนั้น เขาก็แอบยกนิ้วให้ลู่เฟิง ฝ่าบาทของเขา มีวาจาที่น่าทึ่งมาก สามารถใช้ช่องโหว่ในคำพูดของ ลู่เว่ย เพื่อโจมตีสวนกลับ
เหลียนป๋อ เองก็พยักหน้า ฝ่าบาทของเขา เป็นคนที่มีไหวพริบดีจริง ๆ ด้วยการที่มีคนเช่นนี้ปกครองอาณาจักร อาณาจักรหนาน จะต้องเจริญรุ่งเรืองกว่าในอดีตอย่างแน่นอน
ดังนั้น เหลียนป๋อ ในตอนนี้ จึงชื่นชมลู่เฟิงมาก
“ติ๊ง ระบบตรวจพบความภักดีของเหลียนป๋อ ที่มีต่อโฮสต์เพิ่มขึ้น 3 แต้ม สถานะค่าภักดีปัจจุบัน 98 แต้ม!”
ลู่เฟิง รู้สึกดีใจมากที่ได้ยินเสียงเตือนจากระบบเพียงคำพูดไม่กี่คำก็ทำให้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีขนาดนี้เลยหรอ ?
ความภักดีของ เหลียนป๋อมากกว่า 98 แต้ม ขาดอีกเพียง 2 แต้ม เท่านั้น อีกฝ่ายจะภักดีจนสามารถตายแทนเขาได้
เขาไม่ได้พูดอะไรและมองไปที่ ลู่เว่ย ต่อ”ท่านลุงจักรพรรดิ แม้ว่า ท่านจะทำผิดต่ออาณาจักรหนานหยาน แต่ยังไงท่านก็เป็นลุงของข้า ตราบใดที่ท่านปลดอาวุธและยอมรับความพ่ายแพ้ ข้าจะรับประกันชีวิตของท่าน!”
ใบหน้าของ ลู่เว่ย มืดมนอย่างมาก เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไร เพราะเขากังวลว่า ลู่เฟิง จะใช้ช่องโหว่เหล่านี้มาโจมตีเขา
ลู่เว่ย ไม่ได้ตอบ แต่ลู่เฟิง ก็มีวิธีการของเขา เขามองไปที่ กองทัพทหารชั้นยอดที่อยู่ด้านหลังของลู่เว่ย ก่อนที่เขาจะโกนออกมา”แม้ว่าพวกเจ้าทุกคนจะหลงผิดทำตามการชี้นำของ ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย แต่ข้าจะอภัยให้กับพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าวางอาวุธลงและยอมจำนน ด้วยวิธีนี้ พวกเจ้าจะยังคงรักษาเกียรติและสามารถรับใช้อาณาจักรต่อไป…”
“กองทัพทั้งหมดเตรียมพร้อมทำสงคราม!”ลู่เว่ย ได้ตะโกนขึ้นเพื่อตัดบทพูดของลู่เฟิง