MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 112
650,000 คน!
เป็นจำนวน 650,000 คนเต็ม!
วันถัดไป เจี๋ยสวี่ ได้ขอให้คนไปนับศพผู้เสียชีวิต
ในหมู่คนเหล่านี้มีผู้เสียชีวิตในน้ำน้อยกว่า 200,000 คน และ อีกหลายคนถูกไฟเผาจนเสียชีวิต
ส่วนใหญ่ทหารเหล่านี้ ถูกไฟคลอกตายภายใต้น้ำมันก๊าซชนิดพิเศษ ทหารที่เหลือนั้นสามารถหลบหนีไปได้จำนวนนึง
แม่ทัพของเมือง เร้ดเมเปิ้ล ที่ติดตาม เจี๋ยสวี่ รู้สึกสั่นสะท้านเล็กน้อยหลังจากได้ยินรายงานของจินยี่เหว่ย
แม้ว่าเขาจะเป็นแม่ทัพและเข่นฆ่าผู้คนมามากมาย แต่เขาไม่เคยเห็นใครทำศึกที่น่ากลัวขนาดนี้มาก่อน
ภูเขากลายเป็นทะเลสาบและเต็มไปด้วยซากศพจำนวนมากลอยอยู่บางคนกระทั่งถูกไฟคลอกตายจนมีสภาพอย่างน่าสังเวช
แต่เท่าที่ดู บนใบหน้าของ เจี๋ยสวี่ กลับไม่มีร่องรอยอะไรผิดปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สิ่งนี้ทำให้เขาถอนหายใจ เจี๋ยสวี่ สมควรได้รับตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี จากฝ่าบาทอย่างแท้จริง
ในความเป็นจริง เจี๋ยสวี่ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยในใจ ตอนแรก เขาคิดว่า ที่ราบลั่วซานหยวนสามารถฆ่ากองทหารราบได้ประมาณครึ่งล้าน จากนั้นเขาก็ใช้ไฟเผาซ้ำซึ่งมันน่าจะสามารถฆ่าได้มากกว่านี้
ตามการคำนวณคร่าว ๆ สมควรมีผู้บาดเจ็บล้มตายมากกว่า 800,000 คน แต่เนื่องจากภูมิประเทศค่อนข้างกว้างขวางทำให้ทหารที่อยู่ด้านหลังสามารถอพยพหนีไปได้ทัน
“ยังไงก็เถอะ มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่า 650,000 นาย กองทัพที่เหลืออีก 850,000 คงไม่คิดจะเดินทางต่อไป!”
รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ เจี๋ยสวี่ เท่านี้ภัยคุกคามของเมืองงูหยกทางตอนใต้ก็ถูกยกขึ้น แม้ว่ากองกำลังเหล่านี้ยังคงมุ่งหน้าโจมตีเมืองงูหยกทางตอนใต้พวกเขาก็สามารถปิดกั้นได้เป็นระยะเวลาสองสามเดือนได้อย่างไม่มีปัญหา
“เข้ามานี่ ส่งข่าวเรื่องนี้ไปรายงานฝ่าบาทโดยเร็วที่สุด!”
“ขอรับ!”
จินยี่เหว่ย ได้ลงไปจัดการทันที
เจี๋ยสวี่ ได้หันหน้าไปมองซากศพที่ลอยอยู่บนภูเขาและบ่นพึมพัม”หลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ข้าเชื่อว่าชื่อเสียงที่ชั่วร้ายของข้าคงจะถูกวิพากษ์วิจารย์อีกครั้ง!”
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เจี๋ยสวี่ ก็ยิ้มออกมา เขาไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเอง ทุกสิ่งที่เขาทำก็เพื่อ อาณาจักร และ ลู่เฟิง
จินยี่เหว่ย ได้ส่งข่าวมาเร็วมาก ลู่เฟิง ได้รับรายงานการต่อสู้ทางตอนใต้ของเมืองงูหยกและเขาก็ดีใจเป็นอย่างมาก”สมแล้วที่เป็น เจี๋ยสวี่ ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริง ๆ !”
เมื่อซุนฮก เห็นท่าทีดีใจของ ลู่เฟิง เขาก็กล่าวถามด้วยความสับสน”ฝ่าบาท เหวินเหอ ทำอะไรเหรอพะยะค่ะทำไมพระองค์ถึงดูมีความสุขเช่นนี้?”
“เหวินยื่อ เจ้าเอาไปดูเองเถอะ!”
ลู่เฟิง ได้ส่งรายงานให้ ซุนฮก ด้วยความตื่นเต้น
ซุนฮก ที่เห็นเช่นนั้นเขาได้ถอนหายใจออกมา”หากต้องการหารือเรื่องกลยุทธ์คงต้องยกให้เหวินเหอแล้ว!”
สิ่งที่ เขาเห็นนั้นคือความสามารถที่น่าเหลือเชื่อของ เจี๋ยสวี่ เขาไม่เก่งเท่า เจี๋ยสวี่ ดังนั้นหากเป็นเรื่องกลยุทธ์ไม่แปลกใจที่เขาจะยอมแพ้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลยุทธ์ที่ทำการปล่อยน้ำและเผากองทัพให้ตายคาที่เหล่านี้เขาไม่สามารถกระทั่งคิดมันได้
เหลียนป๋อมองไปที่รายงานด้วยความตื่นเต้น”ฝ่าบาท ตราบเท่าที่เราสามารถกระจายข่าวนี้ไปยังเมืองงูหยกทางตอนเหนือได้ กองทัพของราชาเมกาทรอน จะต้องตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายอย่างแน่นอน!”
“อืม!”
ลู่เฟิง ได้พยักหน้า ทันที และมองไปที่ทั้งสองคน”ซุนฮก,เหลียนป๋อ”
“ขอรับ!”
“ขอรับ!”
“พวกเจ้าทั้งสองรีบส่งข่าวไปยังเมืองงูหยกทางตอนเหนือ ข้าต้องการให้ทหารทุกคนที่อยู่ภายใต้ราชาเมกาทรอนลู่เว่ยทราบข่าวนี้!”
“ขอรับ!’
หลังจาก ซุนฮก และ เหลียนป๋อ จากไป ลู่เฟิง ก็มองไปที่รายงานการต่อสู้ในมือของเขา”เหวินเหอ ผลลัพธ์การต่อสู้ในครั้งนี้ของเจ้าไร้ที่ติอย่างมาก หากข่าวนี้แพร่ออกไป ชื่อเสียงของเจ้าที่เป็นถึงนักวิชาการพิษ คงจะโด่งดังไปทั่วทั้งโลกจริง ๆ!”
“แต่สำหรับข้าราชบริพารของอาณาจักรแล้ว ใครจะตำหนิติเตียนเจ้ายังไงข้าไม่สน ข้าเพียงหวังว่าเจ้าจะสามารถรับใช้ข้าตลอดจนประสบความสำเร็จตามความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ของข้า…”
แสงเย็นวาบได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่เฟิง หากสามารถแก้ปัญหาศัตรูได้โดยการที่ไม่ต้องสูญเสียกองกำลัง ลู่เฟิง ก็อยากให้มันเป็นเช่นนี้ต่อไป
ทางด้าน ซุนฮก เหลียนป๋อ พวกเขาพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้ทหารภายใต้ราชาเมการทรอน รับรู้ข่าวการสูญเสียของทหาร 650,000 นาย
ทันใดนั้นกองทัพทั้งหมดก็ตกอยู่ในความโกลาหล บรรยากาศแห่งความโศกเศร้าได้ปกคลุมไปทั่วเมืองงูหยกทางตอนเหนือทันที
หลังจาก ลู่เฟิง ทราบข่าว เขาก็เรียกคนสนิทของเขามาพูดคุยเรื่องนี้
“ทุกคนควรจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้ พวกเราจำเป็นจะต้องออกจากเมืองงูหยกทางตอนเหนือและไม่สามารถนั่งรอความตายที่นี่ได้!”ลู่เว่ย ได้กล่าวอย่างเคร่งขรึม
แม่ทัพคนอื่น ๆ ได้เลือกที่จะเงียบทั้งหมด
เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถกระโดดลงแม่น้ำงูหยกเพื่อหลบหนีได้
ฟ่านจุนได้คร่ำครวญเล็กน้อยและกล่าวพูดขึ้น”ฝ่าบาทข้าได้ข่าวมาว่า ตระกูลผู ตั้งใจจะติดต่อกับลู่เฟิงเพื่อขอลี้ภัย!”
“อะไรนะ?”
ลู่เว่ย ได้ตบโต๊ะด้วยความโกรธ”ตระกูลผูกำลังมองหาความตายอยู่หรือไม่?”
ฟ่านจุนได้ตอบกลับทันที”ฝ่าบาท ข้าคิดว่าปล่อยให้เรื่องนี้มันดำเนินการต่อไป นี่เป็นโอกาสที่เราจะเอาชนะลู่เฟิง!”
ลู่เว่ย ขมวดคิ้วแน่นด้วยความสับสนและกล่าวถาม”หมายความว่าไง?”
“ฝ่าบาท ตระกูลผู ก่อนหน้านี้ ทรยศ ลู่เฟิง และ มาลี้ภัยกับพวกเรา ตอนนี้ พวกเขาทรยศพวกเราและไปลี้ภัยกับลู่เฟิง ดังนั้น พวกเขาจะต้องหาทางเปิดประตูเมืองและให้กองทัพของ ลู่เฟิงเข้ามา ด้วยวิธีนี้ นี่เป็นโอกาสของพวกเรา!”มุมปากของ ฟ่านจุน ได้โค้งขึ้นเล็กน้อย
ลู่เว่ย ได้ครุ่นคิดและตอบกลับ”เจ้าหมายถึงให้พวกเราใช้โอกาสนั้นโจมตีลู่เฟิงงั้นหรือไม่?”
ฟ่านจุนได้พยักหน้าทันที”ขอรับ,ฝ่าบาท ข้าไม่รู้ว่าตระกูลผู จะโน้มน้าวให้ ลู่เฟิง เชื่อใจได้อย่างไร แต่เขาจะต้องทำให้กองทัพของลู่เฟิง เข้าโจมตีเมืองอย่างแน่นอน ตราบเท่าที่เราสามารถเอาชนะกองทัพนั้นได้ เราก็จะชนะ การทำเช่นนี้จะเป็นการปลุกขวัญกำลังใจของทหารของเราให้เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย”
ลู่เว่ย ได้เงียบและครุ่นคิด นี่อาจเป็นทางรอดเดียวของเขา ถ้ามันล้มเหลวมันก็จะจบลงโดยสมบูรณ์
เขาได้สูดลมหายใจเข้าลึกและตอบกลับ”เอาล่ะ ทำตามที่เจ้าว่าไว้ จงกวาดล้างกองทัพของลู่เฟิงให้ได้มากที่สุด อย่างน้อย เราจะต้องฆ่า ลู่เฟิง ซุนฮก หรือ เหลียนป๋อ ให้ได้”
“ขอรับ,ฝ่าบาท โปรดมั่นใจ หากกองทัพของลู่เฟิงกล้าเข้ามา ข้าน้อยจะทำให้แน่ใจว่าพวกมันไม่มีทางรอดออกไปได้!”ฟ่านจุน ได้พยักหน้า
ลู่เว่ย ได้พยักหน้าและตอบกลับ”แม่ทัพคนอื่น ๆ รับคำสั่ง!”
“ขอรับ!”
“สำหรับแผนการนี้ ขอให้พวกเจ้าปฏิบัติตามคำแนะนำของฟ่านจุน ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามล้มเหลวเด็ดขาด!”
“ขอรับ!”
แม่ทัพคนอื่น ๆ รีบไปเตรียมตัวทันที ลู่เว่ย ได้มองไปที่ ฟ่านจุน และกล่าวพูดขึ้น”ฟ่านจุน ความมั่งคั่งและชีวิตของข้าคนนี้ คงต้องฝากไว้ที่เจ้าแล้ว!”
“ฝ่าบาท โปรดมั่นใจ ข้าน้อย ฟ่านจุน จะบดขยี้พวกมัน และทำให้ฝ่าบาทหนีรอดไปได้อย่างปลอดภัย!”
“อืม!”
ในเวลานี้ เต็นท์ทหารของ ลู่เฟิง หัวหน้าตระกูลผู,ผูหยานเต๋า ได้มาหาเขา
ลู่เฟิง มองไปที่อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม”เจ้าบอกว่าเจ้ายอมจำนนต่อข้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าสนับสนุนราชาเมกาทรอนในการต่อต้านข้า บอกเหตุผลข้ามาหน่อย ทำไมข้าจะต้องเชื่อใจเจ้า?”