MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 118
ลู่เฟิง สั่นศีรษะอย่างตรงไปตรงมาและตอบกลับ”ท่านลุงจักรพรรดิ ถ้ามีโอกาส ข้าก็อยากจะให้เจ้าได้เห็นว่า ข้าจะจัดการกับ โลกของตระกูลที่ทรงพลังเหล่านั้นอย่างไร ในอนาคต เพียงแต่ว่าเจ้าไม่มี โอกาสนี้”
“มานี่!”
“ขอรับ!”
ลิโป้ ได้ก้าวไปข้างหน้า
“นำมันไปตัดศีรษะ!”ลู่เฟิง ได้กล่าวพูดอย่างเย็นชา
“ขอรับ!”
ลิโป้ ได้นำตัว ลู่เว่ย ออกจากค่ายทหาร
“ฝ่าบาท การตายของราชาเมกาทรอนลู่เว่ย ไม่ใช่เรื่องน่าเสียดาย เราสามารถใช้ตราประทับของเขาในการแอบอ้างชื่อของเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้”ซุนฮก ได้กล่าวกระซิบกับ ลู่เฟิง
“เหวินยื่อ เจ้ามีแผนอะไรงั้นหรือ?”ลู่เฟิงกล่าวถาม
“ฝ่าบาท เราสามารถคัดลอกจดหมายสองสามฉบับถึงแม่ทัพทหารราบ 850,000 นายที่อยู่บนที่ราบลั่วซานได้ บอกให้พวกเขายอมจำนนต่อฝ่าบาทในนามของลู่เว่ย”ซุนฮก ตอบกลับ
ลู่เฟิง ได้ครุ่นคิดเล็กน้อย”ไม่จำเป็น ข้าคิดว่า โอกาสที่พวกเขาจะยอมจำนนนั้นมีไม่สูงนัก ตามข่าวที่ได้รับมาจากจินยี่เหว่ย แม่ทัพหลายคนเหล่านี้เป็นผู้นำของตระกูลชนชั้นสูง มีหรือที่พวกเขาจะยอมจำนนต่อข้า จักรพรรดิคนนี้อย่างง่าย ๆ “
“ฝ่าบาทตรัสได้ถูกแล้ว แต่ว่ามีคนหนึ่งในกองทัพของราชาเมกาทรอนที่ไม่ใช่คนของตระกูลชนชั้นสูง และ เขามีความสามารถที่แข็งแกร่ง ได้รับศักดิ์เป็นแม่ทัพผู้บัญชากการทหาร 300,000 นาย!”ซุนฮก ยิ้มและตอบกลับ
ลู่เฟิง ได้นึกถึงข้อมูลที่ได้รับมาจากจินยี่เหว่ย เขาได้บ่นพึมพัมออกมา”ฉู่ต้าเหว่ย!”
“ขอรับ เป็น ฉู่ต้าเหว่ย!”
ซุนฮก ตอบกลับ”ฉู่ต้าเหว่ย ไม่ใช่คนของตระกูลขุนนาง เขาเป็นทหารธรรมดาที่ใช้เวลา 15 ปี ในการไต่เต้าจากทหารเลว ขึ้นมาเป็น แม่ทัพผู้บัญชากการทหาร 300,000 นายได้ เขาเป็นบุคคลที่มีความสามารถ หากทำให้เขายอมจำนนได้ ทหารคนอื่น ๆ ก็จะยอมจำนน กองทัพ 850,000 นายจะได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด”
เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินดังนั้น เขาก็พยักหน้า”เอาล่ะ เรื่องนี้ข้ามอบหมายให้เจ้าจัดการ!”
“ขอรับ!”
ซุนฮก ได้ก้าวถอยหลังออกมา
ไม่นาน ลิโป้ ก็กลับมาพร้อมกับ ศีรษะของ ลู่เว่ย ที่ยังคงมีเลือดไหลอยู่
“ฝ่าบาท ข้าน้อยกลบัมาแล้ว!”
“อืม!”
ลู่เฟิง มองไปที่ ศีรษะที่ห้อยอยู่ เขาได้พูดขึ้น”นำศีรษะของ ลู่เว่ย ติดตามไปด้วย ข้าต้องการ เสียบหัวนี้ประจานหน้าเมือง ฉิวซาน เพื่อเตือน เมืองฉิวซาน…”
หลังจากลังเลเล็กน้อยลู่เฟิงก็กล่าวตอบ”เก็บศพของเขากลับไปที่เมืองหลวง ในอนาคตให้ถือว่ามันเป็นศพของราชวงศ์คนนึง”
“ขอรับ ฝ่าบาท!”
“เจี๋ยสวี่!”
“ข้าน้อย อยู่นี่พะยะค่ะ!”
“สั่งการ จินยี่เหว่ย ให้ตรวจสอบ การเคลื่อนไหวทั้งหมดของกองทัพ 850,000 นาย และ กองทัพทั้งหมดในเมืองฉิวซาน!”
“ข้าน้อยรับบัญชาพะยะค่ะ!”
เจี๋ยสวี่ ได้ก้าวถอยหลังออกไป
หลังจากที่ ลู่เฟิง จัดการทุกอย่างแล้ว รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ที่ราบลั่วซานหยวน ยังมีกองกำลัง 850,000 นาย รออยู่ และ กองกำลังอีก 1.2 ล้าน อยู่ทางด้านหลัง ตัวเลขนี้ แม้จะดูเยอะมาก แต่กองทัพที่ไม่มีการบัญชาของ ลู่เว่ย ก็ย่อมไม่มีอะไรให้ต้องกังวล!”
“ดุเหมือนว่า ข้าคงจะใช้เวลาไม่นาน สำหรับการจัดการ ปัญหาของ ราชาเมกาทรอน หลังจากนั้น ตระกูลชนชั้นสูงเหล่านั้น พวกเจ้าเตรียมตัวรอให้ข้ากลับไปจัดการได้เลย!”
ไม่กี่วันต่อมา ในค่ายทหาร 850,000 นายที่ถูกทิ้งไว้บนภูเขา
แม่ทัพทั้งสามได้มาประชุมกัน
ทั้งสามคนนี้เป็นแม่ทัพของกองทัพ 850,000 นาย
หนึ่งในนั้นคือ ฉู่ต้าเหว่ย และ อีกสองคน เว่ยฮง และ เกิ๋งจุนซ้ง
เว่ยฮง มีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดในทั้งสามคน เขามีทหารในบัญชา 350,000 นาย รองมาก็คือ ฉู่ต้าเหว่ย 300,000 นาย และ เกิ๋งจุนซ้ง 250,000 นาย
เกิ๋งจุนซ้ง เป็นชายวัยกลางคนที่มีผิวขางบริสุทธ์เขาได้กล่าวพูดขึ้น”จดหมายของฝ่าบาท ไม่น่าจะเป็นความจริง ตามข้อมูลที่เราได้รับ ฝ่าบาทถูกฆ่าไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีจดหมายเหล่านี้ นี่จะต้องเป็นแผนของ เจ้าเด็กสารเลว ลู่เฟิง อย่างแน่นอน!”
เว่ยฮง ได้พยักหน้า”ข้าเองก็คิดเช่นนั้น!”
จากนั้นพวกเขาก็มองไปที่ ฉู่ต้าเหว่ย และ กล่าวถาม”แม่ทัพฉู่ ท่านคิดว่ายังไง?”
ฉู่ต้าเวหว่ย แม่ทัพอ้วนฉุอายุสามสิบปี ได้ไตร่ตรองเล็กน้อยและตอบกลับ”ข้าเองก็คิดเห็นเหมือนกันกับพวกท่านทั้งสอง!”
“ถ้าอย่างนั้น พวกเรารีบไปเตรียมตัวหาทางปิดล้อมกองทัพของลู่เฟิงกันเถอะ รอจนกว่ากองกำลังเสริมจากทางด้านหลังจะมาถึง เมื่อถึงตอนนั้น เราจะสามารถจัดการฆ่าเขาได้”เว่ยฮง ได้ตอบกลับ
“ข้าเห็นด้วย!”เกิ๋งจุนซ้ง ได้ตอบกลับ
ฉู่ต้าเหว่ย เองก็พยักหน้า
หลายคนได้แยกย้ายกันไปที่ค่ายทหารของตนเองเพื่อเตรียมตัว
หลังจากที่ ฉู่ต้าเหว่ย กลับไปที่ค่ายหทาร เขาก็มองไปที่จดหมายที่ได้รับจากลู่เฟิงและบ่นพึมพัมออกมา”จักรพรรดิ ผู้นี้ มีความสามารถอย่างแท้จริง สามารถกวาดล้างกองทัพชั้นยอดของ ฝ่าบาท 500,000 นายได้ โดยเฉพาะ เจี๋ยสวี่ ลำพังใช้เพียงกลยุทธ์ ก็สามารถกวาดล้างกองทัพของพวกเรา 650,000 นายได้ มันไม่ง่ายเลยที่ข้าจะยอมจำนนข้า…”
“รายงานท่านแม่ทัพ มีจดหมายอีกหนึ่งฉบับส่งถึงท่าน!”ในเวลานี้ ทหารของเขาได้เดินเข้ามา
“จดหมายถึงข้า?”
ฉู่ต้าเหว่ย รู้สึกงุนงงเล็กน้อยเขาได้หยิบมันขึ้นมาดูและบนซองจดหมายได้สลักตัวอักษรที่ยากจะดูว่ามีอะไรเขียนอยู่บนนั้น จดหมายนี้คืออะไรกันแน่?
เขากำลังจะถามว่าใครส่งมา แต่ก็มีเสียงหัวเราะข้างนอกดังขึ้น”แม่ทัพ ฉู่ ขอพวกข้าดูจดหมายที่ถูกส่งมาหน่อยได้หรือไม่?”
เป็น เว่ยฮง และ เกิ๋งจุนซ้ง ที่เข้ามา
ทั้งสองคนได้มองไปที่ ฉู่ต้าเหว่ย
ฉู่ต้าเหว่ย ได้ยิ้มออกมา”เชิญท่านแม่ทัพทั้งสองอ่านมันเถิด แต่ข้าไม่รู้ว่ามีอะไรเขียนอยู่ในจดหมายเหล่านี้”
เว่ยฮง และ เกิ๋งจุนซ้ง ได้มองหน้ากัน พวกเขาเห็นจุดหมึกทั้งหมดและกลายเป็นโกรธเคืองทันที”เจ้าช่างกล้ายิ่งนัก ฝ่าบาท ปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความกรุณา แต่เจ้ากลับทรยศเขาและไปร่วมมือกับจักรพรรดิสุนัขลู่เฟิง!”
ฉู่ต้าเหว่ย ได้ขมวดคิ้วแน่นและกล่าวถาม”ทำไมท่านแม่ทัพทั้งสองถึงพูดเช่นนี้?”
“ยังกล้าเล่นลิ้นอยู่อีกงั้นหรือ ? จดหมายฉบับนี้มีเนื้อหาที่น่าอับอาย ดังนั้นเจ้าจึงเปลี่ยนมันทั้งหมดให้กลายเป็นจุดหมึกสินะ!”เว่ยฮง ได้กล่าวอย่างโกรธเคือง
ฉู่ต้าเหว่ย ได้แสดงปฏิกิริยาทันที มันไม่มีเนื้อหาอยู่ข้างในนั้นตั้งแต่แรก จดหมายฉบับนี้ คือตัวจุดฉนวนให้เกิดการต่อสู้ระหว่างแม่ทัพทั้งสามคน
เขารีบตอบกลับ”ท่านแม่ทัพทั้งสองเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกท่านคิด จดหมายนี่ข้าเพิ่งได้รับมา รอข้าอธิบายก่อน!”
“เชิญไปอธิบายให้ฝ่าบาทฝั่งในนรกต่อเถอะ!”
เว่ยฮง ได้ตะโกนขึ้น”เข้ามานี่ ปิดล้อมมันไว้!”
ทหารยามที่ เขา และ เกิ๋งจุนซ้ง พาเข้ามา ก็ได้มาปิดล้อม ฉู่ต้าเหว่ย ทันที
ฉู่ต้าเหว่ย ได้กลายเป็นโกรธอย่างมาก ทุกอย่างถูกคำนวณเอาไว้หมดแล้ว
ขณะที่เขากำลังจะพูดอะไร เว่ยฮง ก็ส่งสัญญาณมือให้ทหารของเขารุมสังหาร ฉู่ต้าเหว่ย
“ปกป้องท่านแม่ทัพ!”
ในเวลานี้ทหารของ ฉู่ต้าเหว่ย ได้ดังขึ้น ทหารแต่ละกลุ่มได้เข้าปะทะและเกิดการต่อสู้ขึ้นทันที