MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 128
ลู่เฟิงมองไปที่ เจี๋ยสวี่ ที่อยู่ตรงหน้า และ กล่าวพูดขึ้น”ลุกขึ้นเถอะ!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”เจี๋ยสวี่ ได้ลุกขึ้นยืน อยู่ตรงหน้าลู่เฟิง ด้วยความเคารพ
ลู่เฟิง มองไปที่ เจี๋ยสวี่ และกล่าวพูดขึ้น”เหวินเหอ ข้ารู้เรื่องที่เจ้าฆ่ารัชทายาทของราชาเมกาทรอนแล้ว ข้ารู้ว่าเจ้าทำเพื่อผลประโยชน์ของข้า และ ข้าจะไม่กล่าวตำหนิเจ้า แต่ข้าอยากจะรู้ว่าเจ้ามีแผนจะอธิบายเรื่องนี้ให้โลกหล้ารู้อย่างไร?”
เมื่อ เจี๋ยสวี่ ได้ยินว่า ลู่เฟิง จะไม่ลงโทษเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจ เพราะสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดก็คือการลงโทษจากลู่เฟิง
ท้ายที่สุดเขาก็ได้สังหารสมาชิกราชวงศ์ไป โทษความผิดในครั้งนี้สมควรถูกตัดศีรษะและฆ่าล้างตระกูลเก้าชั่วโครต
เขาได้กล่าวทันที”ฝ่าบาท ตั้งแต่ที่ข้ากล้าลงมือเช่นนั้น ข้าก็ตั้งใจว่าจะใช้ จางเป็นยี่ เป็นเครื่องมือ โดยการบอกออกไปว่า จางเป็งยี่ ตกหลุมรักราชินีเมกาทรอน แต่อีกฝ่ายไม่ยอม จึงได้ทำการฆ่า และ ตั้งใจยึดทรัพย์สินทั้งหมดของลู่เว่ย แต่ โฮ่วหลิน ไม่สามารถทนได้ เขาได้นำกองทัพไปถวายความภักดีต่อฝ่าบาท เพื่อที่จะล้างแค้นให้กับราชินีเมกาทรอน หลังจากนั้น ฝ่าบาทก็ได้นำทัพเข้าสู่เมืองและ สังหาร จางเป็งยี่”
“ตราบใดที่แม่ทัพลิโป้ และ โฮ่วหลิน ให้ความร่วมมือแผนการของข้าน้อยย่อมสำเร็จอย่างแน่นอน!”
เมื่อ ลู่เฟิง มองไปที่ เจี๋ยสวี่ เขาได้กล่าวพูดอย่างเฉยเมย”เจ้าพูดถูกถ้าทั้งสองคนร่วมมือกลยุทธ์นี้จะราบรื่นอย่างแน่นอนเพียงแต่…”
ลู่เฟิง มองไปที่ เจี๋ยสวี่ และตอบกลับ”ข้าไม่สนใจมุมมองของคนที่อยู่ใต้ผืนนภาร่วมเดียวกันกับข้าสำหรับข้าแล้วความคิดของพวกเขาเป็นเหมือนเรื่องไร้สาระ”
“นี่…”
เจี๋ยสวี่ ค่อนข้างลังเล”ฝ่าบาท หากความจริงถูกเปิดเผยออกไป มันจะไม่ส่งผลดีต่ออาณาจักรและตัวของฝ่าบาทเอง!”
ลู่เฟิง ยิ้มตอบกลับ”เหวินเหอ เจ้ากำลังกังวลว่าคนในโลกนี้จะเรียกข้าว่าไร้มนุษยธรรม ที่ข้าได้สังหาร ราชาเมกาทรอน และ ครอบครัวของเขา?”
เจี๋ยสวี่ พยักหน้า”ฝ่าบาทแม้ว่าพระองค์จะไม่สนใจความคิดเห็นของคนที่อยู่ใต้ผืนนภาร่วมกับพระองค์ แต่ถ้าพวกเขาพูดเรื่องไร้สาระออกมามันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของพระองค์ในหัวใจของผู้คนทั่วโลก!”
“ถ้าเช่นนั้นก็ปล่อยให้พวกเขาพูดไป!”
ลู่เฟิงตอบกลับ”ราชาเมกาทรอน ลุกขึ้นมาก่อการกบฏเขาสมควรได้รับโทษฆ่าล้างตระกูลเก้าชั่วโครตแม้ว่าเขาจะเป็นคนในครอบครัวของข้า แต่ข้าก็จะไม่ละเว้น ใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเขา จะต้องถูกฆ่าอย่างไร้ความปราณี นี่คือทัศนคติของข้า สำหรับพวกที่ต่อต้าน หากคิดจะก่อการกบฏก็สมควรแบกรับผลกรรมที่จะตามมาดังนั้น…”
“เจี๋ยสวี่!”
“ขอรับ!”
“บอกแจ้งต่อโลกหล้าว่าข้าเป็นคนสังหารสมาชิกราชวงศ์ของราชาเมกาทรอนลู่เว่ย นี่เป็นคำสั่ง!”
เจี๋ยสวี่ ในฐานะข้าราชบริพารของเขา หากเขาปล่อยให้อีกฝ่ายแบกรับความผิดเหล่านี้ไว้คนเดียวก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่
แต่ทว่าสำหรับ เจี๋ยสวี่ แล้ว เขาไม่ต้องการให้ทั่วโลกรุมประณามฝ่าบาทของเขา
เจี๋ยสวี่ ลังเลเล็กน้อย ด้วยวิธีนี้ ฝ่าบาทของเขาจะถูกทั่วโลกประณามอย่างแน่นอน
ลู่เฟิงมองไปที่ เจี๋ยสวี่ และ กล่าวพูดขึ้น”เหวินเหอ สั่งให้ จินยี่เหว่ย ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ครั้งนี้ กระจายข้อมูลออกไปและสังเกตุดูตระกูลชนชั้นสูงต่าง ๆ หากมีการเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้ ให้ตรวจสอบหาความผิดและฆ่าได้ไม่ต้องลังเล!”
เจี๋ยสวี่ ผงะ เล็กน้อยและกล่าวถาม”ฝ่าบาท พระองค์ กำลังใช้ประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ เพื่อดูทัศนคติของตระกูลชนชั้นสูงเหล่านี้หรือไม่ ? ถ้าเกิดคนเหล่านี้หวาดกลัวและต่อต้านขึ้นมาก็ให้จัดการพวกเขา?”
ลู่เฟิง ยิ้มและตอบกลับ”ถูกต้อง เป็นธรรมชาติที่ข้าจะใช้ประโยชน์จากจุดนี้ให้ดีที่สุด มันจะเป็นการดีกว่าหากพวกเขาเลือกที่จะอยู่เฉย ๆ และไม่ตอบโต้ อะไร ซึ่งมันจะช่วยประหยัดเวลาของข้ามาก”
“ฝ่าบาทพระองค์ช่างปรีชาสามารถยิ่งนัก!”เจี๋ยสวี่ ได้คุกเข่าลงกับพื้น
“เหวินเหอ เจ้าเริ่มประจบประแจงข้าอีกครั้งแล้วนะ”
ลู่เฟิง ยิ้มออกมาเขาได้เดินไปหา เจี๋ยสวี่ และ ยื่นส่งจดหมายที่เขาเขียนไว้ก่อนหน้านี้”เหวินเหอ นี่คือสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ!”
เจี๋ยสวี่ รู้สึกงุนงงเล็กน้อยเขาได้เปิดอ่านมัน ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมากเขาได้พูดตะกุกตะกักอย่างตื่นเต้น”ข้าน้อย เจี๋ยสวี่ ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!”
ในกระดาษของลู่เฟิงมีเพียงประโยคเดียวที่เรียบง่าย เจี๋ยสวี่ ได้รับบรรดาศักดิ์ ผิงหยวนโฮ่ว ซึ่งเป็นการประทานคุณสามชั่วอายุคน!
มันเป็นเรื่องยากสำหรับอาณาจักรหนานหยานที่จะได้รับแต่งตั้งศักดิ์โฮ่ว
แม้แต่วีรบุรุษเพียงไม่กี่คนที่ร่วมกันก่อตั้งอาณาจักรหนานหยาน ก็ยังไม่ได้รับมัน ใครก็ตามที่ได้รับแต่งตั้งศักดิ์โฮ่ว ถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
ในราชอาณาจักรหนานหยาน บรรดาศักดิ์โฮ่ว แบ่งออกเป็น สองประเภท หนึ่งคือ โฮ่ว ตัวเดียว และ โฮ่ว สองตัว
คำว่า โฮ่ว แรกไม่ใช่ศักดินา ส่วนคำ โฮ่ว ตัวที่สองคือความหมาย
ผิงหยวนโฮ่ว เป็นบรรดาศักดิ์โฮ่ว สองตัว หรือก็คือ ราชวงศ์ ตอนนี้ เจี๋ยสวี่ ได้รับเกียรติแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกของราชวงศ์
ปัจจุบัน นอกจาก ลู่เฟิง แล้ว ในอาณาจักรหนานหยาน ไม่มีสมาชิกราชวงศ์คนอื่นอีก
เจี๋ยสวี่ เป็น โฮ่ว คนเดียวที่เหลืออยู่
เขาไม่เคยคิดเลยว่า ลู่เฟิง จะมอบเกียรติ เช่นนี้ให้กับเขา มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
ลู่เฟิง ยิ้มออกมาเล็กน้อย”อย่าเพิ่งปล่อยข่าวเรื่องนี้ให้คนอื่นรู้ล่ะ นี่เป็นสัญญาที่ข้าให้ไว้กับเจ้า หลังจากจัดการเรื่องทั้งหมดได้แล้ว และ กลับไปที่เมืองหลวง ข้าจะหารือเรื่องนี้ และ ประกาศเรื่องนี้ให้ทุกคนทราบในที่สาธารณะ!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”เจี๋ยสวี่ กล่าวพูดอย่างตื่นเต้น
ลู่เฟิง ยิ้มออกมา”เอาล่ะ ลงไปจัดการเรื่องที่ค้างคาให้เสร็จซะ!”
“ขอรับ!”
เจี๋ยสวี่ ได้ออกไปอย่างตื่นเต้น
หลังจากที่เขาจากไป ลู่เฟิง ก็คร่ำครวญออกมาและกล่าวถามระบบ”ระบบ ตอนนี้ฉันได้ทำลายกองกำลังของราชาเมกาทรอนลู่เว่ยไปจำนวนมากแล้ว อีกนานหรือไม่กว่าภารกิจของฉันจะเสร็จสิ้น?”
“ติ๊ง เป้าหมายของภารกิจยังไม่บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ กองกำลังของราชาเมกาทรอนลู่เว่ย ยังคงมีกองทัพ 600,000 นาย ในเมืองเสี่ยวหลิงตู่ หากโฮสต์ สามารถหาทางจัดการกองทัพ 600,000 นายนี้ได้ภารกิจจะเสร็จสมบูรณ์ทันที”
เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินดังนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมา”ดูเหมือนว่าเขาจะต้องเร่งรีบทำภารกิจให้เร็วขึ้น!”
ตอนนี้ ลู่เฟิง มีงานเร่งด่วนที่จะต้องทำภารกิจให้เสร็จ
เพราะตราบใดที่เขาทำภารกิจให้สำเร็จได้เขาจะได้รับรางวัลภารกิจค่าประสบการณ์ 1.5 ล้านแต้ม และ โอกาสในการอัญเชิญสองครั้ง
เมื่อภารกิจของเขาเสร็จสิ้น ระดับการบ่มเพาะพลังของเขา จากระดับ 9 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน จะเลื่อนเป็น นักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ทันที และ เขาจะได้รับโอกาสในการอัญเชิญหนึ่งครั้ง หลังจากฝ่าทะลวงระดับพลังย่อยทั้ง 5
นอกจากโอกาสอัญเชิญแล้ว เขายังสามารถปรับปรุงความแข็งแกร่งของผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองได้
เพราะทันทีที่เขาเลื่อนระดับขึ้นเป็นนักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ตัวละครที่เขาอัญเชิญมาจะได้รับการปรับปรุงความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 5 ระดับย่อย
เช่นเดียวกับ เกาชุน ลิโป้ ความแข็งแกร่ง ของทั้งสองอาจจะเข้าสู่ขั้นปรมาจารย์โดยตรง และ เท่านี้ อาณาจักรหนานหยาน จะได้มีผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์สักที
หลังจากขึ้นไปสู่ขั้นปรมาจารย์ ความต้านทานของพวกเขาที่มีต่อลูกศรพลังปราณจะมีมากขึ้น แม่ทัพ ลิโป้ ผู้ไร้เทียมทาน และ แม่ทัพเกาชุน จะได้รับการอัพเกรดขึ้นยกใหญ่และแข็งแกร่งมากกว่าเดิม
“มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำภารกิจนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ฉันเริ่มอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็น เกาชุน และ ลิโป้ กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์!”
ไม่กี่วันผ่านไป ลู่เฟิง ยังไม่ได้สั่งระดมทหารทันที แต่เขากลับทำให้ผู้คนในเมืองฉิวซานสงบลงและจัดการกับการยอมจำนนของทหาร
หลังจากรอมาเจ็ดวัน ลู่เฟิง ก็นำทัพออกไป โดยมี เจี๋ยสวี่ ซุนฮก มุ่งหน้าไปช่วย เหลียนป๋อ ในการปิดล้อมเมือง เสี่ยวหลิงตู่
มันได้เวลาแล้วที่เขาจะต้องแก้ไขปัญหาของเมืองเสี่ยวหลิงตู่