MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 137
“อะไรนะ เตียวอุ๋น?”
ฉู่ต้าเหว่ย รู้สึกตกใจ และกล่าวถาม”เจ้าคือ เตียวอุ๋น บุตรชายคนที่สองของแม่ทัพ เตียวเฮยฉี ผู้บัญชาการทหาร 400,000 นาย ในเมือง ผิงกวน ใช่หรือไม่?”
“เป็นข้าเอง!”เตียวอุ๋นตอบกลับ
ฉู่ต้าเหว่ย มองไปที่ เตียวอุ๋น ด้วยท่าทีสับสน เขาเคยได้ยินชื่อของ เตียวอุ๋น มาก่อน ตั้งแต่อายุ 11 ปี อีกฝ่ายก็ถูกส่งออกไปหาประสบการณ์โดย เตียวเฮยฉี เขาได้ยินมาว่า อีกฝ่ายได้ ไปเข้าเรียนที่ สำนักร้อยก๊ก ในหยูโจว และ ไม่ได้กลับมาที่นี่มากกว่า 10 ปีแล้ว เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่”
เมื่อเห็น ฉู่ต้าเหว่ย จ้องมองไปที่ เตียวอุ๋น ลิโป้ รู้สึกสับสนเล็กน้อย นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาถาม เขามองไปที่ เตียวอุ๋น และ กล่าวถาม”เตียวอุ๋น เจ้าฆ่า กานฉวน ไป นี่นับเป็นผลงานความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมของเจ้า ข้าจะพาเจ้ากลับไปที่เมือง เสี่ยวหลิงตู่ เพื่อพบฝ่าบาท เจ้าจะต้องได้รับประทานคุณงามความดีนี้อย่างแน่นอน!”
ในเวลาเดียวกัน ลิโป้ ก็เตรียมตัวอย่างช้า ๆ ถ้า เตียวอุ๋น ไม่เห็นด้วย เขาก็จะใช้กำลังบังคับพาอีกฝ่ายไปโดยตรง เพื่อนี่ก็เท่ากับว่า ทัศนคติของเมือง ผิงกวง ที่มีต่อฝ่าบาท อาจจะเป็นด้านลบ
“ขอบคุณท่านแม่ทัพลิโป้!”เตียวอุ๋น ตอบกลับทันที
ลิโป้ ได้พยักหน้า ดูเหมือนว่า แม่ทัพเฒ่า เตียวเฮยฉี จะไม่ได้มีความคิดอย่างนั้น
แน่นอนว่า เตียวเฮยฉี มีชื่อเสียงที่ดีมากในราชอาณาจักร
ลิโป้ และ ฉู่ต้าเหว่ย ได้รีบกลับไปที่เมือง เสี่ยวหลิงตู่ ทันทีพร้อมกับ เตียวอุ๋น
ในเวลานี้ ภายใต้คำสั่งของ ลู่เฟิง ซุนฮก เจี๋ยสวี่ ได้รวบรวมทหารทั้งหมด ที่จับได้ขณะที่บุกเข้ามายังเมืองเสี่ยวหลิงตู่ มีคนมากกว่า 90,000 คน ที่ยังรอดชีวิต กระทั่งบางคนได้เลือกที่จะหนีไปและถูกฆ่า
ท้ายที่สุด ค่ายใหญ่ที่นำโดยทหาร 30,000 นาย ของฉู่ต้าเหว่ย ก็เหลือเพียงหยิบมือ นี่สามารถจินตนาการได้ว่าพวกเขาได้สูญเสียไปมากขนาดไหน
โชคดีที่ทหารม้าของ ลิโป้ และ ทหารราบของ ลู่เฟิง รวมถึง ซุนฮก มาช่วยได้ทันที การต่อต้านของพวกเขาทำให้พวกเขาเก็บเกี่ยวทหารกลับมาได้ 90,000 นาย
นอกจากนี้ ยังมีทหารอีกกว่า 60,000 นาย ในค่ายซีเหมิน ที่ยอมจำนน ดังนั้นผลลัพธ์ในการเก็บเกี่ยวของลู่เฟิงคือ 150,000 นาย
แน่นอนว่า ทหารภายในมือของเขาก็ได้รับความเสียหายมากเช่นเดียวกัน
ก่อนหน้านี้ เขานำทหารราบ 400,000 นาย และ ทหารม้า 30,000 นาย บุกโจมตีเมืองฉิวซาน จากการคำนวณของเขา เขาได้สูญเสียทหารราบไปประมาณ 20,000 กว่านายจากการโจมตีครั้งก่อน
โชคดีที่กองทัพของลิโป้ สามารถตัดศีรษะของ จางเป็งยี่ ได้เร็ว ดังนั้นกองทัพจึงไม่สูญเสียไปมากนักทำให้พวกเขาเหลือทหารราบ 380,000 นาย และ สูญเสียทหารม้าไปแค่บางส่วน
ที่นั่นพวกเขาสามารถเก็บเกี่ยวทหารราบได้มากกว่า 150,000 นาย
ในเมือง ฉิวซาน เขาได้วางทหารไว้ในเมืองชั้นในโดยเหลือกองทัพ 50,000 นาย และ เขาได้นำกองกำลัง 330,000 นาย มาโจมตีเมืองเสี่ยวหลิงตู่
เผชิญหน้ากับค่ายซีเหมิน เขาสูญเสียทหารราบไปมากกว่า 20,000 คน และ กองกำลังที่ได้รับบัญชาจาก ฉู่ต้าเหว่ยอีก 30,000 คน ยังมีทหารม้าอีกเล็กน้อยที่ได้รับความเสียหาย
ตอนนี้เขามีทหารราบเหลือมากกว่า 270,000 นาย ในมือของเขา
และทหารม้าที่สูญเสียจากการสู้รบสองครั้งนี้จึงเหลือเพียง 18,000 นายเท่านั้น
เขานำทหารราบมาทั้งหมด 400,000 นาย ตอนนี้เหลือเพียง 270,000 นาย ทหารม้า 30,000 นาย สูญเสียไปมากกว่า 10,000 นาย นี่เป็นตัวเลขที่ทำให้ ลู่เฟิง รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก
โชคดีที่เขาเก็บเกี่ยวทหารจากเมือง ฉิวซานได้มา 150,000 นาย และ ทหารที่เมืองเสี่ยวหลิงตู่อีก 150,000 นาย ตอนนี้เขาได้รับทหารเพิ่มรวมเป็น 300,000 นาย หากเขาให้ทหารเหล่านี้ได้รับการฝึกฝน พวกเขาสามารถกลายเป็นทหารผ่านศึกที่โชกโชนได้
ถ้านับทหารที่มีอยู่ในมือของเขาตอนนี้มันก็จะแบ่งออกเป็นดังนี้
หุบเขาหยางผิง ทหารของ เมิ่งเถียน 400,000 นาย ทหารองค์รักษ์พิทักษ์อาณาจักรอีกไม่กี่หมื่นคน รวมทหารที่ได้รับมาจาก ที่ราบลั่วซานหยวนอีกมากกว่าหลายแสนนาย รวมเป็น 1,250,000 คน ในมือของเขา
กองทัพ 800,000 นายที่นำมาจากเมืองเร้ดเมเปิ้ล ตอนนี้เหลือ 570,000 นาย และมีทหารม้าเหล็กมากกว่า 80,000 คน
หากกองกำลังเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนเพื่อสร้างประสิทธิภาพในการรบ เขาจะมีกองทหารทั้งหมด 2.4 ล้านคนในมือ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตัวเลขนี้มันมากขนาดไหน
ตราบเท่าที่เขาสามารถฝึกทหาร 1.25 ล้านคนได้สำเร็จ ความแข็งแกร่งของกองทัพของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ได้รับค่าประสบการณ์ 1.5 ล้านแต้ม สำหรับรางวัลภารกิจ และ โอกาสอัญเชิญสองครั้ง!”
“ติ๊ง เนื่องจากโฮสต์ได้รับทหารมากกว่าหนึ่งล้านคนในการต่อสู้ครั้งนี้ ระบบ จึงได้มอบรางวัลพิเศษ เป็นหีบสมบัติพิเศษ เงื่อนไขการใช้งาน ใช้สิทธิ์การอัญเชิญ!”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ระดับขั้นพลังของโฮสต์ได้ก้าวขึ้นสู่ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณระดับ 1 “
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ระดับขั้นพลังของโฮสต์ได้ก้าวขึ้นสู่ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณระดับ 2 “
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ ระดับขั้นพลังของโฮสต์ได้ก้าวขึ้นสู่ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณระดับ 3 “
แล้ว…..
ไม่มีแล้ว!
“ดูเหมือนว่า ลิโป้ และ ฉู่ต้าเหว่ย จะสามารถฆ่ากานฉวน ได้สำเร็จ ดังนั้นภารกิจของฉันจึงเสร็จสมบูรณ์แต่….”
เมื่อมองไปที่ความแข็งแกร่งของตนเอง ลู่เฟิง ถอนหายใจออกมา”ฉันได้รับค่าประสบการณ์ 1.5 ล้านแต้ม แต่กลับเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของฉันแค่ 3 ระดับ ถ้าเกิดฉันต้องการทะลวงขึ้นสู่ระดับ 9 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณไม่ใช่ ค่าประสบการณ์มากกว่า 10 ล้านเลยหรอกหรอ ?”
มุมปากของ ลู่เฟิง กระตุกเล็กน้อย ด้วยวิธีนี้เขาจะต้องสะสมค่าประสบการณ์มากขนาดไหนกันเพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของเขา?
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ได้รับการปรับปรุงระดับพลังย่อย 5 ระดับ ได้รับโอกาสอัญเชิญหนึ่งครั้ง!”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ เนื่องจากโฮสต์อัพระดับพลังใหญ่ถึงขั้น เชื่อมจิตวิญญาณ ตัวละครทั้งหมดที่ถูกอัญเชิญมาจะได้รับการปลดล็อคระดับพลังย่อยทั้ง 5”
เมื่อได้ยินเสียงเตือนนี้ ลู่เฟิง ก็มีรอยยิ้มบนใบหน้า โชคดีที่เขาพัฒนาระดับพลังขึ้นสิ่งนี้จะทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาแข็งแกร่งมากขึ้นไปด้วย
ก่อนหน้านี้ ความแข็งแกร่งของ เกาชุน คือ ระดับ 7 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ หลังจากปรับปรุงระดับพลังย่อยทั้ง 5 ความแข็งแกร่งของเขา น่าจะพุ่งไปถึงระดับ 3 ขั้นปรมาจารย์
ระดับพลังของ เจี๋ยสวี่ คือ ระดับ 4 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ เมื่อเพิ่ม 5 ระดับ ก็จะกลายเป็น ระดับ 9 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ซุนฮก เป็นนักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณระดับ 1 เขาก็ได้ปรับปรุงเพิ่มเป็นระดับ 5 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ระดับพลังความแข็งแกร่งของ เมิ่งเถียน เอง ก็ปรับเป็น ระดับ 1 ขั้นปรมาจารย์
ความแข็งแกร่งของ เตียวเลี้ยว,ฮัวโต๋ และ เมิ่งอี้ ก็ได้รับการปรับปรุงขั้นพลังย่อยทั้ง 5 ด้วย
ความแข็งแกร่งของ ฮวามู่หลาน ไม่ได้ดีขึ้น เพราะสถานะทางประวัติศาสตร์ของเธอ ที่ถูกกำหนดมามีพลังแค่ระดับ 6 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน หากเขาต้องการให้เธอแข็งแกร่งขึ้นคงมีทางเดียวก็คือให้เธอฝึกฝนด้วยตัวเอง
สิ่งเดียวที่ ลู่เฟิง ไม่พอใจก็คือ แม่ทัพฝ่ายศัตรู ชูหยี ชายคนนี้ได้หลบหนีหายไป เมื่อ จักรพรรดิอาณาจักรซีหยาง ถูกจับ อีกฝ่ายจะต้องขึ้นเป็นจักรพรรดิอย่างแน่นอน แน่นอนว่า ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายก็ได้รับการปรับปรุง ระดับย่อยทั้ง 5 จนกลายเป็น นักรบ ระดับ 6 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายมีตัวคนเดียว มันไม่น่าจะสามารถสร้างปัญหาให้กับเขาได้มากมายนัก
ในบรรดาคนทั้งหมดของลู่เฟิง ผู้ที่ทรงพลังที่สุดก็คือ เหลียนป๋อ
หลังจาก ที่ลู่เฟิง ได้รับความภักดีจาก เหลียนป๋อ ระดับพลังของอีกฝ่ายก็คือ ระดับ 9 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน ตอนนี้ ยังไม่ครบกำหนดสามเดือน ถ้าครบกำหนดเมื่อไหร่ ระดับพลังของอีกฝ่ายจะพุ่งขึ้นเป็น ระดับ 9 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ หลังจากที่ได้รับการปรับแต่งเพิ่้มขึ้นอีก 5 ระดับนั้น ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายก็จะพุ่งไปถึง
ระดับ 5 ขั้นปรมาจารย์!
ความแข็งแกร่งระดับนี้ จัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับปานกลางในหยูโจว
สำหรับ ลู่เฟิง ทั้งหมดนี้ ก็ดีมากแล้ว ยิ่งแม่ทัพภายใต้มือของเขามีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ อำนาจในฐานะจักรพรรดิของเขาก็จะพุ่งขึ้นตามไปด้วย
และในขณะเดียวกันเขาก็จะสามารถจัดการปัญหาได้ดีมากขึ้น
แต่ว่าแสงเย็นวาบได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของลู่เฟิง”อย่างแรกเป้าหมายของฉันก็คือการทำลายอาณาจักรซีหยาง!”
การทำลายอาณาจักรซีหยาง เป็นสิ่งแรกที่ ลู่เฟิง จะต้องจัดการ
“เดี๋ยวนะ ฉันเหมือนได้ยินว่าได้รับหีบสมบัติมาพิเศษมา หีบสมบัติพิเศษจากการรวบรวมทหารมากกว่าหนึ่งล้านคน อยากจะรู้จังว่ามันเป็นหีบแบบไหน ระบบ ก่อนหน้านี้คุณยังไม่ได้อธิบายเรื่องหีบสมบัติพิเศษนี้เลย?”