MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 148
ทาสดาบทั้งหกได้ต่อสู้กับนักรบระดับ 3 ขั้นปรมาจารย์
ทาสดาบทั้งหกไม่ได้มีความแข็งแกร่งเท่ากับนักรบระดับ 3 ขั้นปรมาจารย์ แต่ทว่าถ้าทั้งหกคนร่วมมือกัน พวกเขาสามารถหยุดนักรบระดับ 3 ขั้นปรมาจารย์ได้
“ไม่เเปลกใจเลยที่ข้อมูลในระบบจะบอกเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของ ทาสดาบทั้งหก มีโอกาสที่จะฆ่านักรบระดับต่ำกว่า ระดับ 3 ขั้นปมาจารย์ จริง ๆ !”ลู่เฟิง กล่าวกระซิบเล็กน้อย
ในไม่ช้า การต่อสู้ของ ทาสดาบทั้งหก และ นักรบระดับ 3 ขั้นปรมาจารย์ก็ได้รับการดึงดูดจากทุกคน เขามองเห็นว่าแท้จริงแล้วอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้หญิง!
“เจ้าพวกไร้ยางอายทั้งหก กล้าที่จะรุมคุณหนูของข้า ตาย!”
ในเวลานี้ เสียงของหญิงสาวในชุดราตรี ก็ได้ดังขึ้น เธอได้พุ่งเข้าไปร่วมการต่อสู้ระหว่างทาสดาบทั้งหก และ นักรบระดับ 3 ขั้นปรมาจารย์คนนั้น
ความแข็งแกร่งของหญิงสาวคนนี้ไม่ได้อ่อนเเอ เธอมีพลังระดับ 9 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ
ด้วยการขยับมือ ดาบเฉิงอิ๋ง ในมือของ เจี๋ยสวี่ ได้พุ่งไปขวางทางหญิงสาวคนนั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ เจี๋ยสวี่ จะมีพลังระดับ 9 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ แต่ก็ไม่ใช่จุดสุดยอดของระดับที่ 9 และ หญิงสาวคนนี้ก็ไม่ได้อ่อนเเอ การต่อสู้ของ เจี๋ยสวี่ จึงเป็นไปได้ยาก
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซุนฮก ได้พุ่งตัวออกไปเข้าร่วมการต่อสู้ทันที
แม้ว่าความแข็งแกร่งในปัจจุบันของซุนฮก จะเป็นเพียงนักรบระดับ 6 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ แต่ในขณะที่เขาร่วมมือกับ เจี๋ยสวี่ ผู้หญิงคนนี้ก็ยังยากที่จะเอาชนะเขาได้
ในบรรดานักรบในชุดราตรีเหล่านี้มีคนสองคนได้มองหน้ากัน พวกเขาถูกส่งมาจากตระกูลขุนนางเพื่อตรวจสอบข้อมูลข่าวของตำหนักฉางจิ้ง ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ไม่คิดเลยว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์ปรากฏตัวออกมาจัดการกับ ลู่เฟิง เช่นนี้
พวกเขาจะพลาดโอกาสดี ๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร?
ร่างของคนสองคนได้วูบไหวดาบยาวในมือของเขาได้ควบแน่นพุ่งตรงไปที่ ลำคอของ ลู่เฟิง
“ปกป้องฝ่าบาทเร็วเข้า!”
เจี๋ยสวี่ รู้สึกกังวลอย่างมาก
ทาสดาบทั้งหกได้ออกจากการต่อสู้และจะหันกลับไปปกป้องลู่เฟิง แต่พวกเขาอยู่ไกลจากลู่เฟิงมากเกินไป ก่อนที่พวกเขาจะไปถึง ดาบสาวสองเล่มก็จอประชิดถึงลำคอของลู่เฟิง
มีรอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้าของพวกเขา หากพวกเขาสามารถฆ่า ลู่เฟิง ได้ ตระกูลขุนนางเหล่านั้นย่อมตอบแทนเขาแน่นอน
แต่ทว่า…
แสงปลายดาบ ของเขายังไม่ทันได้แทงทะลุลำคอของลู่เฟิง ดาบยาวในมือของลู่เฟิง ก็ได้บั่นคอของพวกเขาไปแล้ว
“เป็นไปได้ยังไง?”
ในช่วงเวลาก่อนที่ทั้งสองคนจะเสียชีวิต คำถามเหล่านี้ ได้ปรากฏขึ้นในสายตาของพวกเขา
ตามข้อมูลที่พวกเขาได้รับมา ลู่เฟิง เป็นเพียง นักรบระดับ 3 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน ทั้งสองคนเป็นนักรบระดับ 6 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน ทำไมพวกเขาถึงเอาชนะ ลู่เฟิงไม่ได้?
เพียงพริบตาเดียวพวกเขาก็ถูกบั่นศีรษะทันที!
ความแข็งแกร่งของลู่เฟิงอยู่ระดับใดกันแน่?
แต่ในเวลานี้ ลู่เฟิง ไม่ได้สนใจ เขามองไปที่ศพทั้งสองและกล่าวพูดดูถูก”เป็นเพียงวัชพืชคิดจะลอบทำร้ายข้าหรือไม่ หากเจ้าต้องการจะลอบสังหารข้า อย่างน้อยเจ้าจะต้องส่งนักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณมา! เพียงแค่นักรบขั้นสร้างรากฐานพลังหยวนสองคน คิดจะสังหารข้าฝันไปเถอะ!”
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือในปัจจุบันหลังจากเขาฆ่าทั้งสองคนเขาได้รับค่าประสบการณ์เพียงหนึ่งร้อยแต้มเท่านั้น
ในตอนนี้ ทาสดาบทั้งหก ได้มาถึงด้านหน้าของ ลู่เฟิง เฉินกัง หัวหน้าทาสดาบทั้งหกรีบคุกเข่า”ฝ่าบาท พวกเราทาสดาบทั้งหกบกพร่องในหน้าที่ พวกเราสมควรตาย!”
ลู่เฟิง ได้จับมือของเขาเเละตอบกลับ”ช่างเถอะนี่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้า!”
ในเวลานี้ นักรบขั้นปรมาจารย์ และ นักรบจุดสูงสุดของขั้นเชื่อมจิตวิญญาณก็ได้หนีไปทันที
“ฝ่าบาท พวกเราละเลยหน้าที่จนพระองค์เกือบถูกลอบสังหาร ฝ่าบาทโปรดลงโทษ!”เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ได้คุกเข่าต่อหน้าลู่เฟิง
“พวกเจ้าคิดว่า วัชพืช สองตัวที่มีความแข็งแกร่งเพียงเล็กน้อยจะสามารถทำร้ายข้าได้หรือไม่?”
ลู่เฟิงสั่นศีรษะ”ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแล้ว ลุกขึ้น!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“ซุนฮก!”
“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจสิ่งที่ฝ่าบาทจะสื่อแล้ว ข้าน้อยจะรีบจัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว”
“เจี๋ยสวี่!”
“ขอรับ!”เจี๋ยสวี่ รีบลุกขึ้น
ลู่เฟิง ชี้ไปที่ศพทั้งสองที่พื้นและกล่าวพูด”จงหาว่าตระกูลใดให้ท้ายพวกมัน เมื่อสืบจนล่วงรู้แล้วให้ทำลายพวกมันทั้งตระกูลซะ!”
“ขอรับ!”
แสงเย็นวาบได้ปรากฏในดวงตาของ เจี๋ยสวี่ คนเหล่านี้กล้าที่จะลอบทำร้ายฝ่าบาท บาปเช่นนี้ไม่ควรได้รับการอภัย!
“ไปกันเถอะ!”
หลังจาก ลู่เฟิง จัดแจงหน้าที่เสร็จแล้ว เขาก็พาทาสดาบทั้งหกกลับวัง
“เฉินกัง!”
“ขอรับ!”
ลู่เฟิงมองไปที่ เฉินกัง และ กล่าวถาม”เจ้าคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับหญิงสาวที่ต่อสู้กับเจ้าก่อนหน้านี้?”
เฉินกัง ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ”เธอไม่ใช่นักรบแห่งอาณาจักรหนานหยาน”
“มีอะไรยืนยันหรือไม่?”
“ทักษะที่เธอใช้ระดับของมันเพียงด้อยกว่าระดับสวรรค์เท่านั้น ทั่วทั้งอาณาจักรหนานหยาน ล้วนไม่มีทักษะระดับนี้อยู่”เฉินกัง ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมา
ลู่เฟิง พยักหน้าและบ่นพึมพัม”ดูเหมือนว่าจะมีหลายสิ่งเกิดขึ้นภายในอาณาจักร! ข้าไม่รู้ว่าคนผู้นี้แท้จริงแล้วเป็นมิตรหรือศัตรู”
…
วันรุ่งขึ้น นอกตำหนักฉางจิ้ง เต็มไปด้วยเหล่านักรบจำนวนมาก
ความแข็งแกร่งของนักรบเหล่านี้ ใกล้เคียงกับขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ และ ผู้ที่อ่อนเเอที่สุดคือนักรบขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน
คนเหล่านี้ได้มารวมตัวกันหน้าตำหนักฉางจิ้ง
ซุนฮก ได้เป็นคนดูแลที่นี่ เขาได้อธิบายถึงกฏเกี่ยวกับการขอรับการฝึกฝนทักษะที่ถูกบันทึกภายในหนังสือทิเบต
ดังนั้นซุนฮกจึงคิดค้นวิธีการแข่งขันขึ้นมา
ในการแข่งขัน ผู้ชนะจะได้รับสิทธิ์เข้าไปยังตำหนักฉางจิ้ง โดยการกลายเป็นส่วนหนึ่งของนักรบของอาณาจักรหนานหยาน
มีคนจำนวนมากได้มาดูกัน เพราะมีคนจำนวนมาก ซุนฮก จึงจัดตั้งวิธีนี้ก่อนเป็นอันดับแรก
ขณะที่การต่อสู้ผ่านพ้นไป ยังไม่มีใครมีคุณสมบัติเข้าไปยังชั้นที่ 8 และ 9
เมื่อผู้ชนะปรากฏตัว ซุนฮก ได้ส่งให้คนผู้นี้ขึ้นไปยังชั้น 7 ของ ตำหนักฉางจิ้ง
ในไม่ช้าคนผู้นี้ก็ออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เห็นได้ชัดว่าเขาได้ทักษะระดับปฐพี มาครอบครอง
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถนำสิ่งต่าง ๆ ออกมาจากตำหนักฉางจิ้งได้ มีเพียงความรู้ความเข้าใจเท่านั้นที่ติดตัวเขามา
หลัายคนจ้องมองไปที่ นักรบขั้นสร้างรากฐานพลังหยวนคนนี้ด้วยสายตาดุร้าย พวกเขาคิดว่าอีกฝ่ายได้ครอบครองทักษะระดับปฐพีอย่างแน่นอน
ซุนฮก จึงได้ใส่คำเตือนลงไป กล่าวว่า ผู้ชนะ จะได้รับการคุ้มครองโดยอาณาจักรผ่านจินยี่เหว่ย ใครมันกล้าที่จะทำอะไร ก็เท่ากับเป็นการต่อต้านอาณาจักร
ทันใดนั้น เเววตาของนักรบทั้งหมดก็กลายเป็นว่างเปล่า จินยี่เหว่ย คืออะไร ทำไมพวกเขาจะไม่รู้
นักรบขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน ระดับ 8 และ 9 จำนวนมาก ได้เข้าร่วมการแข่งขันและผู้ชนะได้ถูกตัดสินอย่างรวดเร็วเพื่อเข้าไปยังตำหนักฉางจิ้ง
ขณะนี้ ไม่มีใครสงสัยว่า ภายในตำหนักฉางจิ้ง มีทักษะระดับปฐพีอยู่จริง หรือป่าว นักรบหลายคนได้ลงทะเบียนสมัครเพื่อหาประโยชน์ในการได้รับทักษะต่อสู้นี้
เรื่องนี้ ลู่เฟิง ปล่อยให้เป็นหน้าที่รับผิดชอบของ ซุนฮก
ในไม่ช้า ข่าวเหล่านี้ ก็แพร่กระจายไปทั่วราชอาณาจักร ตระกูลขุนนางจำนวนมากที่ได้ยินพวกเขาก็เกิดความหวาดกลัวและมีทางเลือกที่แตกต่างมากขึ้น