MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 156
หยางจุน ได้มองไปที่สองสาว ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์ การแสดงออกของเขาค่อนข้างชัดเจนจนมุมปากได้มีน้ำลายไหลย้อยลงมา
มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ หยางจุน จะมีท่าทีเช่นนี้ เพราะ สองสาว ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน นั้นงดงามจริง ๆ
แม้ทั้งสองจะเป็นนักฆ่า แต่ใบหน้าของพวกเธอก็งดงามมาก ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่พวกเธอเป็นมือสังหาร บุคลิกท่าทีจึงเย็นชา ให้ความรู้สึกเหมือนกับสตรีสูงศักดิ์ อารมณ์บุคลิกเช่นนี้มักจะทำให้ชายหลายคนเกิดความตื่นเต้นมากกว่า
ลู่เฟิง มองไปที่ หยางจุน ด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรง ตอนนี้ เขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเส้นเลือดวิญญาณ ดังนั้นจึงอารมณ์ไม่ค่อยดี
ในช่วงขณะที่เขาอารมณ์ไม่ดี นายน้อยหยางจุนคนนี้ กลับแกว่งเท้าหาเสี้ยนมาหาเรื่องเขา
ขณะที่ ลู่เฟิง กำลังคิดในใจ หยางจุนก็เช็ดน้ำลายของตัวเองและพูดกับลู่เฟิง”เจ้าเด็กน้อยข้าจะให้เงินเจ้า 500 เหรียญทอง เพื่อแลกกับหญิงสาวสองคนนี้ ว่าไงเจ้าสนใจไหม?”
ลู่เฟิง รู้สึกตกตะลึง มีคนที่กล้ายัดเงินให้เขาเพื่อแลกกับผู้หญิงหรือไม่? คนผู้นี้ไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้วใช่มั้ย?
แน่นอนว่า ความเย็นชาในสาวตาของ ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน นั้นกลับแข็งกร้าวมากขึ้นกลิ่นอายสังหารกำลังจะปะทุออกมา
เมื่อ หยางจุน เห็นว่า ลู่เฟิงไม่ตอบเขาก็หัวเราะออกมา”เจ้าเด็กน้อยอย่าได้ดื้อรั้นเกินไป ไม่งั้นเจ้าอาจจะกลายเป็นผีไร้รุม ดีแค่ไหนแล้วที่ข้าให้เจ้าห้าร้อยเหรียญทอง ถ้าเจ้าไม่พูดอะไร เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะฆ่าเจ้าซะตั้งแต่ตรงนี้!”
“ใช่แล้ว รีบส่งแม่นางทั้งสองให้ นายน้อยหยางซะไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าพวกเราไม่เตือน”
“เจ้าเด็กน้อยเร็วเข้าไม่งั้นเจ้าอาจจะตายไม่รู้ตัวก็ได้นะ”
“…”
ลู่เฟิงสั่นศีรษะและตอบกลับ”อย่าได้เคลื่อนไหวมากเกินไป”
“โอ้วเจ้ายังจะเป็นห่วงพวกเราอีกเชื่อหรือไม่ว่าพวกเราผู้ติดตามนายน้อยหยางจุนมักจะฆ่าคนโดย…”
ฟวั่บ!
ก่อนที่เขาจะพูดจบศีรษะของผู้ติดตามและนายน้อยหยางจุนก็กระเด็นลอยไปบนฟ้าและตกลงพื้นในที่สุด
“เจ้าคิดว่าเจ้าคู่ควรคุยกับข้า?”
ลู่เฟิง มองไปที่ ศพของ หยางจุน ที่ร่วงอยู่บนพื้น แทบไม่มีเลือดกระเซ็นไปโดนม้า เขาได้หันศีรษะและเข็นม้าออกไปก่อนที่จะหันไปทาง ซุนฮวา และ เหม่ยหลานพร้อมกับกล่าวชม”เป็นเทคนิคที่ดี”
“นายน้อยยกย่องเกินไปแล้ว”ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ได้ตอบพร้อมกัน
ทักษะของพวกเธอนั้นยอดเยี่ยมอย่างมากและนี่ก็แค่ส่วนเล็กน้อยเท่านั้น
ลู่เฟิง นั่งม้าทั้งสามมุ่งหน้าไปยังเมืองหนานกวงอย่างผ่อนคลาย
….
เมืองหนานกวง เมืองใหญ่ทางตอนเหนือของอาณาจักรซีหยาง ที่นี่เป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งอาณาจักรซีหยางคนปัจจุบัน ชูหยี
เขานั่งอยู่บนบัลลังก์และมีข้าราชบริพารด้านล่างเป็นแม่ทัพเพียงแค่ห้าคน
ชูหยี จ้องมองไปที่ แม่ทัพทั้งห้าและกล่าวพูดอย่างเคร่งขรึม”มีเส้นเลือดวิญญาณปรากฏขึ้นในภูเขาทางตอนเหนือของเรา เราต้องยึดครองมันให้ได้ แต่นั่นไม่ใช่จุดประสงค์หลักของข้า”
แม่ทัพหลายคนได้มองหน้ากันด้วยความสงสัยก่อนที่จะมองไปที่ ชูหยี ว่าเขากำลังหมายถึงอะไร?
ชูหยี ยิ้มอย่างเย็นชาและตอบกลับ”ไม่มีใครไม่ต้องการของล้ำค่าอย่างเส้นเลือดวิญญาณ แม้ว่าข้าจะมั่นใจในความแข็งแกร่งของอาณาจักรซีหยาง แต่คราวนี้ ขุมกำลังจำนวนมาก ต่างก็ส่งผู้เชี่ยวชาญมาเพื่อต้องการยึดครองเส้นเลือดวิญญาณ ดังนั้น…”
เเสงเย็นชาได้ปรากฏในดวงตาของเขา”ข้าต้องการให้พวกเจ้าเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ ในช่วงเวลาที่คนเหล่านั้นต่อสู้กันแย่งชิงเส้นเลือดวิญญาณ ให้พวกเจ้าส่งกองกำลังไปโจมตีเมืองซีหยางทันที เราจะต้องยึดเมืองหลวงของอาณาจักรซีหยางของเรากลับคืนมา!”
แม่ทัพหลายคนได้ตกใจและรีบกล่าว”ฝ่าบาท เมิ่งเถียน นำกองทัพไปปกป้องเมืองซีหยาง พวกเราจะมีโอกาสทำสำเร็จงั้นหรือ?”
“ทำไมจะไม่มี!”ชูหยี ได้ส่งเสียงเตือนอย่างเย็นชา”ตอนนี้ เจ้าเด็กลู่เฟิง นั่น จะต้องส่งผู้เชี่ยวชาญไปที่ภูเขาทางตอนเหนือเพื่อแย่งชิงเส้นเลือดวิญญาณอย่างแน่นอน และ อาจเป็นไปได้ว่า เมิ่งเถียน น่าจะไปที่นั่นด้วย ดังนั้นนี่เป็นโอกาสของเราที่จะส่งทหาร!”
เขามองไปที่แม่ทัพทั้งห้าด้านล่างและกล่าวเตือนอย่างเย็นชา”พวกเจ้าทั้งห้าคนมีกองทัพในมือ 1.5 ล้าน นี่เป็นขุมกำลังสุดท้ายของอาณาจักรซีหยางของข้า ถ้าครั้งนี้พวกเจ้าล้มเหลว พวกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”
“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
แม่ทัพทั้งห้ารีบกล่าวทันที ชูหยี ได้สั่งการอีกครั้ง”ลงไปจัดเตรียมปันส่วนอาหารและอาวุธทางกองทัพทันที เมื่อเวลามาถึง พวกเราจะบุกโจมตีเมืองซีหยาง!”
“ขอรับ!”
ถ้า ลู่เฟิง รู้เรื่องนี้เขาจะต้องประหลาดใจมากแน่ ๆ
เขาต้องการใช้โอกาสนี้ในการพิชิตอาณาจักรซีหยาง และ ชูหยี เองก็ต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อยึดเมืองหลวงของพวกเขาคืน
ทั้งสองฝ่ายต่างก็ทำตามกลยุทธ์โดยต่างฝ่ายต่างไม่รู้ว่าพวกเขาทั้งสองมีทหารอยู่ในมือประมาณ 1.5 ล้านคนเทียบเท่ากัน!
แน่นอนว่าแผนการของพวกเขาได้ปรับเปลี่ยนตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เดิม ลู่เฟิง ต้องการฝึกฝนทหารที่ได้รับมาให้กลายเป็นทหารชั้นยอด ชูหยี เองก็ต้องการฝึกทหารม้าของเขา
แต่โอกาสดี ๆ เช่นนี้ พวกเขาต้องล้มเลิกแผนการก่อนหน้าและดำเนินแผนการตามความเหมาะสมในเวลานี้
นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดทั้งสองฝ่าย แต่ทุกคนก็พร้อม!
…
ลู่เฟิง พา ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน มาถึงเมืองหนานกวงในระยะเวลาอันสั้น
ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญอยู่จำนวนมาก
ในหมู่พวกเขาลู่เฟิงสัมผัสได้ถึงนักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ
“ดูเหมือนว่า เส้นเลือดวิญญาณ จะดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมาจริง ๆ เดิมผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่สุดในอาณาจักรหนานหยานมีเพียงนักรบขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน ตอนแรกข้าคิดว่าอาณาจักรรอบข้างก็คงจะไม่ต่างกัน! แต่ดูเหมือนข้าจะคิดผิด!”
ลู่เฟิงมองไปที่ลมหายใจของนักรบเหล่านี้เขาได้ถอนหายใจออกมา
ซุนฮวา ได้กระซิบบอกเขา”นายน้อย ในบรรดานิกายที่ทรงพลังหรือบางตระกูลใหญ่พวกเขามักจะมีนักรบขั้นปรมาจารย์ซ่อนตัวอยู่”
ลู่เฟิงพยักหน้า”อืม,ข้ารู้แล้ว ตระกูลหยานที่ถูกทำลายไป ใครจะไปคิดว่าพวกเขาจะมีบรรพบุรุษที่ซ่อนตัวอยู่และยังเป็นถึงนักรบขั้นปรมาจารย์!”
เขาสั่นศีรษะและตอบกลับ”ครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะได้รับเส้นเลือดวิญญาณดังนั้นทุกคนจะต้องเตรียมพร้อมให้ดี!”
“เพคะ!”
หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมการเข้าเมือง ลู่เฟิง ก็พา ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ควบม้าเข้าไปในเมือง
ตอนนี้ท้องฟ้าได้เริ่มมืดลง ช่วงเวลากลางคืนได้มาถึง
ลู่เฟิง พาสองสาว ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ไปหาที่พักอยู่ครู่นึงและในที่สุดก็พบโรงแรมที่ว่างอยู่
แต่…
“เถ้าแก่ เหลือห้องเดียวจริง ๆ งั้นเหรอ?”ลู่เฟิง ถามผู้ดูแลโรงแรม
“นายน้อยท่านนี้ ข้าไม่กล้าโกหกอย่างแน่นอน โรงแรมเล็ก ๆ ของข้าตอนนี้เหลือว่างเพียงห้องเดียวจริง ๆ “เจ้าของร้านยิ้มอย่างขมขื่น
ถ้าเขามีธุรกิจที่ดีกว่านี้เขาก็คงจะหุบยิ้มไม่ได้
แต่เมื่อไม่นานมานี้มีนักรบที่แข็งแกร่งเดินทางมาที่นี่จำนวนมากและโรงแรมของเขาก็เป็นเพียงโรงแรมเล็ก ๆ เขากังวลว่าคนเหล่านี้จะหาข้ออ้างในการทำลายร้านของเขา
ลู่เฟิง มองไปที่ เขาแต่ก็ทำอะไรไม่ถูก มันเหลือเพียงห้องเดียวจริง ๆ
หลังจากจ่ายเงินแล้ว ลู่เฟิงก็พา ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ไปที่ชั้นสอง
ด้านในสุดคือห้องของพวกเขา
หลังจากเข้ามาในห้องได้สักพัก ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ก็พูดขึ้น”นายน้อยไปอาบน้ำเถอะเพคะ พวกเราจะเฝ้าระวังด้านนอกให้!”