MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 169
ลู่เฟิงได้ยินดังนั้นเขาก็ถึงกับผงะ สิ่งนี้ทำให้ภารกิจที่ถูกซ่อนเสร็จอยู่งั้นหรือไม่?
แถมเขายังได้รับหีบสมบัติพิเศษ!
อย่างไรก็ตามหีบสมบัติพิเศษนี้ต้องการโอกาสในการอัญเชิญตอนนี้เขาไม่มีโอกาสอัญเชิญเหลืออยู่แม้แต่อันเดียว
เขาได้กล่าวถามทันที”ระบบนอกจากใช้โอกาสอัญเชิญแล้วยังมีวิธีใดบ้างที่จะเปิดหีบสมบัติพิเศษนี้ได้อีก?”
“ไม่! มีเพียงโอกาสอัญเชิญเท่านั้น!”
“…”
ลู่เฟิง รับฟังคำพูดเล็กน้อยเขาได้สั่นศีรษะทันที ดูเหมือนว่าเขาจะต้องรอโอกาสอัญเชิญในครั้งต่อไป
อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องยากที่เขาจะได้รับโอกาสอัญเชิญเพราะค่าประสบการณ์ที่เขาต้องการในการยกระดับขั้นพลังนั้นยังคงเหลืออยู่อีกมาก สิ่งเดียวที่พอจะทำได้ก็คือเขาจะต้องทำภารกิจในอนาคตให้สำเร็จ
ถึงจะมีโอกาสอัญเชิญที่รวดเร็ว
“ฝ่าบาท รายงานความเสียหายในสนามรบมาแล้ว”
จางฮั่น ได้นำสถิติความเสียหายจากสนามรบไปบอก ลู่เฟิง
“ว่ามา!”
“ในการต่อสู้ครั้งนี้กองทัพเงามีทหาร 37 คนเสียชีวิต นอกนั้นไม่มีผู้บาดเจ็บ!”
37 คน!
ลู่เฟิง พยักหน้าและชื่นชมให้กับประสิทธิภาพของกองทัพเงา ในการต่อต้านทหารจำนวนมากกลับเสียชีวิตเพียงแค่ 37 นอกนั้นยังไม่มีผู้บาดเจ็บอีก
เขาได้ตอบกลับทันที”จางฮั่น สมาชิกครอบครัวของทหารในกองทัพเงาที่เสียชีวิต จะได้รับค่าตอบแทน 5 เท่าของปกติ!”
ลู่เฟิง ได้รับเงินจำนวนมากมาจากตระกูลขุนนางเหล่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ตระหนี่กับทหารของตนเอง
“ขอรับ!”
จากนั้น ลู่เฟิง ทาสดาบทั้งหก และ จางฮั่น ก็ออกจากที่นี่อย่างรวดเร็วพร้อมกับกองทัพเงา
…
นอกเมือง โฮวฉิว ภายในคฤหาสน์ของชูหยี
ชูหยี กำลังหลับอยู่และตื่นขึ้นมาพร้อมกับเหงื่อเย็น ๆ บนใบหน้าของเขา
เขากำลังฝันอยู่ เขาฝันว่าตนเองนั้นเปรียบเสมือนดอกไม้ที่ถูกเด็ดทิ้ง
ชูหยี เป็นนักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ ความฝันของเขาจะธรรมดาได้อย่างไร?
และนี่ยังเป็นฝันร้าย
มันจะต้องมีปัญหาเกิดขึ้น!
นี่เป็นปฏิกิริยาแรกของเขา
“เข้ามา,เจ้าลงไปตรวจสอบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและรีบรายงานข้าให้เร็วที่สุด!”
“ขอรับ!”
ชูหยี ได้จัดแจงหน้าที่และต้องการที่จะนอนต่อ แต่เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้เขานอนไม่หลับ
ในช่วงบ่ายวันรุ่งขึ้นเขาได้รับข่าวว่า กองทัพขนส่งเสบียง 30,000 นายได้ถูกทำลายโดยกองทัพลึกลับทหารคุ้มกันทั้งหมดถูกฆ่าตายและไม่มีใครเหลือรอด
ตู้ม!
ข่าวนี้เปรียบเสมือนฟ้าผ่ากลางศีรษะของเขาทำให้ใบหน้าของ ชูหยี ซีดเผือก
ในฐานะจักรพรรดิของอาณาจักรซีหยาง และ ยังเป็นผู้บัญชาการกองทัพ ชูหยี รู้ดีว่าหากไม่มีเสบียงคอยหล่อเลี้ยงกองทัพ จิตวิญญาณต่อสู้ของทหารก็จะไม่มั่นคง
หากปราศจากจิตวิญญาณต่อสู้ มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่กองทัพจะแสดงประสิทธิภาพการสู้รบที่ดีออกมา
ข่าวนี้จะต้องไม่ถูกแพร่กระจายออกไป
แสงเย็นวาบได้ปรากฏขึ้นในดวงตาของ ชูหยี เขาได้กล่าวถามคนส่งข่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ”เจ้าบอกกับข้ามาว่ามีใครรู้ข่าวนี้อีกหรือไม่?”
“ข้าได้เดินทางมาจากเมืองหนานกวงและเข้าเฝ้าฝ่าบาทโดยตรงดังนั้นจึงยังไม่มีใครทราบเรื่องนี้พะยะค่ะ!”
“เช่นนั้นก็ดี!”
ฟวั่บ!
ชูหยี ได้ดึงดาบออกมาจากฝักและฟันไปที่ศีรษะของชายคนนี้ ในช่วงเวลาก่อนตายเขายังคงงุนงงว่าเหตุใดชูหยีถึงฆ่าเขา
หลังจากนั้น ชูหยี ก็จัดให้คนของเขามุ่งหน้าไปที่เมืองหนานกวง ในทางกลับกันเขาได้ให้คนเหล่านี้ทำทุกวิถีทางเพื่อหาเสบียงที่หายไปให้ได้
ห้าวันต่อมา ลูเฟิง และ ผู้ติดตามของเขาได้ออกเดินทางและเลี่ยงเมืองหนานกวง ไปยังกองทัพที่ เมิ่งเถียน ประจำการอยู่
แม่ทัพ เมิ่งเถียน ได้ตั้งค่ายของเขาห้าสิบไมล์นอกเมืองซีหยาง เมื่อ ลู่เฟิง มาถึงพร้อมกับ ทาสดาบทั้งหก และ จางฮั่น เมิ่งเถียน และ เจี๋ยสวี่ ที่ได้รับข่าวก็รีบออกมารอต้อนรับ
“ข้าน้อย เจี๋ยสวี่!”
“ข้าน้อย เมิ่งเถียน!”
“ถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน”
แม่ทัพข้างหลังพวกเขาก็คุกเข่าลงทันที”ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน”
“ลุกขึ้นเถอะ!”
ลู่เฟิง ได้ตะโกนบอกแม่ทัพเหล่านี้และเดินเข้าไปในค่ายพร้อมกับ ทาสดาบทั้งหก และ จางฮั่น
เจี๋ยสวี่ และ เมิ่งเถียน ได้เดินตามมาติด ๆ
ลู่เฟิง ได้นั่งอยู่บนเก้าอี้และมองไปที่ เมิ่งเถียน”เมิ่งเถียน สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
“ฝ่าบาท ข้าได้ส่งกองทัพของข้าออกไปแต่ไม่คิดเลยว่าชูหยีจะ…”
เมิ่งเถียนต้องการจะพูดเรื่องนี้แต่ลู่เฟิงได้โบกมือ”ข้ารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว เมิ่งเถียน บอกข้ามาเกี่ยวกับรายงานสนามรบทั้งหมด!”
เมิ่งเถียน ได้พยักหน้าและตอบกลับทันที”ขอรับ!”
หลังจากหยุดไปเล็กน้อยเขาก็พูดขึ้น”กองทัพของเราได้ต่อสู้กับกองทัพของอาณาจักรซีหยางมากถึง 7 ครั้ง ทั้งสองฝ่ายต่างมีผู้เสียชีวิตประมาณ 200,000 คน มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 100,000 คน และมีกำลังพลเหลืออยู่ประมาณ 1.2 ล้านคน คาดว่าอาณาจักรซีหยางเองก็คงไม่ต่างกันมากนัก!”
“มีคนบาดเจ็บไม่ใช่น้อยเลย!”ลู่เฟิงถอนหายใจเบา ๆ
“ฝ่าบาท ข้าน้อยนั้นไร้ความสามารถล้มเหลวในการบริหารกองทัพและจัดการการสู้รบ!”
เมิ่งเถียน เตรียมพร้อมที่จะรับคำตำหนิจาก ลู่เฟิง
ลู่เฟิง ได้ตอบกลับทันที”ข้าไม่ได้จะตำหนิเจ้า ยังไงทหารส่วนตัวเหล่านี้ ก็ยังแตกต่างจากทหารกองทัพของพวกเรา พวกเขายังคงต้องได้รับการฝึกฝนให้กลายเป็นทหารชั้นยอด!”
เมิ่งเถียน รู้สึกดีใจที่ได้ยินเช่นนั้น ก่อนที่ ลู่เฟิง จะมาเขากังวลว่า ตนเองจะถูกตำหนิ เพราะไม่สามารถใช้งานกองทัพส่วนตัวเหล่านี้ได้เท่าที่ควร
โชคดีที่ฝ่าบาทไม่ได้ตำหนิตัวเอง
“เหวินเหอ!”
“ขอรับ!”
“ที่เมืองโฮวฉิวและค่ายทหารของอาณาจักรซีหยางมีอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือไม่?”ลู่เฟิงกล่าวถาม
เจี๋ยสวี่ ได้ครุ่นคิดและตอบกลับ”ฝ่าบาท มันเป็นเรื่องแปลกที่อาณาจักรซีหยาง จะหยุดทุกการกระทำในตอนนี้ ก่อนหน้านี้พวกเขามักส่งทหารมาก่อกวนและสร้างสถานการณ์ต่อสู้กับเราอย่างแปลก ๆ แต่ในสองสามวันมานี้ ไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเลย”
“แต่ข้าได้สั่งให้ จินยี่เหว่ย คอยตรวจสอบสถานการณ์อย่างเคร่งครัดแล้วเกรงว่าน่าจะได้รับคำตอบเร็ว ๆ นี้”
“ฮ่าฮ่า!”
ลู่เฟิง หัวเราะออกมาและพูดขึ้น”จางฮั่น บอกเหวินเหอ และ เมิ่งเถียน สิว่าเกิดอะไรขึ้น!”
“ขอรับ!”
จางฮั่น ได้มองไปที่ เจี๋ยสวี่ และ เมิ่งเถียน”เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาข้าได้พากองทัพเงาไปเข้าพบฝ่าบาทที่ภูเขาทางตอนเหนือในระหว่างทางข้าได้พบกองทัพขนส่งเสบียงของอาณาจักรซีหยาง กองทัพขนส่งเสบียงเหล่านั้นทั้งหมดถูกฆ่าตายไม่มีใครสามารถหลบหนีไปได้ ทางเราได้เก็บกู้เสบียงที่พอจะหล่อเลี้ยงกองทัพ 500,000 นาย ได้เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนกลับมา ส่วนอีกกว่าครึ่งหนึ่งของเสบียงที่เหลือต่างถูกทำลายไปแล้ว”
“อะไร???”
เจี๋ยสวี่ และ เมิ่งเถียน ต่างก็ตกใจอย่างมาก”ฝ่าบาทพระองค์นำกองทัพเงาไปทำลายกองทัพขนส่งเสบียงงั้นหรือพะยะค่ะ?”
ลู่เฟิง ยิ้มและตอบกลับ”อะไรไม่เชื่อข้างั้นเหรอ?”
“ข้าน้อยไม่กล้า!”
เจี๋ยสวี่ และ เมิ่งเถียน ได้พูดขึ้นพร้อมกัน
ขณะที่มองไปที่ ลู่เฟิงเขาก็ตอบกลับ”มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมาก!”
“แต่มันก็เป็นความจริง!”
หลังจากหยุดชั่วครู่ น้ำเสียงของ ลู่เฟิงก็หนักขึ้นเล็กน้อย”สิ่งที่ข้าไม่คิดก็คือ ชูหยี ได้ปิดกั้นข่าวในช่วงสองสามวันมานี้ ข้าซาบซึ้งในความสามารถของเขามากแต่ทว่า…”
หลังจากหยุดชั่วครู่เขาก็มองไปที่ เจี๋ยสวี่ และ เมิ่งเถียน”ตอนนี้กองทัพของอาณาจักรซีหยางไม่มีเสบียงเหลือพอที่จะประทังทั้งกองทัพ พวกเจ้าทั้งสองมีความคิดใด ๆ บ้างที่จะจัดการกับกองทัพของอาณาจักรซีหยางในตอนนี้ ก่อนที่จะจบฤดูหนาวข้าต้องการยุติสงครามนี้โดยเร็วที่สุด”
เจี๋ยสวี่ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและพูดขึ้น”ข้าน้อยมีวิธี!”