MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 186
มันเป็นเธอ!
จางซุนอู๋โกว!
เมื่อ ลู่เฟิง เห็นหญิงสาวคนนั้น เขาก็รับรู้ทันทีว่า อีกฝ่ายก็คือ บุตรสาวคนเล็ก ของตระกูล จางซุน หรือก็คือ จางซุนอู๋โกว จักรพรรดินี ในประวัติศาสตร์ ของ หลี่ซือเหมิน
แต่ในชีวิตนี้เธอไม่ได้มีฐานะเช่นนั้น
“เธอไม่ธรรมดาจริง ๆ “ลู่เฟิง ยิ้มเล็กน้อย
เขาเป็นถึงจักรพรรดิ จะเอ่ยปากชมอีกฝ่ายแบบตรง ๆ ก็ไม่ได้ไม่งั้นคงถูกตีโพยตีพายไปกันเองว่าชอบหญิงสาวคนนี้
จางซุนอู๋โกว ได้มองไปที่ ลู่เฟิงอย่างระวัง
“มีอะไรงั้นหรือทำไมถึงมองข้าแบบนั้น?”ลู่เฟิงกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
จางซุนอู๋โกวได้โค้งคำนับเล็กน้อย”หม่อมฉันได้ยินมาว่า ฝ่าบาทได้สังหารผู้คนมานับไม่ถ้วน เดิมคิดว่าฝ่าบาทจะมีรูปลักษณ์ที่น่าเกรงขามและโหดเหี้ยม แต่หม่อมฉันไม่คิดเลยว่า ฝ่าบาทจะดูเหมือนเด็กที่บริสุทธิ์และไร้เดียงสาคนนึง”
“อู๋โกว เจ้าพูดอะไรออกไป รีบขอโทษฝ่าบาทเร็วเข้า!”
ทันทีที่ จางซุนอู๋โกว พูดจบ จางซุนห่าว ก็เดินไปตะคอกใส่บุตรสาวของเขา และมองไปที่ ลู่เฟิงอย่างระวัง”ฝ่าบาท บุตรสาวของข้า ทำกิริยาหยามคายต่อพระองค์ หวังว่าฝ่าบาทจะประทานอภัยให้”
“ช่างเถอะ!”
ลู่เฟิง ยิ้มออกมา”แม่ทัพจางซุน เจ้าให้กำเนิดบุตรสาวที่ดี!”
“ฝ่าบาทข้าน้อย…”
“ฝ่าบาทตรัสว่าหม่อมฉันเป็นคนที่ดี หม่อมฉันดูเหมือนคนเช่นนั้นหรือเพคะ?”จางซุนอู๋โกว มองไปที่ ลู่เฟิง อีกครั้ง ด้วยสายตาที่เขินอาย แต่ภายในนั้นเต็มไปด้วยความฉลาดล้ำลึก
จักรพรรดินีเหวินตี้ ในประวัติศาสตร์คนนี้ ไม่ธรรมดาจริง ๆ
ใบหน้าของ จางซุนห่าว ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก บุตรสาวของเขากล้าถามฝ่าบาทเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเธอกำลังมองหาความตายหรือไม่?
ตุบ!
จางซุนห่าว ได้คุกเข่าลงบนพื้น และรีบกล่าว”ฝ่าบาท หม่อมฉันอบรมบุตรสาวไม่ดี หวังว่าฝ่าบาท จะประทานอภัยกับความไร้มารยาทในครั้งนี้!”
“แม่ทัพจางซุน ลุกขึ้นเถิด”
ลู่เฟิง ได้ไปช่วยพยุง จางซุนห่าว ให้ลุกขึ้น
เขาได้ตอบกลับ”ข้าไม่ใช่คนไร้เหตุผลเช่นนั้น”
หลังจาก หยุดชั่วครู่ เขาก็มองไปที่ จางซุนอู๋โกว และตอบกลับ”ในเมื่อ คุณหนูอู๋โกว กล้าถามข้า ข้าก็จะตอบตามตรง”
“ฝ่าบาทได้โปรดชี้แนะ”
จางซุนอู๋โกวได้ตอบกลับ
ลู่เฟิงได้ยิ้มออกมา”เผอิญพบหญิงงามจากแดนเหนือ ความงดงามคงอยู่ควบคู่ฟ้า….”
นี่เป็นบทกวีในช่วงราชวงศ์ฮั่น ‘ลี้ยานเนียน ‘ เป็นคนแต่ง
“เป็นบทกวีที่ไพเราะนัก!”
หลังจาก ที่ลู่เฟิง พูดจบ ก็มีเสียงด้านหลังของเขาดังขึ้น เป็นจางซุนหวูจี๋ ที่หาข้อมูลบางอย่างมาเสร็จ เขาเดินออกมาด้วยความชื่นชม”พระอัจฉริยะภาพของพระองค์ใต้หล้าล้วนไม่มีใครเทียบ!”
“ใช่แล้ว บทกวี ของฝ่าบาท ช่างยอดเยี่ยมไม่เหมือนใครในโลก!”
หลายคนในห้องโถงก็พูดเช่นเดียวกัน
ลู่เฟิง ยิ้ม และ รู้สึกละอายใจ เขามีพรสวรรค์มากก็จริง แต่ก็ไม่สามารถเขียนบทกวีเช่นนี้ได้
สิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักกวีชาวฮั่นตะวันตก ลี้ยานเนียน และ มีอีกสองประโยคหลังจากนั้นที่อธิบายถึง ความงามล่มเมือง ล่มอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม ลู่เฟิง ไม่สามารถพูดประโยคเหล่านี้ออกมาได้
จางซุนหวูจี๋ ได้ก้มศีรษะลงและตอบกลับ”ฝ่าบาท พระองค์ทรงมีความสามารถรอบด้าน ข้าน้อย จางซุนหวูจี๋ ขอคาราวะ!”
“ติ๊ง ตรวจพบค่าความภักดีของ จางซุนหวูจี๋ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในปัจจุบัน ค่าความภักดีของเขาคือ ภักดีจนตัวตาย!”
ลู่เฟิงผงะไปเล็กน้อย?
ภักดีจนตัวตาย?
ฝันไปหรือไม่ ? เขายังร่ายบทกวี ไม่เสร็จด้วยซ้ำ อีกฝ่ายยังเคารพเขาแล้ว
ให้ตายเถอะ ถ้าเขาเรียนรู้เรื่องบทกวีมามากกว่านี้ และ เขาได้พูดมันออกไปคนเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะหมอบกราบอยู่บนพื้นเลยหรอกหรอ?
แน่นอนว่า เขาแค่มีความคิดเท่านั้น
คนที่สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองในประวัติศาสตร์ ด้านบทกวี นั้นมีน้อยมาก
จางซุนหวูจี๋ ที่ได้ยิน อาจจะไม่เเปลกที่เขาจะชื่นชมและยกย่องความสามารถของเขา
“หม่อมฉัน ไม่คู่ควรได้รับคำชมเช่นนั้นหรอกเพคะ”จางซุนอู๋โกว ได้โค้งคำนับเล็กน้อย
“ติ๊ง ค่าความภักดีของ จางซุนอู๋โกว ถูกพบที่ 80 คะแนน”
เสียงเตือนของระบบได้ดังขึ้น
นี่…
ลู่เฟิง มองไปที่ค่าตัวเลขนั้น 80 คะแนนหรอกหรอ ? นี่มันแย่มากเมื่อเทียบกับ จางซุนหวูจี๋
แต่ในเวลานี้ จางซุนอู๋โกว ก็ได้ตอบกลับเบา ๆ “ฝ่าบาท หม่อมฉันดูงดงามในสายตาของพระองค์งั้นหรือเพคะ?”
ลู่เฟิง ผงะไปเล็กน้อยจากนั้น รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา”คุณหนูอู๋โกว เจ้าอยากจะได้ยินคำตอบจากข้าจริง ๆ งั้นหรือ?”
จางซุนอู๋โกว หน้าแดงเล็กน้อยและก้มศีรษะลงไม่พูดอะไร
ลู่เฟิงหัวเราะและหันไปทางที่นั่งหลัก
จางซุนห่าว ได้เฝ้าดูการกระทำทุกการเคลื่อนไหว
เมื่อมองไปที่ การแสดงออกของฝ่าบาท เห็นได้ชัดว่า ฝ่าบาทชื่นชม อู๋โกว บุตรสาวของเขา แน่นอนว่า บุตรสาวของเขา งดงามมากจริง ๆ เช่นนั้น เขาจะยกบุตรสาวของเขาให้เป็นนางสนมของฝ่าบาทดีหรือไม่?
ด้วยความดงงามไร้ที่ติเช่นนี้ ไม่มีความจำเป็นที่ฝ่าบาทจะต้องปฏิเสธ นี่มันก็เหมือนช่วง เวลาน้ำขึ้นให้รีบตัก
แม้ว่าตอนนี้ ฝ่าบาทจะมีอายุเพียง 16 ปี แต่ก็ยังไม่ได้อภิเสกสมรส อู๋โกว บุตรสาวของเขา เป็นคนที่สวยสง่า เช่นนั้น ตำแหน่ง จักรพรรดินี ก็อาจจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำ
ถ้าเกิด อู๋โกว บุตรสาวของเขาได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินี ชีวิตความเป็นอยู่ของ ตระกูลจางซุน ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงอีกแล้ว
ดังนั้น ความทะเยอทะยานตอนนี้ของ จางซุนห่าว จึงเปลี่ยนไป
ในมื้ออาหาร ลู่เฟิง ไม่ได้ทานมากนัก เพราะหลังจากที่ ข่าวเรื่องที่ ลู่เฟิง มาพักรับประทานอาหารที่จวนตระกูลจางซุน คนจากตระกูลขุนนางต่าง ๆ ก็มาเยี่ยมเยือน คนเหล่านี้ มาเยี่ยมเยือนมีจุดประสงค์เดียวก็คือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีเพื่อไม่ให้ถูกฆ่า
ลู่เฟิง รู้สึกหดหู่ใจมาก เขาดูเหมือนทรราช?
ถ้า จางฮั่น ไม่ได้กันคนเหล่านี้ออกไป มันคงจะยากที่เขาจะนั่งกินข้าวได้สักมื้อ
หลังทานอาหาร ลู่เฟิง พา จางฮั่น และ เฉินกัง ออกจากเมืองหนานกวง และ สั่งให้ จางซุนหวูจี๋ ไปรายงานตัวที่ค่ายทหารโดยเร็วที่สุด
เมื่อ ลู่เฟิง จากไป จางซุนห่าว ก็เรียกตัว จางซุนหวูจี๋ ไปพบ”ท่านพ่อ ท่านตามหาข้าอยู่เหรอ?”
จางซุนห่าว ได้มองไปที่บุตรชายของเขาด้วยรอยยิ้ม”หวูจี๋ ฝ่าบาทได้บอกหรือไม่ว่าจะยกตำแหน่งหน้าที่อะไรให้เจ้า?”
จางซุนหวูจี๋ ไม่ได้ปิดบังความจริง”ฝ่าบาท ขอให้ข้าเป็นผู้จัดการ มณฑลดั้งเดิมทั้ง 13 ของอาณาจักรซีหยาง”
จางซุนห่าว ตกตะลึงอย่างมาก บุตรชายของเขาได้รับความไว้วางใจเช่นนี้ เป็นไปได้ว่าในอนาคตย่อมบรรลุและสำเร็จหน้าที่การงานที่ดี
เขาได้ตอบกลับทันที”หวูจี๋ น้องสาวของเจ้าก็มีอายุครบปีที่ควรจะออกเรือนแล้ว ข้ายังไม่สามารถหาบุรุษที่คู่ควรให้กับนางได้เลย ข้าคิดว่าจะส่ง อู๋โกว เข้าวังไปรับใช้ฝ่าบาท ถึงตอนนั้น ตระกูลจางซุนของเราอาจจะกลายเป็นหนึ่งในตระกูลที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักรก็เป็นได้!”
จางซุนหวูจี๋ ได้ขมวดคิ้วทันที เขาเป็นคนฉลาด เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าบิดาของเขากำลังคิดอะไรอยู่
เขาได้ตอบกลับ”ท่านพ่อ ท่านถามความเห็นน้องหญิงหรือยัง ตอนนี้เธอก็ไม่ใช่เด็กอีกแล้ว เธอควรจะสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเองในเรื่องเหล่านี้ได้”
“หึ่ม การที่ข้าจับคู่แต่งงานให้นางนั้น ล้วนทำเพื่ออนาคตของตัวนางทั้งสิ้น เกี่ยวกับเรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นจะต้องไปบอกนางเข้าใจหรือไม่?”จางซุนห่าว ได้ตอบกลับ
จางซุนหวูจี๋ ได้สั่นศีรษะและตอบพ่อของเขา”ท่านพ่อ ถ้าท่านต้องการยก อู๋โกว ให้แต่งงานกับฝ่าบาท ข้าย่อมเห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่ถ้าน้องหญิงไม่เห็นด้วยและเกิดทำอะไรผิดพระทัยฝ่าบาทขึ้นมา ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ความยิ่งใหญ่ของตระกูลเราเลย กระทั่งสิ่งเลวร้ายยังสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำ!”