MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 190
หลังจากที่ กองทัพของ ผู้นำเมืองเฉียนซาน มาถึงระยะที่เหมาะสม ลิโป้ ก็ยกง้าวฟางเทียนในมือขึ้นให้สัญญาณ”ยิงได้!”
ทันใดนั้นเครื่องยิงเกาทันฑ์ก็ปรากฏขึ้นที่หัวเมืองสองสามอัน
ลูกศรขนาดใหญ่ได้เปล่งยิงออกไปพร้อมกัน
“ถอย ถอย ถอย!”
ใบหน้าของ ผู้นำเมืองเฉียนซานได้เปลี่ยนไปอย่างมากเขารีบตะโกนขึ้น
เครื่องยิงเกาทันฑ์เหล่านี้อันตรายอย่างยิ่ง มันสามารถยิงลูกศรออกมาได้พร้อมกันหลายลูกทำให้ทหารที่อยู่ภายใต้เงื้อมมือของเขาได้รับบาดเจ็บมากที่สุด
อั๊ก!
แม้ว่า ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาจะรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีทางรวดเร็วไปกว่าลูกศร
ฟวั่บ!
ฟุ่บ!
ฟึ่บ!
เสียงเฉียบขาดได้กรีดเข้าเลือดเนื้อจนทหารเหล่านี้เปล่งเสียงร้องออกมา
ภายใต้เครื่องยิงเกาทันฑ์ที่รุนแรง ทหารเหล่านี้ไม่มีความสามารถที่จะต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย
หลังจากยิงเป็นระลอกไปเรื่อย ๆ มีทหารอย่างน้อยประมาณ 2,000 คนได้ถูกสังหาร
ทหารที่เหลือเองก็หวาดกลัวและไม่กล้าเร่งรีบอีก
เมื่อเห็น สิ่งนี้ ลิโป้ ได้ควบม้าพุ่งเข้าไปด้านหน้า เขาได้วาดฟันง้าวฟางเทียนออกไปเด็ดศีรษะของทหารจำนวนมาก
โลหิตเหล่านี้ได้ไหลออกมาจากซากศพไร้ศีรษะของทหารเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณหน้าประตูเมือง
“กลับ,ถอยกลับ!”
ผู้นำเมืองเฉียนซานได้ตะโกนขึ้นอย่างร้อนรน ตอนนี้มีเครื่องยิงเกาทันฑ์อยู่บนกำแพงเมืองเขาไม่สามารถสั่งให้ทหารโจมตีได้อีกต่อไปเพราะมันเท่ากับการแสวงหาความตาย
เขาต้องการที่จะถอยหนี แต่มีหรือที่ ลิโป้ จะยอมให้ถอย ง้าวฟ้างเทียนในมือของเขา ได้วาดฟันออกไปหวังจะเด็ดหัวผู้นำ
“รีบถอยเร็วเข้า!”
อย่างไรก็ตาม ผู้นำคนนี้ได้คิดไว้อยู่ก่อนแล้วเขาจึงสั่งให้พลธนูโจมตีและถอยร่นกลับไป
เพียงแต่ว่าตอนนี้รูปแบบทางกองทัพของพลธนูเองก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย
ลิโป้ ได้พุ่งเข้าไปด้านหน้าจนถึงตัวของผู้นำเมืองเฉียนซาน
เหล่าทหารที่อยู่โดยรอบรีบเข้ามาหวังจะปกป้องผู้นำของพวกเขา
“คิดจะรวมตัวกันบดขยี้ข้างั้นหรือ?”
ลิโป้ เข้าใจความคิดของแม่ทัพข้างกายของคนเหล่านี้ เขาได้ถอยห่างออกไปทันที
ตอนนี้ เขารู้ว่ามีกับดักอยู่ด้านหน้า มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเร่งรีบเพื่อให้เข้าหลุมพลางของศัตรู
อย่างไรก็ตาม เขาก็ชื่นชม แม่ทัพเหล่านี้อยู่ในใจ ที่คิดหาวิธีจัดการได้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ดูเหมือนแม่ทัพของอาณาจักรซีหยาง จะไม่ได้โง่ไปทั้งหมด
“เวรเอ้ย!”
ผู้นำเมืองเฉียนซาน ได้ตะโกนขึ้น เมื่อเห็น ลิโป้ถ ถอยหนีออกไป เขาสาปแช่งอีกฝ่ายอย่างลับ ๆ ก่อนหน้านี้ เขาบังเกิดความคิดในใจที่ว่าปล่อยเสือให้เข้ามาในฝูงของหมาป่า จากนั้นค่อยรุมโจมตี
ถึงแม้ว่าจะเป็นลิโป้ ถูกทหารจำนวนมากล้อมโจมตีกลางวงก็คงไม่อาจรอดไปได้
แต่น่าเสียดายที่ ลิโป้ ฉลาดมาก เพราะเขาคาดเดาแผนการของอีกฝ่ายได้จึงไม่ได้เดินหน้าต่อ
นี่ทำให้โอกาสของศัตรูที่มีครั้งเดียวได้มอดดับไป
ถ้าเกิดเขาไม่สามารถกู้คืนประตูเมืองทิศตะวันออกมาได้ เมืองเฉียนซานก็จะจบลง
นอกประตูทิศตะวันตก ตอนนี้ ลู่เฟิงมองไปที่ ทหารที่กำลังปกป้องเมือง พวกเขาตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวายเมื่อถูกกองทัพบุกประชิดประตู
ตอนนี้ เหล่าทหารบนกำแพงเมืองต่างก็ตื่นตระหนกการที่พวกเขาเป็นเช่นนี้จะทำให้สูญสิ้นพลังหรือความคิดในการต่อต้าน มันเป็นเรื่องง่ายที่จะบุกเข้าไปในเวลานี้
“เข้ามา!”
“ขอรับ!”จางฮั่น ได้เดินออกไปทันที
“เจ้านำทหารม้า 500 นายติดตามข้ามาร่วมกันฝ่าเข้าประตูเมือง”ลู่เฟิง ได้กล่าวพูดเสียงดัง
“นี่…”
จางฮั่น รู้สึกลังเล ยังคงมีทหารจำนวนมากอยู่บนกำแพงด้านหน้าของพวกเขาอีกฝ่ายยังคงทำหน้าที่ปกป้องเมืองได้ดี แต่ฝ่าบาทของเขาต้องการบุกเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าที่จะเห็นด้วย
เขาไม่รู้เลยว่า ลู่เฟิงมีสายตาที่เฉียบคม
“นี่คือคำสั่ง!”
จางฮั่น ไม่ได้พูดอะไร เขารีบไปเตรียมการทันที
“ฝ่าบาท ข้าคิดว่า…”
เมิ่งเถียน รู้สึกกังวล เขาต้องการจะพูดเกลี่ยกล่อมลู่เฟิง แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ลู่เฟิงก็ได้โบกมือขึ้น”เมิ่งเถียน เจ้าจำเป็นจะต้องนั่งบัญชาการอยู่ในกองทัพ รอจนกว่าพวกเราจะพังประตูได้สำเร็จ ก็สั่งให้กองทัพบุกเข้าเมืองทันที ในเมื่อข้าบอกแล้วว่าต้องการยืนอยู่ที่หัวเมืองของเมืองเฉียนซานภายในหนึ่งชั่วโมงเจ้าก็ต้องทำให้ได้!”
“แต่ว่าฝ่าบาท…”
“เจ้าไม่จำเป็นจะต้องพูดอะไรต่อข้าตัดสินใจไปแล้ว!”
เมิ่งเถียน ไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดพูด
อย่างไรก็ตาม เขาก็ออกคำสั่งอย่างลับ ๆ ให้พลธนูคอยปกป้องทิศทางของ ลู่เฟิง ปราบปรามทหารที่เล็งหน้าไม้หรือธนูมาที่ตำแหน่งของพวกเขา ด้วยวิธีนี้ ฝ่าบาทก็อาจจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายมากขึ้น
ในไม่ช้า จางฮั่น ก็มาพร้อมกับทหารม้า 500 นาย
ลู่เฟิง ได้ขึ้นไปบนหลังม้าเขาได้ยกดาบในมือขึ้นและพูดเสียงดัง”ติดตามข้ามาพวกเราจะบุกไปยึดประตูเมืองเฉียนซานกัน!”
“บุก!”
ทหารม้าที่อยู่ด้านหลังเขาตะโกนขึ้นทันที
กึบบบ!
ลู่เฟิง ได้ควบม้าพุ่งออกไปคนแรก ทหารม้าด้านหลังของเขาก็รีบติดตามไป
ความเร็วในการเดินทัพของกองทัพลู่เฟิงนั้นรวดเร็วมาก
“ท่านแม่ทัพ ดูนั่น!”
ที่ประตูมีคนเตือนรองแม่ทัพที่กำลังปกป้องเมือง
รองแม่ทัพคนนี้ได้มองลงไปข้างล่างและเห็นลู่เฟิงในชุดเกราะสีเงินเขาก็ดีใจอย่างมาก”มันเป็นจักรพรรดิลู่เฟิงแห่งอาณาจักรหนานหยาน เร็วเข้าปล่อยลูกศรพลังปราณ สังหารมันซะ ถ้าเกิดพวกเราฆ่า ลู่เฟิงได้ พวกเราก็ชนะ!”
ฟุ่บ!
ทันทีที่คำพูดของเขาสิ้นสุดลงเสียงของลูกศรจำนวนมากก็ได้ดังขึ้น
“หืม พลธนูของข้าจัดการรวดเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ?”
รองแม่ทัพคนนี้รู้สึกงุนงง แต่ในวินาทีต่อมาดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น เขามองไปที่ท้องฟ้าที่มืดมิด
มันเป็นฝนลูกศรจำนวนมาก
“อะไรกัน พวกมันกล้ายิงลูกศรเหล่านี้ได้ยังไง ไม่กังวลว่าจะทำร้ายทหารของพวกเขาเองเลยหรือไม่?”
รองแม่ทัพคนนี้ รู้สึกตกใจและพยายามจะหลบหนี
ขณะที่เขาหลบหนี ลู่เฟิง ก็มาถึงเมืองแล้ว
รองแม่ทัพคนนี้ได้มองออกไปอย่างระวังและยังพบว่าลู่เฟิงยังไม่ได้โจมตีประตูเมือง เขารีบวิ่งไปที่กำแพง และ หัวเราะขึ้น”เจ้าเด็กโง่ หากเจ้าไม่โจมตีประตูเมือง ประตูเมืองเฉียนซานของข้า มันจะพังลงเองได้หรือยังไง ก็ดี ในเมื่อเจ้าอยู่ใต้กำแพงของข้า เจ้าก็จงตายกลายเป็นศพซะเถอะ!”
“เจ้าไม่รู้หรือยังไงว่ากำแพงเมืองของเมืองเฉียนซานนั้นมีทหารมากมายถูกรวมเข้าด้วยกัน เพียงแค่ได้รับคำสั่งจากข้าและโยนฝนธนูเล็งยิงไปที่เจ้า เจ้าก็ตายเป็นผีไร้หลุดใต้เมืองเฉียนซานของข้า”
คำสั่งของเขาแม้จะไร้ประโยชน์ เพราะมีทหารหลายคนที่กลัวถูกลูกศรยิงตาย แต่พวกเขาก็ต้องออกมาเล็งยิงลูกศรไปที่ด้านล่าง
เกี่ยวกับเรื่องนับว่าเป็นปัญหาสำหรับลู่เฟิง
เขามองไปที่ กำแพงเมืองด้วยความประหลาดใจเพราะเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากกองทัพบนกำแพง
“พวกมันรวมตัวกันจัดตั้งรูปแบบกองทัพบนกำแพงงั้นเหรอเนี่ย?”
ไม่เเปลกใจที่ ลู่เฟิง จะไม่รู้เรื่องนี้ ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ใช่แม่ทัพ แต่เป็นจักรพรรดิ ที่มีความรู้จากอีกยุคนึง เกี่ยวกับการทำสงครามโดยธรรมชาติเขาย่อมไม่รู้มากนัก
เขาไม่เคยเจอกองทัพที่รวมตัวกันจัดตั้งรูปแบบกองทัพบนกำแพงมาก่อน
“ไม่ดีแล้ว พวกมันได้จัดตั้งรูปแบบกองทัพบนกำแพงเมืองแล้ว!”เมิ่งเถียน ได้หรี่ตาลงและค้นพบปัญหา
“ฝ่าบาทกำลังตกอยู่ในอันตราย!”