MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 196
ลู่เฟิงที่อยู่หน้าขบวนกองทัพได้ยินเสียงตะโกนดังมาจากทางด้านหลัง คนพวกนี้บ้าหรือป่าว คิดว่าเขาโง่ขนาดที่จะไม่ระวังตัวเองเลยหรือยังไง?
เป็นธรรมดาที่คนเหล่านี้กำลังมองหาความตาย
ทันใดนั้นเมิ่งเถียนก็ออกคำสั่งทันทีพลธนูหลายหมื่นคนได้ปล่อยยิงลูกศรออกมา
ฝนลูกศรได้เทลงไปที่กองทัพของอาณาจักรซีหยางที่พุ่งเข้ามาใกล้ ลู่เฟิง จากการคำนวณมีผู้เสียชีวิตประมาณ 5,000 คน
กองทัพทั้งหมดได้ตกอยู่ในความโกลาหล
ลู่เฟิง ได้มาถึงกองทัพหลักของเขา เขายืนอยู่บนรถม้าสูงและมองไปที่ข้างหน้าด้วยสายตาเศร้าสร้อย”ชูจิน ช่างเป็นสวะ โดยแท้ เสียดายชีวิตของทหารเหล่านี้ยิ่งนัก”
เมิ่งเถียน ยิ้มออกมา”ฝ่าบาท แม้ว่ากองทัพ 1.5 ล้านคนนี้จะไม่ใช่กองทัพที่มากประสบการณ์การต่อสู้ แต่พวกมันก็นับเป็นภัยคุกคามสำหรับเรา สิ่งที่เราได้เปรียบมากที่สุดก็คือการกระจัดกระจายตัวของพวกเขา”
“คนเหล่านี้ ถูกเรียกรวมตัวมา เป็นธรรมชาติที่พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจรูปแบบกองทัพ ดังนั้นแนวการจัดตั้งของพวกเขาก็คือกองทัพหลักแบ่งออกเป็นกองทัพย่อยกองละ 100,000 นาย”
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและตอบกลับ”พยายามอย่าสู้ประจันหน้ากับพวกเขามากเกินไป ใช้ลูกศรของเราและเกาทันฑ์ที่เตรียมมาทั้งหมด จัดการคนเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด”
“ฝ่าบาท แต่ทว่า พวกเขาก็มีมันเช่นเดียวกัน สู้ให้ข้านำทหารม้าไปจัดการคนเหล่านี้ก่อนดีหรือไม่?”ลิโป้ ได้กล่าวท้วงอยู่ด้านหลังของ ลู่เฟิง
ลู่เฟิงได้สั่นศีรษะ”ทหารม้าเป็นอาวุธไพ่ตายของเรา หากมีอุบัติเหตุเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาก่อนจะทำให้กองทัพของเราเสียหายอย่างหนัก”
“เข้าใจแล้วขอรับ!”
แม้ว่า ลิโป้ ต้องการนำทัพของเขาออกไปประจัญหน้าศัตรู แต่เขายังคงต้องฟังคำสั่ง
ชูจิน ยังคงสั่งทหารของเขาให้โจมตีต่อไป แต่ทหารที่วิ่งเข้ามาก็ถูกพลธนูยิงเสียชีวิต
แน่นอนว่ามีผู้โชคดีที่รอดชีวิตจากฝนลูกศรได้แต่พวกเขาก็ต้องมาถูกเครื่องยิงเกาทันฑ์ที่มีมากกว่า 100 อัน สุ่มยิงจากพื้นที่ราบเรียบ
สถานการณ์๖อนนี้ ได้กินเวลาไปถึงครึ่งชั่วโมงเต็ม
ภายในครึ่งชั่วโมง ทหารในมือของ ชูจินจำนวนมาก ได้ถูกสังหารลง
ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หน้ากองทัพของลู่เฟิง ทุกครั้งที่พวกเขาพุ่งไปด้านหน้าจะถูกยิงกลับด้วยเครื่องยิงเกาทันฑ์
จากการคำนวณของพวกเขามีทหารสูญเสียไปมากกว่า 100,000 นายแล้ว
ลู่เฟิง ขมวดคิ้วแน่น ชูจิน ผู้นี้ โง่เง่าขนาดนี้เลยหรือไม่?รู้ว่าดึงดันบุกเข้ามาเองก็สู้ไม่ได้ยังจะส่งทหารมาตายแบบฟรี ๆ อีก
เป็นไปได้หรือไม่ว่าอีกฝ่ายไม่ได้วางแผนอะไรสำหรับการเดินทัพและต่อสู้?
ขณะเดียวกัน บรรดาผู้นำตระกูลขุนนางได้มาคุกเข่าขอร้องจำนวนมาก”ฝ่าบาทได้โปรดสั่งให้พวกเราถอยทัพออกมาก่อนเถอะพะยะค่ะ ไม่งั้น คนของเราได้จบสิ้นกันหมดแน่”
“ฝ่าบาทได้โปรดถอนทัพเถอะพะยะค่ะ!”
เหล่าคนที่ถูกฆ่าเหล่านี้ ล้วนเป็นเลือดเนื้อที่ตระกูลขุนนางเหล่านี้ฟูมฟักเลี้ยงดูมา กว่าจะมีการฝึกฝนเท่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คนเหล่านี้กลับถูกสังหารด้วยธนูและเครื่องยิงเกาทันฑ์โดยตรง หัวใจของพวกเขารู้สึกปวดเจ็บรวดร้าว
ชูจิน มองไปที่ รัฐมนตรีรอบ ๆ ตัวเขา พวกเขาเป็นผู้นำตระกูลขุนนาง แน่นอนว่า ทหารส่วนตัวเหล่านี้ก็เป็นคนของเขา เขาไม่อาจปล่อยให้มันสูญเสียภายใต้พลธนูของ ลู่เฟิงได้
ชูจินได้โบกมือขึ้นและตะโกนเสียงดัง”กองทัพทั้งหมดถอยทัพ!”
เดิมเขาต้องการให้ทหารส่วนตัวเหล่านี้บุกเข้าไปรับลูกศรของลู่เฟิงจนอีกฝ่ายเหลืออาวุธไม่ถึงครึ่งจากนั้นเขาค่อยบุกโจมตีอย่างหนัก
อย่างไรก็ตามเขาลืมสิ่งหนึ่งไป
การบาดเจ็บล้มตายเหล่านี้ ทหารของเขายังจะมีจิตวิญญาณต่อสู้ที่จะบุกฝ่าไปหลงเหลืออยู่อีกงั้นเหรอ
หากเขาดื้อดึง และ ตระกูลขุนนางเหล่านี้ทำรัฐประหารขึ้นมามันจะกลายเป็นเรื่องลำบากสำหรับเขา
การสูญเสียเท่านี้นับว่าเพียงพอแล้ว
เขารีบสั่งให้กองทัพถอนตัวและคิดว่าจะกลับไปวางแผนใหม่อีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมิ่งเถียน จะพลาดโอกาสดี ๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร
“กองทัพทั้งหมดฟัง!”
เมิ่งเถียน ได้ตะโกนเสียงดัง”บุกฆ่าศัตรู อาบเลือดของศัตรูด้วยคมดาบของพวกเจ้า!”
“ฆ่า!”
ทันใดนั้นกองทัพแนวหน้าก็ถือโล่ขึ้นมาและพุ่งเข้าไปทีละก้าว
ชูจิน เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้พลธนูยิงสกัดทันที”ปล่อยลูกศรพลังปราณ!”
อย่างไรก็ตาม กองทัพที่พ่ายแพ้และกำลังถอนทัพเหล่านี้จะมีเวลาเตรียมลูกศรพลังปราณได้มากน้อยแค่ไหนกัน?
ในทางกลับกัน เมิ่งเถียน ได้สั่งให้คนของเขาค่อย ๆ รุกทีละคืบ และ ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง แม้ศัตรูจะมีเวลาตอบโต้ แต่ก็ไม่อาจขัดขวางกอทัพได้
ด้วยจำนวนคนที่มากกว่า ย่อมบัญชากการกองทัพได้ยากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว และยิ่งเกิดความโกลาหลด้วย การจะสั่งการกองทัพก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมาก
“ฝ่าบาทพวกเราควรปล่อยแนวหน้าพวกนั้นให้อยู่ต้านศึก และ สั่งให้ทัพกลางและทัพหลังของเราถอยกลับอย่างรวดเร็วไม่งั้นพวกเราคงเสียหายหนักมากกว่านี้แน่!”ทันใดนั้น รัฐมนตรีคนนึงก็ได้พูดแนะนำชูจิน
แม้ว่า ชูจิน จะเดินทัพและต่อสู้ไม่เก่ง แต่เขาก็เข้าใจสามัญสำนึกโดยธรรมชาติ
เขาได้มองไปที่ทหารด้านล่างและตะโกนขึ้น”กองทัพแนวหน้าทั้งหมดจัดค่ายตั้งรับศัตรูอยู่ที่นี่!”
“!!!”
บรรดา ผู้นำตระกูลขุนนางที่อยู่แนวหน้าพร้อมกับทหารส่วนตัวของตนเอง ขาของแต่ละคนแทบจะทรุดลงกับพื้น
ตอนนี้ ชูจิน ได้สั่งให้พวกเขาต้านศึกแนวหน้านี่ไม่เท่ากับการส่งพวกเขาไปตายหรือไม่?
แต่พวกเขาจะทำอะไรได้ ? ผู้นำตระกูลขุนนางบางคนได้มอบความภักดีกับชูจินไปแล้ว
จะดีจะร้ายยังไงก็ก็สุดแล้วแต่จะเป็นความพอใจของชูจินในตอนนี้
แน่นอนว่า มีผู้นำตระกูล ขุนนางบางคนไม่พอใจ หากเขารู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีแผนการรบเช่นนี้ เขาก็คงไม่ตัดสินใจมอบทหารส่วนตัวให้กับ ชูจิน
แม้ว่า จะสูญเสียทหารส่วนตัวให้กับ ลู่เฟิง แต่ก็ยังดีกว่าถูกฆ่า แต่ตอนนี้มันกลับหลังไม่ได้แล้ว
“ตั้งกองทัพส่งปราณกดดันออกไป!”
ชูจิน ได้ตะโกนอย่างร้อนรน
ทหารด้านล่างได้ขยับรูปขบวนกองทัพอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้กองทัพของอาณาจักรหนานหยานได้มาถึงไม่ไกลจากด้านหน้า
แม่ทัพด้านหน้าได้สั่งการทันที”พลธนูยิงได้!”
แต่ทว่า คนของ เมิ่งเถียน กลับลงมือได้อย่างรวดเร็วกว่า เพียงแค่สัญญาณมือกลับสั่งการให้พลธนูของเขายิงส่วนกลับไปทันที
กองทัพของอาณาจักรซีหยางมีหรือจะต้านทานได้ทันหลายคนได้ถูกยิงจนเสียชีวิตไป
“เข้าชาร์จ ฆ่าพวกมัน!”
เมื่อถึงระยะการชาร์จที่เหมาะสม แม่ทัพคนนี้ ที่มีความโกรธแค้นกับจักรพรรดิลู่เฟิงแห่งอาณาจักรหนานหยานได้นำคนของเขาพุ่งเข้าชาร์จศัตรูและสองกองกำลังก็ได้ปะทะกัน
กองทัพของแต่ละฝ่ายต่างรุกไล่ซึ่งกันและกัน
เสียงกรีดเลือดเนื้อโลหิตแขนขาและศีรษะต่างก็ถูกสับจนขาดสะบั้น
สำหรับกองทัพของชูจิน เวลานี้ แม้อีกฝ่ายจะมียอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ปรากฏก็คงไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมถูกสะกดพลังปราณและถูกฆ่าตายในที่สุด
ลู่เฟิง และ เมิ่งเถียน เฝ้ามองจากรถม้าของกองทัพที่อยู่ด้านหลัง เขาได้กล่าวพูดออกมา”ประสิทธิภาพการรบของหทารส่วนตัวเหล่านี้ค่อนข้างเลวร้ายอย่างแท้จริง!”