MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 235
หึ่ม!
หวู่ซิงเจี้ยน ได้สูดลมหายใจเข้าลึกและมองไปที่ชายหนุ่มตรงหน้า”อาณาจักรไป๋หลัน ยอมจำนนแล้วหรือยัง?”
นิกายดาบวิญญาณต้องการรวมอาณาจักรทั้งหมดทางตะวันตกเฉียงใต้ของหยูโจวมานานแล้ว และ อาณาจักรไป๋หลันเองก็เป็นหนึ่งในแผนการของพวกเขา
ชายหนุ่มได้สั่นศีรษะและตอบกลับ”เดิมอาวุโสสองรับหน้าที่จัดการเชิญชวนอาณาจักรไป๋หลันให้ยอมจำนนแต่ทว่า อาณาจักรไป๋หลันก็ยังไม่ยอม ตอนนี้อาวุโสสองเองก็…”
“เรื่องข่าวการตายของอาวุโสสองห้ามแพร่งพรายออกไป เจ้าส่งคนไปแจ้งต่ออาณาจักรไป๋หลันทันทีว่าหากไม่อยากให้ประเทศถูกทำลายก็ส่งกองกำลังไปโจมตีอาณาจักรหนานหยานซะ! ในขณะเดียวกัน ก็ใช้ป้ายประกาศิตนิกายดาบวิญญาณ สั่งการให้ อาณาจักรหงเป่า , และ อาณาจักรอู๋เซียง ส่งกองกำลังไปโจมตีอาณาจักรหนานหยาน ข้าต้องการให้อาณาจักรหนานหยานพังพินาศทั้งหมด!”
“หลังจากเรื่องนี้จบลงข้าจะอนุญาติให้พวกเขาส่งตัวแทนสามคนแต่ละราชวงศ์ของอาณาจักรมาที่นิกายดาบวิญญาณเพื่อเรียนรู้ทักษะระดับสูง”
ในขณะที่เขาพูด หวู่ซิงเจี้ยน ก็กล่าวพูดอย่างโกรธเคือง”ก่อนที่อาวุโสใหญ่และอาวุโสสูงสุดทั้งสามจะทะลวงขอบเขตพลังได้ อาณาจักรหนานหยาน จะต้องถูกทำลายทั้งหมด!”
“ขอรับท่านอาจารย์ ข้าน้อยจะรีบไปจัดการ!”ชายหนุ่มได้ทำความเคารพและจากไป
ป้ายประกาศิตของนิกายดาบวิญญาณนั้น ราวกับอาญาสวรรค์ โดยพื้นฐานแล้วทุกอาณาจักรทางตะวันตกเฉียงใต้ของหยูโจว ล้วนต้องเชื่อฟัง
อย่างไรก็ตาม จะมีก็เพียงแต่อาณาจักรหนานหยานเท่านั้นที่ไม่ยอมจำนน
ภายใต้ ประกาศิตของนิกาย ที่สั่งให้ สามอาณาจักรโจมตีอาณาจักรหนานหยานพร้อมกัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อาณาจักรหนานหยาน จะต้องถูกทำลาย
หวู่ซิงเจี้ยน ไม่เชื่อว่า อาณาจักรหนานหยาน จะสามารถต้านทานอาณาจักรทั้งสามที่มีความแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าตัวเองได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนนี้ อาณาจักรหนานหยาน เพิ่งจัดการอาณาจักรซีหยางมา สิบสามมณฑลซีหยางในตอนนี้ไม่มั่นคง มันง่ายที่จะถูกอาณาจักรไป๋หลันโจมต
กองทัพพยัคฆ์ร้าย ภายใต้อาณาจักรหงเป่า นั้น ทรงพลังอย่างมาก ทั้งยังจัดเป็นกองกำลังระดับสูงของหยูโจวทางตะวันตกเฉียงใต้ พวกเขาสามารถโจมตีแถบเมืองฉิวซานในอาณาจักรหนานหยาน และ มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่เมืองฉิวซานจะถูกทำลาย
สำหรับ อาณาจักรอู๋เซียง แม้ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจะไม่ดีเท่ากับอาณาจักรหนานหยาน แต่พวกเขาก็สามารถบุกโจมตี เมืองเร้ดเมเปิ้ล ที่เป็นปราการสำคัญของอาณาจักรหนานหยานได้
ถึง หวู่ซิงเจี้ยน จะไม่ได้ออกจากนิกายดาบวิญญาณด้วยตัวเอง แต่เขาก็วิเคราะห์สถานการณ์ผ่านแผนที่ของอาณาจักรทางตะวันตกเฉียงใต้ ตามที่คนของเขาส่งมา
เขามั่นใจว่าคราวนี้อาณาจักรหนานหยานจะต้องพินาศแน่นอน
นิกายดาบวิญญาณปราถนาที่จะทำให้อาณาจักรไป๋หลันยอมจำนน ดังนั้น พวกเขาจึงจัดอาคมเคลื่อนย้ายไว้ที่เมืองหลวงของอาณาจักรไป๋หลัน
ในคืนก่อนหน้านั้น อาณาจักรหงเป่า และ อาณาจักรอู๋เซียง ก็ได้รับข่าวเช่นเดียวกัน เป็นอาณาจักรไป๋หลัน ที่ส่งเทียบเชิญและคำสั่งจากนิกายดาบวิญญาณมา
แม้ว่า อาณาจักร ไป๋หลัน จะไม่ได้ต้องการยอมศิโรราบต่อนิกายดาบวิญญาณ แต่ราชวงศ์ของพวกเขาก็เห็นประเทศใกล้เคียงอย่างอาณาจักรซีหยางถูกทำลาย ตอนนี้ อาณาจักรหนานหยานได้ครอบครอง สิบสามมณฑลซีหยาง และมันยังไม่มั่นคง นับเป็นโอกาสดีของพวกเขา
เขาได้รวบรวมกองทัพขนาดใหญ่ที่แนวหน้าของชายแดนและเตรียมพร้อมที่จะโจมตีสิบสามมณฑลซีหยางเพื่อตัดเค้กก้อนใหญ่เหล่านี้รับประทานลงกระเพาะ
กองทัพที่อาณาจักรไป๋หลันรวบรวมมาเป็นกองทัพนับล้าน พวกเขาล้วนยืนอยู่ที่ชายแดนของสิบสามมณฑลซีหยางและเดินทัพบุกโจมตีสิบสามมณฑลซีหยางแบบเต็มกำลัง
ในเวลาเดียวกัน เขาก็ไม่ลืมที่จะส่งทหารและทำตามคำสั่งของนิกายดาบวิญญาณ
…
เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่เฟิง ได้ออกมาจากตำหนักของฮวามู่หลานมุ่งตรงไปที่ห้องศึกษา
แม้ว่าความสบายเมื่อคืนจะทำให้เขาอยากอยู่ต่อ แต่ ลู่เฟิงก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ของอาณาจักรที่ไม่สู้ดีนัก ประมุขน้อยนิกายดาบวิญญาณยังอยู่กับเขา ทั้งเขายังสังหารอาวุโสสองและยอดฝีมือของนิกายดาบวิญญาณไปมาก หากอีกฝ่ายไม่ลงมืออะไรเลย มันก็คงจะเป็นเรื่องแปลกเกินไป
เมื่อวานนี้ เขาได้ทำภารกิจสำเร็จและได้รับโอกาสอัญเชิญมากมาย มันจะดีกว่าหากเขามานั่งรอดูว่าเขาจะอัญเชิญได้รับอะไรออกมา
การเผชิญหน้ากับนิกายดาบวิญญาณสำคัญยิ่งเขาจะชักช้าไม่ได้
เมื่อเขามาถึงห้องศึกษาลู่เฟิงก็นั่งลงและเตรียมจะเริ่มต้นอัญเชิญ
แต่ก่อนที่เขาจะพูดก็มีเสียงดังออกมาจากนอกประตู”รายงานฝ่าบาท อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายเจี๋ยสวี่,เสนาบดีฝ่ายขวา ซุนฮกและ อาจารย์กั๋วเจีย ต้องการเข้าเฝ้าพะยะค่ะ!”
“หืม?”
ลู่เฟิง รู้สึกตกใจ สามคนนี้เป็นข้าราชการระดับสูงภายใต้คำสั่งของเขา แม้ กั๋วเจีย ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ แต่ความสามารถของเขาก็ไร้ข้อกังขา
ตอนนี้ เจี๋ยสวี่,ซุนฮก และ กั๋วเจีย ได้ขอเข้าพบเขาพร้อมกันทั้งสามคนจะต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งยังต้องเป็นเรื่องไม่ธรรมดา
เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นการแก้แค้นจากนิกายดาบวิญญาณ?
ลู่เฟิง รู้สึกสับสนเล็กน้อยเขารีบตอบกลับ”ให้ทั้งสามคนเข้ามา”
หลังจากนั้นไม่นาน เจี๋ยสวี่,ซุนฮก และ กั๋วเจีย ก็มาถึงห้องศึกษา
“เฉิน เจี๋ยสวี่”
“เฉิน ซุนฮก”
“เฉิน กั๋วเจีย”
“ถวายบังคมฝ่าบาท!”
“ขอพระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!”
“ลุกขึ้น!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
ทั้งสามคนได้ลุกขึ้นยืนต่อหน้าลู่เฟิงอย่างเคารพ
ลู่เฟิงมองไปที่พวกเขททั้งสามคนราวกับว่าทั้งสามคนรออยู่นอกวังมานานแล้วรอให้ลู่เฟิงตื่นและค่อยเข้าพบ
“พวกเจ้าทั้งสามรอข้าอยู่ข้างนอกนานแล้วใช่หรือไม่?”ลู่เฟิงกล่าวถาม
“ฝ่าบาท พวกเรามารอสักพักแล้วพะยะค่ะ”เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ
“ทำไมไม่ให้คนไปปลุกข้ากัน?”
“นี่…”
ใบหน้าของ เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ดูอึดอัด
เมื่อคืนเป็นคืนเข้าหอครั้งแรกหลังจากงานแต่งงานของลู่เฟิง พวกเขาต้องการผลิตรัชทายาท แม้พวกตนเองจะต้องยืนอยู่นอกวัง ก็ไม่อาจหาญกล้าให้คนไปตามฝ่าบาทได้
กั๋วเจีย ได้มองดูคนอื่น ๆ และตอบกลับ”เมื่อคืนเป็นคืนเข้าหอครั้งแรกของฝ่าบาทกับไทเฮา ดังนั้นพวกกระหม่อมจึงมิกล้ารบกวน”
“ช่างเถอะ!”
ลู่เฟิงโบกมือและตอบกลับ”มีเรื่องเร่งด่วนอะไรถึงรีบมาพบข้าเร็วขนาดนี้?”
“พวกกระหม่อมมีเรื่องจะรายงาน!”ทั้งสามคนได้กล่าวพูดทันที
“เรื่องอะไรกันที่ทำให้พวกเจ้าทั้งสามร้อนรนถึงเพียงนี้?”ลู่เฟิง จ้องมองไปที่ทั้งสามคน
เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับอย่างรวดเร็ว”ฝ่าบาท มีข้อมูลจากจินยี่เหว่ย และ แม่ทัพเมิ่งเถียน ผ่านทางอาคมเคลื่อนย้าย อาณาจักรไป๋หลันได้ยกกองทัพหนึ่งล้านคนบุกประชิดชายแดนสิบสามมณฑลซีหยาง”
ลู่เฟิง ขมวดคิ้วนี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
ตอนนี้ ภายใต้การบังคับบัญชาของ เมิ่งเถียน นอกจากทหารชั้นยอดกว่า 800,000 นาย ที่นำมาจากอาณาจักรหนานหยานแล้ว ยังมีทหารอีกประมาณ 1.2 ล้านคน
แม้จะดูเหมือนจะมีกองทัพมากมายแต่ความเป็นจริงแล้ว นี่เป็นกองทัพของอาณาจักรซีหยาง และมันยังเป็นเรื่องยากที่จะใช้พวกเขาในการต่อสู้ตอนนี้
แม้กระทั่งหลีกเลี่ยงการก่อกบฏของทหาร 1.2 ล้านคน เมิ่งเถียน ได้จัดทหารชั้นยอดกว่า 300,000 นายเพื่อเฝ้าดูทหารเหล่านี้
กล่าวอีกนัยนึงคือตอนนี้ เมิ่งเถียน เหลือทหารพร้อมใช้ในปัจจุบันเพียง 500,000 นายเท่านั้น
แต่อาณาจักรไป๋หลัน มีกองทัพมากกว่าหนึ่งล้านนายมากกว่ากองทัพของเมิ่งเถียนถึงสองเท่า
นี่เป็นการต่อสู้ที่ยากมาก!
“ดูเหมือนว่า อาณาจักรไป๋หลัน ต้องการใช้ประโยชน์และดูดกลืนไขมันของสิบสามมณฑลซีหยาง”
ลู่เฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก และจ้องมองไปที่ เจี๋ยสวี่ ซุนฮก และกั๋วเจีย”แม้ว่านี่จะเป็นวิกฤติแต่มันไม่น่าจะเพียงพอให้พวกเจ้าทั้งสามคนตื่นตระหนกถึงเพียงนี้ ยังมีข่าวร้ายอะไรอีกหรือไม่?’
เจี๋ยสวี่ ได้มองไปที่ ลู่เฟิงและตอบกลับ”ฝ่าบาทตามข่าวที่จินยี่เหว่ยได้รับ อาณาจักรไป๋หลัน ไม่เพียงแต่ส่งกองกำลังมาหนึ่งล้านคนพวกเขายังคงเตรียมส่งทหารอีก…”
คำพูดของ เจี๋ยสวี่ ได้หยุดลง
“อีกเท่าไหร่?”ลู่เฟิงได้กล่าวถามทันที