MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 239
“สูด!”
ลู่เฟิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อสงบจิตใจ หลังจากนั้นเขาก็พูดกับระบบ”ระบบฉันต้องการใช้โอกาสอัญเชิญแม่ทัพห้าอันดับแรก”
“ติ๊ง กำลังดำเนินการ”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ประสบความสำเร็จในการอัญเชิญ หรานเหมิน หนึ่งในห้าแม่ทัพที่มีชื่อเสียงที่สุดในประวัติศาสตร์!”
ราชาสวรรค์หรานเหมิน!
ลู่เฟิง อดไม่ได้ที่จะกำหมัดของเขาด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น
หรานเหมินเป็นคนดังในยุคหนึ่งเรียกได้ว่าเป็นผู้กอบกู้ชาวฮั่น!
ในช่วงหกรัฐ ชาวหูมองว่าชาวฮั่นเป็นเพียงสกุรและสุนัข ดังนั้น พวกเขาจึงเรียกชาวฮั่นว่า ” ลูกแกะ ” ไม่เพียงแต่ถูกฆ่าเท่านั้น ยังถูกเอาไปย่างเป็นอาหารอีกด้วย
ชาวฮั่น หลายสิบล้านคนในที่ราบภาคกลางได้ถูกความโหดร้ายจากการเข่นฆ่าทำให้ผู้ที่หลบหนีจากการตามล่าของชาวหูมาเหลือไม่ถึงห้าล้านคน
ต่อมาแม่ทัพจ้าว หรานเหมิน ได้ออกคำสั่งฆ่าเพื่อปลุกชาวฮั่นให้ลุกขึ้นสู้และต่อต้านเพื่อรักษาสายเลือดสาวฮั่นเอาไว้
ชาวหูนั้น ขึ้นชื่อว่าโหดร้ายทารุณ ดังนั้น ไม่ว่าใครก็ตามที่มีเลือดชาวหูนั้นจะถูกฆ่าอย่างไร้ความปราณี!
ผลกระทบสุดท้าย ก็คือ ชาวฮั่น รอดพ้นหายนะ ชาวหูมากกว่าเก้าในสิบส่วนล้วนถูกฆ่าตายทั้งหมด ต่อมา ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์หยานหรือชนเผ่าอื่น ๆ หากพวกเขาค้นพบชาวหูนั้นพวกเขาจะฆ่าอย่างไร้ความปราณี
เป็ลผลให้ ชาวหู แทบทุกคนถูกตัดศีรษะ และ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
อย่างไรก็ตาม หรานเหมิน ได้เสียชีวิตอย่างน่าสังเวชเล็กน้อย เขาถูกจับโดยทหารม้าที่นำโดยมู่หรงจุน และ สุดท้ายก็ถูกตัดศีรษะที่ภูเขาจือซิง
มีข่าวลือว่าหลังจาก หรานเหมิน ถูกตัดศีรษะ พืชพรรณใบหญ้าทั้งนอกและในภูเขาล้วนเหี่ยวเฉาสรรพชีวิตต่างตกตาย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมสภาพอากาศแห้งแล้งไร้ฝนตกจนถึงเดือนธันวาคม
มู่หรงจุน รีบส่งทูต ไปเซ่นไหว้ดวงวิญญาณของหรานเหมิน หลังจากวันนั้นมาหิมะก็ตกอย่างหนัก
สำหรับชาวฮั่น หรานเหมิน เป็นผู้กอบกู้ที่แท้จริง หากไม่มีคำสั่งฆ่าชาวหู่ ไม่รู้ว่า ชาวฮั่น อีกกี่คนจะต้องทุกข์ทรมาณแค่ไหน
ดังนั้น เมื่อ ลู่เฟิง ได้เรียนรู้เกี่ยวกับ หรานเหมิน ในชาติที่แล้ว เขาก็รู้สึกชื่นชมราชาสวรรค์คนนี้เป็นอย่างมาก
“ฉันชื่นชม หรานเหมิน ในชาติที่แล้ว ไม่คิดเลยว่า ชาตินี้ จะมีโอกาสได้อีกฝ่ายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของฉัน!”
ลู่เฟิง ได้กล่าวกับระบบ”ระบบแสดงข้อมูลของ ราชาสวรรค์หรานเหมินให้ฉันดู”
ในไม่ช้าข้อมูลก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของลู่เฟิง
หรานเหมิน : ผู้ก่อตั้งระบอบการปกครองแบบหรานเว่ย ช่วง 16 ก๊ก ความสำเร็จหลักหลังจากก่อตั้งระบบการปกครองแบบหรานเว่ยคือการประกาศใช้คำสั่งสังหารชาวหูและต่อมาเขาได้รับการขนานว่าเป็นราชาสวรรค์
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ระดับพลัง : ระดับ 7 ขั้นจักรพรรดิ(เนื่องจากข้อจำกัดของระบบ ระดับพลังในปัจจุบันของหรานเหมินคือ ระดับ 7 สูงสุดขั้น ปรมาจารย์ โฮสต์สามารถปลดล็อคขั้นพลังใหญ่เพื่อปลดล็อคขั้นพลังย่อยทั้งห้าของตัวละคร)
ความภักดี : ไม่ทราบ
การตั้งค่าตัวละคร : หรานเหมิน คือ ทหารพรานของสามมณฑลทางตอนเหนือของอาณาจักรหนานหยาน ปัจจุบันเขาประสบความสำเร็จในด้านจิตกรที่ดี เขาได้ยินชื่อเสียงของโฮสต์ ที่ได้รับความภักดีจากเหล่าขุนนาง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะกลับบ้านและพบแม่ของเขา จากนั้นก็จะมาเข้าเฝ้าจักรพรรดิ เพื่อ ยลโฉมของโฮสต์
ลู่เฟิง ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่มีปัญหาความแข็งแกร่งและการตั้งค่าตัวละครของหรานเหมิน
แต่ความภักดีที่ไม่ทราบนี่มันทำให้เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย
ท้ายที่สุดแล้ว ราชาสวรรค์หรานเหมิน ก็เป็นบุคคลที่เข้าใจยาก
แต่ถึงอย่างนั้น ลู่เฟิง ก็ไม่ยอมแพ้ เขาได้เผยรอยยิ้มออกมา การที่เขาจะมีโอกาสทำให้ตัวตนเช่นนี้ยอมรับได้นับว่าเป็นเรื่องที่ดี
หากได้ หรานเหมิน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาอีกฝ่ายจะช่วยเหลือเขาได้มากอย่างแน่นอน
ลู่เฟิง ไม่ได้สนใจต่อเขาได้กล่าวถามอีกครั้ง”ระบบ คราวนี้ ผู้ติดตาม เป็นใคร?”
ในไม่ช้า ข้อมูลระบบก็ปรากฏต่อหน้าของ ลู่เฟิง มันเป็นข้อความธรรมดาพร้อมกับนามสกุลตัวละคร
สกุล : เซี่ย
อาชีพ : นักเต้น
ระดับพลัง : ระดับ 3 ขั้นจักรพรรดิ ( ปัจจุบันคือระดับ 9 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ)
“สกุล เซี่ย,นักเต้น?”
ลู่เฟิง มองดูข้อมูลนี้ด้วยใบหน้าที่สงสัย
เขาได้หวนลึกความทรงจำมากมาย…
เดี๋ยวนะ เซี่ย ? สาวนักเต้น ?
ดวงตาของ ลู่เฟิง สว่างวาบขึ้น ” โลกตำนานแห่งฉิน,สโนว์เกิล”
ในอดีต ลู่เฟิง ชื่นชอบ โลกตำนานแห่งฉินมาก และ สโนว์เกิล ก็เป็นหนึ่งในตัวละครหญิงที่มีเอกลักษณ์งดงามเพราะผมสีขาวของเธอ
“สโนว์เกิล มาที่โลกนี้ด้วยหรือไม่ ? เดี๋ยวนะ นักเต้น ช่างเถอะ ฉันหวังว่าเธอจะไม่กลายเป็นศัตรูของฉันก็แล้วกัน”
ลู่เฟิง สั่นศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ อาชีพนักเต้น จะมีระดับพลังถึงขั้นจักรพรรดิเลยหรือไม่?
ลู่เฟิง ทำได้เพียงแต่วางสิ่งเหล่านี้ลงชั่วคราวเท่านั้น
ก็ต้องมาดูกันว่าเขาจะมีโอกาสได้พบอีกฝ่ายในสถานการณ์แบบใด
“เอาล่ะ มาเปิดกันต่อ!”
ลู่เฟิง รู้สึกตื่นเต้นเขายังมีโอกาสอัญเชิญอีกสิบครั้ง
ลู่เฟิง มองไปที่ โอกาสอัญเชิญเขาก็ครุ่นคิดเล็กน้อย”ระบบ เปลี่ยนโอกาสอัญเชิญทั้ง 9 ครั้งให้เป็น โอกาสอัญเชิญแบบกลุ่มกองทัพ”
สำหรับ ลู่เฟิง ในตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดก็คือกองทัพ
เพราะหากไม่มีกองทัพเขาก็จะไม่สามารถรับมือกับวิกฤตในปัจจุบันได้
นอกจากนี้ ถ้าเขาใช้โอกาสอัญเชิญ 10 ครั้งสุ่มแบบธรรมดา ก็ไม่รู้ว่าเขาจะได้พวกเครื่องทำครัวทองคำเหล่านั้นอีกหรือไม่
ในไม่ช้า โอกาสอัญเชิญ 9 ครั้ง ก็เปลี่ยนเป็นโอกาสอัญเชิญแบบกลุ่มกองทัพ 3 ครั้ง และ เหลือโอกาสอัญเชิญธรรมดาอีกหนึ่งครั้ง
“เปิดใช้โอกาสอัญเชิญกลุ่มกองทัพ”
“ติ๊ง,โฮสต์ ต้องการใช้โอกาสอัญเชิญกลุ่มกองทัพ,กำลังดำเนินการ”
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ประสบความสำเร็จในการอัญเชิญทหารตันหยาง ผู้นำกองทัพ เต้าเฉียน”
“นี่…”
ลู่เฟิง มองไปที่ ทหารตันหยาง ที่ถูกเรียกออกมาด้วยความตะลึงเล็กน้อย
ทหารตันหยางเป็นกองทัพที่ประกอบไปด้วยทหารที่แข็งแกร่งจากมณฑลตันหยางในช่วงสามก๊ก พวกเขามีประสิทธิภาพการรบที่แข็งแกร่งมาก
เกี่ยวสองเหตุผลที่ว่ากันว่าทำไมพวกเขาถึงถูกเรียกว่ากองทัพที่แข็งแกร่งคือ
เหตุผลแรก เต้าเฉียน ได้นำทหารตันหยาง 30,000 นาย เอาชนะ กองทัพกบฏผ้าเหลือง ที่กำลังมีปัญหาใน ซู่โจว แม้ว่ากองทัพ กบฏผ้าเหลือง จะไม่แข็งแกร่งด้านประสิทธิภาพการรบ แต่พวกเขาก็มีจำนวนมาก อีกทั้ง เต้าเฉียน ยังไม่มีผู้บัญชาการกองทัพ เขาได้ใช้กำลังและความสามารถของตนเอง ในการเอาชนะ กบฏผ้าเหลืองได้
เหตุผลที่สอง เต้าเฉียน ได้มอบทหารตันหยาง ให้ หลิวเป่ย หลายพันคน และทหารตันหยางเหล่านี้ ได้กลายเป็นครอบครัวของหลิวเป่ย
ในหมู่พวกเขา หยวนซู หนึ่งในทหารตันหยาง เขามีชื่อเสียงและขึ้นชื่อด้านความโดดเด่น
ดังนั้นทหารตันหยางจึงมีอำนาจมากในช่วงเวลานั้น
ถึงแม้ว่า ทหารตันหยาง 100,000 นาย จะเป็นกำลังพลที่น้อยนิด แต่ประสิทธิภาพการรบของพวกเขาก็ทำให้ ลู่เฟิงพอใจอย่างมาก
สิ่งที่ ทำให้เขาตะลึงก็คือ ผู้นำทัพตันหยางก็คือ เต้าเฉียน
คนผู้นี้คือ ผู้ว่าราชการเมืองซู่โจวในปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก
ถ้าจะบอกว่าเขาเป็นคนไม่มีความสามารถก็คงจะไม่สามารถบริหารซู่โจวให้ได้ดิบได้ดีได้
แต่ทว่า ถึง ซู่โจว จะเป็นเมืองที่ยอดเยี่ยมแค่ไหนก็ยังมีขอบเขตจำกัดอยู่ดี
“ระบบ แสดงข้อมูลของ เต้าเฉียน ให้ฉัน ดู ฉันต้องการรู้ความสามารถและการตั้งค่าตัวตนของเขา”ลู่เฟิง ได้กล่าวถามกับระบบ