MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 242
ดาบเฉียนเจียงในมือของลู่เฟิง ได้ขยับอีกครั้งเพื่อวาดฟันไปเบื้องหน้าปิดกั้นการโจมตีของ หลวนเฉิน แต่ก่อนที่ ลู่เฟิง จะรอการโจมตีระลอกที่สองของดาบเสิ่นหวู่ ดาบในมือของเขา ก็ถูกปิดกั้นจากการโจมตีของหลวนเฉินเสียก่อน
หลวนเฉิน ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็วและปิดกั้นการโจมตีของลู่เฟิงที่อยู่เบื้องหน้า
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องถอยร่นห่างออกไปไกลมากกว่าสิบเมตร
“นี่…พลังต่อสู้ของฝ่าบาทเพิ่มขึ้นจากการใช้ทักษะลับก็จริง แต่คิดไม่ถึงเลยว่ากลับทำให้ หลวนเฉิน ที่ทุ่มกำลังทั้งหมดต้องถูกไล่ต้อนได้ ฝ่าบาท แข็งแกร่งถึงขนาดนี้เชียว?”เฉินกัง เต็มไปด้วยความตะลึง
เฉินกัง และ หลวนเฉิน เป็นสหายกันมานาน ธรรมชาติเขาย่อมรู้ถึงความแข็งแกร่งของ หลวนเฉิน เป็นอย่างดี
แม้ขอบเขตพลังของเขาจะสูงกว่า หลวนเฉิน แต่ถ้าเขาสู้กันจริง ๆ เขาก็คงไม่อาจไล่ต้อนหลวนเฉินที่บังคับการป้องกันอย่างเต็มกำลังได้
แต่ตอนนี้ ฝ่าบาทได้ใช้ทักษะลับ ซ้ำยังทำให้ หลวนเฉิน ต้องถอยร่นออกไปภายในดาบเดียว!
แม้แต่ ต้วนชุย ก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่า หลังจาก ลู่เฟิง ใช้ทักษะลับ พลังต่อสู้ของเขาก็แข็งแกร่งขึ้นมาก
เฉินกัง และ ต้วนชุย ที่อยู่ข้างสนาม สัมผัสได้ว่า ลู่เฟิง ที่ใช้ทักษะลับแข็งแกร่งขึ้นมาก แต่ความรู้สึกนั้นมันเทียบไม่ได้กับ หลวนเฉิน ที่อยู่ภายในสนาม
หลวนเฉิน มองไปที่ ลู่เฟิง ด้วยความตกใจ
ดาบก่อนหน้า หากเขาไม่ทุ่มกำลังป้องกันอย่างเต็มที่ เขาคงถูกฟันจนบาดเจ็บไปแล้ว แม้เขาจะไม่ได้หวาดกลัว แต่ก็ทำให้ หัวใจของ หลวนเฉิน ตื่นตระหนกได้เหมือนกัน
เขาได้ถูกฝ่าบาทเรียกตัวให้มาเป็นคู่มือ แน่นอนว่าเดิมเขาไม่มีความคิดที่จะเอาชนะอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้ เขากลับถูกเยี่ยมย่ำศักดิ์ศรีโดยชัดเจน
“หลวนเฉิน ต่อไปเป็นดาบที่สามของข้า!”
เมื่อเสียงแผ่วลงร่างของ ลู่เฟิง ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของหลวนเฉิน เขาได้ฟันดาบออกไปอีกครั้ง
หลวนเฉิน รีบยกดาบขึ้นมาป้องกันดาบของลู่เฟิง
ปั้ง!
ดาบในมือของลู่เฟิงได้ฟันลงบนดาบของหลวนเฉินอย่างชัดเจน แขนของอีกฝ่ายสั่นสะท้านและถูกซัดถอยกลับไปไกลมากกว่าสิบเมตร
คราวนี้ โลหิตของอีกฝ่ายได้ไหลลงบนพื้น!
ดาบนี้ทำให้ หลวนเฉิน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
“ฝ่าบาท แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร?”
ดวงตาของ หลวนเฉิน เต็มไปด้วยความตะลึง ลู่เฟิง ในตอนนี้สามารถคุกคามเขาได้อย่างสมบูรณ์
“นี่มันทักษะลับ ? ไม่สิ นี่เป็นทักษะดาบ!”
หลวนเฉิน จ้องมองไปที่ ดาบในมือของ ลู่เฟิง”แม้ว่าดาบของฝ่าบาทจะไม่ธรรมดา แต่ทักษะดาบที่ปลดปล่อยออกมานั้นกลับแข็งแกร่งกว่า ไม่แปลกใจที่ฝ่าบาทจะทรงพลังขนาดนี้”
“หลวนเฉิน,เตรียมรับมือ ข้าจะปลดปล่อยดาบที่สี่!”
ลู่เฟิง ได้ส่งเสียงออกมา ในเวลานี้ ร่างของเขาได้พริ้วไหวมากขึ้นและเฉือดเฉือนไปยังเบื้องหน้าของหลวนเฉิน
คราวนี้ หลวนเฉิน ไม่คิดจะป้องกัน ร่างของเขาได้เคลื่อนไหวและใช้ทักษะดาบโกลาหล
“ทักษะดาบโกลาหล!”
พลังงานโกลาหลที่ปลดปล่อยคลื่นพลังสีดำออกมาได้แผ่กลิ่นอายชั่วร้ายออกมาอย่างชัดเจน
นี่เป็นรูปแบบสุดท้ายของทักษะดาบโกลาหล
“หลวนเฉิน คิดจะใช้ทักษะดาบสุดท้ายกับฝ่าบาทจริง ๆ งั้นเหรอ?”
เฉินกัง ได้เฝ้าดูและพูดขึ้น”ต้วนชุย หากสถานการณ์ของฝ่าบาทไม่สู้ดี เจ้ารีบเข้าไปหยุดทันที อย่าปล่อยให้ฝ่าบาทได้รับบาดเจ็บเด็ดขาด”
ต้วนชุย ได้พยักหน้า เขาได้หยิบดาบออกมาเตรียมพร้อมเอาไว้
ตู้ม!
การโจมตีของ ลู่เฟิง และ หลวนเฉิน ได้เข้าปะทะกัน
คลื่นพลังขนาดใหญ่ได้กระจายไปยังพื้นที่โดยรอบ
แรงสั่นสะเทือนมหาศาลทำให้ผืนดินโดยรอบสั่นไหว
เมื่อคลื่นพลังหายไปสถานการณ์ในสนามก็ปรากฏต่อหน้าสายตาของทุกคน
ร่างของ หลวนเฉิน ยังอยู่บนฟ้า แต่ร่างของ ลู่เฟิง กลับกำลังร่วงลงสู่พื้นดิน
เมื่อ ต้วนชุยเห็น เขาก็รีบจะขึ้นไปช่วยเหลือ ลู่เฟิง
แต่ ในขณะนี้ ลู่เฟิง ได้เปล่งเสียงออกมา”กระบวนท่าดาบเสิ่นหวู่,ดาบที่สี่!”
เมื่อสิ้นสุดเสียงของลู่เฟิง พละกำลังดาบอันมหาศาลได้เคลื่อนไหวออกไป
ระลอกแห่งความสับสนได้ปรากฏขึ้นที่ดวงตาของ หลวนเฉิน
ฝ่าบาทได้ถูกการโจมตีของเขาซัดทำร้าย ? แต่ถึงอย่างนั้นกลับยังสามารถปลดปล่อยการโจมตีต่อเนื่องได้?
ก่อนที่เขาจะเข้าใจ พลังดาบนิรนามก็มาถึงเบื้องหน้าของเขาแล้ว
หลวนเฉิน ได้ระดัมพลังปราณแท้จริงในร่างกายและถ่ายเทลงบนดาบของตนเอง เขาได้วาดฟันคลื่นพลังออกไปปะทะกับการโจมตีของลู่เฟิง
บึ้ม!
พลังการโจมตีที่ถูกสร้างขึ้นจากพลังปราณนั้นรุนแรงมาก แต่มันไม่ใช่พลังปราณธรรมดา
พลังปราณของลู่เฟิง สามารถกลืนกินพลังปราณดาบของหลวนเฉินได้โดยตรง
หลวนเฉิน รู้สึกตะลึงอย่างมาก
เขารีบยกดาบขึ้นมาป้องกันการโจมตีอีกครั้ง
ปั้ง!
ปราณดาบได้ปะทะเข้ากับดาบของหลวนเฉิน
พริ้ว!
ร่างของ หลวนเฉิน ลอยละลิ่วก่อนที่จะตกลงมาที่พื้นและกระอักโลหิตออกมา
อย่างไรก็ตาม หลวนเฉิน ก็ยังเป็นนักรบที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเขาจะกระอักโลหิตออกมา แต่อาการบาดเจ็บของเขาก็ไม่ได้ร้ายแรง
เขามองไปที่ ลู่เฟิง ที่ยืนอยู่บนฟ้าด้วยดวงตาที่ซับซ้อน
เขาไม่คิดเลยว่า ลู่เฟิงจะแข็งแกร่งขนาดนี้
ระดับ 2 ขั้นปรมาจารย์เหมือนกัน แต่เอกลักษณ์และทักษะนั้นกลับเหนือกว่า เขาไม่ใช่ คู่ต่อสู้ของฝ่าบาท เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า พลังต่อสู้ของฝ่าบาทนั้นน่ากลัวเพียงใด
ในตอนนี้ ลู่เฟิง มีเวลาเหลือมากกว่าสิบวินาทีก่อนที่กระบวนท่าลับจะหมดไป เขาได้ถอนหายใจออกมา”ดูเหมือนว่า ทักษะดาบที่ฉันปลดปล่อยออกมาได้ในตอนนี้จะยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของมัน”
ลู่เฟิง มองไปที่ การโจมตีสุดท้ายที่ สามารถเอาชนะ หลวนเฉินได้ เพียงแต่ว่า มีเพียงคนที่ใช้มันเท่านั้นที่น่าจะสัมผัสได้ว่าพลังการโจมตีจากดาบนั้นยังไม่สมบูรณ์มากเพียงพอ
เป็นเพราะสิ่งนี้ทำให้ความแรงในการโจมตีของลู่เฟิงลดลงไปมาก
ร่างของ ต้วนชุย ได้ปรากฏขึ้นข้างกายของ ลู่เฟิง เขาเต็มไปด้วยความตกใจ เขาไม่คิดเลยว่า ฝ่าบาทจะทรงพลังถึงเพียงนี้
เดิมเขาต้องการช่วยเหลือลู่เฟิง แต่ไม่คิดเลยว่า ลู่เฟิงจะปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวเช่นนั้นออกมาได้
แรงกดดันที่ปลดปล่อยออกมานั้น แม้แต่ยอดฝีมือระดับ 4 ขั้นปรมาจารย์อย่างเขายังสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน
แม้จะเป็นเขาหากไม่คิดป้องกันก็ย่อมได้รับบาดเจ็บพอตัว
“ฝ่าบาท,ข้าน้อยแพ้แล้ว!”
หลวนเฉิน ได้คุกเขาลงบนพื้นและกล่าวพูดด้วยความเคารพและยิ้มอย่างขมขื่นในใจ
เขาไม่คิดเลยว่าตนเองจะพ่ายแพ้ต่อฝ่าบาท
เดิมเขาคิดจะเอาชนะ ลู่เฟิง และ แสดงให้เห็นถึงความห่างชั้นพอ ท้ายที่สุดเขากลับพ่ายแพ้ทำให้เขารู้สึกเสียหน้าอย่างมาก
ลู่เฟิง ได้ร่อนลงมาจากฟ้า กระบวนท่าลับของเขาได้หายไปแล้ว ใบหน้าของเขาซีดลงเล็กน้อย พลังปราณแท้จริงในร่างกายได้ถูกระงับโดยสมบูรณ์ เขารู้สึกเจ็บแปลบที่อวัยวะภายในของตนเอง
นี่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้กระบวนท่าลับ
ลู่เฟิง ได้หยิบโอสถรักษาออกมาจากแหวนเก็บของเขาได้กลืนมันลงไปอย่างรวดเร็วจากนั้นอาการบาดเจ็บของเขาก็ดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ฤทธิ์ยาหมด
อย่างไรก็ตาม เขายังคงต้องใช้เวลาสักครู่เพื่อชดเชยพลังงานที่สูญเสียไป
สิ่งนี้ทำให้เขาถอนหายใจออกมา กระบวนท่าลับ นี้ดูเหมือนจะง่าย แต่แท้จริงแล้ว กลับมอบความเจ็บปวดแบบที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน