MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 89
“อ่านรายงาน!”ชูหยี ได้กล่าวถาม
“ท่านแม่ทัพ ค่ายเซียนเติ้ง ที่ตั้งอยู่บนภูเขาทั้งสองด้านเตรียมพร้อมแล้วพวกเขาสามารถโจมตีหุบเขาหยางผิงจากทางด้านบนได้!”
“ดีมาก!”
ชูหยี ได้วางตำราทหารในมือของเขาลง”ด้วยวิธีนี้ข้อได้เปรียบของหุบเขาหยางผิงก็จะไร้ประโยชน์!”
ชูหยี รู้ดีว่า หุบเขาหยางผิงนั้นง่ายต่อการป้องกันและโจมตีได้ยาก มันยากพอ ๆ กับการปีนขึ้นหุบเขา
แต่การโจมตีจากภูเขาทั้งสองด้านจะทำให้คนของเขาร่อนลงมาจากบนฟ้าและสามารถบุกเข่าสู่เมืองหุบเขาหยางผิงได้อย่างน่าประหลาดใจ
ในเวลานั้นทั้งคนนอกในถ้าร่วมมือกันพวกเขาก็ย่อมทำลายปราการที่แข็งแกร่งของหุบเขาอย่างผิงได้อย่างแน่นอน
ทหารที่เขาต้องการในแผนการนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
โชคดีที่ทหารชั้นยอดเช่นนี้มีอยู่ในค่ายแรกของเขาทำให้เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาอื่น ๆ
ทหารค่ายแรกไม่ใช่อะไรเรียง่ายธรรมดา ๆ แต่พวกเขาถูกฝึกมาเพื่อต่อต้านกับทัพทหารม้า
ตอนนี้ชูหยี ไม่ได้ว่างมากขนาดนั้น ตราบใดที่เขาสามารถเอาชนะหุบเขาหยางผิงได้แม้ว่าจะต้องสูญเสียคนไปจำนวนมากเขาก็จะได้รับการตอบแทนที่ดี
“ส่งต่อคำสั่งให้กองทัพทั้งหมดเตรียมพร้อมโจมตี!”
“ขอรับ!”
ชูหยี ได้ออกมาจากเต็นท์ใหญ่ของกองทัพและมองไปที่หุบเขาหยางผิงที่สูงตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของเขาได้หัวเราะออกมา”หุบเขาหยางผิงมันคือของอาณาจักรซีหยางของข้า!”
บนหุบเขาหยางผิงเกาชุน เตียวเลี้ยว ต่างก็เฝ้าดูข่าวที่ได้รับมาจากจินยี่เหว่ย
“ท่านแม่ทัพ ข้าว่าแผนของเมิ่งเถียน ค่อนข้างดีเลย ตราบใดที่พวกเขาโจมตีทัพหลักขของอาณาจักรซีหยางจากทางด้านหลัง นั่นจะช่วยเปิดช่องว่างให้ทัพม้าของเราออกจากหุบเขาหยางผิงไปสังหารทหารของอาณาจักรซีหยางได้!”เตียวเลี้ยว ได้กล่าวพูดออกมา
เกาชุนได้พยักหน้าและตอบกลับ”มันก็เป็แผนที่ดีแต่ว่าติดอยู่เรื่องนึง!”
“เรื่องอะไรเหรอท่านแม่ทัพ?”
“หุบเขาหยางผิงไม่กว้างพอที่จะจุทหารราบพร้อมกันได้หลายคน เต็มที่ได้แค่ 5,000 คน แต่ถ้าหากเป็นทหารม้าก็ได้ 3,000 คนเพียงเท่านั้น หากในเวลานั้นอาณาจักรซีหยางได้ยิงหน้าไม้ออกมามันจะเป็นจุดจบของพวกเรา!”เกาชุนได้ตอบกลับ
นี่คือเหตุผลที่ทำให้ภูมิประเทศของหุบเขาหยางผิงยากต่อการโจมตี แต่ถ้าคิดจะตอบโต้ในสถานการณ์แบบนี้ก็ยากที่จะจัดการเช่นเดียวกัน
“นี่…”
เตียวเลี้ยว ได้ครุ่นคิด”หรือว่าพวกเราจะไม่มีทางทำอะไรได้เลย?”
“ไม่อย่างแน่นอน!”
เกาชุนยิ้มและตอบกลับ”เพื่อเพิ่มผลงานให้กับทหารม้าของเรา เราต้องหารือกับ เมิ่งเถียน ให้พวกเขาดึงความสนใจทั้งหมดของกองทัพหลักอาณาจักรซีหยาง ในเวลานั้นข้าจะใช้ค่ายกลยุทธ์ของข้ามุ่งหน้าไปโจมตีพลธนูของอีกฝ่าย เพื่อเปิดทางให้กับกองทัพของเราบุกทำลายกองทัพของอาณาจักรซีหยาง!”
ดวงตาของ เตียวเลี้ยว ได้สว่างวาบขึ้นและกล่าวพูดทันที”ท่านแม่ทัพเกา ช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก ข้าน้อยเทียบไม่ได้เลย!”
“ฮ่าฮ่า,เตียวเลี้ยว ไม่ใช่ว่าเจ้าอ่อนด้อยแต่ประสบการณ์ในการเดินทัพของเจ้ายังน้อยนัก ในอนาคตเจ้าจะต้องเป็นผู้นำกองทัพเพียงลำพังได้อย่างแน่นอน!”เกาชุนได้หัวเราะออกมา
ได้ยินเช่นนั้น รอยยิ้มได้ปรากฏบนใบหน้าของ เตียวเลี้ยว
จากนั้น เกาชุนก็ให้คนไปส่งข่าว แจ้ง เมิ่งเถียน
เพียงใช้เวลาไม่นาน เมิ่งเถียนก็ได้รับข่าว
“ท่านแม่ทัพ ข้าคิดว่า กลยุทธ์ของแม่ทัพเกาค่อนข้าลำเอียง!”แม่ทัพคนนึงได้กล่าวพูดขึ้น
เมิ่งเถียน ได้จ้องมองไปที่เขาและกล่าวถาม”ลำเอียงอย่างไร?”
“ด้วยกองทัพ 300,000 นายของพวกเรา หากบุกโจมตีกองทัพของอาณาจักรซีหยางจากทางด้านหลังย่อมได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน แต่เขาต้องการให้เราเป็นเหยื่อล่อเพื่อดึงดูดความสนใจของกองทัพอาณาจักรซีหยาง นี่ไม่เพียงแต่จะทำให้เราเกิดความสูญเสีย แต่ แม่ทัพเกา ยังจะได้รับเครดิตความดีความชอบเราไม่สามารถ…”
“หุบปาก!”
ก่อนที่แม่ทัพคนนี้จะพูดจบ เมิ่งเถียน ก็กลายเป็นโกรธจัด เขามองไปที่ แม่ทัพคนนี้และกล่าวพูดด้วยความโกรธ”เจ้ารู้อะไรบ้างถึงได้พูดจาพล่อย ๆ เช่นนี้?”
“ในหุบเขาหยางผิง พื้นที่จุทหารราบพร้อมกันไม่สามารถจุได้เกินกว่า 5,000 นาย ภายใต้สถานการณ์ที่โดนกองทัพของอาณาจักรซีหยางปิดล้อม 400,000 กว่านาย เจ้าคิดว่า คน 5,000 นายที่พุ่งออกมา จะสามารถทำลายคนที่มีมากกว่า 400,000 คนได้หรือไม่?”
“นอกจากนี้ เจ้าคิดว่ากองทัพ 300,000 นาย ที่เดินทัพไปหาพวกมันถึงสถานที่แห่งนั้น พวกอาณาจักรซีหยางจะไม่ได้รับข่าวอะไรเลย พวกเจ้าคิดว่าพวกเขาเป็นเพียงหมูโง่หรืออย่างไร?”
“เพี๊ยะ!”
เมิ่งเถียน ได้ตบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความโกรธ”พวกเขาได้ยึดสถานที่แห่งนั้นและหลอกล่อศัตรูออกไปจนทำให้เรายึดครองเมืองหลวงอาณาจักรซีหยางได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังเกิดความสูญเสียน้อยจนน่าประหลาดใจ แต่มาตอนนี้ พวกเขาให้พวกเราดึงดูดความสนใจของศัตรู เจ้ากลับมานั่งกังวลเรื่องความสูญเสียของพวกเรา ในใจของเจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่?”
ฟุ่บ!
แม่ทัพคนนี้ได้รีบคุกเข่าลงบนพื้นและร้องวิงวอนออกมา”ท่านแม่ทัพ ข้าน้อยผิดไปแล้ว!”
เมิ่งเถียน ได้เพิกเฉยต่อคำขอร้องอันนั้นและตอบกลับด้วยความโกรธ”หึ่ม ถ้าไม่ได้แม่ทัพเกาชุน และ แม่ทัพ เตียวเลี้ยว ที่ต้านศึก 400,000 นายในหุบเขาหยางผิง ข้าก็คงไม่สามารถบุกเมืองหยุนไห่อย่างง่ายดายและจับกุมจักรพรรดิซีหยางได้ ทีนี้เจ้าเข้าใจแล้วหรือไม่?”
เมิ่งเถียน กลายเป็นโกรธมากขึ้นเรื่อย ๆ เขากังวลว่าหากมีแม่ทัพไร้ความสามารถเหล่านี้มากเกินไปในกองทัพของเขา จะทำให้กองทัพของเขาถึงคราววิบัติในที่สุด
คนเหล่านี้มองไม่เห็นข้อเท็จจริงระหว่างการรบนนี่รั้งแต่จะทำให้เกิดความเสียเปรียบ
แม่ทัพคนนี้ไม่กล้าร้องขอความเมตตอีกเขาได้หมอบอยู่กับพื้นและไม่กล้ามองไปที่เมิ่งเถียน
ฟู่ว!
เมิ่งเถียนได้สูดลมหายใจเข้าลึก”เข้ามานี่ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปข้าจะให้เจ้าเข้าไปอยู่ในสังกัดค่ายวางแผนเพื่อศึกษาร่ำเรียนให้แตกฉาน!”
“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
แม้ว่าแม่ทัพคนนี้จะมีความสามารถไม่มาก แต่เขาก็ไม่ได้โง่ เขารู้ดีว่าหากคำพูดของเขาถูกส่งไปยังเกาชุนหรือฝ่าบาท เขาคงมีจุดจบที่ไม่ดี
เมิ่งเถียน ไม่ได้ฆ่าเขา แต่ต้องการให้เขากลับไปศึกษาใหม่ นี่ถือเป็นการให้โอกาสที่เขารู้สึกขอบคุณมากแล้ว
หลังจาก เมิ่งเถียน จัดการปัญหาเสร็จ เขาก็มองไปที่แม่ทัพคนอื่น ๆ และตะโกนขึ้น”พวกเจ้าเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อไปถึงค่ายกองทัพของอาณาจักรซีหยาง พวกเราจะโจมตีโดยทันทีโดยไม่ลังเล!”
“ขอรับ!”
แม่ทัพ คนนึงได้ลงไปสั่งการกองทัพ
ในเต็นท์กองทัพของอาณาจักรซีหยาง ชูหยี ได้รับข่าวจากค่ายอีกครั้งบอกว่าพวกเขาพร้อมแล้วและรอรับคำสั่งจากตัวเองเพียงเท่านั้น
ชูหยี ไม่ลังเลเขาได้กล่าวพูดขึ้น”ส่งคำสั่งไปยังค่ายแรกบอกให้พวกเขาลงมือเลยข้าจะนำทัพไปร่วมมือ…”
“รายงาน…ท่านแม่ทัพมีกองทัพของอาณาจักรหนานหยานอยู่เบื้องหลังของพวกเรา จากข้อมูลพวกมันมีไม่ต่ำกว่า 200,000 นาย และตอนนี้อยู่ห่างจากค่ายทหารไม่ถึงสองชั่วโมง!”
“อะไร ทำไมถึงมีกองทัพของอาณาจักรหนานหยาน อยู่เบื้องหลังกองทัพของพวกเราได้ เจ้าแน่ใจในข้อมูลหรือไม่?”ชูหยี กล่าวถามด้วยความโกรธ
“ท่านแม่ทัพ นี่เป็นข่าวที่หน่วยข่าวกรองของเราส่งมาไม่มีผิดพลาดแน่นอน!”
“บัดซบ!”
ผิวของ ชูหยี กลายเป็นน่าเกลียดทันที เบื้องหลังของเขาคือเมืองหลวงของอาณาจักรซีหยาง หาก กองทัพของอาณาจักรหนานหยาน อยู่ด้านหลังของเขาก็หมายความว่าเมืองหลวงอาณาจักรซีหยางถูกยึดครองไปแล้ว
“เมืองหยุนไห่!”
จู่ ๆ ชูหยี ก็คิดได้ว่า กองทัพนี้มาจากไหน มีเพียงเมืองหยุนไห่ เท่านั้น ที่ศัตรูสามารถบุกเข้ามาโดยไม่มีใครขวางกั้น
“ต้องถอยทัพหรือไม่?”
ความคิดนี้ได้ปรากฏในใจของ ชูหยี แต่เขาก็ได้สั่นศีรษะไปชั่วขณะ ตอนนี้ เขาจะต้องเผชิญกับกองทัพสองทิศทางในเวลาเดียวกัน ด้วยวิธีนี้จะทำให้กองทัพของเขาสูญเสียมากกว่า 90%
ถ้าไม่ถอยที่ทำได้ก็มีแต่…
ชูหยี ได้จ้องมองไปที่ หุบเขาหยางผิง และ ตะโกนขึ้น”สั่งการลงไปบอกพวกเขาให้เปิดฉากโจมตีหุบเขาหยางผิง!”