MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 90
ชูหยี ฉลาดมาก ตราบเท่าที่เขาสามารถเอาชนะ หุบเขาหยางผิง ภายในสองชั่วโมงได้เขาก็จะสามารถใช้ภูมิประเทศของหุบเขาหยางผิงได้
ด้วยวิธีนี้ หากกองทัพของอาณาจักรหนานหยานที่ตามมาจากทางด้านหลังบุกมา พวกเขาก็ย่อมไม่สามารถยึดครองหุบเขาหยางผิงได้ในเร็ว ๆ นี้
หลังจากที่เขาส่งข่าวไปยัง กองกำลังทางตอนเหนือ และ ตะวันออก คนเหล่านี้ก็จะส่งกองกำลังมากวาดล้างกองทัพเหล่านี้ได้ เมื่อถึงเวลานั้น เสด็จพ่อของเขา จะต้องยอมให้เขากลายเป็นองค์ชายรัชทายาทแน่นอน!
“ส่งคำสั่งให้ค่ายเซียนเติ้ง เปิดฉากโจมตี”
“ขอรับ!”
ในเวลาเดียวกัน ชูหยี ก็เตรียมกองทัพ 400,000 นาย เพื่อพร้อมสำหรับการสู้รบโดยตรง
“รายงานท่านแม่ทัพดูเหมือนว่ากองทัพของอาณาจักรซีหยาง จะเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้แล้ว!”
ที่หุบเขาหยางผิง เกาชุนได้รับรายงาน
“อะไรนะ?”
เกาชุน รู้สึกประหลาดใจและกล่าวพูดขึ้น”มีอะไรเกิดขึ้น เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาณาจักรซีหยาง จะไม่รู้ว่ากองกำลังหลายแสนนายกำลังบุกโจมตีจากทางด้านหลัง?”
“จริงด้วย ข้าคิดว่าแม่ทัพที่นำทัพของอาณาจักรซีหยางคนนี้เข้าใจยากจริง ๆ !”เตียวเลี้ยว เองก็สับสนเล็กน้อย
หลังจากลังเลเล็กน้อยเกาชุนก็เหลือบตาขึ้นและพูดออกมา”ฮ่าฮ่า ข้าเข้าใจแล้ว แม่ทัพคนนี้ฉลาดมาก เขารู้ว่าตนเองไม่มีทางป้องกันศึกสองทางได้ หากพวกเขาให้ความสนใจทัพของ เมิ่งเถียน พวกเขาก็จะถูกทัพม้าของเราโจมตีจนล่าถอย ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมสู้ตายที่หุบเขาหยางผิง ว่าจะสามารถยึดครองหุบเขาหยางผิงได้ก่อนที่ทัพของเมิ่งเถียนมาถึงได้หรือไม่ หากพวกเขาทำได้สำเร็จ แม้จะเป็นทัพของเมิ่งเถียน คิดจะตีป้อมปราการนี้ให้แตกก็ย่อมใช้เวลานานนับเดือน!”
จู่ ๆ เตียวเลี้ยว ก็เข้าใจและพยักหน้า”เขาเป็นคนฉลาด แต่เขาก็คิดง่ายเกิน ในหุบเขาหยางผิง ยังมีพวกเราอยู่ พวกเราจะไม่ยอมให้พวกมันทำอะไรได้อย่างแน่นอน!”
“ทหาร เข้ามา!”
“ข้าน้อยอยู่ที่นี่แล้ว!”
“ส่งคำสั่งให้กองทัพทั้งหมดเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบ ให้ทหารม้าเตรียมพร้อมเข้าชาร์จได้ทุกเมื่อ!”
ยังเหลือเวลาก่อนที่กองทัพของ เมิ่งเถียน จะบุกถึงด้านหลังทัพของอาณาจักรซีหยาง เกาชุน จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะกับอาณาจักรซีหยางทันที
“ขอรับ!”
คนผู้นี้ได้ออกไปส่งข่าวทันที
“รายงานท่านแม่ทัพ บนยอดของหุบเขา ดูเหมือนจะมีศัตรูบุกลงมาจากทางด้านบน พวกเขากำลังต่อสู้กับคนของเราและพยายามยึดครองประตูเมือง!”
ในเวลาต่อมาก็มีคนมาแจ้งข่าว
“อะไร มาจากบนฟ้างั้นเหรอ?”
เกาชุนผงะเล็กน้อย เขาคิดเรื่องนี้อยู่พักหนึ่งแล้ว กองกำลังอาณาจักรซีหยาง ได้ส่งกำลังพลไปที่ภูเขาทั้งสองด้านและเริ่มการโจมตีจากทางด้านบน
หึ่ม!
เกาชุน รู้สึกสาปแช่งอย่างลับ ๆ เขาไม่คิดเลยว่า อีกฝ่ายจะใช้ภูเขาทั้งสองลูกบุกโจมตีจากทางด้านบน จริง ๆ เพราะที่นั่นมีความสูงมากกว่า 100 เมตร
ดูเหมือนว่า เกาชุน จะประมาทเกินไป อาณาจักรซีหยาง คราวนี้ได้ส่งทหารชั้นยอดมาด้วย
“ส่งคนไปบอกค่ายกลยุทธ์ให้พวกเขาเข้าไปต้านศึกศัตรูทันที ยังไงก็อย่าปล่อยให้กองทัพของอาณาจักรซีหยางบุกยึดประตูเมืองได้!”
“ขอรับ!”
“ไปได้!”
เกาชุน ได้ออกไปเตรียมตัว เขาได้มาถึงพร้อมกับค่ายกลยุทธ์ที่หน้าประตูเมือง ตอนนี้ มีทหารเหลือไม่ถึงสิบคน และมีมากกว่า 500 คนถูกตัดศีรษะที่นี่ ข้าศึกมีกองกำลังมากกว่า 300 คน ทุกคนล้วนเป็ฯยอดฝีมือ
“เจ้าพวกขยะจากอาณาจักรซีหยาง กล้าที่จะสังหารทหารอาณาจักรหนานหยานของข้า ตายซะ!”
เกาชุนได้พุ่งตัวออกไปใส่คนทั้งสามร้อยคนโดยไม่ลังเล
การโจมตีจำนวนมากได้พุ่งไปยังทิศทางของเขา
ทหารค่ายกลยุทธ์คนอื่น ๆ ได้ขึ้นไปบนกำแพงและต่อสู้กับกองกำลังเหล่านั้นด้วย
ในเวลานี้ ชูหยี ได้ส่งกองกำลังของเขาลงมาสนับสนุน ผู้คนจำนวนมากได้ปรากฏตัวขึ้นบนกำแพงและพุ่งเข้าใส่เกาชุน
แม้ว่า เกาชุนจะแข็งแกร่งมาก แต่เขาก็ตกอยู่ภายใต้การปิดล้อม เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่สามารถเอาชนะคนเหล่านี้ได้ในเวลาอันสั้น
โชคดีที่ค่ายกลยุทธ์ของเกาชุนก็ล้วนเป็ฯยอดฝีมือ พวกเขาสามารถช่วยเหลือเกาชุนในการจัดการศัตรูได้ง่ายขึ้น
ไม่นานศัตรูหลายคนก็ถูกตัดศีรษะจนขาดกระเด็น
เมื่อเห็น ปรมาจารย์ทั้งสองที่เป็นนักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณที่ชูหยี ส่งมาถูกสังหาร แม่ทัพหลักของศัตรูก็ไม่ลังเลที่จะสั่งการให้คนอื่น ๆ กระโดดลงจากกำแพง พวกเขาไม่ได้หลบหนีแต่เข้าไปโจมตีประตูเมือง
ในหมู่พวกเขา ยังมีนักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณอยู่อีก พวกเขาตั้งใจที่จะทำลายประตูเมืองให้แตกในระยะเวลาอันสั้น
แต่เมื่อพวกเขากำลังจะโจมตีประตูเมือง เตียวเลี้ยว ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับซัดฝ่ามือขนาดใหญ่โจมตีไปที่คนเหล่านี้
เตียวเลี้ยว เป็นนักรบระดับ 4 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ เพียงพริบตาเดียวเขาก็สามารถทำให้นักรบขั้นเชื่อมจิตวิญญาณบาดเจ็บสาหัสได้
คนเหล่านี้ไม่สามารถสู้ตัวต่อตัวกับเตียวเลี้ยวไหว
ด้วยเหตุนี้ เตียวเลี้ยว จึงสามารถนำกองกำลังมาสมทบปกป้องประตูเมืองได้สำเร็จ
“อะไร เป็นไปได้ยังไง เกาชุน มาถึงหุบเขาหยางผิง ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมข้าถึงไม่รู้อะไรเลย?”
ชูหยี ผู้บัญชาการกองทัพที่เข้าโจมตีเมือง เมื่อเห็นเกาชุนสังหารกองกำลังของตัวเองบนกำเเพงเขาได้กล่าวถาม แม่ทัพที่อยู่รอบตัวของเขาด้วยใบหน้าที่โกรธเกรี้ยว
หลังจากที่เขากลายเป็นแม่ทัพใหญ่ที่นี่ เขาก็ไม่ได้รับข่าวการมาถึงของเกาชุนแม้แต่น้อย เดิมเขาคิดว่า เกาชุนอยู่ในเมืองว่านเหอ
แม่ทัพที่อยู่ข้าง ๆ เขาได้ก้มศีรษะลงและไม่กล้าสบตาชูหยี
พวกเขารู้ว่าเกาชุนอยู่ที่นี่ เพราะ แม่ทัพคนก่อนก็ถูกเขาฆ่าตาย แต่ ชูหยี ที่มาใหม่นี้ เหตุผลที่พวกเขาไม่ได้บอกอีกฝ่ายก็เพราะต้องการให้ ชูหยี รู้ว่า หุบเขาหยางผิง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโจมตี
นี่จะเป็นบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ของชูหยี
ตอนนี้เมืองหลวงอาณาจักรซีหยางได้ถูกยึดไปแล้วพวกเขายังตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอีก
“เจ้าพวกขยะ!”
ชูหยี รู้สึกโกรธมาก ถ้าเขารู้ว่าเกาชุนอยู่ที่นี่ เขาคงไม่ส่งค่ายแรกมาโจมตียึดกำแพงเมืองอย่างแน่นอน เพราะเขานั้นรู้ว่าเกาชุนไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ
หากมี เตียวเลี้ยว เพียงคนเดียวบนกำแพง ด้วยทหารค่ายแรกของเขา ย่อมสามารถจัดการอีกฝ่าย ได้อย่างแน่นอนแต่ใครจะไปคิดว่าในเมืองยังมี เกาชุน อยู่ด้วย
“ค่ายแรก คงถึงคราวจุดจบแล้วจริง ๆ !”
ชูหยี ได้หลับตาลงด้วยความเจ็บปวด ค่ายนี้ได้รับการฝึกฝนมาเป็นเวลานาน แต่ตอนนี้มันกลับสูญเสียไปหมดแล้ว
ไม่มีใครบอกเขาว่า เกาชุนอยู่ในเมืองนี้ ทั้งหมดต้องโทษ แม่ทัพรอบตัวเขา
ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะฆ่าแม่ทัพเหล่านี้
แต่เขายังต้องการใช้พวกมันอยู่
ชูหยี ได้สูดลมหายใจเข้าลึกและตะโกนออกมา”สั่งถอยทัพ!”
เขาได้บอกให้คนของเขาไปส่งข้อความถอยทัพเขารู้แล้วว่าตอนนี้ไม่สามารถยึดหุบเขาหยางผิงได้อีกต่อไป การถอยจึงเป็นตัวเลือกเดียว
เมื่อ คนที่อยู่บนกำแพงเมืองล่าถอยออกไป คนที่กำลังต่อสู้อยู่ก็รู้ว่าพวกเขาได้ถูกทอดทิ้งพวกเขาได้สูญเสียจิตวิญญาณต่อสู้และถูก เกาชุน และ ค่ายกลยุทธ์สังหาร
“กองทัพทั้งหมดฟังคำสั่ง ให้ส่งทัพหลังไปต้านทานกองทัพของอาณาจักรหนานหยานที่บุกมาจากทางด้านหลัง และ ส่งทัพหน้าไปต้านทานทัพทหารม้าของหุบเขาหยางผิง จากนั้นให้ทัพกลางถอนตัวโดยใช้เส้นทางตอนเหนือ และมุ่งหน้าไปยังเมืองทางตอนเหนือ!”
หลังจาก ชูหยี สั่งถอยทัพ เขาก็ออกคำสั่งต่อไปทันที