MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 103
เมื่อได้ยินคำพูดของเหลียนป๋อลู่เฟิงก็ยิ้มจาง ๆ และไม่ได้ตอบกลับ
ไม่นานหลังจากทหารราบชั้นยอดหนึ่งแสนนายปฏิบัติตามคำสั่งและซุ่มโจมตีอยู่บนภูเขาขนาดใหญ่ทางด้านซ้ายของหน้าผาวิญญาณดับพวกเขาก็เฝ้ารออย่างเงียบ ๆ
ในเมืองงูหยก ราชาเมกาทรอน ได้นำกลุ่มแม่ทัพเข้าไปในคฤหาส์จ้าวเมืองตระกูลผู เพื่อเข้าร่วมสังสรรค์ภายในงานมีหญิงสาวจำนวนมากคอยบริการพวกเขา สิ่งเหล่านี้ได้ถูกจัดเตรียมโดยตระกูลผู
เพื่อทำให้ราชาเมกาทรอนและแม่ทัพของเขาพอใจ
แต่ทว่า รอบตัว ลู่เว่ย กลับไม่มีสตรีใดอยู่เลย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบ ในฐานะราชา ถ้าเขาทำตัวเหมือนกับแม่ทัพเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าจะถูกตระกูลเหล่านี้ดูหมิ่นเอางั้นเหรอ?
“ฝ่าบาท พวกเราไม่ควรส่งแม่ทัพเหล่านี้ไปอยู่ปกป้องค่ายจริง ๆ งั้นหรือ?”
คนสนิทของ ลู่เว่ย ได้เข้ามาถามเขาด้วยท่าทีน่าเป็นห่วง
“ฟ่านจุน ข้ารู้ว่าเจ้ากังวลเรื่องอะไร เจ้าลืมไปแล้วหรือไม่ว่าตอนนี้จักรพรรดิน้อยมีกำลังพลน้อยกว่าหนึ่งแสนนาย เขากล้าที่จะบุกโจมตีค่ายทหารของข้าหรือไม่ ? ในค่ายทหารมีทหารม้าหนึ่งแสนนายและทหารราบสามแสนห้าหมื่นนาย หากเขากล้าที่จะเผชิญหน้ากับข้า ข้าจะส่งให้ทหารอันน้อยนิดของมันกลับบ้านเกิดให้หมด!”
ฟ่านจุนได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจออกมา ดูเหมือนเขาจะกังวลเกินไป
ดังนั้นเขาจึงเลือกไม่พูดอะไรอีก
อย่างไรก็ตาม ลู่เฟิง และ ฟ่านจุน คงไม่คิดว่า ลู่เฟิง จะเกลี้ยกล่อม เหลียนป๋อ ให้ส่งทหารมาที่นี่ได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้วก็คงไม่มีทางรู้ได้ว่าทหารของลู่เฟิงจะมาถึงที่นี่ภายในสองวัน
“ฝ่าบาท ข้าน้อยเตรียมการไว้พร้อมแล้วพวกเราสามารถสั่งการทัพม้าให้เริ่มตามแผนการได้ในทันที!”
บนภูเขาขนาดใหญ่ทางด้านซ้ายของหน้าผาวิญญาณดับ ซุนฮก ได้ยืนอยู่ข้าง ๆ ลู่เฟิง
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและมองขึ้นไปบนฟ้า ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ ตกลง ช่วงเวลากลางคืนได้มาถึง
“เหวินยื่อ จำเอาไว้ว่าอย่าให้ ทหารม้าเข้าปะทะอย่างเด็ดขาด คอยก่อกวนพวกเขาและล่อพวกเขามาเพียงเท่านั้น!”
“ขอรับ!’
เมื่อค่ำคืนมาถึง ทหารม้าผู้ภักดีของลู่เฟิง 5,000 นาย ก็ออกเดินทางทันที
ในไม่ช้าพวกเขาก็อยู่นอกค่ายทหารของราชาเมกาทรอน แม้ว่าทหารยามจะเห็นเขา แต่ทหารม้านั้นรวดเร็วอย่างมาก พวกเขาได้ยิงธนูเข้าไปในค่ายและสังหารทหารจำนวนมากจนเกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่เต็นท์ทหารหลายแห่งถูกเผามีเพียงทหารไม่กี่คนในเต็นท์เท่านั้นที่รอดชีวิต
“รานงานท่านแม่ทัพ ทหารม้าของข้าศึกบุกโจมตีค่าย!”
ในเวลานั้นเอง ผู้ช่วยแม่ทัพ คนนึงได้ตะโกนขึ้นสิ่งนี้ทำให้แม่ทัพผู้คุมค่ายรู้สึกโกรธอย่างมาก”ส่งม้ามาให้ข้า ข้าจะไล่ฆ่าคนที่มันกล้าบุกโจมตีพวกเรา!”
“ขอรับ!”
ในไม่ช้า แม่ทัพคนนี้ก็ออกไปพร้อมกับทัพม้า 50,000 นาย
ทหารม้าผู้ภักดีที่เห็นเช่นนั้นพวกเขารีบวิ่งถอยออกไปอย่างไม่ลังเล
“คิดจะหนีไปไหน!”
เมื่อเห็นเช่นนั้น แม่ทัพคนนี้ก็คำรามออกมาและไล่ล่าด้วยม้าของเขา
ทหารม้าผู้ภักดี จำคำสั่งของ ลู่เฟิง ได้ พวกเขาไม่ได้มีหน้าที่เข้าปะทะศัตรูเพียงแค่นำกลุ่มคนเหล่านี้ไปยังจุดซุ่มโจมตีของพวกเขา
ครึ่งชั่วโมงต่อมา แม่ทัพของราชาเมกาทรอนก็นำทัพม้าของเขาไปที่ด้านหน้าของหน้าผาวิญญาณดับและเขาก็เลือกที่จะหยุดลง
ถ้าเขาเป็นคนโง่เขาคงไม่ได้ขึ้นเป็นแม่ทัพของราชาเมกาทรอน
เห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะสมสำหรับการซุ่มโจมตี หากมีทหารซุ่มโจมตีสักหมื่นนายอยู่ด้านบนอย่างน้อยทหารม้าของเขาจะต้องสูญเสียอย่างหนัก
แต่จะให้เขาเลิกตามล่าทหารม้าที่บุกหยามถิ่นของพวกเขาถึงที่เขาทำไม่ได้
หลังจากคิดได้สักพักเขาก็ส่งหน่วยสอดแนมขึ้นไปตรวจสอบด้านบนภูเขา
บนภูเขา จินยี่ เหว่ยที่ดักรออยู่ก่อนแล้ว ได้สังหารหน่วยสอดแนมทั้ง 30 คน ที่ถูกส่งมา จากนั้นพวกเขาก็แกล้งปลอมตัวเป็นหน่วยสอดแนมและกลับไปรายงาน
เมื่อ ลู่เฟิง ได้รับข่าวเช่นนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็ว
หลังจากได้รับข่าวจากหน่วยสอดแนม แม่ทัพของราชาเมกาทรอนก็โบกมือขึ้นและวิ่งไปพร้อมกับทหารม้าเหล็ก 50,000 นายของเขา
บนหน้าผาวิญญาณดับที่มีพื้นที่ความกว้างอย่างน้อยห้าสิบเมตรสิ่งนี้ทำให้แผนการของลู่เฟิงประสบความสำเร็จ
การเคลื่อนไหวดักซุ่มโจมตีก็เตรียมการไว้หมดแล้ว
เมื่อทหารม้าเหล็กผ่านไปได้ครึ่งทางของหน้าผาวิญญาณดับ ลู่เฟิง ก็ชักดาบออกมาและตะโกนขึ้น”โจมตี!”
ทันใดนั้นฝนลูกศรจำนวนนับไม่ถ้วนก็เทลงมาจากด้านบน
แม่ทัพคนนี้รู้สึกตกใจอย่างมากและไม่รู้ว่าการโจมตีมาจากที่ไหน ทำไมหน่วยสอดแนมที่เขาส่งไปถึงไม่รู้ข่าวถึงการซุ่มโจมตี?
ในเวลานี้เขาไม่สนใจอะไรและตะโกนขึ้น”หลบหนี,ทหารทุกนายถอนทัพ!”
เขารู้ว่าถ้าหยุดตอนนี้จะกลายเป็นเป้านิ่งให้อีกฝ่ายยิง
อย่างไรก็ตาม ซุนฮก และ เหลียนป๋อ จะไม่คิดถึงปัญหานี้ได้อย่างไร
ในช่วงเวลาที่ทหารเหล่านี้แตกทัพ ทหารม้าเหล็ก 5,000 นายก็กระโดดออกมาและใช้ธนูยิงใส่ทหารที่หลบหนีไปเหล่านั้น
ท่ามกลางความแตกตื่นจำนวนมากฝนลูกศรได้เทลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน
ร่างของทหารจำนวนมากได้นอนจมกองเลือดภายในป่าแห่งนี้
เหลียนป๋อ ได้นำทหารราบชั้นยอดของเขา พุ่งตรงไปจัดการทหารที่ยังเหลือรอดอยู่ ส่วนทหารที่จะกลับไปรายงานค่ายก็ถูกยิงดับด้วยเกาทันฑ์
ความหวังในการมีชีวิตรอดของทหารเหล่านี้ได้มอดดับลง
การต่อสู้ได้ดำเนินต่อเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ และ จบลงในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ทหารม้าห้าหมื่นนายที่ถูกนำทัพมาได้กลายเป็นศพทันที
เหลียนป๋อ ได้สั่งให้ทหารของเขาทำความสะอาดสนามรบ
“ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่า ถ้าราชาเมกาทรอนรู้เรื่องนี้เขาคงจะต้องปวดใจมากอย่างแน่นอน!”หลังจากการต่อสู้จบลง ซุนฮก ได้มองไปที่ ลู่เฟิง และยิ้ม
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย”ความเสียใจแค่นนี้มันยังไม่เพียงพอ!”
“โอ้ว,หรือว่าฝ่าบาทมีแผนการอื่น?”
“เจ้าจะได้รู้เร็ว ๆ นี้!”
ลู่เฟิง ขอให้ จินยี่้เหว่ย สองสามคนที่ติดตามเขาส่งมอบปากกาและหมึกเขียนจดหมายจากนั้นเขาก็สั่งให้คนของเขาไปมอบจดหมายนี้ให้กับลุงของเขาราชาเมกาทรอนลู่เว่ยในเช้าตรู่ของวันถัดไป!