MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 121
เกาชุนได้มาถึงอย่างรวดเร็ว
“ถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!”เกาชุนได้คุกเข่าลงข้างหนึ่ง
ลู่เฟิง ได้โบกมือ”ไม่จำเป็นต้องสุภาพ!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”เกาชุนได้ลุกขึ้นยืน
ลู่เฟิงมองไปที่เกาชุนและครุ่นคิดเล็กน้อย”เกาชุน ข้ามีเรื่องอยากจะสอบถามเจ้า ข้าจะให้กองกำลังกับเจ้า 200,000 นาย เจ้าจะสามารถปราบปรามทหาร 950,000 นาย ที่ถูกคุมตัวไว้ในค่ายได้หรือไม่?”
เกาชุนได้ตอบกลับอย่างไม่ลังเล”ฝ่าบาท ข้าน้อยไม่ต้องการทัพ 200,000 นาย เพียงแค่ 150,000 นายก็เพียงพอแล้วขอรับ!”
ลู่เฟิงผงะไปเล็กน้อยและกล่าวถาม”เกาชุน นี่คือทหารที่มากกว่า 950,000 นาย เจ้าแน่ใจนะว่าจะสามารถคุมตัวพวกเขาไว้ได้?”
“ฝ่าบาท ไม่ต้องกังวล หากข้าน้อยไม่มั่นใจก็คงไม่มีหน้ากล้าสู้พระองค์!”เกาชุนตอบกลับ
ลู่เฟิงมองไปที่ เกาชุน ที่รู้สึกมั่นใจตัวเองก่อนที่เขาจะตอบกลับ”เกาชุน ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อใจเจ้า แต่ข้าต้องการรู้ว่าเจ้าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง”
“ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดจะจัดการให้คนเหล่านี้ไปอยู่ในค่ายทั้งหมด คนเหล่านี้ ไม่มีแม่ทัพคอยสั่งการ และ ทั้งยังเป็นทหารจากอาณาจักรหนานหยาน หากไม่ถูกยุยงก็คงไม่คิดจะก่อการกบฏอย่างแน่นอน ดังนั้นจำนวนคนแค่ 150,000 คนก็เพียงพอแล้ว!”เกาชุนตอบกลับอย่างไม่ลังเล
เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินดังนั้น เขาก็พยักหน้าอย่างลับ ๆ หากทหารทั้งหมดถูกคุมขังอยู่ในที่เดียวกันมันก็ยิ่งง่ายที่จะจัดการ ยิ่งโดยที่พวกเขาไม่มีผู้นำอยู่แล้วธรรมชาติพวกเขาจะไม่ก่อการกบฏ
เมื่อเปรียบเทียบกับฉินในเวลานั้นดูเหมือนว่าจะมีความแตกต่างอย่างมาก ไป่ฉี ได้เผชิญหน้ากับ ผู้คนของรัฐจ้าว มันไม่ใช่คนของประเทศตัวเองและมันยากที่จะจัดการ แต่สำหรับ พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับคนของอาณาจักรหนานหยาน โดยพื้นฐานแล้วสมควรเป็นอย่างที่เกาชุนพูด หากปราศจากผู้นำ มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะก่อการกบฏ
จากนั้นเขาก็มองไปที่เกาชุนและพูดขึ้น”เอาล่ะ แม้ว่าเจ้าจะมั่นใจในทหาร 150,000 นาย แต่ข้าจะมอบกองทัพ 200,000 นายให้กับเจ้า และ ข้าหวังว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นภายหลังเข้าใจหรือไม่”
“ข้าน้อยให้สัญญาว่าจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!”เกาชุน เข้าใจถึงความสำคัญของเรื่องนี้ หากกองทัพ 950,000 นายก่อการกบฏ มันจะทำให้ผลลัพธ์ทั้งหมดของการต่อสู้กลายเป็นสูญและพวกเขาจะเผชิญหน้ากับหายนะ
ดังนั้นเกาชุนไม่ยืนกรานจะรับเพียงแค่ทหาร 150,000 นายอีกต่อไป
หลังจากที่ ลู่เฟิง จัดการฝั่งเกาชุนเสร็จแล้ว เขาก็ออกเดินทางพร้อมกับกองทัพที่เหลือ 400,000 นาย และ ทหารม้า 30,000 นาย
ในบรรดาทหารม้า 30,000 นาย มีทหารม้าผู้ภักดี หนึ่งหมื่นนาย และ อีกสองหมื่นเป็นอดีตทหารที่อยู่ภายใต้คำสั่งของ ลิโป้
ลู่เฟิง ได้ส่ง ทหารม้าที่เหลือให้กับเกาชุนทั้งหมด
หากมีทหารม้าอยู่ในมือ แม้จะเกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ก็ย่อมสามารถแก้ไขปัญหาได้ ท้ายที่สุดแล้ว ก็ยังมีทหารม้าผู้ภักดีกว่าหมื่นนายอยู่ข้างใน
“ฝ่าบาท จากที่นี่ไปยังเมือง ฉิวซาน หากพวกเราเดินทางเต็มอัตราคงจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน แต่ข้าน้อยแนะนำว่าพวกเราไม่ควรเร่งรีบเกินไป หากเป็นเช่นนั้นพวกเราจะใช้เวลาเดินทาง 3 วัน ด้วยวิธีนี้จะทำให้ทหารของเราไม่เหนื่อยมากและพร้อมที่จะบุกโจมตีทันที!”ซุนฮก ได้กล่าวแนะนำ ลู่เฟิง
การเร่งรีบเพื่อผลลัพธ์อาจไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป ดังนั้นพวกเขาจะต้องสำรองพลังกายไว้เผื่อบุกโจมตีเมือง
ลู่เฟิงพยักหน้า”อืม,เจ้าลงไปจัดการทันที!”
“ขอรับฝ่าบาท!”
…
อีกด้านหนึ่ง เหลียนป๋อ ที่เดินทัพผ่านทางน้ำที่มาพร้อมกับกองทัพ 100,000 นาย เพียงใช้เวลาหนึ่งวันก็มาถึงเมืองเสี่ยวหลิงตู่ในตอนกลางคืนของอีกวันหนึ่ง
“ท่านแม่ทัพ กองกำลังป้องกันที่เมือง เสี่ยวหลิงตู่ น่าจะยังไม่พบพวกเรา หากพวกเราโจมตีเมืองตอนนี้ คาดว่าจะสามารถยึดเมืองเสี่ยวหลิงตู่ ได้ด้วยความประหลาดใจ!”รองแม่ทัพของเหลียนป๋อได้กล่าวพูดขึ้น
“จริงด้วย ท่านแม่ทัพ สั่งให้พวกเราปิดล้อมเมืองเลยเถอะ ข้าน้อยคิดว่าพวกเราจะต้องทำได้อย่างแน่นอน!”รองแม่ทัพอีกคนได้ตอบกลับ
เหลียนป๋อ ไม่ได้ตอบ แต่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือและมองไปที่ เมืองเสี่ยวหลิงตู่ ที่อยู่ไม่ไกลจากสายตาของเขา
หากเขาบุกโจมตีเมืองในตอนมืดเช่นนี้ โอกาสที่ศัตรูจะพบพวกเขามีเปอเซ็นต์น้อยมากและมีโอกาสสูงที่พวกเขาะจสามารถยึดเมืองได้สำเร็จ
แต่ทว่า กองทัพของ ลู่เฟิง ยังมาไม่ถึง หากเขาเข้าไปยึดเมือง เสี่ยวหลิงตู่ตอนนี้ และ เกิดล้มเหลวขึ้นมา มันจะเป็นปัญหาอย่างมาก
ในเวลานั้นกองทัพของ เมืองฉิวซาน และ เมืองเสี่ยวหลิงตู่ จะมีกองทัพอย่างน้อย 600,000 นาย และ หาก ลู่เฟิง คิดจะโจมตีเมือง ฉิวซาน มันก้คงเป็นเรื่องยาก!
หลังจากครุ่นคิดอยู่พักนึงเหลียนป๋อก็สั่นศีรษะ”พวกเราไม่สามารถโจมตีเมืองได้ในตอนนี้ มันจะเป็นการทำลายแผนการของฝ่าบาท เราจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้รับมา ปิดล้อมเมืองและถ่วงเวลาเมืองเสี่ยวหลิงตู่เอาไว้!”
ผู้แทนหลายคนไม่ค่อยเต็มใจ แต่ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาพวกเขามีแต่ต้องรับฟัง
เช้าวันรุ่งขึ้น แม่ทัพ กานฉวน ผู้พิทักษ์เมืองเสี่ยวหลิงตู่ ได้รับรายงานจากผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาว่า มีเรือรบของศัตรูจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นที่แม่น้ำงูหยก เขารู้สึกตกใจและรีบมุ่งหน้าไปที่กำแพงทันที
เมื่อมองไปที่เรือรบ การแสดงออกของ กานฉวนก็เปลี่ยนไป
เขารู้จักเรือรบประเภทนี้ เรือแต่ละลำสามารถจุทหารได้มากกว่า 3,000 นาย และ บนเรือรบที่อยู่ข้างหน้าของเขาตอนนี้ มีไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยลำอย่างแน่นอน กล่าวอีกนัยนึงคือมีทหารอย่างน้อย 300,000 คนที่นี่
“เป็นเหลียนป๋อ เขาส่งทหารมาที่นี่จริง ๆ เป็นไปได้หรือไม่ว่ามันคิดจะบุกโจมตีเมืองหลังจากที่ฝ่าบาทสิ้นพระชนม์?”ใบหน้าของ กานฉวน ได้น่าเกลียดอย่างมาก
กานฉวน คิดว่า เหลียนป๋อ มีทัพ 300,000 นาย อันที่จริงมีเพียง 100,000 นายเท่านั้น เรือรบเหล่านั้นเป็นลำที่ว่างเปล่าหลายลำ
อย่างไรก็ตาม เสี่ยวหลิงตู่ ไม่มีเรือรบ เขาจึงไม่สามารถร่องเรือออกไปตรวจสอบความจริงนี้ได้
“ท่านแม่ทัพพวกเราจะทำยังไงกันต่อ?”รองแม่ทัพที่อยู่ข้าง ๆ ได้กล่าวถาม
“หึ กะอีแค่ทัพ 300,000 นาย หากคิดจะทำลายเมืองเสี่ยวหลิงตู่ของข้า ที่มีกองทัพคุ้มกัน 600,000 นาย คงเป็นได้แค่เรื่องเพ้อฝัน ลู่เฟิง เหลียนป๋อ พวกเจ้าคิดว่า การจัดการฝ่าบาทของพวกเราได้ และ จะสามารถยึดเมืองเสี่ยวหลิงตู่นี้ได้หรือไม่ หวังสูงเกินไปแล้ว!”
“ส่งคำสั่งของข้าออกไป ให้กองทัพทั้งหมดเตรียมพร้อมสู้รบตลอดเวลา!”
“ขอรับ!”
แม่ทัพที่อยู่ข้าง ๆ รีบตอบรับคำสั่งของ กานฉวน และ รีบไปเตรียมตัวทันที
และ กานฉวน ก็มองไปที่เรือรบที่อยู่ในแม่น้ำก่อนที่เขาจะบ่นพึมพัมออกมา”เหลียนป๋อ ให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้ามีประสบการณ์มากแค่ไหน!”
แน่นอนว่า เขาคิดไปเองว่า เหลียนป๋อ จะบุกยึดครองเมือง แต่จริง ๆ แล้ว เหลียนป๋อ ไม่ได้วางแผนจะต่อสู้เลย
การแสดงของ เหลียนป๋อ เป็นการกดดันศัตรูทางจิตวิทยา เขาสั่งให้เรือรบเข้าใกล้และทำให้ดูเหมือนว่าพยายามจะโจมตีเมือง เสี่ยวหลิงตู่
หลังจากที่ กองกำลังของภายในเมือง เสี่ยวหลิงตู่ ยิงลูกศรออกมา พวกเขาก็ถอยกลับไปทันที ทำให้ กองทัพภายในเมือง เสี่ยวหลิงตู่ รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเพราะคิดว่าสามารถขับไล่กองทัพของ เหลียนป๋อ ได้
ในตอนกลางคืน เหลียนป๋อ ไม่ลืมสิ่งที่เขาควรจะทำ เขาส่งทหารชั้นยอดห้าพันนายไปโจมตีค่ายในความมืดหลังจากถูกขัดขวางหรือเริ่มถูกตอบโต้กลับก็ถอยทันที
ในสายตาของแม่ทัพคนอื่น ๆ พวกเขาพยายามปกป้องการโจมตีทั้งหมดโดยไม่สนใจสิ่งใด เพราะยังไงก็ตาม เหลียนป๋อ ก็ยังเป็นแม่ทัพมากประสบการณ์พวกเขาไม่สามารถประมาทได้
สองวันต่อมา ลู่เฟิง ได้นำทัพไปถึงสถานที่ไม่ไกลจากเมืองฉิวซาน
“ฝ่าบาท มีข่าวจากจินยี่เหว่ย เป็นอย่างที่พวกเราคาดการณ์ดเอาไว้ กองทหารประจำเมืองฉิวซานได้ค้นพบพวกเรา และ ตอนนี้ กองทัพทั้งหมดของพวกเขาได้ปิดกั้นประตูเมืองและวางแผนที่จะปกป้องเมือง”
“แม่ทัพใหญ่ของพวกเขาเป็นใคร?”ลู่เฟิงกล่าวถาม