MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 131
เมื่อ ฉู่ต้าเหว่ย ได้ยินสิ่งที่ เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก รวมถึงคนอื่น ๆ พูด เขาก็ยิ้มอย่างขมขื่นในใจ เขาไม่กล้าออกตัวแทน จิ้งซือหรง
สิ่งที่เขากังวลที่สุดก็เกิดขึ้น
หากเปลี่ยนอีกฝ่ายเป็น กานฉวน และ มีกองทัพ 600,000 นาย อยู่ในมือ ก็อาจจะพอเป็นไปได้ แต่นี่มีเพียงแค่ 50,000 คน ในมือ และ ยังต้องการทดสอบความกล้าหาญของจักรพรรดิ นี่อีกฝ่ายใช่กำลังมองหาความตายอยู่หรือไม่?
เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินสิ่งที่ เจี๋ยสวี่ และ คนอื่น ๆ คิดเขาก็หัวเราะออกมา”เหวินเหอ,เหวินยื่อ เฟิงเชี่ยน พวกเจ้ารู้อะไรไหม ปฏิกิริยาแรกที่ข้าได้ยินข่าวก็คือการเห็นด้วย ถ้า จิ้งซือหรง มีความสามารถมากพอ ข้าก็ยินดีที่จะลองให้เขาทดสอบความกล้าหาญของข้าเพียงแต่…”
การแสดงออกของลู่เฟิง ค่อย ๆ เย็นชาลง”ความกล้าหาญของข้าไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ จะทำให้ขุ่นเคืองได้ ถ้าเขาคิดว่าตนเองมีความสามารถมากพอ ก็ให้ใช้ความสามารถของเขาช่วยเหลือ กานฉวน ในการสกัดกั้นกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของข้า!”
หากไม่มีระบบอัญเชิญบางที ลู่เฟิง อาจยอมทำสิ่งที่อันตรายเพื่อตัวของเขา สำหรับการดึงคนที่มีความสามารถมาก อย่างไรก็ตาม ระบบอัญเชิญของเขาสามารถทำให้เขาเรียก ข้าราชการ หรือ แม่ทัพชาวจีน ที่มีความสามารถในอดีตออกมาได้ เพียงแค่ ชายคนนึงที่มีกองทหาร 50,000 นายในกำมือ จะสามารถไปเปรียบเทียบกับแม่ทัพที่มีชื่อเสียงในอดีตหลายพันปีได้อย่างไร?
แน่นอนว่า ถ้าคุณมีพลังเท่า หานซิ่น หรือ หลี่จิง ก็ว่าไปอย่าง เกี่ยวกับเรื่องนี้บางทีเขาอาจจะสามารถไว้หน้าได้บ้าง แต่ไม่ใช่กับเจ้า จิ้งซือหร้ง
นายคิดว่าถ้าฉันได้นายมาเป็นพรรคพวกและจะทำให้ฉันรู้สึกไร้ใครทัดเทียมในโลก?
นายมีความสามารถมากพองั้นหรือ?
“ฝ่าบาท!”
หลายคนได้ถอนหายใจออกมา พวกเขากังวลว่า ลู่เฟิง จะทำอะไรบางอย่างที่ดูหมิ่นความสง่างามของจักรพรรดิ
ฉู่ต้าเหว่ย ได้ยินก็ถอนหายใจออกมา จิ้งซือหรง หน่อ จิ้งซือหรง เจ้าเป็นคนฉลาด แต่ในวันธรรมดาเช่นนี้ กลับทำตัวอย่างโง่เขลา
“ฉู่ต้าเหว่ย!”
“ขอรับ!”
“นำคำพูดของข้าไปบอกต่อ จิ้งซือหรง ว่าข้าให้โอกาสเขายอมจำนน หรือไม่ ก็ให้ใช้ความสามารถของเขาช่วยเหลือกานฉวนในการปิดกั้นกองทัพขนาดใหญ่ของข้า!”ลู่เฟิง ตอบกลับ
“ข้าน้อยจะทำตามคำสั่งทันที!”
ฉู่ต้าเหว่ย ได้ยิ้มอย่างขมขื่น จิ้งซือหรง คำพูดของเจ้าถือว่าเป็นการตัดอนาคตที่สดใสที่รออยู่ข้างหน้า
เขาได้ออกไปและไปพบกับ จิ้งซือหรง ทันที
“ระบบ,ฉู่ต้าเหว่ย ไม่ใช่คนที่ฉันเรียกออกมา แต่ฉันสามารถมองเห็นความภักดีของเขาได้หรือไม่?”ลู่เฟิง กล่าวถามระบบ
“สามารถทำได้!”
“เอาล่ะ แสดงความภักดีของ ฉู่ต้าเหว่ย ให้ฉันเห็นหน่อย!”
ในไม่ช้า ความภักดีของ ฉู่ต้าเหว่ย ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของ ลู่เฟิง มันสูงถึง 95 แต้ม!
“ดูเหมือนว่า ฉู่ต้าเหว่ย คนนี้ จะกลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้จริง ๆ “ลู่เฟิง ได้ครุ่นคิดเล็กน้อย
“ฝ่าบาท ข้าน้อยมีแผนที่จะทำลายค่ายซีเหมิน!”ในขณะนี้ เจี๋ยสวี่ ได้ลุกขึ้นยืนและกล่าวตอบ
ในเวลาเดียวกัน ซุนฮก ก็กำลังจะก้าวไปข้างหน้า แต่เมื่้อเห็น เจี๋ยสวี่ พูดแล้ว เขาก็ถอยห่างออกไป
“เหวินเหอ,เหวินยื่อ พวกเจ้าสามารถพูดเกี่ยวกับความคิดของเจ้าออกมาได้ ให้ข้าดูว่าพวกเจ้ามีกลยุทธ์ดี ๆ อะไร”ลู่เฟิง ที่เห็น การเคลื่อนไหวของ ซุนฮก เขาได้กล่าวพูดกับทั้งสองคน
“เช่นนั้นให้ เหวินเหอ พูดก่อนเถอะพะยะค่ะ!”ซุนฮก ตอบกลับ
ลู่เฟิง พยักหน้าและมองไปที่ เจี๋ยสวี่”เหวินเหอ บอกความคิดของเจ้ามา!”
เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ”ฝ่าบาท พวกเราสามารถหาทางบอกกับ กานเหิง และ ยามของค่ายประตูทิศตะวันตกได้ว่า จิ้งซือหรง เตรียมจะนำกองทัพของเขาไปมอบตัวต่อฝ่าบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำงูหยก!”
ลู่เฟิง ได้ขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวถาม”เจ้าคิดจะปล่อยให้ กานเหิง จัดการกับ จิ้งซือหรง ให้พวกเขาขัดแย้งกันเอง และ ใช้โอกาสนี้ในการโจมตีค่ายใช่หรือไม่?”
เจี๋ยสวี่ ได้สั่นศีรษะและตอบกลับ”ฝ่าบาท อาจจะยังไม่รู้ กานเหิง ไม่ใช่คนที่ฉลาดนัก ที่เขาสามารถไต่เต้ามาถึงตำแหน่งปัจจุบันได้ เป็นเพราะบิดาของเขา กานฉวน เขาต้องการพิสูจน์ความสามารถของตนเองมาโดยตลอด ถ้าเขาได้รับข่าวว่า จิ้งซือหรง จะทรยศ เขาจะไม่จัดการ จิ้งซือหรง แต่ จะพุ่งเป้าไปที่ฝ่าบาทโดยตรง!”
“ถ้าให้ข้าเดา เขาจะต้องวางกำลังซุ่มโจมตีที่ริมฝั่งแม่น้ำงูหยก ตั้งแต่เนิ่น ๆ รอให้ฝ่าบาทไปถึง ความคิดของข้าคือให้ จิ้งซือหรง เป็นตัวล่อ ให้อีกฝ่ายเคลื่อนไหว หลังจากอีกฝ่ายนำกองทัพออกจากค่าย พวกเราจะสามารถเข้าชาร์จและบุกยึดค่ายประตูตะวันตกได้”
ซุนฮก เองก็พยักหน้า”ฝ่าบาท ข้าน้อยก็มีความคิดนี้เช่นเดียวกัน!”
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและตอบกลับ”เอาล่ะ เข้าใจแล้ว เหวินเหอ เจ้าลงไปจัดการเรื่องนี้ทันที!”
แผนที่เรียบง่ายเกินไปย่อมง่ายที่จะถูกตรวจสอบ
แต่ทว่านั่นมันใช้ได้กับคนที่มีความเหลื่อมล้ำทางความคิดสูง และ ถ้าแผนนี้ประสบความสำเร็จ ค่ายก็จะแตกทันที ถ้าไม่ กานเหิง และ กองทัพ ก็จะอยู่ในค่ายเหมือนเดิม และ สิ่งที่พวกเขาคิดก็จะไม่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม แผนของ เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ในขนาดนี้ ก็อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการเมืองเสี่ยวหลิงตู่
“ขอรับ!”
เจี๋ยสวี่ รีบลงไปจัดการทันที
ทางฝั่งของ ฉู่ต้าเหว่ย เขาได้มาถึงเต็นท์ทหารของ จิ้งซือหรง อย่างรวดเร็ว และ บอกข่าวที่ได้รับมาจากนั้นก็หันหลังจากไปโดยไม่สนใจสิ่งใด
จิ้งซือหรง ที่ภาคภูมิใจตัวเอง เขายังคงช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ในฐานะ เพื่อน ฉู่ต้าเหว่ย เขาได้พูดไปหมดแล้ว แต่ ถ้า จิ้งซือหรง ทำเป็นมองไม่เห็น สุดก็แล้วแต่เขาจะตัดสินใจแล้ว
เมื่อ ฉู่ต้าเหว่ย จากไป จิ้งซือหรง ยังคงนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว
ไม่ใช่ว่า เขาไม่เห็น จักรพรรดิลู่เฟิง ในสายตา แต่เขาต้องการแสดงความสามารถของตนเอง ให้ ลู่เฟิงเห็น เพื่อที่ลู่เฟิง จะได้เห็นคุณค่าของเขาและมอบตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีให้
เท่านี้ เขาอาจกระทั่งเป็นคนในราชสำนักเลยก็เป็นได้
และวิธีที่ดีที่สุดของเขาก็คือการทำให้ กานเหิง ถูกฆ่า เขาได้คิดหาวิธีเกลี้ยกล่อมให้ กานเหิง ออกจากค่ายแล้วค่อยฆ่า
แต่เขาไม่คิดเลยว่า จักรพรรดิลู่เฟิง จะไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา เพียงแค่ แม่ทัพกองกำลัง 50,000 นาย จะทำให้ จักรพรรดิหันมาสนใจและมอบความไว้ใจได้อย่างไร
เขาไม่มีแม้แต่จะโอกาสด้วยซ้ำ
ให้เขาใช้ทักษะของตัวเองเพื่อต่อต้านกองทัพของลู่เฟิง ? แน่นอนว่า เขาสามารถช่วยเหลือ กานฉวน ที่มีกองทัพจำนวนมากอยู่ได้
แต่ประเด็นสำคัญก็คือ เขาจะสามารถช่วยเหลือ กานฉวน ให้ต่อต้าน กองทัพของ ลู่เฟิง ได้อย่างไร
คำพูดเหล่านี้บ่งบอกทัศนคติของลู่เฟิงที่มีต่อเขาแล้ว : เขาไม่ต้องการคุณ!
หลังจากที่ จิ้งซือหรง เข้าใจ เขาก็กล่าวพูดออกมาอย่างเย็นชา”ลู่เฟิง รอก่อนเถอะ สักวันข้าจะทำให้เจ้าเสียใจกับการกระทำของเจ้าในวันนี้!”
หากลู่เฟิงได้ยินสิ่งนี้…
เขาคงจะหัวเราะและไม่คิดว่า จิ้งซือหรง จะทำให้เขาเสียใจได้
ในอีกด้านหนึ่ง กานเหิง ได้รับข่าวจาก เจี๋ยสวี่ ที่ให้ คนไปส่งข่าว ว่า จิ้งซือหรง กำลังจะนำกองทหารไปมอบตัวต่อจักรพรรดิลู่เฟิง
เขารีบเรียกคนสนิทของเขาทั้งสองมา
“พวกเจ้าบอกข้ามาสิ ว่าข้าควรจะทำอย่างไร ควรจะส่งกองกำลังออกไปสังหาร จิ้งซือหรง ดีหรือไม่?”กานเหิง ได้กล่าวพูดอย่างเย็นชา
“ข้าน้อยคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องทำเช่นนั้น!”
ลูกน้องทั้งสองคนได้ตอบกลับอย่างรวดเร็ว
“ทำไมล่ะ?”