MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 150
“โอ้ว,เป็นข้อเสนอที่ไม่เลว!”
ลู่เฟิงมองไปที่ผู้นำตระกูลซูด้วยรอยยิ้ม”ปันส่วนข้าวให้กองทัพล้านตัน และ ทองคำหนึ่งล้านเหรียญ เจ้าใจกว้างมิใช่น้อย!”
ผู้นำตระกูลซู รู้สึกดีใจมาก เขารีบพูดต่อ”ฝ่าบาท ข้าน้อยจะรีบไปแจ้งให้สมาชิกในตระกูลทำการส่งมอบของโดยเร็วที่สุด!’
ลู่เฟิง หยิบจดหมายฉบับหนึ่งขึ้นมาอ่าน”ตระกูลซู นับตั้งแต่ที่ ราชาเมกาทรอน ปกครองเมืองฉิวซาน เขาได้ส่งมอบทองคำทั้งหมด 130 ล้านเหรียญ และ ข้าว 50 ล้านตัน ยังมีอาวุธทางการทหารอีกนับไม่ถ้วน”
ตุบ!
เมื่อได้ยินสิ่งเหล่านี้ ผู้นำตระกูลซู ตัวสั่นจนล้มลงไป ฝ่าบาท รู้เรื่องที่ผ่านมาหลายปีเช่นนี้ได้อย่างไร ทั้งยังเป็นตัวเลขที่เจาะจงอย่างมาก!
มันเป็นใคร?ใครกันที่ทรยศและขายข่าวเหล่านี้ มันเป็นใคร?
แต่เขาไม่มีเวลาคิด ลู่เฟิง ก็ได้พูดต่อ”ผู้นำตระกูลซู เจ้าเก่งมากจริง ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลับช่วยเหลือ ส่งมอบทองคำให้ ราชาเมกาทรอน มากกว่า 100 ล้านเหรียญ อีกทั้งยังมี ปันส่วนข้าวมากกว่า 50 ล้านตัน แต่เจ้ากลับมอบให้ข้าอย่างละล้าน เจ้ากำลังดูถูกข้าอยู่หรือไม่?”
“ฝ่าบาท ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยมิกล้า!”
ผู้นำตระกูลซู รีบ ตอบกลับ”ข้าน้อยยินดี จะ บริจาคทองคำร้อยล้านและปันส่วนข้าวสิบล้านตัน ขอเพียงฝ่าบาทโปรดละเว้นตระกูลซูของข้า”
“ทองคำ 500 ล้าน ปันส่วนข้าว 50 ล้านตัน นี่คือเงื่อนไขของข้า!”
ลู่เฟิง มองไปที่ ผู้นำตระกูลซู อย่างเย็นชา และตอบกลับ”ข้าให้เวลาเจ้าห้าวันในการส่งมอบของเหล่านี้ เดิม ตระกูลซู ที่คิดวางแผนก่อกบฏร่วมกับราชาเมกาทรอน ไม่สมควรมีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่ข้าจะละเว้นให้ แน่นอนว่าถ้าเจ้าทำไม่สำเร็จ มันก็ไม่มีความหมายที่จะเก็บตระกูลซูทิ้งไว้ในอาณาจักร!”
“ฝ่าบาทได้โปรดละเว้น ตระกูลซู ของข้าไม่สามารถจ่ายปันส่วนหนักขนาดนั้นได้ ได้โปรดพิจารณาอีกครั้ง!”ผู้นำตระกูลซู ได้ร้องไห้และกล่าวขอร้อง
“อืม…เช่นนั้นข้าจะให้ จินยี่เหว่ย และ ทาสดาบทั้งหมด เยี่ยมบ้านของเจ้าสักหน่อย!”
ลู่เฟิง ได้กล่าวพูดอย่างเย็นชา”ทาสดาบทั้งหก!”
“พวกเราอยู่ที่นี่แล้วขอรับ!’
ทาสดาบทั้งหกได้ปรากฏตัวขึ้นในห้องศึกษาของจักรพรรดิ
“พวกเจ้ารู้ใช่ไหมว่าควรทำอย่างไร?”
“ข้าน้อยทราบแล้ว”
ชายที่สวมผ้าปิดบังหน้าครึ่งนึง เฉินกัง ได้จ้องมองไปที่ ผู้นำตระกูลซู อย่างเย็นชา เขากำลังจะจากไปพร้อมกับสมาชิกที่เหลือ
“ฝ่าบาท รอก่อนพะยะค่ะ ข้าน้อยจะจ่าย ข้าน้อยยินดีจะจ่ายแล้ว!”
ทุกวันนี้ชื่อเสียงของทาสดาบทั้งหก สามารถเรียกได้ว่าดังก้องไปทั่วราชอาณาจักร เพราะพวกเขานำจินยี่เหว่ย ไปทำลายสองตระกูลใหญ่ของอาณาจักร!
ลู่เฟิง มองไปที่ ผู้นำตระกูลซู ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
สิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ตัวเลขสุ่ม แต่มันเป็นการประเมินหลังจากตรวจสอบสิ่งของจากตระกูลหยานและตระกูลเถา
ทั้งตระกูลหยานและตระกูลเถามีทองคำเกือบหนึ่งพันล้านและปันส่วนข้าวมากกว่า 100 ล้านตัน!
เนื่องจากตระกูลเหล่านี้ สมคบคิดกับ ราชาเมกาทรอน ก่อนหน้านี้ เขายังจะปล่อยอีกฝ่ายไปเฉย ๆ หรือไม่?
ผู้นำตระกูลอีกสองคนที่เหลือ พวกเขา ได้ยอมรับเงื่อนไขเดียวกับผู้นำตระกูลซู และ ยินดีจ่ายพวกมัน
ลู่เฟิง ขอให้ ทาสดาบทั้งหก คอยตรวจสอบพวกเขา และ ให้จินยี่เหว่ย คอยระวังอย่างลับ ๆ
“ฝ่าบาท ท่านเสนาบดีซุนฮก ต้องการเข้าเฝ้าพระองค์!”ทันใดนั้น ขีนทีเสี่ยวฮายฉี ก็ได้กล่าวพูดขึ้น
“เข้ามา!”
ซุนฮก ได้เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วพร้อมกับทำความเคารพ”ถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน”
ลู่เฟิง ได้โบกมือเชิญให้ซุนฮกนั่งลงและกล่าวถาม”เหวินยื่อ กองทัพ สามารถทำศึกได้เพิ่มแค่ไหนถ้าเงินและอาหารเหล่านี้ถูกส่งไปเพิ่มให้พวกเขา?”
รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของซุนฮก”ฝ่าบาท เงิน และ อาหารของพวกเขาเพียงพอที่จะสนับสนุนกองทัพเป็นเวลาหนึ่งปี!”
ลู่เฟิง ถอนหายใจออกมา”ดูเหมือนปัญหาใหญ่ที่สุดจะสามารถแก้ไขได้แล้ว!”
“ขอรับ ข้าน้อยไม่คิดเลยว่า ตระกูลเหล่านี้ จะกินจนอ้วนฉุแบบนี้ โดยพื้นฐานแล้วสิ่งของของพวกเขารวมกันเท่ากับรายได้ของคลังหลวงตลอดร้อยปีที่ผ่านมา”ซุนฮก ถอนหายใจเล็กน้อย
“หึ่ม,ตระกูลเหล่านี้เต็มไปด้วยไขมันจริง ๆ นั่นแหล่ะ!”
ลู่เฟิง ยิ้มออกมา”ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเราจะได้เตรียมเเผนการล้านหนี้เลือดแล้ว!”
ซุนฮก มองไปที่ ลู่เฟิง และตอบกลับ”ฝ่าบาท พวกเรายังคงมีปัญหาบางอย่างที่ต้องได้รับการแก้ไขตอนนี้!”
“ปัญหาอะไร?”
“กองทัพทหาร 300,000 นาย ของอาณาจักรซีหยาง!”ซุนฮก มองไปที่ ลู่เฟิง และตอบกลับ”ทหารเหล่านี้มีจำนวนมากหากเราไม่จัดการแก้ไขปัญหา จะยิ่งเป็นปัญหาหนักมากกว่าเดิม ยิ่งไปกว่านั้น สมาชิกราชวงศ์ของอาณาจักรซีหยาง ก็ถูกส่งมาที่เมืองหลวง หากพระองค์ไม่รีบแก้ไข เกรงว่าจะมีปัญหาบานปลาย!”
“ราชวงศ์ของอาณาจักรซีหยาง!”
ลู่เฟิง ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ”ข้าจำได้ว่า หลายปีก่อน สมาชิกราชวงศ์ของพวกเขาต้องการแต่งงานกับข้า แต่ก็ถูกลุงของข้าราชาเมกาทรอนหยุดเอาไว้!”
“ฝ่าบาท คนคนนั้นก็คือ องค์หญิงน้อยแห่งอาณาจักรซีหยาง ชูฉี พระองค์ต้องการพบนางหรือไม่?’
“ไม่จำเป็น!”
ลู่เฟิง ได้โบกมือและตอบกลับ”ไปพาจักรพรรดิซีหยางชูจิน มาพบข้า ข้าต้องการเห็นคนผู้นี้ที่มันกล้าประกาศบุกโจมตีอาณาจักรหนานหยานของข้า!”
“ข้าน้อยจะจัดการทันที!”
“ดีมาก!”
ลู่เฟิง พยักหน้าและกล่าวถาม”สำหรับทหารสามแสนนายนั้น เหวินยื่อ เจ้ามีคำแนะนำหรือไม่?”
ซุนฮก ได้ครุ่นคิดอยู่ครู่นึงและตอบกลับ”ฝ่าบาทพวกเราสามารถใช้งานทหารสามแสนนายนี้ให้เป็นทหารของเราเองได้!”
“รับไว้ใช้เอง!”
ลู่เฟิงผงะไปชั่วครู่และกล่าวถาม”เหวินยื่อ ทหารเหล่านี้เป็นคนของอาณาจักรซีหยาง พวกเขาจะสามารถนำมาเป็นทหารของเราได้อย่างไร?”
“ฝ่าบาท พระองค์อาจจะยังไม่ทราบ ทหารส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมกองทัพ ส่วนหนึ่งก็เพื่อต้องการหาเลี้ยงปากท้องของตัวเอง และ สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง แม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นคนของอาณาจักรซีหยาง แต่ตราบเท่าที่พวกเรายื่นผลประโยชน์ให้กับพวกเขาระยะยาวพวกเขามีโอกาสที่จะภักดีต่อพวกเรา แต่…”
หลังจากหยุดชั่วครู่ ซุนฮก ก็กล่าวต่อ”การฝึกทหารเหล่านี้ จำเป็นจะต้องมี แม่ทัพที่ทรงพลังและไม่ได้อ่อนเเอในเรื่องของการจัดการ แม่ทัพเกาชุน ตอนนี้ กำลังฝึกทหาร 1.25 ล้านคน ในที่ลายลั่วซาน อยู่ เกรงว่าหากเพิ่มเข้าไปคงจะไม่เหมาะ ดังนั้นฝ่าบาท….”
ซุนฮก มองไปที่ ลู่เฟิง”ฝ่าบาท พระองค์ต้องตัดสินใจในเรื่องนี้ว่าจะส่งใครไปจัดทัพนี้!”
ลู่เฟิง ครุ่นคิดเล็กน้อย มีแม่ทัพจำนวนมากภายใต้เงื้อมมือของเขา แต่มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถฝึกทหารได้ดี เช่น เกาชุน,เหลียนป๋อ เตียวเลี้ยว และ เตียวอุ๋น
นอกจากนี้ ยังมี ลิโป้ แต่ตอนนี้ อีกฝ่าย กำลังฝึกทหารม้าอยู่ ไม่มีทางที่จะฝึกทหารราบได้
เขาคิดสักพักและกล่าวถาม”ตอนนี้ เตียวเลี้ยว อยู่ที่ไหน?”
“ข้าน้อยได้รับข่าวว่า เมื่อวานนี้ แม่ทัพเตียวเลี้ยว ได้รั้งอยู่ที่เมืองหลวงและกำลังจะออกเดินทางในวันพรุ่งนี้!”
“ส่งคนไปแจ้งให้ เตียวเลี้ยว เข้ามาพบข้าทันที!”
“ข้าน้อยจะจัดการทันที!”
ลู่เฟิงพยักหน้า
หลังจาก ซุนฮก ออกไป เจี๋ยสวี่ ก็เข้ามาพบเขา
ลู่เฟิง ได้เชิญให้อีกฝ่ายเข้ามาและกล่าวถาม”เหวินเหอ มีอะไรหรือไม่ ทำไมเจ้าถึงรีบร้อนมาหาข้า?’
“ฝ่าบาท มีเรื่องสำคัญเกิดขึ้นในอาณาจักรซีหยาง!”เจี๋ยสวี่ ตอบกลับ
“เหตุการณ์สำคัญ?”ลู่เฟิงขมวดคิ้ว”อะไรงั้นหรือ?”
“ชูหยี ได้สถาปนาตนขึ้นเป็นจักรพรรดิ!”
“ชูหยี ขึ้นเป็นจักรพรรดิ?”
ลู่เฟิง รู้สึกประหลาดใจและตอบกลับ”ชูจิน จักรพรรดิคนเก่ายังไม่สวรรคต อีกฝ่ายจะสถาปนาตนขึ้นเป็นจักรพรรดิได้อย่างไร?”
เจี๋ยสวี่ ได้พยักหน้า”เรื่องนี้เป็นความจริงไม่มีผิดพลาดแน่!”
“น่าสนใจ!”
ลู่เฟิง ได้มีรอยยิ้มบนใบหน้า ชูหยี ในประวัติศาสตร์ ก็ได้ทรยศ ฮั่นฝู และ หันไปเข้าร่วมกับ หยวนเฉา แต่เพราะความบ้าดีเดือด อีกฝ่ายจึงถูก หยวนเฉา ฆ่า
ดูเหมือนว่า สาเหตุหลักจะมาจากความทะเยอทะยานของ ชูหยี
เมื่อเขามาถึงโลกนี้ ชูหยี ก็มีสถานะเป็นถึงองค์ชายความทะเยอทะยานสูงสุดของเขาก็คือการขึ้นเป็นจักรพรรดิ