MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 191
ใบหน้าของเมิ่งเถียน เปลี่ยนไปอย่างมาก ฝ่าบาท เป็นรากฐานของอาณาจักร หากเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ย่อมส่งผลกระทบต่ออาณาจักรอย่างแน่นอน
“เร็วเข้า ระดมกองกำลังทั้งหมดโจมตีกดดันกองหลังบนกำแพงเมืองเฉียนซาน อย่าปล่อยให้พวกมันเล็งยิงฝ่าบาทได้!”
เมิ่งเถียน ได้ส่งคำสั่งไปทันที เขารู้ว่ามันสายเกินไปที่จะให้กองทัพเข้าช่วยเหลือ เขาทำได้แค่กดดันเมืองเฉียนซานจากด้านอื่น ๆ เพื่อไม่ให้กองทัพทั้งหมดลุมโจมตี ลู่เฟิง
“ท่านอัครมหาเสนาบดีเจี๋ย ท่านรีบไปช่วยฝ่าบาทเร็วเข้า!”
เมิ่งเถียน ได้ตะโกนออกมาเขารีบกระโจนออกไปก่อนที่จะเข้าไปสู่สนามรบเพื่อช่วยเหลือลู่เฟิง
เจี๋ยสวี่ เองก็ไม่ลังเลที่จะทำตาม
ในเวลานี้ ด้านหลัง ลู่เฟิง เฉินกัง และ ต้วนชุย ที่ติดตามเขามาได้กล่าวพูดขึ้น”ฝ่าบาท พระองค์รีบหนีไปจากตรงนี้เร็วเข้า พวกเราจะถ่วงเวลาพวกมันไว้เอง!”
พวกเขาทั้งสามคนได้ตกอยู่ในความโกลาหล สำหรับ ทาสดาบอีก 4 คน ที่เหลือพวกเขาได้รับบาดเจ็บจากศึกครั้งก่อนและกำลังพักรักษาตัว
ลู่เฟิง ไม่ได้ตอบ เขามองไปที่ กำแพงที่มีการรวมตัวของทหารและหัวเราะเยาะออกมา”คิดว่าแค่นี้นี้จะสามารถจัดการข้าได้งั้นเหรอ?”
“วันนี้ข้าจะแสดงให้เห็นว่า พวกเจ้าและเมืองเฉียนซาน ไม่ใช่ภัยอันตรายอะไรสำหรับข้าแม้แต่น้อย!”
เมื่อเขาพูดจบเขาก็กระโดดลอยตัวขึ้นไปบนอากาศ
“สอยมันลงมา!”
รองแม่ทัพคนนี้ที่เห็น ลู่เฟิง บินขึ้นไปบนฟ้า เขารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังจะโจมตีกำแพงเมือง
พลธนูจำนวนมากได้ใช้ลูกศรพลังปราณเล็งยิงไปที่ลู่เฟิงอย่างรวดเร็ว
“ลูกศรพลังปราณ?”
ลู่เฟิงหัวเราะเยาะออกมา เขาไม่ได้ขัดขืนแม้แต่น้อย ทันทีที่ ลู่เฟิง พลังปราณเหล่านี้มาถึงตัวของเขา โล่ที่เกิดขึ้นจาก ชุดเกราะพยัคฆ์ดำ ก็ปรากฏขึ้นและต้านทานมัน
เมื่อรองแม่ทัพคนนี้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็บ่นพึมพัมออกมา”ข่าวลือเป็นความจริง ลู่เฟิง มันมีวิธีการรับมือลูกศรพลังปราณได้!”
“ยังไงก็ตาม แม้ว่าเจ้าจะไม่เกรงกลัว ลูกศรพลังปราณแต่ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะไม่เกรงกลัวกองทัพ!”
รองแม่ทัพคนนี้หัวเราะเยาะออกมา”ทหารทุกคนฟัง ใช้พลังทั้งหมดของพวกเจ้าเพื่อจัดการ ลู่เฟิง ซะ!”
“ย๊าาา!”
ทหารทุกคนได้ตะโกนบนกำแพงเมืองจากนั้นพวกเขาก็พุ่งจิตสังหารที่แผ่แรงกดดันใส่ ลู่เฟิง
“เนตรสวรรค์!”
ดวงตาของลู่เฟิง ได้เปล่งประกายสีทอง จากนั้น พลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นก็ปกป้องร่างกายของเขา แรงกดดันจากกองทัพได้ลดลงอย่างมากจนแทบจะไม่เป็นภัยคุกคามสำหรับเขา
“นี่…เป็นไปได้ยังไง?”
รองแม่ทัพคนนี้ รู้สึกหวาดกลัวมากขึ้น ลูกศรพลังปราณเองก็ไร้ประโยชน์ มาคราวนี้ แรงกดดันทางกองทัพก็ยังใช้การไม่ได้อีก?
สิ่งนี้แม้แต่ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งก็ยังไม่สามารถทำได้ ทำไมลู่เฟิง ถึงไม่เป็นอะไรเลย?
“ข้าจะให้พวกเจ้าจดจำดาบของข้าไว้!”
ลู่เฟิง มองลงไปด้านล่าง ทุกการต่อสู้ที่ดุเดือดเดิมได้หยุดลงเพราะคำพูดของเขา ทุกคนต่างจับจ้องมองไปที่ ลู่เฟิง
“ดาบทลายภูผาและแม่น้ำ!”
คำพูดของเขาได้ดังกระจายไปทั่วทั้งสนามรบ
วินาทีต่อมากลิ่นอายพลังที่ถูกสร้างขึ้นจากปราณแท้ภายในร่างกายของเขาก็ปรากฏออกมา
ลู่เฟิง ได้วาดฟันประกายพลังเหล่านี้ลงไปที่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว
“ม่ายย!”
รองแม่ทัพคนนี้ ราวกับสัมผัสได้ถึงอันตรายเขารีบตะโกนขึ้น”สร้างรูปแบบกองทัพรวมตัวกันปิดกั้นพลังดาบนี้!”
แม้ว่า รูปแบบทางกองทัพจะสามารถระงับพลังปราณแท้จริงของผู้ฝึกยุทธ์ได้ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะช้าเกินไป
สิ่งนี้ได้เกิดขึ้นในพริบตาเดียว
ลู่เฟิง ได้เฝ้ามองดูไปที่ทหารเบื้องล่างด้วยรอยยิ้ม”หายไปซะ!”
ฟวั่บ!
พลังที่เขาปลดปล่อยออกมาได้กระทบลงบนพื้น
บึ้ม!
กำแพงเมืองของเมืองเฉียนซานได้เกิดแรงปะทะขนาดใหญ่
ตู้ม!
เศษซากปรักหักพังจำนวนมากได้ถล่มลงมาพริบตาเดียวปราการที่ตั้งตระหง่านก็กลายเป็นผุยผง
ทหารหลายหมื่นคนที่อยู่บนกำแพงได้ถูกดาบเล่มนี้ตัดเป็นชิ้น ๆ
ภายในจิตใจของลู่เฟิง เขาได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบว่าเขาได้รับค่าประสบการณ์มากกว่า 20,000 แต้ม
“นี่มัน…”
เมิ่งเถียน และ เจี๋ยสวี่ ที่รีบพุ่งออกมาหวังจะช่วยเหลือ ลู่เฟิง ได้ตกตะลึงโดยสมบูรณ์ ฝ่าบาททรงแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?
ไม่เกรงกลัวกระทั่งลูกศรพลังปราณและรูปแบบกองทัพ?
สวรรค์ เช่นนี้ใครจะหยุดยั้งพระองค์ได้?
ในบรรดาพวกเขา เจี๋ยสวี่ ล้วนตกตะลึงสุด ในฐานะข้าราชบริพารของลู่เฟิง เขาสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ถึงพลังของฝ่าบาท ที่สามารถบดทลายกำแพงเมือง ทั้งปราณแท้ที่ถูกปลดปล่อยออกมายังบริสุทธิ์อย่างมาก ทั้งยังเป็นแค่บางส่วน
นั่นหมายความว่าฝ่าบาทของเขาไม่ได้ใช้พละกำลังอย่างเต็มที่
หากฝ่าบาทใช้พละกำลังทั้งหมดจะแข็งแกร่งมากขนาดไหนกัน?
เจี๋ยสวี่ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แน่นอนว่าในฐานะข้าราชบริพารเขาก็หวังว่าฝ่าบาทของเขาจะทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป จักรพรรดิเพียงหนึ่งเดียวในใต้หล้า ก็ไม่ใช่ฝันที่เกินจริง
จางซุนหวูจี๋ เองก็มาเฝ้ามองดูศึกครั้งนี้ด้วยเขาได้ถอนหายใจออกมา”ท่านพ่อ หากท่านอยู่ที่นี่ ท่านจะได้เห็นร่างจุติของวีรชนที่แท้จริง ในใจของท่านจะไม่มีความกล้าที่จะสบประมาทเขาอย่างแน่นอน!”
ลู่เฟิง เต็มไปด้วยความตื่นเต้นในตอนนี้ หลังจากที่เขาปลดปล่อยทักษะนี้ออกมาทำให้เขารู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับเกินคาด
เดิมกองทหารกว่า 20,000 คนบนกำแพง สามารถสร้างรูปแบบกองทัพกดดันยอดฝีมือคนใดก็ได้ในขั้นปรมาจารย์ ทำให้คนผู้นั้นไม่สามารถใช้ปราณแท้ได้เท่าที่ควร
แต่ทว่า ด้วยความช่วยเหลือจาก เนตรสวรรค์ เขาสามารถเผชิญหน้ากับกองทัพ 20,000 คน ได้อย่างไม่มีปัญหาราวกับว่าเผชิญหน้ากับคนนับพัน
แม้ว่าเขาจะได้รับพลังพิเศษนี้มาแต่เขาก็คิดว่าการกดข่มทางกองทัพยังทรงพลังมากอยู่ดีแต่พอได้ลองใช้ผลลัพธ์ที่ได้กลับเกินคาดของเขา
เขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะมากขนาดนี้
และ ถ้าเกิดเป็นกองทัพ 100,000 คนล่ะ หากเขาสามารถกดพลังแรงกดดันของกองทัพนับแสนให้เหลือกองทัพนับหมื่นได้ มันจะไม่ดีกว่านี้เลยหรือยังไง กองทัพนับแสนที่มีแรงกดดันแม้แต่ยอดฝีมือขั้นราชาศักดิ์สิทธิ์ ก็ยังไม่กล้าที่เพิกเฉย
ส่วนกองทัพนับล้านล่ะ แน่นอนว่ากองทัพนับล้านย่อมสร้างแรงกดดันให้แม้แต่ยอดฝีมือขั้นจักรพรรดิ แต่ถ้าเป็นกองทัพแค่ 100,000 ก็ย่อมไม่ทรงผลอะไร
ด้วยเนตรสวรรค์ของเขาสามารถลดพลังแรงกดดันไปได้หลายส่วน
ลู่เฟิง ได้สูดลมหายใจเข้าลึกด้วยความตื่นเต้น เขาได้โบกมือและตรงกลับไปยังกองทหารม้า 500 นาย
เขาได้สั่งให้กองทหารม้าห้าร้อยนายเคลื่อนไหวเข้าไปในเมือง
มันเป็นเวลาสักพักนึงแล้วตั้งแต่เริ่มสงคราม ตอนนี้ ลิโป้ น่าจะกำลังเผชิญหน้ากับกองทัพมากมายอยู่
ลู่เฟิง กำลังจะไปสนับสนุน ลิโป้ ในตอนนี้
เพราะเขาคิดว่า ลิโป้ อาจกำลังตกอยู่ในอันตราย
เพราะแม่ทัพของเมืองเฉียนซานคนนี้ไม่ธรรมดา เขาได้สั่งคนให้ไปหารั้วหนามเพื่อสร้างแนวป้องกันและใช้พลธนูยิงไปที่กำแพงเมือง
พลธนูเหล่านี้ มีลูกศรพลังปราณอยู่ในมือพวกมันย่อมสามารถต่อต้านลิโป้ได้
ใบหน้าของ ลิโป้ ดูเคร่งขรึมมากในเวลานี้ เขายังไม่รู้เลยว่า จะทำยังไงเพื่อหยุดลูกศรตรงหน้าและจัดการอีกฝ่าย ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะตกอยู่ในอันตรายอย่างแท้จริง