MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 209
ใบหน้าของชูจินในตอนนี้แทบจะไม่สามารถปกปิดบางสิ่งออกมาได้เลย
“ฮ่าฮ่า!”
ชูจินหัวเราะและจ้องมองไปที่ลู่เฟิง”ลู่เฟิง มันสายไปแล้ว ตอนนี้ข้าไม่กลัวที่จะบอกเจ้า ข้าได้แอบส่งบุตรของข้าไปพร้อมกับคนอื่น ๆ หนีออกนอกเมืองหลิงหยางไปแล้ว เจ้าไม่มีวันหาพวกเขาเจอ รอพวกเขาไปถึงสำนักร้อยก๊กเมื่อไหร่และกลับจากการศึกษา จนถึงวันนั้นรอคอยวันที่อาณาจักรหนานหยานของเจ้าล่มสลายได้เลยฮ่าฮ่า…”
“รายงานฝ่าบาท,จินยี่เหว่ย จับตัวองค์ชายและคณะเดินทางของอาณาจักรซีหยางได้ระหว่างทางไปยังภูเขาทางตอนเหนือ ท่านหว่านหู่ ทรงตรัสถามว่าควรทำอย่างไรกับพวกเขา?”
ก่อนที่ ชูจินจะหัวเราะเสร็จ เสียงรายงานของ จินยี่เหว่ยก็มาถึง
“อะไรกัน?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของชูจินได้แข็งค้างทันที
“ฮ่าฮ่า…”
ตอนนี้ ลู่เฟิงได้หัวเราะแทนเขามองไปที่ชูจินและพูดขึ้น”ดูเหมือนว่าบุตรจำนวนมากของเจ้าจะไม่สามารถไปถึงสำนักร้อยก๊กแล้วล่ะ!”
“ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ถ้า ชูจิน ซื่อสัตย์ต่อเขา ลู่เฟิง อาจจะทิ้งสายเลือดราชวงศ์อีกฝ่ายเอาไว้
แต่เนื่องจากอีกฝ่ายยังไม่ยอมจำนนเขาคงต้องล้างบางสายเลือดราชวงศ์นี้
“ขอรับ!”
จินยี่เหว่ยได้รับคำสั่งทันที
เปรี้ยง!
คำสั่งนี้ราวกับสายฟ้าฟาดลงกลางใจของชูจิน ใบหน้าของเขาซีดเผือกอย่างมาก
บุตรชายทั้งหมดของเขาถูกจับ?
เป็นไปได้ยังไง?
เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่ทว่า หน่วยสืบลับอย่างจินยี่เหว่ยมารายงานด้วยตัวเอง อีกฝ่ายคงไม่เล่นตลกเพื่อหลอกตัวเขาเองอย่างแน่นอน
แต่ทว่ามันจบแล้ว!
ทุกอย่างสูญสิ้นแล้ว!
ชูจิน รู้สึกหมดหวังโดยสมบูรณ์ อาณาจักรซีหยางก็หมดหวังโดยสมบูรณ์
ทุกอย่างพังพินาศ
“เข้ามา!”
“ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”จางฮั่นได้เดินออกไป
“ลาก ชูจิน ลงไปตัดศีรษะซะ!”ลู่เฟิงได้กล่าวสั่งการ
“ขอรับ!”
จางฮั่น ได้สั่งให้ ทหารเงา ลาก ชูจิน ลงไปฆ่าทันที
“จางฮั่น!”
“ขอรับ!”
“ค้นหามารดาผู้ให้กำเนิดองค์ชายเหล่านั้นและจัดการฆ่าให้หมดอย่าให้เหลือ!”
“ขอรับ!”
จางฮั่น ได้ลงไปจัดการเอง
บางทีนี่มันออกจะโหดร้าย แต่ ลู่เฟิงไม่ปล่อยโอกาสให้ องค์ชาย และ มารดาผู้ให้กำเนิดเหล่านี้หลุดรอดไป
เพราะสตรีแม้ยามอยู่ในวังก็อาจจะคิดแผนร้ายขึ้นมาได้
ลู่เฟิงจะไม่ปล่อยให้ปัญหามาตามก่อกวนภายหลัง
การตัดรากถอนโคนถือเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด
จักรพรรดิที่ทรงเมตตามากเกินไปมักจะมีจุดจบที่ไม่ดีสักราย
สำหรับนางสนมเหล่านี้ที่ไม่ได้ให้กำเนิดบุตร ลู่เฟิง สามารถปล่อยให้คนเหล่านี้ไปใช้ชีวิตธรรมดาสามัญได้
“ติ๊ง ตรวจพบค่าความภักดีของ ชูฉี ที่มีต่อโฮสต์ ลดลง 20 แต้ม ปัจจุบัน เป็น 0 “ข้อความแจ้งเตือนของระบบได้ดังขึ้น
ลู่เฟิงไม่ได้เเปลกใจกับคำเตือนนี้ เขาฆ่า บิดาของเธอถ้าเธอยังคงจงรักภักดีอยู่นี่สิถึงจะแปลก
“ชูฉี พาข้าไปยังคลังสมบัติลับของอาณาจักรซีหยาง”ลู่เฟิง ได้กล่าวพูดเบา ๆ พร้อมกับมองไปที่ ชูฉี
“อย่าคิดว่าหม่อมฉันจะ…”
ฟวั่บ!
ด้วยการขยับเพียงเล็กน้อยดาบยาวในมือของลู่เฟิงได้วางบนบ่าของจักรพรรดินีหนิงหยุนเอ๋อเขาได้กล่าวพูดเบา ๆ “จงคิดให้ดีก่อนจะตอบข้า!”
“ท่าน…”
ชูฉี มองไปที่ ลู่เฟิงอย่างไม่พอใจเธอได้สูดลมหายใจเข้าลึก”ถ้าท่านปล่อยท่านแม่ของข้าไป ข้าจะพาท่านไปเอง”
“ดี!”
ลู่เฟิง ได้เก็บดาบและพูดขึ้น”นำทาง!”
ชูฉี ได้ลุกขึ้นยืนอย่างเงียบ ๆ และเดินออกจากวังไปพร้อมกับ ลู่เฟิง
เบื้องหลัง ของลู่เฟิง คือทาสดาบทั้งหก จางซุนหวูจี๋ ลิโป้ และ เมิ่งเถียน
ในฐานะข้าราชบริพาร มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะทนดู จักรพรรดิของพวกเขาเดินทางไปเพียงลำพังกับองค์หญิงฝ่ายศัตรู แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นเพียงคนธรรมดา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าภายในวังนั้นจะมียอดฝีมือซ่อนตัวอยู่หรือไม่
นอกจากนี้ คลังเก็บสมบัติลับของอาณาจักรซีหยาง กลับไม่ได้อยู่ในวัง
ชูฉี ได้พา พวกลู่เฟิงออกจากวัง และเดินทางไปประมาณครึ่งชั่วโมง ด้านหน้าของพวกเขาคือบ้านร้าง เธอได้เปิดประตูและเดินนำเขาเข้าไป
ภายใน ชูฉี ได้ขยับกลไกเล็กน้อย
“ฝ่าบาท ได้โปรดให้ข้าน้อยเป็นคนนำเถิดพะยะค่ะ!”
ลิโป้ ได้เดินไปข้างหน้าโดยไม่ปล่อยให้ลู่เฟิงพูดอะไร
เพื่อความปลอดภัยของลู่เฟิง ลิโป้ ไม่ลังเลที่จะอาสาเป็นตัวนำให้กับเขา
แต่ที่น่าเเปลกใจก็คือระหว่างทางไม่มีกับดักอะไรซ่อนอยู่แม้แต่น้อยพวกเขาได้มาถึงคลังสมบัติลับอย่างรวดเร็ว
คลังสมบัติลับนี้มีไม่ค่อยเยอะ มีเพียงอาวุธบางส่วนเท่านั้น
แต่สิ่งนี้ทำให้ ลู่เฟิงกลับสงสัยว่านี่คือคลังสมบัติลับแน่งั้นเหรอ ?
“คันธนูนี้!”
ลิโป้ ได้เดินเข้าไปคว้าจับคันธนูขึ้นมาด้วยความสุข
ไม่เพียงแต่ ลิโป้ ยังเป็นยอดขุนพลเท่านั้น ฝีมือการยิงธนูของเขายังหาใครเทียบได้ในโลก เนื่องเพราะเขามาที่โลกนี้ โดยนำมาแค่ ง้าวและ ม้าของเขาเพียงเท่านั้น เขาไม่ได้นำธนูที่ดีที่สุดติดตัวมาด้วย
ลู่เฟิง มองไปที่ คันธนูในมือของ ลิโป้ เขาได้ใช้ทักษะสำรวจทันใดนั้นข้อความก็ปรากฏ
ธนูหลิงซี: ธนูที่ถูกสร้างขึ้นจากกระดูกและกล้ามเนื้อของสัตว์อสูรขั้นปรมาจารย์ มันทรงพลังอย่างมาก และมีเพียง แม่ทัพที่หาญกล้าเท่านั้นที่สามารถดึงมันได้
ระดับ : สวรรค์ ระดับ ต่ำ
ลู่เฟิง มองไปที่คันธนูนี้ด้วยความประหลาดใจ สมบัติสวรรค์ระดับต่ำ
ดูเหมือนว่าจะยังมีของดีหลงเหลืออยู่ในคลังเก็บสมบัติลับของอาณาจักรซีหยาง
ชูฉี มองไปที่ มันและกล่าวพูดขึ้น”ธนูนี้มีชื่อเรียกว่าธนูหลิงซี สิ่งนี้ได้รับมาตอนที่ก่อตั้งอาณาจักรซีหยาง แต่หลายปีมานี้ กลับไม่มีใครดึงสายธนูได้สักคน”
“ไม่มีใครดึงสายธนูได้?”
ลิโป้ ได้กล่าวตะโกนอย่างเย็นชา เขาได้ง้างธนูขึ้นและดึงสายธนู
จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา”ก็อีแค่สายธนูคนจากอาณาจักรซีหยางกลับไร้ความสามารถจนไม่สามารถดึงมันได้ด้วยซ้ำ!”
ชูฉี ได้มองฉากนี้อย่างตื่นตะลึง เธอจำมันได้อย่างชัดเจน บิดาของเธอเคยบอกว่า ไม่มีใครในราชวงศ์ของเธอสามารถดึงมันได้สักคน แม้แต่ ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์เพียงคนเดียวของอาณาจักรซีหยางเมื่อสามร้อยปีก่อนก็ไม่สามารถดึงมันได้
แต่คนตรงหน้ากลับทำได้ เธอไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเอง
ลู่เฟิง มองไปที่มันและยิ้มจาง ๆ “ธนูหลิงซี หลอมขึ้นจากสัตว์อสูรขั้นปรมาจารย์ มันเป็นสมบัติสวรรค์ระดับต่ำ!”
“คนที่สามารถดึงสายธนูนี้ได้มีเพียงแม่ทัพที่หาญกล้าเท่านั้น ในอาณาจักรซีหยาง ใช่ว่าจะไม่มีแม่ทัพเหล่านี้ แต่ข้าคิดว่า ราชวงศ์ของเจ้าไม่คิดจะมอบสมบัติเช่นนี้ให้กับคนอื่นมากกว่า ถ้าข้าจำไม่ผิด เมื่อ 150 ปี ก่อน มีแม่ทัพที่แข็งแกร่งและหาญกล้าคนนึง เขามีเชื่อเสียงมากในอาณาจักรซีหยาง หากวัดกันด้วยความสามารถของเขาแล้วยากจะหาใครเทียบเคียงได้…”
ลู่เฟิง มองไปที่ ชูฉี และกล่าวพูดขึ้น”ยังมีเหตุผลสำคัญอีกข้อหนึ่ง บางที ธนูนี่ อาจจะปฏิเสธสายเลือดราชวงศ์ซีหยางของพวกเจ้า ดังนั้นจึงไม่มีใครสามารถดึงมันได้ ไม่เเปลกใจเลยว่าทำไมในช่วง 100 ปี ที่ผ่านมา ความแข็งแกร่งของอาณาจักรซีหยางจึงตกต่ำลงเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดก็ถูกทำลายลง”
“หึ่ม,ท่านคิดว่าสมบัติล้ำค่าขนาดนี้จะยินยอมปล่อยให้คนนอกที่ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองใช้งานมันได้งั้นหรือ นี่คือสมบัติล้ำค่า สมบัติสืบทอดเชียวนะ?”ชูฉี ได้ส่งเสียงกรนอย่างเย็นชา
“ฮ่าฮ่า!”
ลู่เฟิงหัวเราะออกมา”เฟิงเชี่ยน ตั้งแต่วันนี้ไป คันธนู อันนี้เป็นของเจ้า อย่าลืมนำมันไปฆ่าเด็ดหัวแม่ทัพศัตรูให้มากขึ้นด้วยล่ะ”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท,ข้าน้อยจะใช้คันธนูเล่มนี้สังหารแม่ทัพของศัตรูให้มากขึ้น”ลิโป้ได้คุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว
“ติ๊ง ตรวจพบว่า ลิโป้ ได้รับคันธนูศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เขาบันดาลพลังพิเศษขึ้น : ศรเทพสังหาร!”