MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 252
โดยเฉพาะเกาชุน เขาคือแม่ทัพที่นำทัพบุกศัตรูอย่างไม่เกรงกลัว
ทั้งกองทัพมีเขาเป็นศูนย์กลางในการเคลื่อนพล กองทัพที่มีจำนวนมากกว่า 100,000 ได้เข้าปะทะกับศัตรู
ส่วนพลธนูด้านหลังของกองทัพก็ถูกสอยด้วยพลธนูของเกาชุน
แนวหน้าของทั้งสองกองทัพได้ฆ่าฟันกันอย่างบ้าคลั่ง
เหล่าทหารของอาณาจักรอู๋เซียง ได้กลายเป็นศพโดยไม่มีข้อยกเว้น
เพียงใช้เวลาไม่นานจำนวนกองซากศพก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
กองพันทหารค่ายของเกาชุนยังคงรุกคืบอย่างไม่เกรงกลัว
“เข้ามา,ใครก็ตามที่ฆ่าคนของกองพันทหารค่ายได้จะได้รับ 1,000 เหรียญทอง!”
“หากสามารถฆ่า เกาชุน ได้จะได้รับประทานบรรดาศักดิ์โฮวไป่เซียง!”
แม้ว่าทหารของอาณาจักรอู๋เซียง จะมีประสิทธิภาพการรบต่ำ แม่เมื่อพวกเขาได้ยินรางวัลมากมาย ดวงตาของพวกเขาก็สว่างวาบขึ้น ทุกคนได้บุกเข้าไปอย่างไม่เกรงกลัว
ในไม่ช้าด้วยจำนวนทหารที่มากกว่าพวกเขาพยายามจะล้อมรอบกองพันทหารค่ายของเกาชุน
“แยกทัพ!”
เมื่อเห็นสิ่งนี้ เกาชุนได้ตะโกนขึ้น
กองทัพของเขาได้แยกออกไปเป็นสามทัพสามเส้นทาง
แม่ทัพที่นำทัพของอาณาจักรอู๋เซียงเห็นเช่นนี้ ดวงตาของพวกเขาก็สว่างวาบขึ้น พวกเขารู้ว่าสาเหตุที่กองพันทหารค่ายทรงพลังก็เพราะการรวมตัวของผู้คนหลายพัน แต่เมื่อทัพแตกไปแล้ว ย่อมยากที่จะต้านทาน
ตอนนี้ เกาชุน ได้สั่งแยกทัพ ไม่ใช่ว่าเขากำลังมองหาความตายหรือไม่?
“ฆ่าพวกกองพันทหารค่ายให้หมด!”แม่ทัพแนวหน้าได้ตะโกนอย่างคึกคะนอง
ทหารของอาณาจักรอู๋เซียง ได้ตะโกนกรีดร้องออกมา หากกองพันทหารค่ายรวมตัวกัน 8,000 นายย่อมยากที่พวกเขาจะต้านทาน แต่ตอนนี้ พวกเขามีโอกาสที่จะเด็ดหัวศัตรูแล้ว
ทั้งยังเป็นศัตรูที่มีกำลังพลน้อยนิด
หากพวกเขายังไม่สามารถเอาชนะอีกฝ่ายในตอนนี้ได้ก็คงจะเสียชาติเกิดแล้ว
เมื่อคิดเช่นนี้ ทหารทั้งหมด จึงได้พุ่งกระโจนใส่กองพันทหารค่ายเพื่อหวังจะฆ่าพวกเขาและกลับไปรับรางวัล
แต่ในเวลานี้พวกเขาหารู้ไม่ว่าสิ่งที่พวกเขากำลังเผชิญคือกับดักที่เกาชุนวางเอาไว้
ทหารที่แยกออกไปสามทัพได้กระจายตัวปิดล้อมทหารของอาณาจักรอู๋เซียง ที่พุ่งเข้ามา
“ฆ่าศัตรูทุกคนที่เข้ามา,เด็ดศีรษะพวกมัน!”
“ฆ่าศัตรูทุกคนที่เข้ามา,เด็ดศีรษะพวกมัน!”
กองพันทหารค่ายได้ตะโกนขึ้นพร้อมเพรียงกัน เลือดลมในกายของพวกเขาได้ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง
ทหารของกองพันทหารค่ายทุกนายได้กระโจนเข้าใส่ศัตรูที่เข้ามาตรงกลาง
“ฆ่า!”
“ฟวั่บ!”
“ฟวั่บ!”
“ฟวั่บ!”
เสียงเฉือดเฉือนเลือดเนื้อได้ดังขึ้นนับไม่ถ้วน
“ฆ่าศัตรูทุกคนที่เข้ามา!”
เกาชุน ได้ตะโกนและยกดาบขึ้นเพื่อนำทัพเดินหน้าต่อ มันยังคงเป็นเกาชุน ที่สามารถควบคุมสถานการณ์และสังหารศัตรูทุกคนที่เข้าค่ายวงกลมที่เขาวางแผนเอาไว้
จำนวนทหารของอาณาจักรอู๋เซียงที่หลุดเข้ามามีมากกว่า 30,000 นาย ทุกคนได้ล้มลงอยู่บนพื้นบริเวณนั้น
“นี่มัน…เป็นไปไม่ได้?”แม่ทัพแนวหน้าของอาณาจักรอู๋เซียง มองไปที่ฉากนี้ด้วยความโง่งม
เพียงแค่ชั่วระยะเวลาเดียวเขากลับสูญเสียทหารไปมากกว่า 30,000 นาย?
ที่สำคัญที่สุดก็คือเขาไม่รู้ว่าทหาร 30,000 นายเหล่านี้เสียชีวิตได้อย่างไร?
ตอนแรกที่เขาเห็นคือทหาร 30,000 นายได้แยกกันไปสามทิศทางเพื่อสังหารจำนวนศัตรูที่น้อยกว่า แต่เมื่ออีกฝ่ายตอบโต้ ศพกว่า 30,000 ศพก็เกิดขึ้นในพริบตา
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ ทหารที่เหลืออยู่ในสถานที่แห่งนี้เหลือเพียงไม่ถึงร้อยคน!
“นี่…นี่…กองพันทหารค่ายน่ากลัวขนาดนี้เชียว !!!”
แม่ทัพแนวหน้าของอาณาจักรอู๋เซียง เต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขามองดูกองพันทหารค่ายของเกาชุน 8,000 นาย พุ่งเข้ามาไล่ฆ่าทหารของเขา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขากลับยืนแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว
โชคดีที่ที่เป้าหมายของเกาชุนไม่ใช่ตัวเอง
แม่ทัพคนนี้ไม่ได้โง่ เห็นได้ชัดว่าทิศทางของเกาชุน คือ พลธนูที่ จิ้งซือหรง จัดไว้ที่เชิงเขาติงจิ้ง ถ้าเป็นปกติเขาจะจัดทหารไปป้องกันพวกพลธนูเหล่านั้นแน่นอน
แต่นอนนี้ เมื่อมองไปที่ พลังต่อสู้ของ กองพันทหารค่าย เขาก็ล้มเลิกความคิดนนี้โดยสมบูรณ์
“ไม่สิ,ถ้าข้าไม่ทำอะไรเลยสักอย่าง จิ้งซือหรง จะต้องหาข้ออ้างในการจัดการกับข้าแน่!”
แม่ทัพแนวหน้าคนนี้ ได้ครุ่นคิดในใจ เขามองไปที่ทัพแนวหน้าที่นำโดย เตียวเลี้ยว เขาได้ชักดาบออกมาและตะโกนขึ้น”บุกโจมตีศัตรู!”
เมื่อทหารเหล่านี้ ได้ยินแม่ทัพสั่งไม่ให้สนใจกองพันทหารค่าย 8,000 นายที่น่ากลัวนั่น พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกและมองไปที่ กองทัพของ เตียวเลี้ยว ที่พวกเขาพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ด้วยสายตาที่ดุร้าย
แม้ว่าคนเหล่านี้จะแข็งแกร่งไม่ธรรมดาเหมือนกัน แต่พวกเขาก็ยังห่างไกลกองทัพที่น่ากลัวอย่างกองพันทหารค่ายก่อนหน้านี้
ดังนั้นด้วยความคิดนี้ทหารจำนวนมากจึงรีบเข้าโจมตีกองทัพของเตียวเลี้ยว
ชั่วขณะนึงมันก็ทำให้กองทัพของ เตียวเลี้ยว เผชิญหน้ากับปัญหา
มันเป็นปัญหาเพียงแค่ชั่วขณะเดียวเท่านั้น
เพราะ เตียวเลี้ยว ได้ปรับรูปแบบกองทัพอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะรับมือกับศัตรูให้ดีที่สุด ทหารที่รีบรุดหน้าของอาณาจักรอู๋เซียง ล้วนถูกตัดแขนและศีรษะทีละคน
หลิวจี๋เฝ้ามองดูฉากนี้และถอนหายใจออกมา”กองพันทหารค่ายช่างทรงพลังสมคำร่ำลือจริง ๆ !”
“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่าข้าคงไม่ต้องกังวลว่าพลธนูเหล่านั้นจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้วสินะ!”ลู่เฟิง ยิ้มออกมา
“กระหม่อมคิดว่าตอนนี้พวกเราสามารถเริ่มทำตามแผนการที่วางเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้”หลิวจี๋ ได้ตอบกลับ
ลู่เฟิงได้ครุ่นคิดและสั่นศีรษะ”ยังไม่ต้องรีบร้อน รอให้ เตียวเลี้ยว จัดการทหารเหล่านี้ก่อนจากนั้นเราค่อยใช้วิธีการจู่โจมสร้างความประหลาดใจให้อีกฝ่าย”
หลิวจี๋ เองก็พยักหน้า นี่เป็นเพียงทัพหน้าของศัตรู ดังนั้นคงยังไม่จำเป็นจะต้องเริ่มแผนการ เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ
บนภูเขาติงจิ้ง จิ้งซือหรง ได้เฝ้ามองดู กองพันทหารค่าย 8,000 นายที่สู้กับกองทัพ นับแสนได้อย่างไม่หวั่นเกรง สีหน้าของเขาซีดเผือกเล็กน้อย
เขาคิดว่าความสามารถของตนเองไม่เป็นสองรองใคร ความสามารถในการฝึกทหารก็เช่นเดียวกัน
แต่พอหลังจากที่เขาได้เห็น กองพันทหารค่ายของเกาชุน ความมั่นใจของเขาก็หายไปทันที
กองพันทหารค่ายนี้แข็งแกร่งมาก!
ไม่ว่าจะเป็นการจัดรูปขบวนหรือแยกทัพ ประสิทธิภาพการเคลื่อนไหวและการรบก็น่ากลัวมากทีเดียว โดยเฉพาะเกาชุนที่มีความสามารถในการสั่งการทัพเช่นนี้
“เวรเอ้ย!”
จิ้งซือหรง ที่หน้าซีด องค์ชายที่อยู่ด้านหลังของเขากลับตื่นตระหนกมากกว่า”จิ้งซือหรง รีบสั่งถอนทัพเร็วเข้า อย่าปล่อยให้ กองพันทหารค่าย วิ่งขึ้นมามิฉะนั้นพวกเราจะเผชิญปัญหา”
แม่ทัพคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
จิ้งซือหรง”…”
เขารู้สึกพูดไม่ออกชั่วขณะ นี่คือ ภูเขาติงจิ้ง พวกเขาได้ยึดจุดยุทธศาสตร์ กลับต้องกลัวกองกำลังเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือไม่?
องค์ชายกำลังกังวลเรื่องอะไร? หรือว่าจะเกิดกลัวขึ้นมา?
จนทำอะไรไม่ถูก?
แต่เพราะเขาเป็นถึงองค์ชายเขาจึงพูดอะไรมากไม่ได้”องค์ชายโปรดวางพระทัย กระหม่อมมีวิธีรับมือกองพันทหารค่ายของเกาชุนแล้ว!”