MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 261
ลู่เฟิงหัวเราะเบา ๆ และกล่าวพูดขึ้น” นี่เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ ต้องยกความดีความชอบให้เดียวอุ่นที่สามารถจัดการศัตรูบนไปเหลี่ยนโปได้นับ 100,000 นาย บวกกับความจริงที่ว่า เขาทํา งานร่วมมือกับ กองพันทหารค่ายของเก่าขุน ได้เป็นอย่างดี ทําให้ พสบนูเหล่านั้นไม่สามารถสั่ง หารกองทัพของเราได้ ดังนั้นจึงเกิดผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้”
“ดังนั้น การต่อสู้ในวันนี้ เกาชุน กองพันทหารค่ายของเขา และ เตียวอื่น ควรจะต้องขอบคุณ ในความพยายามของพวกเขา”
หลิวจี๋ได้พยักหน้าทันที ” ฝ่าบาท กระหม่อมก็รู้สึกเช่นเดียวกัน กองพันทหารค่ายของแม่ ทัพเกาขุน ไม่เพียงแต่สังหารพลธนูของข้าศึก แต่ยังสามารถช่วยเหลือทัพของเราไม่ให้เกิดความ สูญเสียอีกนับหมื่นคนแต่
หลิวจี๋ มองไปที่ ลู่เฟิง และถอนหายใจออกมา”ฝ่าบาท ชัยชนะในวันนี้ ครั้งต่อไป จิ้งซื้อหรง จะต้องระมัดระวังอย่างแน่นอน เขาคงไม่ทําผิดพลาดมากมายอีกเช่นวันนี้ หากจะให้บรรลุผลลัพธ์ เช่นเดิมเกรงว่าคงจะยากสักหน่อย!”
” ดังนั้น ประเด็นสําคัญต่อไปของเราก็คือ รอดูผลลัพธ์ของ เสี่ยวจือ และ กองทัพพยัคฆ์ของเขา!” สู่เฟิง กล่าวพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม” ถ้าเสียวคือ นํากองทัพพยัคฆ์ 100,000 นายบุกเข้ายึด ภูเขาติงปิ้ง ได้สําเร็จ และ สามารถปกป้องภูเขาทิ้งลิ้งได้ เราจะสา มารถปัดล้อมฆ่าทหารของอาณาจักรเชียงใต้อย่างง่ายดาย!”
“ยังเหลือกองกําลังอย่างน้อย 1.2 ล้านคนในที่แห่งนี้ หากกองทัพ 1.2 ล้านคนถูกสังหาร อาณาจักรเชียง ย่อมไม่กล้าทะนงตัวเหมือนเมื่อก่อนแน่”
หลิวจี๋ มองไปที่ สู่เพิ่ง และกล่าวถาม”ฝ่าบาท แม่ทัพเสียวจือ และ ทัพพยัคฆ์ ของเขา ทรงพลังอย่างที่พระองค์ตรัสไว้จริงงั้นหรือ?”
หลิวจี๋ ไม่เคยเห็น เสี่ยวจอ นับประสาอะไรกับทัพพยัคฆ์ของเขา
เขาเพิ่งได้ยินเรื่องนี้เกี่ยวกับ ลู่เฟิง ไม่นานมานี้
โดยปกติแล้วเขาย่อมไม่รู้ประสิทธิภาพของทัพพยัคฆ์
ลู่เพิ่ง ยิ้มจาง ๆ และตอบกลับ” เชื่อข้าเถอะ เสี่ยวจือ และ ทัพพยัคฆ์ ย่อมไม่ทําให้ข้าผิดหวัง!”
หลิวจี๋ ไม่ได้ถามอะไรอีก
“ตอนนี้เกาขุนกับกองพันทหารค่ายของเขาตอนนี้อยู่ที่ไหน?”ลู่เฟิงกล่าวถามอย่างกระทันหัน
ตอนนี้สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ เกาขุน ก็ยังไม่ได้กลับมาพร้อมกับกองพันทหารค่าย
“ฝ่าบาท มีข่าวจากแม่ทัพเกาว่าเขายึดเส้นทางใต้ไปเหลียนโป พร้อมกับตั้งค่ายขึ้นที่นั่นรอให้ แม่ทัพเสียวซื้อ ยึดภเขาจึงจึง ได้สําเร็จ เขาจะปิดกั้นเส้นทางเข้าออกที่นั้นและปล่อยให้กองทัพ 12 ล้านนายของอาณาจักรเชียง ถูกขังอยู่ที่นี่!” หลิวจี๋ ได้ตอบกลับ
ลู่เฟิง พยักหน้าและตอบกลับความคิดของเกาขุนนั้นดีมาก ส่งคําสั่งของข้าให้เดียวอุ่น ถึงความสนใจศัตรูเอาไว้ อย่าปล่อยให้ กองพันทหารค่ายเผชิญหน้ากับศัตรูเด็ดขาด
“ขอรับ!
หลิวจี๋ ได้เดินลงไปส่งคําสั่ง
“เสี่ยวจือ ตอนนี้ทุกอย่างของข้าได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับ เจ้า และทัพพยัคฆ์ของเจ้าแล้ว!”สู่เฟิง ได้กล่าวกระซิบออกมา
บนภูเขาติงปิ้ง ในค่ายของ จิ้งซื้อหรง ใบหน้าของเขามีดมนอย่างมากและมองลงไปที่แม่ทัพที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา
แม้แต่ องค์ชายที่เย่อหยิ่ง ก่อนหน้านี้ ยังก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไร
“ไหนใครในพวกเจ้าพยายามกดดันให้ข้าส่งทหารลงไปกอบโกยชัยชนะ จนตอนนี้ทําให้เราสูญเสียทหารไปอีก 50,000 นาย ใครจะออกมารับผิดชอบ? จิ้งซื้อหรง ขี้ตาบในมือของเขาไปที่แม่ ทัพเหล่านี้อย่างเย็นชา
แม่ทัพเหล่านี้สั่นสะท้านไปด้วยความกลัว พวกเขาไม่กล้าตอบ
ในระหว่างวันพวกเขาทุกคนชักชวนให้จิ้งซื้อหรง ส่งทหารลงไปกอบโกยชัยชนะ แต่ผลที่ได้กลับไม่เป็นอย่างที่พวกเขาคิดเอาไว้ ทั้งยังทําให้พวกเขาสูญเสียทหารไปอีก 50,000 นาย ส่วนศัต รูเสียหายไม่กี่พัน
แน่นอนว่า พวกเขาไม่กล้าชี้เป้าไปที่ องค์ชาย ด้วยเหมือนกัน
จิ้งซื้อหรง ตะคอกอย่างเป็นชา” เรื่องในวันนี้ข้าจะไม่ถือสา แต่ถ้ามีใครกล้าขัดขวางการตัดสินใจของข้าอีกในอนาคต ข้าจะรายงานเรื่องนี้ต่อฝ่าบาท และให้มันผู้นั้นเป็นผู้รับผิดชอบเรื่อง ทั้งหมด!
ในขณะที่ เขาพูดเขาก็มองไปที่ องค์ชาย
องค์ขายรู้สึกเสียใจมาก เขาได้แต่ก้มหน้าไม่พูดอะไร ถ้า จึงชื่อหรง กราบทูลฝ่าบาทเรื่องนี้เกรงว่า แม้แต่เขา ยังคงต้องได้รับการลงโทษอย่างหนัก
“ส่งคําสั่งลงไปให้กองทัพทั้งหมดวางค่ายป้องกันเอาไว้ห้ามประมาทช่วงเวลากลางคืนนี้โดยเด็ดขาด!”
” ขอรับ”
หลังจากได้รับคําสั่งของ จิ้งชื่อหรง แม่ทัพเหล่านี้ ก็รีบวิ่งออกจากค่ายไปทีละคนเพราะกลัวว่าจิ้งชื่อหรง จะเรียกตัวเองออกไป
หลังจากคนเหล่านี้ไป จิ้งซื้อหรงก็ถอนหายใจออกมา” ลู่เฟิง หน่อ สู่เฟิง ข้าไม่แปลกใจเลยที่เจ้าสามารถรวบรวมอาณาจักรให้เป็นหนึ่งเดียวได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งยังสามารถบุกยึดครองอาณาจักรหยาง นับว่าเป็นผลงานครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งอาณาจักรนานหยานมา!”
“วันนี้ เจ้าได้แสดงให้ข้าได้เห็นถึงความสามารถของเจ้าแล้ว!”
วันนี้ อาณาจักรเชียง สูญเสียผู้คนไปมากกว่า 200,000 นาย และ ทหารมากกว่า 100,000 นาย ใต้ผาไปเหลี่ยนไป
เนื่องจากกองกําลังนับล้านได้ผ่านสถานที่แห่งนั้นและพวกเขาได้ถูกซุ่มโจมตีเป็นเป้านิ่งทําให้สูญเสียทหารนับแสน
ถ้าที่นั่นมีเครื่องยิงเกาทันฑ์มากกว่านี้เกรงว่าความเสียหายอาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
โชคดีที่มันไม่ได้สมบูรณ์แบบเกินไป ทําให้ จิ้งชื่อหรง ถอนหายใจออกมา
อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจประมาทลู่เพิ่งได้อีก
ที่นั่นคือจุดซุ่มยิ่งขั้นดี ถ้าเกิดบวกไปด้วยลูกศรหยุดปราณจํานวนมากแม้แต่ยอดฝีมือระดับสูงยังถูกยิงเป็นรูพรุน
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เรื่องเดียว จิ้งซื้อหรง ยังคงต้องชมลู่เฟิง
การจัดเตรียมที่วางแผนมาก่อนล่วงหน้า ทําให้เขาไม่สามารถคิดหาวิธีใดที่จะทําลายรูปแบบ
ซุ่มยิ่งนี้ได้
แต่…
จิ้งซื่อหริง ได้พึมพัมออกมา สู่เพิ่งถ้าเจ้ารู้ว่าเมืองเร้ดเมเปิ้ลที่อยู่เบื้องหลังของเจ้ากําลังจะกลายเป็นเมืองของอาณาจักรเชียงของข้า ไม่รู้ว่าการแสดงออกบนใบหน้าของเจ้าจะยอดเยี่ยมแค่ ใหน?”
หลังจาก ที่จึงขอหรง หัวเราะ เขาก็มีความสุขมาก
สิ่งที่เขาพูดถึงคือ ตราบใดที่ ทัพมังกรเชียง ที่เขาลอบส่งออกไปยึดครองเมืองเร้ดเมเปิ้ลได้นับประสาอะไรกับการสูญเสียทหาร 200,000 นาย แม้กระทั่ง สามแสน,สีแสน, หนึ่งล้าน หรือสองล้าน แล้วจะเป็นอย่างไร?
การชนะเมืองเร้ดเมเปิ้ล หมายความว่า กองทัพของอาณาจักรอูเชียงทั้งหมด สามารถบุกไปยังดินแดนเบื้องหลังของอาณาจักรหนานหยานได้โดยตรง ในเวลานั้นมณฑลทางตะวันตกของอาณาจักรหนานหยานทั้งหมดจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเขา
ด้วยความสําเร็จเช่นนี้ องค์ชาย คงไม่กล้าพูดว่าเขาเป็นแค่สุนัขของราชวงศ์อีกแล้ว
ตราบใดที่เอาชนะเมืองเร้ตเมเปิ้ลได้ เขาสามารถกระทั่งทําให้ จักรพรรดิประทานรางวัลอย่างงาม
และด้วยความสามารถของเขา ย่อมสามารถทําให้อาณาจักรเชียง มีกองกําลังการรบที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน
ดังนั้นสิ่งสําคัญที่สุดคือ ทัพมังกรเชียง จะต้องโคนเมืองเร้ดเมเปิ้ลให้ได้ก่อน
แต่..
ถ้าจิ้งซื้อหรงรู้ว่า ทัพมังกรเชียง ที่เขาตั้งความหวังไว้สูงพ่ายแพ้ไปแล้วไม่รู้ว่าเขาจะทําสีหน้าแบบใด?