MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 81
เมื่อครุ่นคิดเล็กน้อย ลู่เฟิง มองไปที่ ฮัวโต๋ และกล่าวยิ้ม”คนแซ่ ฮัว เจ้าจะเดินทางไปที่ไหนต่อ?”
ฮัวโต๋ ผงะเล็กน้อย เขารู้สึกสงสัยหรือว่าฝ่าบาทหรือจักเขา?
แต่เมื่อคิดว่าการที่มีจักรพรรดิใช้อำนาจมองหาตนเองเขาก็รู้สึกโล่งใจ
เขาได้ตอบกลับ”ข้าน้อยวางแผนจะเดินทางออกจากอาณาจักรหนานหยานเดินทางไปทั่วทุกพื้นที่เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บและช่วยชีวิตของผู้คน!”
“ความใฝ่ฝันของเจ้าคืออะไร?”
“ข้าน้อยต้องการช่วยชีวิตผู้คนที่กำลังตกที่นั่งลำบาก!”
“สิ่งไหนสำคัญสำหรับเจ้า กลุ่มคน ๆ เดียว หรือ กลุ่มคนหลายชีวิต?”ลู่เฟิง กล่าวถามอีกครั้ง
ฮัวโต๋ ผงะอีกครั้ง เขาไม่เข้าใจว่าทำไม ลู่เฟิง ถึงกล่าวถามสิ่งนี้”แน่นอนว่าต้องกลุ่มคนหลายชีวิต”
“ข้าต้องการให้เจ้าอยู่ที่อาณาจักรหนานหยาน ข้าจะมอบตำแหน่งแพทย์หลวงแห่งอาณาจักรและอนยุญาติให้เจ้ารับลูกศิษย์เพิ่มเพื่อสานต่อความฝันที่จะช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น”ลู่เฟิง ได้จ้องมองไปที่ ฮัวโต๋
ใบหน้าของ ฮัวโต๋ เปลี่ยนไปเล็กน้อยและตอบกลับ”ขอบพระทัยสำหรับความเมตตาของฝ่าบาทแต่ข้าน้อยเป็นคนไม่มีรากเหง้าอะไร…”
“อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ!”
ลู่เฟิงยิ้มและตอบกลับ”เจ้าเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่ากลุ่มคนหลายชีวิตย่อมส่งผลต่ออิทธิพลในใจเจ้ามากกว่า ดังนั้น เจ้าคิดจะช่วยเหลือ คน ๆ เดียว หรือกลุ่มคนหมู่มากเช่นทหารหลายหมื่นหลายแสน?”
“ถ้าข้าปล่อยให้ทักษะทางการแพทย์ของเจ้า ถูกส่งต่อไปยังผู้คนหลาย หมื่นหลายแสน เจ้าจะสามารถช่วยชีวิตคนได้กี่ล้าน ห้าล้าน สิบล้าน?”
“นี่…”เมื่อ ฮัวโต๋ ได้ยินดังนั้น มันก็ยากที่จะหาคำมาหักล้าง
เขาเป็นคนบอกเองว่า กลุ่มคนที่มีหลายชีวิตย่อมส่งผลต่ออิทธิพลในใจเขา แต่นี่ไม่ใช่ว่า ฝ่าบาทกำลังตบหน้าเขาอยู่หรือไม่?
ฮัวโต๋ จ้องมองไปที่ลู่เฟิงและตอบกลับด้วยรอยยิ้ม”ฝ่าบาท นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด คนที่ไม่มีรากเหง้าอย่างข้า ก็เหมือนกับแกะน้อยท่ามกลางฝูงหมาป่า พวกเราแกะน้อยย่อมหวาดกลัวต่อฝูงหมาป่าอย่างแน่นอน”
“มันจะไม่ใช่เช่นนั้น!”
ลู่เฟิง ได้ตอบกลับอย่างมั่นใจ”ข้าลู่เฟิง อาจจะไม่ใช่คนดีในสายตาของใครบางคน แต่ข้าไม่เหมือนกับพวกตระกูลหมิง ที่กดดันพวกเจ้า ตรงกันข้าม แม้ว่าข้าจะเป็นทรราชแต่ก็เป็นจักรพรรดิที่อ่อนเเอ ที่ข้าสั่งฆ่าคนเหล่านั้นไปพวกมันทุกคนล้วนสมควรตาย!”
ฮัวโต๋ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวถาม”เช่นนั้น ฝ่าบาท ข้าน้อยมีคำถามและหวังว่าฝ่าบาทจะไม่ทรงพิโรธหลังจากที่ข้าน้อยถามมัน!”
“ว่ามา…”
ฮัวโต๋ ได้จ้องมองไปที่ ลู่เฟิงและกล่าวถาม”ฝ่าบาทท่านบอกว่าคนที่สมควรตายอย่างเช่นตระกูลหมิงนั้นพวกเขามีประชากรมากกว่า 50,000 คน และ ทุกคนได้ถูกสังหาร การที่ท่านเช่นนี้จะต่างอะไรไปจากพวกทรราชกดขี่ข่มเหงผู้อื่น?”
ลู่เฟิงได้ยิ้มในใจ ฮัวโต๋ คนนี้ฉลาดไม่เบา
นี่เป็นคำถามที่ลู่เฟิงตอบได้ยาก
แต่ลู่เฟิงไม่ได้มันและตอบกลับ”คนแซ่ฮัว เจ้าเองก็น่าจะรู้ว่าการกำจัดหญ้าจะต้องถอนโคนมันให้หมดสิ้น”
“ข้าน้อยย่อมรู้ดีแต่ว่า…”
“ฟังข้า!”
ลู่เฟิงได้โบกมือขึ้น”หากข้าไม่ทำลายตระกูลหมิง ส่วนที่เหลือของตระกูลหมิง ก็จะมีความแค้น และ มณฑล จงซาน เป็นเขตชายแดนหากมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา กองทัพของอาณาจักรซีหยาง ก็คงจะบุกมาฆ่าคนหลายล้านคน เจ้าคิดว่าคนเหล่านี้สมควรตายหรือไม่ และ เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนกลุ่มคนที่ยืนหยัดต่อต้านจนนาทีสุดท้าย?”
“นี่….”
“ภายใต้การเผชิญหน้ากับกองทัพนับล้านของอาณาจักรซีหยาง ทหารที่ร่วมรบในมณฑลจงซานของพวกเรากลับมีไม่ถึง 100,000 นาย”
“นี่…”
“ที่นี้ให้ข้าถามเจ้ากลับ เจ้าคิดว่า ผู้คนนับล้านในมณฑลจงซาน กับ ชีวิตคน 50,000 คนของตระกูลหมิง อันไหนสำคัญกว่ากัน?”
ฮัวโต๋ ได้หยุดพูด เขาไม่สามารถตอบกลับคำถามนี้ได้ คำพูดของ ลู่เฟิงสมเหตุสมผลอย่างมาก
ขณะที่เดียวกัน เจี๋ยสวี่ ที่ยืนฟัง เขาก็ชื่นชมลู่เฟิงในใจ ฝ่าบาทของเขา ทรงมีฝีปากในการปะทะที่ยอดเยี่ยมมาก เกรงว่า คำถามนี้ แม้จะเป็น ฮัวโต๋ ก็ยังยากที่จะตอบ
“แล้วเจ้ายังคิดว่าตระกูลหมิงยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่อีกหรือไม่?”ลู่เฟิงกล่าวถาม
นี่เป็นคำถามที่กดดันเขา
ฮัวโต๋ รู้ว่าเขาเข้าใจผิด แต่เขาไม่สามารถหาคำมาหักล้างได้
ฮัวโต่ ได้คุกเข่าลงบนพื้นอีกครั้งและกล่าวถาม”ข้าน้อย ฮัวโต๋ ถ้าข้าน้อยติดตามฝ่าบาท ได้โปรดฝ่าบาทให้คำมั่นสัญญากับข้าน้อยด้วยเงื่อนไขข้อหนึ่ง”
“เงื่อนไขอะไร?”
“หาก ฮัวโต๋ ต้องการกลับภูมิลำเนาในอนาคต หวังว่า ฝ่าบาท จะทรงอนุญาติ!”ฮัวโต๋ ได้ตอบกลับ
ชายชราคนนี้เป็นคนที่ฉลาดและรู้ที่จะปกป้องตัวเอง
ลู่เฟิงไม่ได้สนใจเขาได้ตอบกลับ”ข้าอนุญาติ!”
เขามีความมั่นใจในตัวเอง ถ้าเขาไม่สามารถโน้มน้าวแม้กระทั่งฮัวโต๋ได้เขายังจะเป็นอะไรได้อีก?
“เช่นนั้น ข้าน้อย ฮัวโต๋ จะติดตามฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาททรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!”ฮัวโต๋ ได้ตอบกลับทันที
“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ในการปราม ฮัวโต๋ ความภักดีของ ฮัวโต๋ อยู่ที่ 75 “
“ติ๊ง ความแข็งแกร่งของ ฮัวโต๋ กำลังตื่นขึ้น ปัจจุบัน ความแข็งแกร่งของเขาคือระดับ 1 ขั้นรวมพลังหยวน เขาจะกลายเป็นนักรบระดับ 1 ขั้นรวมพลังหยวน ในอีกสามเดือน”
เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก
ในที่สุด เขาก็สามารถทำให้ ฮัวโต๋ กลายมาเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาได้สำเร็จ แต่สิ่งที่เขาพูดไม่ออกก็คือความภักดี 75 แต้ม ที่มีน้อยกว่าปกติทั่วไป
แต่เมื่อนึกถึงความสามารถของ ฮัวโต๋ เขาก็ไม่คิดอะไร
ลู่เฟิง ได้ลงจากม้าและช่วยพยุงฮัวโต๋ให้ลุกขึ้น”เอาล่ะ หยวนฮัว ( ฮัวโต๋) ข้าจะไม่พูดเรื่องไร้สาระอะไรอีก แต่ข้าต้องการให้เจ้ารีบไปกับข้า!”
“ฝ่าบาทจะไปไหนหรือพะยะค่ะ?”
“มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่า 10,000 นายในเมืองว่านเหอ ตอนนี้พวกเขากำลังรอความช่วยเหลือจากเจ้า!”
ทันทีที่ ฮัวโต๋ ได้ยินว่ามีคนมากกว่าหมื่นชีวิตกำลังตกอยู่ในอันตรายเขาก็รีบพูดทันที”ฝ่าบาท ได้โปรดให้ม้าเร็วกับข้าน้อย ข้าน้อยจะรีบเดินทางไปทันที”
ลู่เฟิง พอใจกับท่าทีทุ่มเทของ ฮัวโต๋”เช่นนั้นไปด้วยกันเถอะ!”
จากนั้นเขาก็กลับไปยังเมืองว่านเหอ โดยมีทหารกว่าร้อยคนอยู่ข้างหลังของพวกเขา รวมถึง เจี๋ยสวี่ และ ฮัวโต๋
เมื่อพวกเขาไปถึงเมืองว่านเหอ มันก็เป็นช่วงเช้าแล้ว
เกาชุน ลิโป้ และคนอื่น ๆ ยังไม่ได้กลับมา
“ฝ่าบาท ทหารที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ไหนหรอพะยะค่ะ?”ฮัวโต๋ ได้กล่าวถามทันที
“มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บมากเกินไปพวกเขาได้กระจายตัวกันอยู่หลายแห่ง”
ฮัวโต๋ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ”ฝ่าบาทได้โปรดส่งคนไปรวบรวมทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดมารวมกันไว้ในที่เดียว ข้าจะใช้พลังวิเศษของข้าน้อยเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของพวกเขา จากนั้นค่อยกำหนดสมุนไพรเพื่อรักษาอาการของแต่ละคน”
“เข้าใจแล้ว!”
ลู่เฟิงได้พยักหน้าและมองไปที่ เจี๋ยสวี่”เจี๋ยสวี่ เจ้าสั่งให้คนของเราไปรวบรวมทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดมารวมกันไว้ในที่เดียว”
“ขอรับ!”
เจี๋ยสวี่ ไม่ได้แปลกใจ เขารีบตอบสนองอย่างรวดเร็วทันที
ลู่เฟิงก็ถอนหายใจออกมา
มีทหารที่ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 10,000 นาย แม้ว่า เจี๋ยสวี่ จะสั่งการให้คนไปรวบรวมคนบาดเจ็บมาไว้รวมกันแต่ก็ยังไม่สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น
ลู่เฟิง และ ฮัวโต๋ ได้ยืนอยู่บนแท่นสูงชั่วคราว ด้านหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ลู่เฟิง มองไปที่ คนเหล่านี้ ด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย คนเหล่านี้ ได้เสียสละเพื่ออาณาจักรและเมืองว่านเหอมากเกินไป
“หยวนฮัว เจ้ามั่นใจหรือไม่?”ลู่เฟิงได้หันไปกล่าวถาม ฮัวโต๋
ฮัวโต๋ได้พยักหน้า”ข้าน้อยมั่นใจ!”
“เช่นนั้นก็ดี!”
ลู่เฟิง ได้ก้าวไปข้างหน้าและมองดูทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเขาได้เดินออกไปและโค้งคำนับเล็กน้อยก่อนที่จะตะโกนออกมา”ในฐานะตัวแทนของผู้คนหลายร้อยล้านคนในอาณาจักรหนานหยาน ข้าต้องขอบคุณทุกสิ่งอย่างที่พวกเจ้าเสียสละเพื่อพวกเขา!”
ทหารที่อยู่ด้านล่าง ล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์ผ่านชีวิตและความตาย
หลายคนได้หัวเราะทันที”ฝ่าบาท พวกเราเป็นประชากรของอาณาจักรหนานหยาน หน้าที่ปกป้องอาณาจักรก็คือหน้าที่ของพวกเรา”
“ใช่แล้วฝ่าบาท พระองค์ไม่ต้องขอบคุณพวกเราหรอก พวกเราเพียงหวังว่า พระองค์จะชี้นำอาณาจักรหนานหยานให้ดีขึ้น เพื่อที่ครอบครัวของพวกเราจะได้มีชีวิตอยู่ได้อย่างสุขสบาย”
“พวกเจ้าทุกคนไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่ปฏิบัติต่อสมาชิกในครอบครัวของพวกเจ้าอย่างผิด ๆ และ ที่แน่นอนวันนี้พวกเจ้าจะไม่ตาย!”
เมื่อทหารที่ได้รับบาดเจ็บเหล่านั้นได้ยินคำพูดของลู่เฟิงพวกเขาก็รู้สึกสงสัย ฝ่าบาทของพวกเขาหมายความว่ายังไง?