MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 95
“เสนาบดีซุน เหรินหยาน ได้คิดก่อการกบฏ พวกเราทั้งสองคนต่างก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขา!”
หลังจากออกจากที่พำนักของ เหรินหยาน ไม่นาน เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ก็มาถึงที่พักของซุนฮก
ซุนฮก ได้ถอนหายใจ และตอบกลับ”เดิมข้าต้องการให้โอกาสเขาเพื่อที่จะได้จากไปพร้อมกับชื่อเสียงที่ดีแต่ว่าตอนนี้ดูเหมือน…”
“เสนาบดีซุนท่านได้มอบโอกาสให้เหรินหยานแล้วแต่เขากลับไม่รับมันไว้เองในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ให้มันเป็นไปตามที่ควรเถอะ!”เหวิ่นอานและฮูหยินต่างก็ยิ้มอย่างขมขื่น
พวกเขาได้ต่อต้าน เจี๋ยสวี่ ในฐานะอัครมหาเสนาบดี และ เกาชุน ในฐานะแม่ทัพใหญ่ พวกเขามีเจตนาที่เห็นแก่ตัวเอง อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังมอบความภักดีให้แก่ลู่เฟิง
แต่เหรินหยาน เขาเลือกความเห็นแกตัวเป็นหลักโดยไม่สนใจสิ่งใด
สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกผิดหวังมาก
ซุนฮก ได้ยิ้มอย่างบิดเบี้ยวและตอบกลับ”ถ้างั้นข้าจะเริ่ม…”
“รายงานท่านเสนาบดีซุน จินยี่เหว่ย ตรวจพบจดหมายลับถูกส่งออกจากบ้านพักของเหรินหยาน ข้าน้อยได้ส่งคนให้ไปดักรับไว้แล้วพบว่ามันถูกส่งออกไปให้กับเมิ่งอี้!”ในขณะนั้นเอง จินยี่เหว่ย ก็เดินเข้ามารายงาน
“อะไรนะ เมิ่งอี้ ?”
ใบหน้าของ ซุนฮก ได้เปลี่ยนไป เขารู้จักตัวตนของ เมิ่งอี้ น้องชายของแม่ทัพเมิ่งเถียนที่มีกองทัพ 500,000 นายอยู่ในกำมือ เหรินหยาน ต้องการจะทำอะไรกันแน่?
ซุนฮก ได้รับจดหมายจากจินยี่เหว่ยเมื่อเขาเห็นเนื้อหาด้านในเขาก็รู้สึกโกรธมาก”เหรินหยานสมควรถูกลงดาบนับพันครั้ง!”
เมื่อ เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ได้ยินดังนั้น ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปและกล่าวถามอย่างกังวล”เสนาบดีซุน มีอะไรงั้นหรือ?”
“เหรินหยาน ได้แอบสั่งศิษย์คนสนิทของตนเอง เมิ่งอี้ ให้ยึดอำนาจทางการทหารของ เมิ่งเถียน เพื่อบังคับให้ ฝ่าบาทสละราชสมบัติด้วยกองทัพ 500,000 นาย!”
“อะไรนะ?”
ใบหน้าของ เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ได้เปลี่ยนไปอย่างมากพวกเขาได้พูดอย่างประหลาดใจ”เหรินหยาน เขาเอาความกล้ามาจากไหน!”
“ข้าไม่รู้ว่า เหรินหยาน มีความกล้ามาจากไหน แต่ตอนนี้ พวกท่านอาวุโสทั้งสองคิดเห็นอย่างไร?”
“ตอนนี้ฝ่าบาทอยู่ที่ไหน?”
“สามสิบไมล์นอกเมืองหลวง!”
“พวกเราออกไปรับฝ่าบาทกันเถอะ!”
ซุนฮก ได้พยักหน้า พร้อมกับมองไปที่ จินยี่เหว่ย”สั่งให้ทหารทั้งหมดถอนออกจากจวนของเหรินหยาน แต่ให้ จินยี่เหว่ย คอยสอดส่องอย่างลับ ๆ และ ตรวจดูว่าจะมีจดหมายอื่นถูกส่งออกไปอีกหรือไม่”
“ขอรับ!”
“พวกท่านทั้งสองไปกันเถอะ!”
ซุนฮก ได้พา เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ขี้ม้าเร็วไปยังสถานที่ที่กองทัพของลู่เฟิงประจำการอยู่
“ข้าน้อย ซุนฮก”
“ข้าน้อย เหวิ่นอาน ,ฮูหยิน”
“ถวายบังคมฝ่าบาท ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญอายุยิ่งยืนนาน!”
พวก ซุนฮก ทั้งสามคนได้คุกเข่าลงบนพื้น
ลู่เฟิง มองไปที่ พวกเขาด้วยความประหลาดใจ เขาสงสัยว่า เหวิ่นอาน ฮูหยิน ขุนนางอาวุโสทั้งสองที่ไม่พอใจซุนฮกในฐานะเสนาบดีทำไมถึงมาที่นี่พร้อมกันได้
แต่เขาก็ยังหัวเราะออกมา”เอาล่ะไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอก!”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”
ทั้งสามคนได้ยืนขึ้นอย่างเคารพ
“เหวินยื่อ เจ้าพา อาจารย์เหวิ่นกับอาจารย์ฮู ออกจากเมืองหลวงมาหาข้ามีเรื่องอะไรงั้นหรือ?”ลู่เฟิงกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“ฝ่าบาท ได้โปรดดูจดหมายฉบับนี้!”
ซุนฮก ได้ส่งจดหมายที่เหรินหยานแอบส่งออกไปให้กับ ลู่เฟิง
ใบหน้าของ ลู่เฟิงได้มืดมนลงทันทีที่เขาอ่านมันเขาได้เยาะเย้ยในใจและพูดว่า”ดูเหมือนว่า ขุนนางในราชสำนักของข้าจะเป็นเสนาบดีที่ดีจริง ๆ คิดจะก่อการกบฏบังคับให้ข้าสละราชสมบัติ!”
“อะไรนะ ใครกันขอรับที่มันกล้าหาญเช่นนี้กับพระองค์ ข้าจะเอาง้าวเล่มนี้ฟาดศีรษะของมัน!”ลิโป้ ที่ยืนอยู่ข้างเขาทันทีที่ได้ยินเขาก็โกรธทันที
ลู่เฟิง ได้โบกมือครุ่นคิดเล็กน้อยและมองไปที่ซุนฮก”มีใครรู้เรื่องจดหมายนี้อีกบ้าง?”
“มีเพียงข้า ท่านอาจารย์ทั้งสอง และ จินยี่เหว่ย ว่านหู่ แต่จินยี่เหว่ย ว่านหู่ ไม่ได้อ่านเนื้อหาของจดหมาย!”ซุนฮก ได้ตอบกลับ
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าก่อนที่จะมองไปที่ เจี๋ยสวี่”เหวินเหอ เจ้าคิดว่ายังไง?”
เจี๋ยสวี่ ได้หยิบจดหมายขึ้นมาอ่านและครุ่นคิด”ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่าควรส่งจดหมายฉบับนี้ให้ถึงมือ เมิ่งอี้ ด้วยวิธีนี้เราจะได้เห็นว่า เมิ่งอี้ มีความภักดีต่อฝ่าบาท หรือว่า เหรินหยาน อาจารย์ของเขา”
“ถ้าเขาจงรักภักดีต่อฝ่าบาท พวกเราก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาในกองทัพ แต่ถ้า เมิ่งอี้ จงรักภักดีต่ออาจารย์ของเขา ข้าน้อยหวังว่าพระองค์จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดโดยไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ของเมิ่งเถียน!”
“ฝ่าบาท ข้าน้อยเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน!”ซุนฮกได้ตอบกลับด้วยความเคารพ”ด้วยวิธีนี้เท่านี้จะทำให้อาณาจักรของเราดีขึ้นได้ ฝ่าบาทโปรดอย่าได้ลังเล!”
“ข้าเป็นคนลังเลตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ลู่เฟิงได้ตอบกลับ”เหวินเหอ จัดการส่งจดหมายให้เมิ่งอี้ และ ลอบส่งข้อมูลนี้ให้กับ เมิ่งเถียน ข้าเชื่อว่าเมิ่งเถียน จะสามารถจัดการต่อจากนี้ได้!”
“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
เจี๋ยสวี่ ได้จากไปทันที
ลู่เฟิง ได้หันหน้าไปมอง ซุนฮก และกล่าวถาม”เหวินยื่อ มีพวกหนอนโผล่หัวออกมาบ้างหรือไม่?”
ซุนฮก ได้พยักหน้า”ฝ่าบาท ตอนนี้พวกเราได้ข้อมูลที่แน่ชัดแล้ว มีข้าราชบริพารกว่า 30 คน ได้แอบส่งข้อมูลกบฏอย่างลับ ๆ กับคนของตนเอง”
“มีหลักฐานหรือไม่?”
“ขอรับ”
“เอาล่ะ ฆ่าให้หมด และ บอกหลักฐานทั้งหมดให้โลกรู้!”
“ขอรับ!”
ซุนฮก ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและมองไปที่ลู่เฟิง”ฝ่าบาท พระองค์คิดจะทำอะไรกับเหรินหยาน จะจัดการเขาอย่างลับ ๆ หรือประกาศความชั่วร้ายของเขาออกมา?”
ลู่เฟิง ได้มองไปที่ เหวิ่นอานและกล่าวถาม”อาจารย์เหวิ่น ท่านเป็นเสนาบดีกรมอาญาท่านคิดเห็นอย่างไร?”
เหวิ่นอานตอบกลับทันที”ฝ่าบาท ข้าน้อยคิดว่าพวกเราควรพิจารณาคดีขึ้นตามกฏบัญญัติของราชสำนักสมาชิกตระกูลจิ่วทั้งหมดจะต้องได้รับโทษ!”
“ข้าน้อยก็เห็นด้วยพะยะค่ะ!”ฮูหยินตอบกลับ
เมื่อได้ยินดังนั้น ลู่เฟิง ก็เข้าใจทันที เหวิ่นอาน และ ฮูหยิน ไม่เหมือนกับ เหรินหยาน พวกเขาเป็นห่วงอาณาจักรและภักดีต่อตัวเขามาก ดังนั้น เขาจึงตอบกลับ”เรื่องนี้ต้องรบกวนอาจารย์เหวิ่นแล้ว อย่าได้ทำให้ข้าผิดหวัง!”
“ขอให้ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย ข้าน้อยจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวัง!”
“เช่นนั้นรอให้ข่าวไปถึงเมิ่งอี้ก่อนพวกเราค่อยจัดการเรื่องนี้กันทีหลัง!”
“ขอรับ!”
…
เจี๋ยสวี ได้สั่งให้คนรีบเร่งไปยังที่ประจำการนอกหุบเขาหยางผิง และ ขอให้คนส่งจดหมายให้กับเมิ่งอี้
ในเวลาเดียวกันเขาก็ไปถึงค่ายทหารที่เกาชุนและเมิ่งเถียนรออยู่
“ข้าน้อยทักทายอัครมหาเสนาบดีเจี๋ย!”เมิ่งเถียน ได้กล่าวด้วยความเรารพ
“เหวินเหอ ข่าวจากจินยี่เหว่ยนี้เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?”เกาชุนได้มองไปที่ เจี๋ยสวี่
เมิ่งเถียน ก็กังวลมากเช่นเดียวกัน เพราะ จินยี่เหว่ย ได้ส่งข่าวมาบอกทั้งสองคนอยู่ก่อนแล้ว
เจี๋ยสวี่ ได้พยักหน้าและตอบกลับ”เรื่องนี้ได้รับการยืนยันแล้ว มารอดูท่าทีของเมิ่งอี้กันก่อนเถอะ!’
เมิ่งเถียน ได้ยิ้มอย่างขมขื่น เขาเพียงหวังว่าน้องชายของเขาจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ มิฉะนั้นเขาที่เป็นพี่ชายจะฆ่าน้องชายด้วยเงื้อมมือของตนเอง
ในขณะเดียวกัน เมิ่งอี้ ที่ได้รับจดหมาย เขาก็อ่านเนื้อหาข้างในและนิ่งเงียบเป็นเวลานาน การแสดงออกของเขาซับซ้อนอย่างมาก