MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ - ตอนที่ 98
เรื่อง ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย ลู่เฟิง ไม่แปลกใจเลย
เพราะยังไงอีกฝ่ายก็ต้องยกทัพมาตีเขาไม่ช้าก็เร็ว!
ในตอนแรก ลู่เฟิง กังวลเพียงแค่ว่า ราชาเมกาทรอนจะยกทัพมาตีตอนเขากำลังพิชิตอาณาจักรซีหยางหากเป็นตอนนั้นเขาจะไม่มีทางป้องกันได้เลย
เพราะเขาจะไม่เหลือกำลังพอที่เพียงพอจะหยุดราชาเมกาทรอนลู่เว่ยได้
ยังดีที่ ราชาเมกาทรอนไม่ได้ก่อการกบฏในเวลานั้นมิฉะนั้นลู่เฟิงคงจะไม่ได้นั่งอยู่บนบัลลังก์มังกรอีกต่อไป
ตอนนี้ หลังจากรอมานาน ราชาเมกาทรอนในที่สุด ก็เริ่มเคลื่อนไหว ดังนั้น ลู่เฟิง จึงไม่แปลกใจ
“บอกข้ามาว่าพวกเขากำลังเริ่มเคลื่อนผลด้วยจำนวนคนเท่าใด?”ลู่เฟิงกล่าวถาม
เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับ”เท่าที่ได้รับจากข้อมูล ดูเหมือนว่าเขากำลังเตรียมการที่จะเดินทัพ 3 ล้านนาย แต่ทว่าตอนนี้ มากที่สุดก็เกณฑ์กำลังได้ประมาณ 500,000 นายเท่านั้น มันเป็นทัพหน้าส่วนตัวของเขา และ คาดว่าจะบุกโจมตีในเร็ว ๆ นี้”
“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่า ลุงของข้าจะใจร้อนไม่เบา!”ลู่เฟิง ยิ้มออกมา
“ฝ่าบาทพวกเราไม่ควรประมาทศึกในครั้งนี้!”เจี๋ยสวี่ มองไปที่ ลู่เฟิง ราวกับว่าเขากำลังประมาทอีกฝ่ายอยู่”กองทัพที่พวกเราสามารถใช้ได้ตอนนี้มี ทหารองค์รักษ์ 50,000 นาย ทหารม้าสองหมื่นนาย แต่ทว่า ราชาเมกาทรอน มีทหารม้าอยู่ในมือมากกว่า 150,000 นาย และ ทหารราบชั้นยอดอีกประมาณ 350,000 นาย หากเราเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้เกรงว่าจะเป็นศึกที่ยากลำบาก!”
ลู่เฟิงได้พยักหน้าและตอบกลับ”สบายใจเถอะ ข้าไม่ได้ประมาท ลู่เว่ยหรอก!”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ลู่เฟิงก็กล่าวถาม”กองทัพของเกาชุนอยู่ที่ไหน?”
“ฝ่าบาทกองทัพของแม่ทัพเกาจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน ในการเดินทัพกลับมายังเมืองหลวง เพราะอาณาจักรซีหยาง ยังเหลือทัพมากกว่า 300,000 นาย เราไม่มีเวลามากขนาดนั้น!”การแสดงออกบนใบหน้าของ เจี๋ยสวี่ ดูเคร่งขรึมมาก”ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย มีทหารม้าชั้นยอดอยู่ในมือของเขา เขาจะสามารถมาถึงเมืองหลวงได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 5 วัน!”
“เกรงว่าคงจะไม่ถึงห้าวัน!”
ซุนฮก ได้สั่นศีรษะ”ฝ่าบาท จากเมืองฉิวซาน ที่พำนักของราชาเมกาทรอน จนถึงเมืองหลวง ถูกกั้นด้วยเมืองส่วนใหญ่ที่ถูกครอบครองโดยตระกูลขุนนางของอาณาจักร ตามข่าวที่ข้าน้อยได้รับมา ราชาเมกาทรอน กำลังส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังตระกูลเหล่านี้ ให้พวกเขาจัดเตรียมน้ำเสบียงอย่างลับ ๆ เพื่อเตรียมการให้กับกองทัพใหญ่ของเขา!”
“อีกอย่าง…”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะ ซุนฮก ก็กล่าวต่อ”คนเหล่านี้พร้อมที่จะยอมจำนนต่อ ราชาเมกาทรอน ลู่เว่ย กองทัพของพวกเขาเพียงใช้เวลาสองวันครึ่งอย่างเร็วที่สุด ในการเดินทางมาถึงเมืองหลวง หรืออาจใช้เวลาอย่างมากสี่วัน ด้วยจำนวนวันที่เหลือน้อยเช่นนี้ย่อมเป็นปัญหาสำหรับพวกเราอย่างแน่นอน”
ลู่เฟิง ได้ยินดังนั้นเขาก็ยิ้มออกมา”ดูเหมือนว่า วิกฤติครั้งนี้จะไม่ง่ายสำหรับข้าจริง ๆ หลายตระกูลก็เริ่มที่จะเตรียมก่อการกบฏแล้ว!”
“ฝ่าบาท หากปล่อยไว้แบบนี้เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้นอย่างแน่นอน ข้าน้อยแนะนำให้ฝ่าบาททรง…”
“จัดการฆ่าทุกตระกูลที่ต่อต้านใช่หรือไม่?”
ลู่เฟิง ได้เดาคำพูดของ เจี๋ยสวี่และกล่าวถาม”เหวินเหอ เจ้าต้องการจะบอกข้าเช่นนี้ใช่ไหม?”
เจี๋ยสวี่ ได้พยักหน้าและตอบกลับ”พะยะค่ะ ฝ่าบาท ตระกูลเหล่านี้ จะต้องถูกจัดการโดยเร็ว ด้วยวิธีนี้เท่านั้น จะทำให้เราสามารถจัดการกับกองทัพของราชาเมกาทรอนได้อย่างสบายใจ!”
ลู่เฟิงพยักหน้าและตอบกลับ”เจ้าพูดถูกตระกูลชั้นสูงเหล่านี้สมควรถูกล้างบาง แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้!”
เจี๋ยสวี่ ผงะเล็กน้อยและกล่าวถาม”ฝ่าบาทพระองค์ทรงหมายความเช่นไร?”
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าไม่เห็นตระกูลขั้นสูงในมณฑลจงซานตั้งแต่ข้ากลับมา?”ลู่เฟิงกล่าวถาม
เจี๋ยสวี่ได้คร่ำครวญเล็กน้อยและสั่นศีรษะ”ข้าน้อยไม่ทราบ!”
“เหวินยื่อ เจ้าล่ะ รู้ไหม?”ลู่เฟิง กล่าวถาม ซุนฮก
ซุนฮก ได้คร่ำครวญและพยักหน้าตอบกลับ”ฝ่าบาทพระองค์ทรงกังวลว่าด้วยอิทธิพลในปัจจุบันของพระองค์จะไม่สามารถทำตามที่ตรัสเอาไว้ก่อนหน้า ฆ่าหนึ่งตระกูลเว้นหนึ่งตระกูล?”
ลู่เฟิงได้พยักหน้า”ในตอนแรกข้าคิดว่าจะสามารถทำเช่นนั้นได้หลังจากที่เอาชนะกองทัพของอาณาจักรซีหยาง แต่ต่อมาข้าพบว่าข้าคิดผิด เพราะหลังจากนั้นไม่กี่วัน ข้าก็ตัดศีรษะ ขุนนางในราชสำนักที่ต่อต้าน ทั้งยัง ตัดศีรษะ เหรินหยาน ไป ด้วยสิ่งนี้ทำให้ตระกูลชั้นสูงจำนวนมากไม่คิดจะยอมจำนนอย่างง่าย ๆ และ กุญแจสำคัญสำหรับพวกเขาก็คือ…”
“ราชาเมกาทรอนลู่เว่ย!”เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ได้พูดพร้อมเพรียงกัน
ลู่เฟิง ถอนหายใจออกมา”ถูกต้อง เป็นท่านลุงที่แสนดีของข้า! เขาเป็นตัวแทนของตระกูลเหล่านี้ ด้วยกองกำลังที่มีมากกว่า 3 ล้านนาย ข้าคงจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้ ในตระกูลชั้นสูงเหล่านี้ ข้าก็คงเป็นแค่ไอ้เด็กขนดก คนนึง แม้จะสามารถเอาชนะกองทัพของอาณาจักรซีหยางที่รุกรานเข้ามาได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้พวกเขายอมสยบอย่างเชื่อฟัง!”
“ดังนั้น ข้าจึงไม่ได้คิดจัดการพวกเขาเหมือนกับตระกูลมณฑลจงซานเหล่านั้น เพราะข้ารู้มาว่า ฆ่าหนึ่งตระกูล อีกตระกูลหนึ่งตกใจ อีกตระกูลยอมสยบ อีกตระกูลต่อต้าน ท้ายที่สุดมันก็จะไม่จบไม่สิ้น!”
“แต่…”
เจี๋ยสวี่ ได้มองไปที่ ลู่เฟิง และยิ้มอย่างขมขื่น”ฝ่าบาทหากพวกเราไม่แก้ไขปัญหาตระกูลชั้นสูงเหล่านี้ เกรงว่าพวกเราคงไม่มีทางป้องกันเมืองหลวงจากราชาเมการทรอนได้อย่างแน่นอน”
ซุนฮก เองก็ยิ้มอย่างขมขื่น
ทั้งสองคนเป็นคนที่มีความสามารถด้านสติปัญญาที่เหนือกว่า แต่จะเป็นอย่างไร กองทัพของพวกเขาก็ยังไม่เพียงพอให้ใช้ต่อกรกับศัตรู
คนเพียงไม่กี่หมื่นคนจะสามารถเอาชนะกองทัพสามล้านคนของราชาเมกาทรอนได้?
ไม่ว่าคุณจะมีสติปัญญาที่เฉียลแหลมขนาดไหนก็คงไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้!
สถานการณ์ก็เหมือนกับ การทำอาหารโดยไม่ใช้ส่วนผสมหลัก หากไม่มีส่วนผสมหลัก อาหารที่ทำออกมาก็จะไม่มีทางเสร็จสมบูรณ์
ดังนั้นกำลังพลจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ลู่เฟิง ไม่ได้ตอบ เขาได้หลับตาลง และ เรียกใช้หน้าต่างค่าสถานะ
โฮสต์ : ลู่เฟิง
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ระดับพลัง : ระดับ 9 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน
ทักษะต่อสู้ : โจมตีหนัก,ดาบฉิงซาน
พลังเหนือธรรมชาติ : ไม่มี
สัตว์เลี้ยง : ไม่มี
ตัวละครพันธมิตร : ฮวามู่หลาน,เกาชุน,เจี๋ยสวี่,ซุนฮก,ลิโป้,เตียวเลี้ยว,ฮัวโต๋,เมิ่งเถียน,เมิ่งอี้
ตัวละครศัตรู : ชูหยี
เรียกกองทัพ : 30,000 นายจินยี่เหว่ย – 100,000 นายทหารม้าผู้ภักดี – 500,000 นายทหารฉิน
ไอเทมอัญเชิญ : ดาบกานเจียง,ดาบเฉิงอิ๋ง
โอกาสอัญเชิญที่เหลืออยู่ : หนึ่งครั้ง ( เรียกกลุ่มกองทัพ )
ลู่เฟิง มองไปที่ โอกาสอัญเชิญที่เหลืออยู่ของเขาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า โอกาสอัญเชิญในครั้งนี้เป็นกุญแจสำคัญว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาการก่อกบฏของราชาเมกาทรอนลู่เว่ยได้หรือไม่
หากเขาสามารถเรียกทหารม้าได้หลายล้ายคนเขาจะสามารถจัดการปัญหาได้ในทันที
แต่แน่นอนว่าเขาแค่คิด ไม่มีทางที่ระบบจะมอบของขวัญล้ำค่าเช่นนี้ให้เขา
เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก มองไปที่ ลู่เฟิง ที่ปิดเปลือกตาสนิท และ กำลังยิ้มบนใบหน้า พวกเขารู้สึกงุนงงเล็กน้อย เป็นไปได้หรือไม่ว่าฝ่าบาทของพวกเขาจะมีทางออกอื่นอยู่อีก?
แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้กล่าวถามเพียงรอให้ลู่เฟิงบอกเขาทั้งสองคน
“ระบบ ฉันต้องการใช้โอกาสในการอัญเชิญกลุ่มกองทัพ! เริ่มต้นอัญเชิญทันที!”