My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 556
“ปล่อยอาวุธของข้าสิวะ !” ใบหน้าของโจวชวงดูหงุดหงิดและกล่าวอย่างคลุ้มคลั่ง
ประกายแห่งการเย้ยหยันปรากฏขึ้นในดวงตาของฉิงเฟิง เขาออกแรงที่นิ้วมือและบีบเข้าหากันตามมาด้วยเสียง ‘แกร่ก’ แท่งเหล็กแข็งหักเป็นสองส่วนต่อหน้าต่อตาผู้ชมทั้งอารีน่า
ทุกคนรู้ว่าแท่งเหล็กของโจวชวงทำมาจากเหล็กกล้า มันยาวถึงสองเมตร โจวชวงได้ใช้แท่งเหล็กอันนี้ป่นกระดูกคู่ต่อสู้และเอาชนะนักสู้มานักต่อนักแล้ว
แต่น่าเสียดายที่ในวันนี้แท่งเหล็กของโจวชวงไม่สามารถเอาชนะนิ้วมือทั้งสองของชายหนุ่มคนหนึ่งได้ สร้างความประหลาดอย่างมากให้กับโจวชวง
ปัง !
ฉิงเฟิงเหวี่ยงกำปั้นขวาไปบนหน้าอกของโจวชวงด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า ร่างของโจวชวงกระเด็นออกไปนอกเวทีเหมือนกระสุนปืน เขากระอักเลือดออกมาและคอพับไปด้านข้าง หมดสติในทันที
ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งอารีน่าแห่งนี้ ทุกคนตกใจมาก หนึ่งหมัด, เขาน็อคคู่ต่อสู้ด้วยหมัดเดียวอีกครั้ง !
สกายวูฟเพิ่งน็อคลั่วเปียวผู้ชนะ 3 รอบรวดมาแล้ว ขณะนี้เขาก็ยังเอาชนะโจวชวงผู้ชนะถึง 5 รอบได้อีกด้วย ความจริงแล้วสกายวูฟคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน ?
“หมายเลข 999 สกายวูฟเป็นผู้ชนะ ได้อีก 10 คะแนน ตอนนี้มีคะแนนรวม 20 คะแนน !” กรรมการประกาศผลเสียงดังสนั่น ทั่วทั้งอารีน่าต่างก็เดือดพล่าน
“สกายวูฟ สกายวูฟ สกายวูฟ … ” ทั่วทั้งอารีน่าต่างเต็มไปด้วยเสียงร่ำร้อง ผู้คนหลายคนลุกขึ้นยืนและตะโกนว่า ‘สกายวูฟ’
ในส่วนของโต๊ะพนัน เถ้าแก่เริ่มโมโหมากขึ้นเพราะเขาคิดว่าโจวชวงน่าจะเอาชนะสกายวูฟได้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดเลยว่าโจวชวงจะไม่สามารถรับหมัดของสกายวูฟได้แม้แต่เพียงครั้งเดียว เขาเสียพนันอีกแล้ว
ผู้คนที่แทงข้างสกายวูฟต่างก็คลุ้มคลั่งไปด้วยความสุข พวกเขารู้สึกว่าโชคดีมากที่แทงข้างสกายวูฟ เรื่องนี้ทำให้พวกเขาชื่นชมสกายวูฟมากยิ่งขึ้นและส่งเสียงโห่ร้องออกมาดังขึ้นอีกด้วย
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและยกมือขวาขึ้นเป็นสัญญาณให้ฝูงชนที่กำลังโห่ร้องเงียบลง เขามองไปที่กรรมการและพูดว่า “จัดรอบต่อไปมาเลย”
กรรมการพยายามข่มความตกตะลึงของเขาไว้และประกาศอย่างดังว่า “การแข่งรอบที่ 3 ของสกายวูฟปะทะหมายเลข 620”
สิ้นเสียงก็มีชายร่างใหญ่ผิวแทนคนหนึ่งเดินออกมา เขาดูแข็งแรงและเต็มไปด้วยพลัง
………อย่างไรก็ตามเขาถูกเขี่ยออกโดยสกายวูฟ ด้วยการชกหนึ่งครั้ง
สาม, สี่, ห้า, หก …
สกายวูฟเอาชนะคู่ต่อสู้ติดต่อกัน 10 คนโดยไม่มีข้อยกเว้น คู่ต่อสู้ของเขาทุกคนต่างก็พ่ายแพ้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวทั้งหมด ผู้คนในอารีน่าต่างก็คลุ้มคลั่ง พวกเขาโห่ร้องชื่อสกายวูฟกันอย่างเนื่องแน่นดังไปทั่วฮอล์ มีผู้หญิงบางคนส่งจูบให้เขาเพื่อแสดงความชื่นชม
“หมายเลข 999 สกายวูฟชนะติดต่อกัน 10 รอบได้รับคะแนนสะสม 100 คะแนน และตอนนี้เขาอยู่ในอันดับที่ 3 ของอารีน่าเมืองทะเลตะวันออก” กรรมการประกาศผลด้วยความตื่นเต้น
กรรมการและผู้ชมทุกคนต่างก็เป็นประจักษ์พยานในปาฏิหาริย์วันนี้ สกายวูฟชนะติดต่อกัน 10 ครั้งและขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอารีน่าทะเลตะวันออก
จากข้อกำหนดของอารีน่าทะเลตะวันออก ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต่อสู้ได้สูงสุดแค่ 10 ครั้งต่อวัน เพราะฉะนั้น วันนี้สกายวูฟจึงขึ้นไปได้ถึงแค่อันดับ 3 เท่านั้น ส่วนอันดับ 1 คือเฮลคิงและหวู่กุ้ยอิง ซึ่งลงสนามไปคนละ 30 รอบ อยู่ที่อันดับ 1 คู่กัน ส่วนหวู่เชิงน้องชายของเธออยู่ที่อันดับ 2 ลงสนามไป 20 รอบ
แน่นอน ถ้าสกายวูฟได้มีโอกาสต่อสู้สามสิบรอบอย่างต่อเนื่อง เขาก็จะอยู่ในอันดับต้นๆเช่นเดียวกัน
ในเมื่อโควตาของวันนี้ครบแล้ว ฉิงเฟิงก็ไม่สามารถลงสนามต่อได้ เขารู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อยที่ยังไม่มีโอกาสได้เจอเฮลคิง
“ฉัน สกายวูฟ จะท้าทายเฮลคิงในการต่อสู้รอบต่อไปรอบต่อไป” ฉิงเฟิงกล่าวกับทุกคนในขณะที่ยืนอยู่บนเวที
เขาตั้งใจที่จะประกาศท้าทายเฮลคิงกลางที่สาธารณะเพื่อเป็นการบีบให้เฮลคิงแสดงตัวออกมา เฮลคิงราวกับเป็นงูพิษที่หลบซ่อนอยู่ในมุมมืดพร้อมที่จะขย้ำเขาถึงตายหากเขาไม่คอยระมัดระวังให้ดี เขาจึงคิดจะตัดไฟแต่ต้นลม
ผู้คนที่อยู่รอบๆต่างก็รู้สึกตื่นเต้นเมื่อยินคำท้าทายที่สกายวูฟส่งไปถึงเฮลคิง เพราะนี่จะเป็นการต่อสู้ที่สำคัญระหว่างสองยอดฝีมือ
“โอ้ ! สกายวูฟช่างสุดยอดนัก ลงสนามวันเดียวก็ท้าเฮลคิงในทันที”
“แกคิดว่าใครจะชนะ ?”
“ข้าคิดว่าน่าจะเป็นเฮลคิง เขาเป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดของเมืองทะเลตะวันออกในตอนนี้ เขาก็เอาชนะคู่ต่อสู้ทุกคนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเช่นกัน”
“แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ สกายวูฟก็แข็งแกร่งพอตัว มันยากที่จะบอกว่าใครจะเป็นผู้ชนะในตอนนี้”
“หยุดโม้กันได้แล้ว พวกนายจะเอาเฮลคิงไปเทียบกับสกายวูฟได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่ได้ปรากฏตัวในวันนี้ ?”
ผู้ชนต่างก็พูดคุยกันอย่างกระตือรือร้น บางคนอยู่ฝ่ายเฮลคิงขณะที่บางคนอยู่ข้างสกายวูฟ
หลังจากประกาศท้าทายเฮลคิงแล้วฉิงเฟิงก็เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยและเดินลงจากเวที
การแข่งขันจัดขึ้นสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น ฉิงเฟิงชนะไป 10 ครั้งแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องรออีกหนึ่งสัปดาห์หากเขาต้องการเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง
“ท่านปู่หลี่ คุณเป็นที่น่าทึ่งมาก คุณชนะ 10 ครั้งติดต่อกันและสามารถขึ้นไปอยู่ที่ 3 ภายในวันเดียว !” คิงคองกล่าวด้วยความตื่นเต้นและชื่นชมเป็นอย่างมาก
เสือดำมีสีหน้าไม่ค่อยพอใจและกล่าวว่า “นายท่านจะต้องได้ที่ 1 แน่นอนถ้าไม่ใช่เพราะกฎที่ว่าวันเดียวสู้ได้แค่ 10 ครั้ง”
แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าไม่มีกฎนั่นท่านปู่หลี่ต้องได้ที่ 1 แน่นอน “คิงคองหันไปมองเสือดำและพูดทำนองเดียวกัน
เจ้าเสือดำนี่พูดประจบเอาใจท่านปู่หลี่งั้นหรือ ? นายทำได้ฉันก็ทำได้
คิงคองคิดในใจ
“เราไปกันเถอะ อาทิตย์หน้าค่อยมาใหม่ หวังว่าถึงตอนนั้นเฮลคิงจะปรากฏตัว”
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเดินออกจากอารีน่าพร้อมกับคิงคองและเสือดำ
เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสี่คนที่ยืนอยู่หน้าประตูเห็นฉิงเฟิง ใบหน้าของพวกเขาก็ซีดลงในทันที พวกเขากล่าวด้วยความเคาพรพว่า “ท่านครับ เดินทางปลอดภัยนะครับ”
การแสดงออกที่เต็มไปด้วยความเคารพของพวกเขาแตกต่างจากเมื่อตอนที่ฉิงเฟิงมาถึงในตอนแรก
ในเรื่องการต่อสู้ ผู้เข้มแข็งจะได้รับความเคารพ ผู้อ่อนแอมักจะถูกกลืนโดยผู้แข็งแกร่ง มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะได้รับการเรียกขานว่า “Sir”
ฉิงเฟิงยิ้มและเดินออกจากอารีน่า เขาให้คิงคองขับรถพาไปส่งที่ Noble Palace จากนั้นคิงคองก็กลับไปที่สมาคมฉิงเฟิงพร้อมกับเสือดำ
ฉิงเฟิงเดินเข้าไปในวิลล่าของเขาและรู้สึกอบอุ่น เมื่อเขาเห็นแสงไฟที่ยังคงสว่างอยู่ในห้องนั่งเล่น เขารู้ว่าหลินเสวี่ยกำลังรอเขากลับมา
หลินเสวี่ยเคยกล่าวไว้ว่าเธอจะไม่ยอมเข้านอนถ้าหากฉิงเฟิงยังกลับไม่ถึงบ้าน เธออยากจะทำตัวเป็นภรรยาที่ดี
“ภรรยาของฉันน่ารักมาก” ฉิงเฟิงยิ้มและผลักประตูห้องนั่งเล่นเข้าไป อย่างไรก็ตาม รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเขาก็แข็งค้างและเขารู้สึกราวกับว่าจะสลบในวินาทีต่อมา นั่นเป็นเพราะว่าในห้องนั่งเล่นไม่ได้มีแค่เพียงหลินเสวี่ยเท่านั้นที่นั่งอยู่ แต่ยังมีผู้หญิงอีกคน ! ซึ่งนั่นก็คือหลิวหรูหยานนั่นเอง
นี่มันเรื่องบ้าอะไรอีกวะเนี่ย ?? ทำไมสองคนนี้ถึงมาอยู่ด้วยกันได้ ?….เรื่องนี้ทำให้ฉันเครียดยิ่งกว่าไปสู้ในอารีน่าเสียอีก..
จากที่มองดู ฉิงเฟิงเห็นพวกเธอกำลังเล่นโกะด้วยกัน
หลิวหรูหยานสามารถตามหลินเสวี่ยทันในทุกหมากที่เธอวาง หลินเสวี่ยพยายามจะวางหมากล่อหลิวหรูหยานด้วยหมากขาวของเธอ ในขณะที่หลิวหรูหยานก็รู้ทันทุกเล่ห์เหลี่ยมของหลิวเสวี่ยและโต้กลับด้วยหมากดำ พวกเธอทั้งคู่กำลังขับเคี่ยวกันอย่างสนุกสนานจนลืมฉิงเฟิง