My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 611
ตอนที่ 611 กุ้ยหวี่ชางปะทะลู่เต่าซาง
แปล โarhai
“ฉันยังไหว ว่าแต่นายมาได้ไง ?” ฉิงเฟิงถามด้วยความสับสน เขาบอกให้ลู่ซวนจี๋คอยปกป้องหลินเสวี่ย แล้วทําไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ?
“เป็นอลิซที่โทรหาผมและบอกให้ผมมาที่นี่” ลู่ซวนจี๋กล่าว
อลิซเป็นราชินีทางด้านข้อมูลข่าวสารของทีมเขี้ยวหมาป่า เธอรู้สึกได้ว่าวันนี้จะต้องมีอันตรายใหญ่หลวงเกิดขึ้น เพื่อความปลอดภัยเธอจึงบอกให้ลู่ซวนจี๋มาที่นี่พร้อมกับให้พาอาจารย์ของเขามาด้วย
จากสิ่งที่เห็นตอนนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าเซ้นส์ของอลิซนั้นถูกต้อง ถ้าเธอไม่โทรบอกให้ลู่ซวนจี๋และอาจารย์ของเขามาที่นี่ ป่านนี้ทีมเขี้ยวหมาป่าคงจะจบสิ้นไปแล้ว
“ฉิงเฟิง กระบี่ยาวเล่มนี้มีพลังแฝงของอุกกาบาตนอกโลก มันจะกัดกร่อนร่างกายของ เจ้า” นักพรตเฒ่าเดินมาหาฉิงเฟิงและกล่าว
” ท่านรู้เรื่องเกี่ยวกับพลังของมัน ?” ฉิงเฟิงถาม
นักพรตเฒ่าพยักหน้าและกล่าวว่า “ข้ารู้ ข้าจะจัดการกับกุ้ยหวู่ชางก่อนแล้วจะมาช่วยดึงกระบี่ออกให้เจ้า”
“คิดว่าใคร ลู่เต๋าซางนี่เอง ท่านเป็นเจ้าอาวาสของภูเขาบู๊ตึ๊ง ท่านจะออกหน้าปกป้องวูฟิคิงงั้นหรือ ?” คิ้วของกุ้ยหวู่ชางขมวดและถาม
กุ้ยหวู่ชางรู้จักนักพรตเฒ่าตรงหน้าเขาเป็นอย่างดี เขาคือเจ้าอาวาสของภูเขาบู๊ตึ๊งและเป็นที่รู้จักกันดีในเหล่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ เมื่อก่อนเขาคือตัวตนที่ทรงพลัง แต่ระดับพลังของเขาลดลงเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่รุนแรง
“กุ้ยหวู่ชาง หลี่ฉิงเฟิงเคยช่วยชีวิตข้าเอาไว้ เจ้าจากไปเสียดีกว่า มิเช่นนั้นข้าคงจะต้องล้มเจ้า” นักพรตเฒ่ากล่าวอย่างเรียบง่ายพร้อมด้วยแส้หางม้าที่อยู่ในมือ
” หนี้ ลู่เต๋าซาง, ทุกคนต่างรู้ว่าท่านได้รับบาดเจ็บหนักเมื่อสามปีก่อนจนพลังถดถอยไปมาก ท่านอาศัยอะไรมาข่มขู่ข้า ?” กุ้ยหวู่ชางกล่าว เขาไม่ได้กลัวการข่มขู่ของนักพรตเฒ่าแม้แต่น้อย
เมื่อเผชิญหน้ากับการดูถูกของกุ้ยหวู่ชาง นักพรตเฒ่าเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ข้า พูดไปแล้ว หลี่ฉิงเฟิงช่วยชีวิตข้าเอาไว้ เขารักษาเส้นลมปราณและฟื้นฟูร่างกายให้ข้า”
อะไรกัน ? รักษาเส้นลมปราณและฟื้นฟูร่างกาย ?
ใบหน้าของกุ้ยหวู่ชางแปรเปลี่ยนไปและรู้สึกตกใจมาก เขาเพ่งมองลู่เต๋าซางอย่างละเอียดจนพบว่าร่างกายของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและดูเหมือนจะหายขาดแล้ว
“บ้าชิบ หลี่ฉิงเฟิงสามารถรักษาลู่เต๋าซางจนหายได้ ข้าไม่เห็นรู้เรื่องนี้มาก่อน”
กุ้ยหวี่ชางพูดไม่ออก
แต่อย่างไรก็ตามวันนี้กุ้ยหวี่ชางได้รับคําสั่งจากอาจารย์ให้มาฆ่าฉิงเฟิง เขาย่อมไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆอย่างแน่นอน
“ลู่เต๋าซาง ถึงแม้ว่าเส้นลมปราณของท่านจะหายดีแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อว่าพลังของท่านจะกลับมาสมบูรณ์เหมือนก่อน ขอให้ข้าได้ทดสอบดูหน่อยเถอะ” กุ้ยหวู่ชางยิ้มเย็นชาและเดินไปหาลู่เต๋าซาง
ตูม!
กุ้ยหวู่ชางก้าวเท้าลงบนพื้นอย่างแรงและทําให้พื้นหินอ่อนแตกสลายเป็นฝูงผงในทันที พลังของเขาแข็งแกร่งกว่าทั้งฉิงเฟิงและเฮลคิงอย่างเห็นได้ชัด
ด้วยพลังจากเท้าของเขา กุ้ยหวู่ชางปรากฏตัวตรงหน้านักพรตเฒ่าทันทีราวกับสายฟ้าฟาด
” ฝ่ามือโกสคิง !!”
กุ้ยหวู่ชางกางฝ่ามือและมีแสงสีดําปรากฏออกมา มันฉีกอากาศโดยรอบและพุ่งตรงเข้าหานักพรตเฒ่า
ฝ่ามือโกสคิงแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างสุดขั้ว มันคือวิชาไม้ตายของโกสคิง มีเพียงลูกศิษย์เช่นเขาเท่านั้นที่เรียนรู้วิชาฝ่ามือนี้ได้
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ฝ่ามือที่สมบูรณ์ แต่มันก็มีพลังมากเพียงพอที่จะส่งเจ้าโล้นกับอลิซลอยกระเด็นจนหมดสภาพ
ลู่เต๋าซางมีสีหน้าจริงจัง ถึงแม้ว่าเขาจะหายดีจากการรักษาของฉิงเฟิงแล้วก็ตาม แต่ระดับพลังของเขาก็ลดลงอย่างมาก ถ้าเป็นในช่วงพีคสุดของเขา เขาสามารถส่งกุ้ยหวู่ชางให้กระเด็นได้ด้วยหมัดเดียว แต่ตอนนี้เขาไม่อาจทําได้
” หมัดไท่เก๊ก” ลู่เต๋าซางเคลื่อนไหวเป็นรูปวงกลมหยินหยาง หมัดขวาของเขาก่อรูปแบบเป็นหมัดไท่เก๊กขึ้นมาและชกปะทะเข้าใส่ฝ่ามือของกุ้ยหวู่ชาง
หมัดไท่เก๊กเป็นวิชาที่ใช้ “อ่อนสยบแข็ง” ทันทีที่ฝามือของกุ้ยหวู่ชางสัมผัสกับหมัดไท่เก๊ก มันก็ถูกชักนําจนเบียงทิศทางไปด้านข้าง กุ้ยหวู่ชางไม่มีสามารถสร้างอาการบาดเจ็บให้แก่นักพรตเฒ่าได้
กุ้ยหวู่ชางยังคงโจมตีต่อเนื่อง แต่ทุกการโจมตีที่ทรงพลังของเขาก็ถูกลบล้างด้วยเพลงหมัดไทเก๊กทุกครั้ง ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่จะโจมตีถึงตัวนักพรตเฒ่า
ฝ่ามือโกสคิงเป็นการโจมตีที่จุดตายทุกจุดอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อต้องมาเจอกับหมัดไท่เก๊ก มันก็ไม่เกิดผลอะไรแม้แต่น้อย
หลังจากที่ลบล้างการโจมตีทั้งหมดของกุ้ยหวู่ชางแล้ว นักพรตเฒ่าใช้การยืมพลังจากคู่ต่อสู้มารวมกับหมัดไท่เก๊กของตัวเอง ส่งคืนพลังนั้นเข้าใส่กุ้ยหวี่ชาง ทําให้เขาลอยละลิ่วออกไป
กุ้ยหวู่ชางถูกพลังฝ่ามือของตนเองย้อนคืนต้องก้าวถอยหลังไปอีกหลายก้าวกว่าจะปรับสมดุลร่างกายของเขาได้ เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดและลมใจถี่ขึ้น
“หึ ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บแต่ท่านก็ยังสามารถทําให้ข้าต้องถอยหลังได้ ไม่เสียชื่อที่เป็นถึงจ้าวขุนเขาบู๊ตึ๊ง” กุ้ยหวู่ชางแสยะยิ้มเย็นชา แต่เขาก็เริ่มระมัดระวังมากขึ้น
เมื่อสิบปีก่อน ลู่เต๋าซางเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง ตัวตนที่ไร้เทียมทาน แต่ชื่อเสียงของเขาก็เริ่มถดถอยลงหลังจากได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง
“กุ้ยหวู่ชาง เจ้าไม่สามารถทําอะไรข้าได้ เจ้าแค่อยู่เหนือกว่านักสู้ขั้น SSS เพียงเล็กน้อย มีเพียงโกสคิงอาจารย์เจ้าเท่านั้นที่พอจะสู้กับข้าได้” ลู่เต๋าซางมองไปที่กุ้ยหวู่ชางอย่างไร้อารมณ์
“ลู่เต๋าซาง ท่านขัดขวางข้า ท่านแน่ใจหรือว่าต้องการเป็นศัตรูกับตําหนักโกสคิง ?”
“กุ้ยหวู่ชาง ข้าได้กล่าวไว้แล้ว หลี่ฉิงเฟิงมีบุญคุณช่วยชีวิตข้า ข้าต้องตอบแทนเขา”
“ดี! งั้นท่านรอก่อนเถอะ สักวันอาจารย์ข้าจะต้องมาจัดการกับท่านแน่”
หลังจากพูดข่มขู่แล้วกุ้ยหวู่ชางก็จากไปในพริบตาพร้อมกับเฮลคิงและทีมโกสคิง
เนื่องจากการโจมตีทั้งหมดของกุ้ยหวู่ชางไม่มีผลต่อลู่เต๋าซาง แถมยังถูกยืมพลังโจมตีกลับเข้าหาตัวเองจากวิชาหมัดไท่เก๊ก เขารู้ว่าสู้ไปก็ไม่มีประโยชน์และวันนี้คงไม่อาจฆ่าฉิงเฟิงได้ จึงจากไปทันที
“อาจารย์ ทําไมท่านไม่ฆ่าไอ้หน้ากากผีนั่นกับเฮลคิงซะเลยละครับ ?” เมื่อเห็นว่ากุ้ยหวู่ชางกับพรรคพวกจากไป ลู่ซวนจี๋ก็ถามอาจารย์ของเขาด้วยความสงสัย
เกี่ยวกับคําถามของลู่ซวนจี๋, ลู่เต๋าซางไม่ได้ตอบ หลังจากแน่ใจว่ากุ้ยหวู่ชางจากไปไกลแล้ว ใบหน้าของเขาก็แดงขึ้น
พรวด !!! –
จู่ๆลู่เต๋าซางก็พ่นเลือดสดออกมามากมาย ใบหน้าของเขาซีดเซียวลงและดูชราขึ้นกว่าเดิม
“อาจารย์ ! ท่านได้รับบาดเจ็บ?” การแสดงออกของลู่ซวนจี๋เปลี่ยนไปและถามอย่างด้วยความกังวล
ลู่เต๋าซางพยักหน้าและกล่าวว่า “พลังของข้าลดลงมากจากอาการบาดเจ็บเมื่อตอนนั้น ข้าฝืนเร่งพลังตัวเองขึ้นในตอนที่สู้กับกุ้ยหวู่ชาง และทําให้เส้นลมปราณบอบช้ําอีกครั้ง โชคดีที่เขายอมถอยไป หากเขาพบว่าอาการบาดเจ็บของข้ากําเริบ พวกเราจะตกอยู่ในอันตราย”
หลังจากได้ยินคําอธิบายของลู่เต๋าซาง ฉิงเฟิงและลู่ซวนจี๋ก็เข้าใจว่าทําไมเขาถึงไม่ฆ่ากุ้ยหวู่ชาง มันเป็นเพราะเขาอาการบาดเจ็บกําเริบจากการฝืนเร่งระดับพลัง ฉากหน้าเขาเพียงแค่ขู่กุ้ยหวู่ชางให้หวาดกลัวเท่านั้น
*แก้หน่อย เปลี่ยนจากนักบวชเป็นนักพรตนะครับ*