My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 632 คำท้าทายจากแชมเปี้ยนทั้ง 4
เพื่อเป็นการแก้แค้นที่เธอข่มขืนเขาฉิงเฟิงตอบแทนเธอกลับไปถึง 10 ครั้ง สงครามบนเตียงของเขาและเธอกินเวลาตลอดทั้งช่วงเช้า การเคลื่อนไหวของพวกเขารุนแรงและดุดันมากจนเกิดรอยแตกใหญ่บนเตียงของโรงแรม
และสงครามก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสิ้นสุดจนกระทั่งโทรศัพท์ของซูเมิ่งเหยาดังขึ้นในตอนบ่ายมันมาจากสถานีตำรวจ พวกเขาโทรมาเพราะสงสัยว่าทำไมเธอถึงยังไม่มาทำงาน
ซูเมิ่งเหยาพล่อยล้มลงกับพื้นในขณะที่เธอพยายามจะลุกขึ้นสงครามบนเตียงครั้งแรกของเธอในวันนี้ทำให้เธอหมดเรี่ยวแรงและฟกช้ำไปทั่วทุกที่บนร่างกาย เธอต้องพยายามอยู่หลายครั้งกว่าจะลุกขึ้นยืนไหว
เมื่อเธอเห็นรอยปริแตกขนาดใหญ่บนเตียงซูเมิ่งเหยาก็กลอกตาของเธอ
ฉิงเฟิงที่เปิดศึกบนเตียงเมื่อกี้นี้ดุดันราวกับสัตว์ร้ายโชคดีที่ซูเมิ่งเหยาออกกำลังกายและเคยฝึกศิลปะการต่อสู้มาบ้างซึ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงกว่าผู้หญิงทั่วไป มิฉะนั้นเธออาจจะตาคาเตียงจากความโหดร้ายของฉิงเฟิงได้
“สัตว์ป่า”
ซูเมิ่งเหยาจ้องหน้าฉิงเฟิงก่อนจะแต่งตัวและเดินออกจากห้องอย่างอ่อนระโหยโรยแรงแต่ละก้าวเดินของเธอช่างเป็นความทรมาน
ฉิงเฟิงรู้สึกว่าถูกเข้าใจผิด
ฉันเป็นสัตว์ป่า
เปล่าเลยเธอต่างหากเป็นคนเริ่มปลุกเร้าฉันก่อน
ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องปกติของอารมณ์ผู้หญิงที่มักจะขัดแย้งกันพวกเธอเป็นเหมือนดั่งไฟยามที่พวกเธอมีอารมณ์และเพลิดเพลินกับเรื่องบนเตียง แต่พวกเธอกลับกลายเป็นเย็นชาหลังจากเสร็จกิจ
ความจริงเขาก็ตระหนักดีว่าตนเองทำรุนแรงกับเธออย่างมากบนเตียงถ้าหากผู้จัดการโรงแรมมาเห็นรอยแตกขนาดใหญ่บนเตียงเข้า เขาจะต้องตกใจแน่นอน
“
หืม
ทำไมจู่ๆฉันรู้สึกเหมือนว่าตัวเองถึงจุดที่จะทะลวงระดับแล้ว
”
อย่างทันทีทันใดเขาสัมผัสได้ว่าพลังภายในร่างขยายตัวออกอย่างต่อเนื่อง มันเป็นสัญญาณของการทะลวงผ่าน
เขานั่งไขว้ขาลงบนเตียงและท่องคำตามคัมภีร์จักรพรรดิยุทธ์อย่างเงียบๆคำเหล่านี้ชักนำทางให้เขาเข้าสู่ระดับที่สองของการฝึกฝนกล้ามเนื้อ เขาปฏิบัติตามด้วยการหายใจและการดูดซับที่ปราณฉีที่สำคัญลงไปในกล้ามเนื้อของเขา
จุดเริ่มต้นของขั้นใต้สวรรค์เน้นการฝึกฝนทางผิวหนัง ในขณะที่ขั้นกลางเน้นการฝึกกล้ามเนื้อซึ่งจะเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
ในระหว่างกระบวนการนี้กล้ามเนื้อของเขาเริ่มเปลี่ยนจากสีแดงไปเป็นสีฟ้าบางจุด ในขณะที่ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้น
ในที่สุดกล้ามเนื้อทั้งหมดของฉิงเฟิงก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้ากล้ามเนื้อแต่ละมัดของเขาดูดซับพลังงานจากปราณฉีจากอากาศโดยรอบ
การฝึกฝนดูดซับปราณฉีเข้าสู่กล้ามเนื้อของเขานั้นกินเวลาประมาณสามชั่วโมงซึ่งใช้เวลาเป็นสามเท่ามากกว่าตอนที่เขาฝึกฝนทางผิวหนังมันแสดงให้เห็นถึงความยากลำบากที่เพิ่มมากขึ้นของการฝึกวิทยายุทธ
สามชั่วโมงผ่านไปฉิงเฟิงก็หยุดฝึกและลืมตาขึ้นกล้ามเนื้อของเขาพลุ่งพล่านไปด้วยพลังงาน
เขาลองออกหมัดอากาศเบื้องหน้าระเบิดออกเป็นหลุม 3 หลุม เป็นสัญญาณของพลังหมัด 3000 ปอนด์นั่นเอง เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการฝึกฝนกล้ามเนื้อฉิงเฟิงก็ก้าวมาถึงระดับกลางของขั้นใต้สวรรค์
มองย้อนกลับไป,ฉิงเฟิงสรุปว่ามีสองเหตุผลที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว หนึ่งคือการประมือกับกุ้ยสือเมื่อคืนนี้ที่เขาดูดซับปราณเย็นและเปลี่ยนให้เป็นพลังของเขา อีกเหตุผลหนึ่งน่าจะเป็นเพราะความบริสุทธิ์ของซูเมิ่งเหยา มันเติมเต็มพลังงานธาตุหยางของเขาด้วยธาตุหยินของเธอ ซึ่งเหตุการณ์ทั้งสองเป็นตัวเร่งในการทะลวงผ่านครั้งนี้
ฉิงเฟิงลุกขึ้นยืนด้วยความสดชื่นและรู้สึกยอดเยี่ยมมากเขามั่นใจว่าไม่นานนักเขาจะต้องทะลวงผ่านถึงขอบเขตเหนือสวรรค์อย่างแน่นอนตราบเท่าที่เขาหมั่นฝึกฝน ซึ่งสิ่งแรกที่เขาจะทำก็คือสังหารเฮลคิงและทำลายล้างตำหนักโกสคิงนั่นเอง
กริ๊งงงง
! ความคิดที่น่ารื่นรมย์ของเขาถูกขัดจังหวะด้วยเสียงโทรศัพท์เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูและเห็นว่ามันมาจากคิงคอง
“คิงคองว่าไงหรือ” ฉิงเฟิงรับสายและตอบ
“ท่านปู่หลี่ครับแชมป์ทั้ง 4 ของฮีโร่ลิสต์ได้ประกาศท้าทายคุณ”
“ท้าทายฉัน นายหมายความว่าอะไร ?”
“ในหัวเซี่ยมีอารีน่า4 แห่ง อยู่ที่เมืองเทียนจิง, ปักกิ่ง, เมืองซีจิง, และเมืองซีไห่ (เมืองทะเลตะวันตกต่อไปนี้ใช้ ซีไห่) ตอนนี้คุณล้มเฮลคิงและกลายเป็นแชมป์ของเมืองตงไห่เราไปแล้ว พวกเขาจึงอยากท้าทายคุณเพื่อเกียรติยศ”
“มีแชมป์ตั้ง4 คนตามเมืองต่างๆ ทำไมพวกเขาไม่ท้าทายกันเอง มารุมฉันทำไม ”
“นั่นเป็นเพราะมีข่าวลือว่าคุณเป็นแชมป์ที่แท้จริงของฮีโร่ลิสต์ส่วนคนอื่นๆไม่นับ จึงเป็นเหตุผลที่แชมป์เมืองอื่นไม่พอใจจึงรวมตัวกันมาท้าทายคุณในเมืองตงไห่น่ะครับ”
ฉิงเฟิงเผยยิ้มเย็นเห็นได้ชัดว่าเป็นแผนของใครบางคนด้วยการปล่อยข่าวลือว่าเขาเป็นแชมป์ที่แท้จริงของฮีโร่ลิสต์
ฮีโร่ลิสต์เป็นรายการจัดอันดับรายชื่อนักสู้ฉิงเฟิงครองแชมป์ของอารีน่าเมืองนี้ไปตั้งแต่ก่อนที่จะก้าวมาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องกล้วยๆที่จะเอาชนะคนเหล่านั้นเพราะตอนนี้เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งแล้ว
อย่างไรก็ตามฉิงเฟิงตอบรับคำท้าทายเสมอไม่งั้นคนเหล่านั้นจะคิดว่าเขากลัว
จากนั้นฉิงเฟิงก็เดินออกจากห้องเพื่อเช็คเอ้าท์แต่เมื่อพนักงานตรวจสอบห้องพักมาเป็นสภาพห้องเธอก็ตกใจอย่างมากที่เห็นห้องพังเละเทะและมีรอยแตกขนาดใหญ่บนเตียง เธอจึงไม่ยอมปล่อยให้ฉิงเฟิงเช็คเอ้าท์จนกระทั่งเขายอมจ่ายค่าเสียหาย 10000 หยวน เสร็จธุระแล้วฉิงเฟิงก็โบกแท็กซี่มุ่งหน้าไปที่อารีน่าตงไห่
เมื่อเขามาถึงก็เห็นคิงคองกำลังยืนรอเขาอยู่พร้อมกับเสือดำซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้พิทักษ์ของสมาคมฉิงเฟิงไปแล้ว
“ท่านปู่หลี่ครับโปรดระมัดระวังด้วย ผู้ท้าชิงทั้งหมดต่างก็เป็นแชมเปี้ยนของอารีน่าในแต่ละเมือง พวกเขาไม่ธรรมดาแน่นอน” คิงคองเดินเคียงข้างเขาและกล่าวเตือนด้วยความเคารพ
ฉิงเฟิงโบกมือให้คิงคองด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า“ก็แค่กลุ่มไก่ป่วย มือข้างเดียวก็เพียงพอแล้ว”
คิงคองและเสือดำหันไปมองหน้ากันและพูดไม่ออกพวกเขาเพิ่งจะได้เห็นการต่อสู้ของแชมป์ทั้งสี่คน พวกเขาต่างก็เป็นนักสู้ตัวฉกาจที่สามารถทำลายกำแพงด้วยกำปั้นได้ อย่างไรก็ตามในสายตาของท่านปู่หลี่กลับมองว่าพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่อ่อนแอ
พวกเขารู้ว่าถึงแม้ท่านปู่หลี่จะหยิ่งยโสแต่จากการอยู่ร่วมกันมานานทำให้เชื่อมั่นใจอย่างสุดใจว่าเขาจะต้องได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน “เหอะๆหนุ่มน้อย อย่าทำตัวโอหังเกินไปนักเดี๋ยวจะศพไม่สวย แชมเปี้ยนทั้ง 4 คนต่างก็เป็นนักสู้ระดับสุดยอด นายไปเรียกเขาว่าพวกอ่อนแอ คำพูดนี้จะทำให้นายต้องโดนอัดจนพิการเอานะ” เสียงชายวัยกลางคนดังขึ้น เขาเดินผ่านกลุ่มฉิงเฟิงและได้ยินการสนทนาซึ่งทำให้เขารู้สึกไม่พอใจกับความเย่อหยิ่งของฉิงเฟิง
เหตุผลที่เขาพูดแทรกก็เพราะว่าหนึ่งในสี่แชมเปี้ยนนั้นเป็นไอดอลของเขามันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะต้องปกป้องไอดอลที่ชื่นชอบ