My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 635 การเชื้อเชิญจากตำหนักโห่วเย่อหวงตี้
“พวกนายอ่อนแอขนาดนี้ยังมีหน้ามาท้าทายฉันอีก” ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ดูถูก
ในสายตาของคนทั่วไปนักสู้ทั้งสี่คนนี้แข็งแกร่งมากอย่างไรก็ตาม ในสายตาของฉิงเฟิงตอนนี้พวกเขาอ่อนแอเกินไป
พวกเราแพ้
แม้จะร่วมมือกันรุมเขา
กวนหยาง,เย่จุ่ยหมิง, อู่เฟิ่งหวงและหวู่กุ้ยอิงสีหน้าซีดเผือดด้วยความกลัวและความตื่นตระหนก
ทั้งสี่คนต่างก็มาจากตระกูลฝึกศิลปะการต่อสู้ในหัวเซี่ยพวกเขาได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาของตระกูลได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่พวกเขายังคงพ่ายให้กับสกายวูฟโดยไม่อาจทำอะไรเขาได้แม้แต่น้อย คนผู้นี้ต้องแกร่งขนาดไหนกัน ในตอนนี้พวกเขานึกถึงสิ่งที่อาวุโสในตระกูลได้กล่าวไว้แล้วว่า
“หัวเซี่ยเต็มไปด้วยนักสู้ผู้แข็งแกร่ง”
พวกเขาออกจากภูเขาหรือตระกูลเพื่อเปิดโลกทัศน์ของพวกเขาถ้าหากไม่ได้ออกมาเผชิญโลกภายนอก พวกเขาก็ยังคงคิดว่าตัวเองเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
หลังจากเอาชนะนักสู้อันดับหนึ่งของแต่ละเมืองได้แล้วฉิงเฟิงก็กลายเป็นอันดับหนึ่งของฮีโร่ลิสต์อย่างไร้ข้อครหา
“สกายวูฟ! สุดยอดมาก !”
“ใช่ๆข้าไม่คิดเลยว่าสกายวูฟจะเอาชนะสี่สุดยอดได้อย่างง่ายดายขนาดนี้”
“แม่งเอ้ย! สกายวูฟชนะก็หมายความว่าฉันเสียเงินเดิมพันแล้วดิ !”
“เฮ้อ….ข้าดิ แทงไปแสนหยวนข้างไอ้สี่ตัวนั่น ไม่คิดเลยว่าพวกมันจะอ่อนด๋อยขนาดนี้ ขยะชัดๆ”
ผู้คนรอบข้างถกเถียงกันอย่างกว้างขวางพวกเขาต่างมองไปที่นักสู้ทั้ง 4 คนที่หมดสภาพอยู่บนลานประลองด้วยความดูหมิ่น พวกเขาต้องไม่พอใจอยู่แล้วเพราะเสียเงินในพริบตา
ในทางตรงกันข้ามเสือดำและคิงคองก็เต็มไปด้วยความสุข พวกเขาแทงข้างฉิงเฟิงไว้ร่วมล้านหยวน อัตราคือ 1:100 ตอนนี้ฉิงเฟิงชนะก็หมายความว่าพวกเขาได้ชนะพนันได้เงินกว่า 200 ล้านหยวน !
คิงคองและเสือดำเดินไปหาเจ้าของบ่อนด้วยรอยยิ้มส่วนใบหน้าเจ้าของบ่อนก็ซีดเผือดราวกับครอบครัวตายทั้งตระกูล
“เถ้าแก่! จ่ายมาได้แล้ว 2 คน 200 ล้านหยวน” คิงคองกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เขาไม่เห็นใจเจ้าของบ่อนแม้แต่น้อยมันเป็นความผิดของเขาเองที่พูดว่าท่านปู่หลี่จะพ่ายแพ้
“ลูกพี่ผมมีไม่ถึง 200 ล้านหรอกครับ ปล่อยผมไปเถอะ….” เจ้าของบ่อนเอ่ยปากขอร้อง คิงคองกล่าวอย่างหนาวเย็นว่า“ในเมื่อแกไม่มีเงินจ่ายงั้นข้าจะหักขาแก ! แกต้องพิการและใช้ชีวิตที่เหลือบนรถเข็น !”
“ไม่! ไม่เอา … พวกเราหาทางออกที่ดีกว่านี้กันเถอะครับ..”
“อารีน่าแห่งนี้เป็นของแกใช่ไหม งั้นยกมันให้พวกข้าเป็นการชดเชยเป็นไง ?”
เจ้าของบ่อนกล่าวว่า“ก็ได้ๆ อารีน่าแห่งนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของพวกคุณแล้ว”
เจ้าของบ่อนสูญเสียอย่างใหญ่หลวงจนหมดตัวเขาเสียทั้งเงินเก็บและแหล่งทำมาหากินของเขา แต่มันก็เป็นความผิดของตัวเขาเอง
ประสาทการรับรู้ของฉิงเฟิงเฉียบแหลมมากดังนั้นเขาจึงได้ยินบทสนทนาระหว่างคิงคองกับเจ้าของบ่อน แต่เขาก็ไม่สงสารเจ้าของบ่อนแม้แต่น้อย ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง
จากนั้นในขณะที่ฉิงเฟิงเดินลงจากลานประลองและกำลังจะออกจากอารีน่า เขาก็ถูกผู้อาวุโสในชุดเทาคนหนึ่งขวางเอาไว้
ผู้อาวุโสในชุดเทาคนนี้อายุราวๆ60 ปี ผมของเขาเป็นสีเทาแล้วก็จริง แต่เขาดูเหมือนจะมีสุขภาพดีมาก ดวงตาของเขาคมกริบ ถึงแม้ว่าเขาจะเก็บซ่อนพลังเอาไว้ก็ตามแต่ฉิงเฟิงก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงพลังสายหนึ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในร่างกายของเขา
“
เทียนหลาง
,
หวังหลางหรืออีกชื่อหนึ่ง… หลี่ฉิงเฟิง อายุ
24
ปี
วูฟคิงแห่งทวีปหมาป่าผู้
ปกครองแห่งโลกใต้ดินเจ้าเป็นเชื้อสายโดยตรงของตระกูลหลี่แห่งปักกิ่ง พ่อของเจ้ามีฉายาว่าราชันผู้พิชิต ชื่อหลี่ซานเย่ เป็นนายน้อยคนที่สามของตระกูลหลี่ เจ้าทำงานที่บริษัทปิงเสวี่ย
(IceSnow)
ในฐานะพนักงานขายภรรยาตามกฏหมายของเจ้าคือหลินเสวี่ยซีอีโอของบริษัท
“
ผู้อาวุโสชุดเทากล่าวลอยๆรอยยิ้มในขณะที่เขาพูดข้อมูลของฉิงเฟิงได้อย่างละเอียดยิบ
ฉิงเฟิงหรี่ตาลงและเกิดจิตสังหารที่รุนแรงปะทุออกมาประกายเย็นชาพาดผ่านดวงตาของเขา ผู้อาวุโสคนนี้ได้สืบประวัติของเขาอย่างละเอียดยิบ เขาเกลียดมากเมื่อถูกผู้อื่นบุกรุกความเป็นส่วนตัวของเขา การกระทำของผู้อาวุโสคนนี้ได้ล้ำเส้นไปมาก
แต่เมื่ออาวุโสชุดเทาสัมผัสได้ถึงจิตสังหารของฉิงเฟิงเขาก็ยิ้มและกล่าวว่า “อย่าเพิ่งมีโทสะไปเลยวูฟคิง ข้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ข้าเพียงแค่อยากเชิญเจ้าเข้าร่วมกับพวกเรา” “เข้าร่วม แล้วพวกคุณเป็นใคร ?” ฉิงเฟิงจ้องตาผู้อาวุโสแต่ยังไม่ได้ลงมือ เขาสัมผัสได้ว่าผู้อาวุโสคนนี้แข็งแกร่งอย่างไม่ธรรมดา
“ข้าเป็นสมาชิกของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้(Fiery Emperor Palace) ข้าขอเชิญเจ้าให้เข้าร่วมกับพวกเรา” ผู้อาวุโสกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้
ฉิงเฟิงส่ายหัวเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เป็นกลุ่มของผู้ฝึกยุทธ์มีเพียงผู้ฝึกยุทธ์เท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมกับพวกเราได้ เราเห็นว่าเจ้าสามารถเอาชนะสี่สุดยอดในรายชื่อฮีโร่ลิสต์ได้อย่างง่ายดาย มันแสดงให้เห็นว่าเจ้าต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่ตัดผ่านจากระดับปุถุชนไปแล้ว อีกทั้งการเข้าร่วมกับตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ของเรานั้น เจ้าจะมีแต่ได้กับได้ มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเจ้าแล้ว” อาวุโสกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉิงเฟิงเคยได้ยินจากลู่เต๋าซางมาก่อนว่ามีสำนักและนิกายที่แข็งแกร่งและทรงพลังมากมายในโลกของผู้ฝึกยุทธ์ดังนั้น ตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ต้องเป็นหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวแน่นอน อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าร่วมสำนักหรือนิกายใดๆ
“โทษทีนะแต่ฉันไม่อยากเข้าร่วมกับตำหนักโห่วเย่อหวงตี้” ฉิงเฟิงปฏิเสธข้อเสนอของผู้อาวุโส
ผู้อาวุโสชุดเทาขมวดคิ้วเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คาดคิดว่าฉิงเฟิงจะปฏิเสธข้อเสนอของเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขายังคงพยายามจะโน้มน้าวฉิงเฟิงต่อไป เพราะเขาสังเกตเห็นศักยภาพที่แข็งแกร่งของฉิงเฟิง
“วูฟคิงเจ้าคงไม่รู้จักตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ของพวกเรา ให้ข้าอธิบายให้ฟังก่อน สำนักและนิกายของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์สามารถแบ่งออกได้เป็นสามระดับ ระดับ 1-3 ซึ่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้นั้นเป็นสำนักระดับ 1 เรามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่าพันปี เราเป็นที่น่าครั่นครามของสำหนักอื่นในโลกของผู้ฝึกยุทธ์ หากเจ้าเข้าร่วมกับพวกเรา เจ้าจะได้รับทรัพยากรมากมายที่ช่วยในการฝึกฝน” ผู้อาวุโสพยายามกล่าวโน้มน้าวฉิงเฟิงอย่างไม่ยอมแพ้
“ขอบคุณสำหรับคำเชิญของคุณแต่ฉันยังไม่มีแผนที่จะเข้าร่วมกับสำนักหรือนิกายใดๆ” ฉิงเฟิงกล่าวในขณะที่เขาปฏิเสธข้อเสนอของผู้อาวุโสชุดเทาและเดินออกไป
“ช้าก่อนวูฟคิง !”
“มีอะไรอีกหรือ”
“วูฟคิงเจ้ารู้ใช่ไหมว่าดินแดนต้องห้ามที่ภูเขาคุนหลุนจะเปิดในอีก 5 เดือนข้างหน้า และการที่จะเข้าไปในนั้นจำเป็นต้องมีโทเค็นดินแดนต้องห้าม ซึ่งหนึ่งในสิบของฮีโร่ลิสต์ต่างก็มีสิทธิ์ได้รับมัน แต่ข้าจะบอกเจ้าว่าโทเค็นเหล่านั้นเป็นของนิกายเรา เจ้าปฏิเสธข้อเสนอของข้า หมายความว่าเจ้าไม่ต้องการเข้าไปในนั้นเช่นนั้นใช่ไหม ”
ผู้อาวุโสชุดเทากล่าวเมื่อเขาเห็นว่าไม่สามารถชักชวนให้ฉิงเฟิงเข้าร่วมนิกายได้ง่ายๆจึงต้องยกเรื่องโทเค็นดินแดนต้องห้ามมาขู่
โทเค็นดินแดนต้องห้าม
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วแน่นเงื่อนไขช่างบีบบังคับเขาทางอ้อม พ่อและอาจารย์ของเขาติดอยู่ในดินแดนต้องห้ามของภูเขาคุนหลุน เขาต้องการที่จะเข้าไปในพื้นที่นั้นเพื่อช่วยพ่อและอาจารย์ โทเค็นนั้นสำคัญกับเขามาก
“งั้นตอนนี้คุณมีโทเค็นอยู่กับตัวหรือเปล่า” ฉิงเฟิงถาม
“ไม่มีคุณหนูของพวกเราเป็นผู้เก็บรักษาโทเค็นไว้” ผู้อาวุโสชุดเทาตอบ โทเคนเหล่านั้นคือทรัพยากรที่มีส่วนช่วยในการฝึกฝนสูงสุด มีเพียงจ้าวตำหนักและคุณหนูของนิกายเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงโทเค็นได้
“ในเมื่อคุณไม่มีงั้นเราก็ไม่มีต้องคุยกัน ฉันจะคิดถึงเรื่องเข้าร่วมนิกายของคุณก็ต่อเมื่อคุณหนูของคุณมาพบฉันพร้อมกับโทเค็นผ่านแดนต้องห้าม” ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับเดินจากไป
“เฮอะ! ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เจ้าต้องการให้คุณหนูของเรามาพบเป็นการส่วนตัวงั้นหรือ เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน แม้แต่ดราก้อนคิง (หวังหลง) คุณหนูยังไม่ชายตามองแม้แต่น้อย แล้วเจ้าคิดว่าคุณหนูจะสนใจคนอย่างเจ้าหรือไง !?”
ผู้อาวุโสในชุดเทาแสยะเยาะเย้ยอย่างเหยียดหยาม