My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 691 งานประมูลของเหล่าผู้ฝึกยุทธ์โบราณ
หลังจากที่ฉิงเฟิงและราชาอสูรทั้งสองออกมาจากหลุมฝังศพไร้ชื่อก็เกือบจะเช้าแล้วมีควันจากการหุงหาอาหารตามบ้านเรือนต่างๆลอยออกมา
“ไปกันเถอะไปที่บริษัทประมูลลั่วกัน” ฉิงเฟิงยิ้ม เขาขับรถไปพร้อมกับอสูรสิงโตและมังกรเขียว มุ่งหน้าไปยังบริษัทประมูลลั่ว
บริษัทประมูลลั่วเป็นที่ตั้งของงานประมูลวิทยายุทธ์โบราณบรรดาผู้ที่อยู่ที่นี่ทุกคนต่างก็ฝึกวิทยายุทธ์โบราณ มันเป็นบริษัทประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนจิงและเป็นสาขาของบริษัทในตระกูลลั่วอีกด้วย
ได้มีการกล่าวกันว่าตระกูลลั่วนั้นร่ำรวยมหาศาลและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานตระกูลนี้ร่ำรวยทั้งเงินทองและเกียรติยศมานับพันๆปี มีประสบการณ์ผ่านคลื่นลมมานับไม่ถ้วนแต่ก็ยังคงตั้งตระหง่านในหัวเซี่ยมาได้อย่างยาวนาน
ตระกูลลั่วเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ที่สุดที่ฝึกวิทยายุทธ์โบราณพวกเขาทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมาก เหล่าตัวตนที่ทรงพลังมากมายต่างก็ส่งคนมาเข้าร่วมกับตระกูลนี้
ด้วยเหตุนี้ตระกูลอื่นๆอีกหลายๆตระกูลต่างก็อิจฉาผลกำไรมหาศาลที่บริษัทประมูลลั่วได้รับ แต่พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่มองโดยไม่อาจทำอะไรได้
บริษัทประมูลของตระกูลลั่วตั้งอยู่ทำเลที่ดีมันตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดของเมืองเทียนจัง
การตกแต่งของที่นี่สวยงามมากมันงดงามด้วยอิฐสีทองและกระเบื้องเงินมันวาวที่ครอบคลุมทั่วทั้งหลังคา พื้นปูด้วยคริสตัลและฝังเพชรประดับผนัง มันหรูหราอย่างไม่น่าเชื่อ พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ตระกูลลั่วปรากฏต่อสายตาของผู้คนที่ผ่านไปผ่านมา
“บริษัทประมูลนี้ช่างหรูหราอลังการนัก!” ฉิงเฟิงมองไปที่อาคารที่หรูหราฟุ่มเฟือยที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าเขาและอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา
วันนี้เป็นวันที่มีการประมูลมีตระกูลยักษ์ใหญ่และเหล่าผู้ทรงอำนาจในแวดวงต่างๆมากมายมารวมตัวกันที่นี่
ในการประมูลนี้มีอาวุธล้ำค่าเคล็ดวิชา เม็ดยาและสมบัติล้ำค่าอื่นๆอีกมากมายที่เหล่าผู้ฝึกวิทยายุทธ์ต่างก็ชื่นชอบ
ในงานนี้ไม่เพียงแค่จะมีเหล่ายอดฝีมือในเมืองเทียนจิงเท่านั้นแต่ยังรวมถึงยอดฝีมือจากที่อื่นๆ แม้กระทั่งยอดฝีมือชาวต่างชาติบางคนก็มาที่นี่เช่นกัน เนื่องจากสถานะของบริษัทประมูลตระกูลลั่วนั้นสูงส่งและมีชื่อเสียงมากในบรรดาผู้ฝึกยุทธ์โบราณ
ทันทีที่ฉิงเฟิงมาถึงทางเข้าของงานประมูลเขาก็ได้พบคนคุ้นหน้าไม่สิต้องเรียกว่าศัตรูจึงจะถูกต้อง
ผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดกิโมโนและมัดผมยาวสีดำหางม้าเขาถือดาบยาวไว้ในมือ ชายคนนี้ก็คืออิซุ โยชิจิโร ราชาดาบคนที่ 7 แห่งเกาะแปซิฟิคและยอดฝีมืออันดับ 2 ของรายชื่อขั้นใต้สวรรค์
นอกจากเขาก็ยังมีชายอีกสองสามคนจากเกาะแปซิฟิกตามหลังมาเห็นได้ชัดว่าพวกเขามาเพื่อเข้าร่วมการประมูลที่นี่
“ฮ่าๆนี่มันวูฟคิงไม่ใช่รึ พวกเราได้พบกันอีกแล้ว” โยชิจิโร่ยิ้มเย้ยอย่างเย็นชาและกล่าวกับฉิงเฟิง
“นายท่านอิซุพวกคนหัวเซี่ยต่างก็อ่อนแอ ชายคนนี้ต้องเป็นขยะแน่นอนขอรับ”
“ใช่แล้วนายท่านโยชิจิโร่พูดกับมัน แต่มันก็ไม่ตอบ พวกขยะเอ้ยช่างน่าโมโหนัก”
“ข้าเกลียดชาวหัวเซี่ยที่สุดในโลก” ไอรีนโนเวล
เหล่าคนจากเกาะแปซิฟิครอบๆตัวโยชิจิโร่ต่างก็พูดจาถากถางฉิงเฟิง
“ในฐานะทาสพวกแกกล้าดียังไงมาปากหมาใส่ชาวบ้าน สมควรโดนตบปาก !”
ฉิงเฟิงขยับร่างในพริบตาและตบหน้าพวกเขาหลายครั้ง เพี๊ยะๆๆๆ!
ใบหน้าของชายทั้งสี่คนก็กลายเป็นสีแดงและบวมเป่งขณะที่พวกเขาถ่มฟันที่หักและเลือดออกมา
“วูฟคิง! แกกล้าดียังไงมาทำร้ายคนของข้า ” โยชิจิโร่เดินไปข้างหน้าและกล่าวกับฉิงเฟิงด้วยความเย็นชา
“เหอะอิซุ โยชิจิโร่ ฉันแค่มอบบทเรียนในความปากดีของพวกทาสเหล่านี้เท่านั้น ถ้าแกมีปัญหากับเรื่องนี้ก็เข้ามา มาเจอกันหน่อย” (คนจีนนี่หยั่งรากลึกกับญี่ปุ่นจริงๆ)
ฉิงเฟิงจ้องไปที่โยชิจิโร่และพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อ
ตอนที่อยู่ทวีปเสือโยชิจิโร่พยายามฆ่าฉิงเฟิง แต่ต้องขอบคุณกัวซื่อเว่ยที่ขวางไว้ ฉิงเฟิงจึงรอดจากอันตรายครั้งนั้นในที่สุด ในเมื่อตอนนี้ศัตรูอยู่ตรงหน้า แน่นอนว่าฉิงเฟิงต้องคิดบัญชี
โยชิจิโร่มองไปที่ฉิงเฟิงด้วยสายตาดุร้ายพร้อมกับกุบดาบในมือเขาพร้อมที่จะต่อสู้ทุกเมื่อเช่นกัน บรรยากาศแห่งการฆ่าฟันปกคลุมไปทั่วบริเวณด้วยความตึงเครียดทันที
“ฮ่าๆๆวูฟคิง แกนี่มีแต่คนเหม็นขี้หน้าจริง มีแต่คนอยากฆ่าแกทั้งนั้น” ทันใดนั้นก็มีเสียงเยาะเย้ยดังออกมาจากทางด้านหลัง
เฮยหวู่ชางและเฮลคิงนั่นเอง! พวกเขาก็มาที่นี่ด้วย
“พวกเราดูนั่นสิเฮยหวู่ชางจากตำหนักโกสคิงก็มางานนี้ด้วย เขาคืออันดับหนึ่งในรายชื่อยอดยุทธ์ขั้นใต้สวรรค์ !”
“วันนี้เป็นงานประมูลข้าได้ยินมาว่ามีของดีๆมากมาย แน่นอนว่าเฮยหวู่ชางจะต้องมาด้วยเช่นกัน”
“ดูทางนั้นสิเฮยหวู่ชางพาศิษย์น้อง เฮลคิงมาด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาเตรียมตัวมาดีมากในงานประมูลครั้งนี้”
ผู้คนรอบๆต่างก็กำลังพูดคุยกันด้วยความช็อคในสายตาของพวกเขา ในเมืองเทียนจิงตำหนักโกสคิงโด่งดังและทรงอำนาจมากเท่ากับสี่ตระกูลใหญ่
“เฮยหวู่ชาง….เฮลคิง เจอกันอีกแล้วนะพวกตัวน่ารังเกียจ” ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นและสบถใส่พวกเขาทันที
ฉิงเฟิงย่อมไม่มีวันลืมว่าก่อนหน้านี้เฮลคิงลักพาตัวหลิวหรูหยานและเกือบจะทำให้ลูกในท้องของเธอต้องตายถ้าเขาไม่ช่วยเหลือไว้ได้ทันท่วงที ลูกของพวกเราจะต้องตายแน่นอน
กล่าวอีกนัยหนึ่งความเกลียดชังที่ฉิงเฟิงมีต่อตำหนักโกสคิงนั้นมากมายกว่าโยชิจิโร่
“หลี่ฉิงเฟิงแกกล้าดียังไงมาปากเสียใส่พวกข้า แกกำลังรนหาที่ตาย !”
รูปลักษณ์บนใบหน้าของเฮยหวู่ชางและเฮลคิงเปลี่ยนไปความโกรธเกรี้ยวพาดผ่านดวงตาของพวกเขา
ไม่ต้องกล่าวให้มากความตำหนักโกสคิงนั้นทรงอำนาจมากในเมืองเทียนจิงและได้รับการยอมรับจากทุกคน ในเมื่อตอนนี้พวกเขาถูกด่าทอในที่สาธารณะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาต้องรู้สึกโกรธมาก
“ฉันไม่กลัวพวกแกหรอกเข้ามาซี่ ! ฉันจะได้คิดบัญชีพร้อมกันทั้งหมดทีเดียวเลย !”
ฉิงเฟิงเอามือไขว้หลังและกล่าวท้าทายอย่างก้าวร้าว
เมื่อคนรอบข้างเห็นความโอหังของฉิงเฟิงพวกเขาต่างก็ตกใจ เขาเพิ่งจะมีเรื่องกับโยชิจิโร่ออยู่หยกๆ ตอนนี้เขายังท้าทายเฮยหวู่ชางและเฮลคิงอีก แถมยังท้าทายพวกเขาพร้อมกัน 3 คน ! เขาเบื่อชีวิตแล้วหรือ !
ในสายตาของคนรอบข้างฉิงเฟิงนั้นจบสิ้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นราชันดาบแห่งเกาะแปซิฟิกหรือสองยอดฝีมือจากตำหนักโกสคิง พวกเขาคนใดคนหนึ่งก็ทรงพลังยิ่งยวด ไม่ต้องพูดถึง 3 ต่อ 1
“ทุ้ย! 3 คนรังแกคนๆเดียว ทุเรศนัก มา ให้ข้าผู้นี้, กัวซื่อเว่ยร่วมวงด้วยคนซี่ !” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังกังวานดังขึ้น
กัวซื่อเว่ยเดินเข้ามาพร้อมบีบลูกเหล็กในมือสองลูกเขาเดินก้าวยาวๆและหยุดยืนอยู่เคียงข้างฉิงเฟิง
กัวซื่อเว่ยและโยชิจิโร่ต่างก็เป็นศัตรูกันเขาเหลือบไปมองพร้อมกับแสยะยิ้ม เขาพร้อมที่จะลงมือได้ตลอดเวลา
ที่หน้าประตูทางเข้างานประมูลดุเดือดมากอิซุ โยชิจิโร่ เฮยหวู่ชาง เฮลคิงอยู่ด้วยกัน ในขณะที่ฉิงเฟิงมีกัวซื่อเว่ยอยู่ข้างๆ ทั้งสองฝ่ายต่างก็จองหน้ากันอย่างเย็นยะเยือก การต่อสู้สามารถเริ่มได้ขึ้นทุกเวลา !
กึกกึก !!
ทันใดนั้นก็เสียงดังมาแต่ไกลมีรถลากคันหนึ่งกำลังตรงมาที่ประตูทางเข้างานประมูล
ประชาชนทุกวันนี้ต่างก็เดินทางด้วยรถยนต์มันเกือบจะเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษแล้วที่รถลากเลิกใช้งานในเมือง ถึงแม้ว่าจะอยากครอบครองมัน แต่คนธรรมดาก็ไม่อาจทำได้รถลากเป็นเหมือนสัญลักษณ์บางอย่างของตัวตนที่ยิ่งใหญ่
แต่ทว่าสิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือความจริงที่ว่ารถลากคันนั้นใช้เสือลาก!
ถูกแล้วเสือตัวหนึ่งกำลังลากรถ ฉากนี้ทำให้ผู้คนโดยรอบต่างก็มึนงงจนตะลึง