My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 700 ผู้หญิงที่อยู่หลังประตู
ความเงียบเงียบสนิท…
ความเงียบสงบนี้กินเวลานานมากในบริเวณรอบๆบ้านประมูลตระกูลลั่วทุกคนต่างยืนด้วยปากที่เปิดกว้างราวกับพวกเขาเพิ่งจะเห็นผี
ตัดหัวยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์ด้วยกระบี่ด้วยมันราวกับเป็นนิยายปรัมปราแต่มันก็เกิดขึ้นจริงตรงหน้าทุกคน
“อึก…ผู้ชายคนนี้แกล้งทำตัวอ่อนแอหรือไงกันนะ”
“ใช่ศีรษะของปาร์คจีหลงหลุดลอยทันทีที่เขาชักกระบี่”
“โชคดีที่ข้าไม่ได้เข้าไปแจมด้วยไม่งั้นคงตายไม่รู้ตัวไปอีกคน”
ผู้คนเริ่มพูดคุยกันหลังจากความเงียบพวกเขาต่างก็รู้สึกขอบคุณพระเจ้าที่พวกเขาไม่ได้เข้าไปร่วมวงและโจมตีฉิงเฟิง ทำให้พวกเขารักษาชีวิตไว้ได้
กัวซื่อเว่ยจ้องฉิงเฟิงอย่างระแวดระวังราวกับว่าไม่เคยรู้จักเขามาก่อน
“ไอ้อ้วนมองอะไรของนาย ฉันไม่ใช่สาวงามซะหน่อย !” ฉิงเฟิงกลอกตาและพูดไม่ออกเมื่อเห็นกัวซื่อเว่ยจ้องเขาไม่วางตา
กัวซื่อเว่ยยิ้มและกล่าวว่า“ไอ้หมาหัวเน่า นายแข็งแกร่งเกินไปละ ข้าไม่รู้เลยว่านายจะแกร่งขนาดนี้ ไม่งั้นก็ไม่มาช่วยหรอก”
กัวซื่อเว่ยไม่ได้พูดล้อเล่นถึงแม้เขาจะเป็นราชันมวยและยอดฝีมือขั้นเหนือสวรรค์แต่เขาก็อยู่ระดับเดียวกับปาร์คจีหลง
เมื่อเห็นว่าฉิงเฟิงฆ่าปาร์คจีหลงได้อย่างง่ายดายด้วยกระบี่เดียวนั่นก็หมายความว่าฉิงเฟิงสามารถฆ่าเขาได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งสร้างความตกใจให้กับกัวซื่อเว่ยอย่างลึกล้ำ ทั้งๆที่เมื่อไม่กี่วันก่อนฉิงเฟิงยังต้องให้เขาช่วยคุ้มครองตอนอยู่ทวีปเสืออยู่เลย แต่ตอนนี้เขากลับแข็งแกร่งกว่าตนเองเสียแล้ว “ไอ้อ้วนจบเรื่องแล้วไปเมืองตงไห่ด้วยกันมั้ย เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าวนายเอง”
ฉิงเฟิงตบไหล่กัวซื่อเว่ยเบาๆและกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ฉิงเฟิงรู้ดีว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณสหายคนนี้ในระหว่างที่อยู่ในทวีปเสือถ้าไม่ได้กัวซื่อเว่ยช่วยไว้ปานนี้เขาก็ตายด้วยน้ำมือโยชิจิโร่ไปนานแล้ว
“ไปสิไปๆ หึหึ ไอ้หมาหัวเน่า ในที่สุดฉันก็จะได้เจอภรรยานายเสียที เห็นเขาว่ากันว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองตงไห่ใช่ปะ ” กัวซื่อเว่ยยิ้มให้ฉิงเฟิง
“ไอ้อ้วนเห็นแล้วก็อย่าจ้องเธอมากนักละ ไม่งั้นฉันจะเตะไข่นาย” ฉิงเฟิงกลอกตาและกล่าวกับกัวซื่อเว่ย
กัวซื่อเว่ยหัวเราะอย่างเขินอาย“อะไรวะ นายคิดว่าข้าเป็นคนยังไง หล่อนเป็นเมียนาย นายเหมือนพี่น้องข้า ข้าจะไปคิดอะไรกับน้องสะใภ้ตัวเองได้อย่างไร?” ฉิงเฟิงยิ้มเดินคุยไปพร้อมกับกัวซื่อเว่ยจากนั้นเขาก็ขับรถพากัวซื่อเว่ยไปเมืองตงไห่ด้วยกัน
ก่อนจากไปฉิงเฟิงสร้างความหวาดผวาให้กับคนจำนวนในที่นี่พวกเขาไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องฉิงเฟิง นอกจากนั้นคนที่อยู่ที่นี่ไม่มีใครอยู่ในระดับเหนือสวรรค์แม้แต่คนเดียว
สามชั่วโมงต่อมา ไอลีนโนเวล
ฉิงเฟิงก็ขับรถมาถึงเมืองตงไห่และได้เห็นหลิวหรูหยานทันทีที่ขับผ่านประตูNoble Palace
หลินหรูหยานงดงามดั่งดอกกุหลาบเธอมีเสน่ห์และความงามที่แตกต่างจากลั่วหนี่ซาง เธอมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างบริสุทธิ์ในขณะที่ลั่วหนี่ซางนั้นมีเสน่ห์เย้ายวนดั่งนางจิ้งจอก
บางทีอาจเป็นเพราะการตั้งครรภ์หลิวหรูหยานดูสูงส่งขึ้นและรูปร่างดูมีน้ำนวลมากขึ้น ผิวของเธอขาวเนียนมีน้ำนวลเปล่งปลั่งอย่างไร้ที่ติ ดวงตากลมโตของเธอเปล่งประกายเจิดจรัสราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า รูปร่างของเธอสมบูรณ์ยิ่งขึ้นทรวงอกของเธอใหญ่โตกว่าเดิมเหมือนแคนตาลูปทำให้ผู้คนสงสัยว่าสองเต้านั้นจะมีรสชาติอย่างไร
หลิวหรูหยานกำลังเดินโยกเยกไปที่ประตูทางเข้าชุมชนด้วยชุดคลุมท้อง
“ฉิงเฟิงสองสามวันมานี้คุณไปไหนมาคะ ชั้นไม่เห็นหน้าคุณเลย” เมื่อเธอเห็นรถที่ฉิงเฟิงขับมา รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าที่งดงามของหลิวหรูหยาน
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพอใกล้จะถึงวันคลอดเธอก็ยิ่งคิดถึงเขามากขึ้นเธอไม่สามารถทนได้แม้แต่วันเดียวถ้าไม่ได้เห็นหน้าเขา ราวกับว่าบางอย่างในชีวิตของเธอขาดหายไป
บางทีสิ่งนี้อาจจะเรียกว่าความผูกพันของพ่อคนแม่คน
“ฉันไปทำธุระที่เมืองเทียนจิงและเพิ่งกลับมา”ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “วันนี้คุณมาทำกับข้าวให้ฉันที่บ้านหน่อยได้ไหมเจียวเจียวไม่อยู่บ้าน” หลิวหรูหยานเผยอริมฝีปากที่งดงามของเธอและกล่าวกับฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงพยักหน้าตอบรับว่า“แน่นอน คุณตั้งครรภ์และไม่สะดวกในการทำอาหาร ฉันจะทำอาหารให้คุณเอง”
“โอ้! คุณต้องเป็นพี่สะใภ้ของผมสินะ สวัสดครับผมเป็นเพื่อนของฉิงเฟิง ผมชื่อกัวซื่อเว่ย” กัวซื่อเว่ยรีบลงจากรถและออกมาแนะนำตัวเอง
ทันทีที่กัวซื่อเว่ยเห็นใบหน้าของหลิวหรูหยานเขาแทบไม่อาจกระพริบตาได้แม้แต่น้อย เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงคนใดที่งดงามเท่าผู้หญิงคนนี้มาก่อนในชีวิตของเขา เธอมีเสน่ห์เย้ายวนอย่างสุดขั้วและผสมผสานกับความเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
“สวัสดีฉัน หลิวหรูหยาน” เธอตอบรับธรรมดาเพราะเธอไม่ค่อยพอใจกับการจ้องมองของกัวซื่อเว่ย แต่อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพื่อนของฉิงเฟิง
อะแฮ่ม!!!
ฉิงเฟิงแกล้งไอออกมาและกล่าวว่า“ยังเหมือนเดิมเลยไอ้อ้วน เจอสาวงามแล้วของขึ้นอีกแล้วรึไง ”
กัวซื่อเว่ยก้มหน้าด้วยความเขินอายเขารู้ตัวว่าตนเองเสียมารยาทเกินไป
“พี่สะใภ้ผมต้องขอโทษด้วย คือผมป่วยเป็นโรคตะลึง เมื่อใดก็ตามที่ผมเห็นสาวงามผมจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ มันเป็นมาตั้งแต่เกิดแล้วครับ !” กัวซื่อเว่ยรีบอธิบายทันทีเพราะอยากไม่อยากให้หลิวหรูหยานไม่ชอบเขา
หลิวหรูหยานพูดไม่ออกและกลอกตากับคำแก้ตัวของกัวซื่อเว่ยเธอตระหนักดีถึงเสน่ห์ของตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงกัวซื่อเว่ย ทุกคนที่ได้เห็นใบหน้าเธอต่างก็ตกตะลึงจนโง่งมแทบทั้งสิ้น
จากนั้นฉิงเฟิงก็พากัวซื่อเว่ยไปที่วิลล่าของหลิวหรูหยานและเริ่มเข้าครัวทำอาหารให้พวกเขา
เพื่อตอบแทนบุญคุณของเขาฉิงเฟิงทำกับข้าวถึงแปดจานพร้อมกับซุปสี่ชาม
หลังจากที่ได้พูดคุยกันหลิวหรูหยานก็รู้สึกขอบคุณกัวซื่อเว่ยมาก เมื่อเธอได้รู้ว่าเขาเป็นคนช่วยชีวิตฉิงเฟิงไว้ที่ทวีปเสือ ความรู้สึกของเธอที่มีต่อกัวซื่อเว่ยก็ดีขึ้นมาก แม้กระทั่งหยิบ Lafite 1982 มาเปิดเลี้ยงเขา
“ไอ้หมาหัวเน่าข้าไม่รู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่านายทำอาหารเก่งด้วย แต่จริงๆแล้วไม่เห็นต้องทำมากขนาดนี้ก็ได้” กัวซื่อเว่ยกล่าวชมฉิงเฟิงพร้อมกับมองไปที่โต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารที่ดูน่าทาน
“เอาเหอะน่าไอ้อ้วนฉันรู้ว่านายกินจุและเจริญอาหาร ถือซะว่านี่เป็นการเลี้ยงขอบคุณนายก็แล้วกัน” ฉิงเฟิงกล่าวพร้อมกับหัวเราะ
กัวซื่อเว่ยยิ้มและเริ่มกินอาหารหลังจากที่ได้ชิมดวงตาของเขาก็เบิกกว้างเพราะอาหารที่ฉิงเฟิงทำนั้นอร่อยมาก ทั้งสามคนพูดคุยกันอย่างกลมเกลียวขณะทานอาหารด้วยกันบรรยากาศดูอบอุ่นมาก
“ฉิงเฟิงหมอบอกว่าลูกของเรามีกำหนดคลอดในอีกครึ่งเดือน วันนั้นคุณอยู่เป็นเพื่อนฉันที่โรงพยาบาลได้ไหมคะ ” หลิวหรูหยานจิบน้ำซุปและถามฉิงเฟิงด้วยความปรารถนา
ในฐานะที่เป็นพ่อของลูกฉิงเฟิงต้องไปอยู่เป็นเพื่อนเธอในวันคลอดแน่นอน
“แน่นอนสิลูกฉันทั้งคน ฉันก็อยากเห็นหน้าเด็กคนนี้ตอนแรกเกิดด้วย”
ฉิงเฟิงยิ้มแววตาของเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
เขารู้สึกมีความสุขมากเมื่อคิดว่าจะได้เห็นหน้าลูกน้อยในอีกครึ่งเดือนข้างหน้าแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นดีใจสำหรับคนเป็นพ่อทุกคน
บรรยากาศในวิลล่าอบอวลไปด้วยความสุข ทว่าในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่ายังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ยืนหน้าซีดตัวสั่นเทาอยู่หน้าประตู