My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 731 ความต่างของขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์และขั้นเหนือสวรรค์
- Home
- My Cold and Elegant CEO Wife
- ตอนที่ 731 ความต่างของขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์และขั้นเหนือสวรรค์
ฉิงเฟิงขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคำขอร้องของฉินเซียนจื่อที่ให้ช่วยชีวิตฉินเฮยหากเป็นผู้อื่นมากล่าวขอร้องเขาย่อมปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถปฏิเสธคำขอของฉินเซียนจื่อได้ลง
คุณหนูฉินฉันสามารถช่วยฉินเฮยได้ แต่ฉันต้องการผลไม้เจ็ดดาราครึ่งหนึ่ง
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็ได้เห็นผลไม้เจ็ดดาราพร้อมกันแต่ฉินเฮยและคนอื่นๆต่างต้องการฮุบไว้ทั้งหมด เรื่องนี้ไม่เป็นธรรมต่อทั้งฉิงเฟิงและตระกูลลั่ว
เมื่อได้ยินคำพูดของฉิงเฟิงฉินตงก็โกรธมาก เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า ผลไม้เจ็ดดาราเป็นสิ่งล้ำค่าที่สามารถเพิ่มแก่นแท้ของพลังให้แก่ผู้ดูดซับได้ ทำไมพวกเราต้องแบ่งให้แกครึ่งหนึ่งด้วย ! โห งั้นก็ไม่เป็นไร ไม่แบ่งก็ไม่ว่ากัน ไปหาทางช่วยฉินเฮยเองก็แล้วกัน พวกฉันนั่งรอแถวนี้นะ ฉิงเฟิงกล่าวอย่างไม่แยแสในขณะที่เหลือบมองฉินตง ซึ่งคำพูดของเขาทำให้ฉินตงโกรธกริ้วมากยิ่งขึ้น
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ฉินเซียนจื่อก็ตัดสินโดยพลการในทันที เธอกล่าวว่า วูฟคิง ถ้าท่านสามารถช่วยฉินเฮยได้ ข้ารับปากจะแบ่งผลไม้เจ็ดดาราให้ท่านครึ่งหนึ่ง
ฉิงเฟิงยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของฉินเซียนจื่อจากนั้นเขาก็รีบเดินไปหาฉินเฮย
ฟุ่บฟุ่บ !! ~
ฉิงเฟิงหยิบเข็มเงินเก้าเล่มออกมาและปักไว้บนศีรษะคอ และข้อมือของฉินเฮย อันดับแรกเขาพยายามควบคุมพิษที่ไหลเวียนภายในกระแสเลือดของฉินเฮย จากนั้นก็ใช้แก่นแท้พลังบังคับให้พิษมารวมกันที่ข้อมือของฉินเฮย ตรงจุดที่ฉินเฮยถูกกัด
ในไม่ช้าพิษทั้งหมดภายในร่างกายของฉินเฮยก็ได้มารวมกันที่ข้อมือจนข้อมือของเขาพองขึ้นและมีขนาดใหญ่พอๆกับกำปั้นเห็นได้ชัดว่างูตัวนี้เต็มไปด้วยพิษจำนวนมาก
ฉัวะ!!
ฉิงเฟิงใช้กระบี่ของเขาเฉือนข้อมือของฉินเฮยจนเป็นรอยแผลยาวจากนั้นพิษก็เริ่มไหลออกจากข้อมือของฉินเฮย
วิธีนี้คนทั่วไปไม่สามารถทำได้เพราะฉิงเฟิงใช้การฝังเข็มในการควบคุมและสั่งให้พิษไปรวมกันยังจุดที่ต้องการก่อนจะขับออกจากร่างกาย
หลังจากที่พิษถูกขับออกจากร่างกายของฉินเฮยร่างกายของเขาก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นช้าๆ ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงเริ่มมีสีสันมากขึ้นและลมหายใจก็สม่ำเสมอ
ฉิงเฟิงได้ส่งแก่นแท้พลังบางส่วนของเขาเข้าสู่ร่างของฉินเฮยเพื่อกระตุ้นจุดความดันพิเศษของร่างกายฉินเฮย ในไม่กี่วินาทีต่อมาฉินเฮยก็เปิดตาขึ้น
ฉินเฮยเจ้าฟื้นแล้ว ประกายแห่งความสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่งดงามของฉินเซียนจื่อ เธอค่อนข้างเป็นห่วงฉินเฮยเพราะเขาเป็นสาวกคนสำคัญของนิกาย
คุณหนู…… เกิดอะไรขึ้นกับข้าน้อย ?
ฉินเฮยเจ้าถูกงูพิษเกล็ดแดงกัดในตอนที่ไปหยิบผลไม้เจ็ดดารา เป็นหลี่ฉิงเฟิงที่ช่วยชีวิตเจ้าไว้
หลี่ฉิงเฟิงช่วยชีวิตฉันไว้ ฉินเฮยถามอย่างกระอักกระอ่วน แววตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้ง
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญการปรุงยาของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ฉินเฮยรู้ซึ้งถึงพิษที่ร้ายแรงของงูเกล็ดแดงเป็นอย่างดี มันเป็นงูที่มีพิษร้ายแรงพอจะฆ่าคนได้ภายในเวลาสิบนาที เขาไม่คาดคิดเลยว่าฉิงเฟิงจะช่วยเขาไว้ได้
ฉินเฮยทั้งรู้สึกกระอักกระอ่วนและซาบซึ้งในเวลาเดียวกันเนื่องจากเขาเพิ่งเยาะเย้ยความแข็งแกร่งของฉิงเฟิง แต่โดยไม่คาดคิด เขากลับช่วยชีวิตตนเองไว้ในไม่กี่นาทีต่อมา หลี่ฉิงเฟิงขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตฉันไว้ ฉินเฮยกล่าวในขณะที่เขาคำนับอย่างสุภาพต่อฉิงเฟิง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความขอบคุณ
ฉินเฮยเป็นนักปรุงยาและเป็นสมาชิกของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ถึงแม้ว่าเขาจะมีความจองหองแต่ก็รู้สำนึกบุญคุณคน เขาซาบซึ้งที่ฉิงเฟิงช่วยเขาไว้
ฉิงเฟิงกุมมือของฉินเฮยไว้และกล่าวว่า ไม่ต้องคิดมากหรอก คุณหนูของพวกนายขอให้ฉันช่วย แลกกับผลไม้เจ็ดดาราครึ่งหนึ่ง
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามคุณถือว่าช่วยชีวิตฉันเอาไว้ มันสมควรแล้วที่ต้องกล่าวขอบคุณคุณด้วยตัวเอง ฉินเฮยกล่าวในขณะที่เขาคำนับให้ฉิงเฟิงอย่างสุภาพ
การแสดงออกของฉินตงดูไม่จืดเมื่อเขาได้เห็นว่าฉินเฮยซาบซึ้งต่อฉิงเฟิงแค่ไหนเขาไม่พอใจอย่างยิ่ง ในสายตาของเขา ฉินเฮยเป็นคนของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้และควรจะอยู่ข้างเขามากกว่าไปขอบคุณฉิงเฟิง
มีผลไม้เจ็ดดาราทั้งหมด4 ลูก ฉินเซียนจื่อมอบให้ฉิงเฟิงไปสองลูกเป็นการตอบแทนตามที่ตกลง
นี่คือผลไม้เจ็ดดาราหรอกหรือ
เพียงแค่สัมผัสก็รู้สึกได้ถึงแก่นแท้พลังที่อัดแน่นอยู่ในภาย
!
ฉิงเฟิงอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจไม่น้อย
มิสลั่วคุณเอาไปลูกหนึ่งสิ ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขาส่งผลไม้เจ็ดดาราให้แก่ลั่วหนี่ชิง
วูฟคิงคุณเป็นคนทำผลงาน คุณช่วยชีวิตฉินเฮยก็ควรจะเก็บมันไว้เอง ชั้นรับมันไว้ไม่ได้หรอก
มิสลั่วรับไปเถอะ ถ้าคุณไม่ได้พาฉันมาที่นี่ ฉันคงไม่มีโอกาสได้มันแม้แต่ผลเดียวหรอก
แต่ชั้นก็ไม่อาจรับไว้ได้อยู่ดี
บอกให้รับก็รับไปเถอะน่า ฉิงเฟิงกล่าวขณะที่เขายัดผลไม้เข้าไปไว้ในมือของลั่วหนี่ชิง
ลั่วหนี่ชิงทำได้เพียงต้องรับน้ำใจของฉิงเฟิงเอาไว้ด้วยรอยยิ้มแทนคำขอบคุณ
ทุกคนในตระกูลลั่วต่างจ้องมองไปที่ฉิงเฟิงและลั่วหนี่ชิงด้วยความอิจฉาผลไม้นี้เป็นสมบัติล้ำค่า มันช่วยยกระดับพลังได้ !
ฉิงเฟิงเริ่มกินมันทันทีมันมีรสชาติเหมือนแอปเปิ้ลเพียงแค่หวานกว่าเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม แก่นแท้พลังจำนวนมหาศาลได้ไหลเข้ามาในร่างกายของเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
ฉิงเฟิงอยู่ในระดับแรกของขั้นเหนือสวรรค์อีกเพียงนิดเดียวก็จะทะลวงผ่านแล้วหลังจากกินผลไม้เจ็ดดาราเข้าไปแก่นแท้พลังของเขาก็เพิ่มขึ้นและก้าวเข้าสู่ขั้นเหนือสวรรค์ระดับกลางทันที
เยี่ยม
!
พลังของฉันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว
ฉิงเฟิงรู้สึกดีใจมากเขารู้สึกได้ถึงพลังอำนาจที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเขา
พวกเขากำลังจะไปถึงสุสานของแกรนด์มาสเตอร์ในอีกไม่ช้านี้และจะต้องเผชิญกับอันตรายอีกมากมาย นี่เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับฉิงเฟิงในการเพิ่มพลังของเขา
ลั่วหนี่ชิงก็ดีใจไม่แพ้กันเธอเป็นผู้ฝึกยุทธ์เหนือสวรรค์ขั้นปลาย แต่หลังจากได้กินผลไม้เจ็ดดาราเข้าไปเธอก็ทะลวงเข้าสู่ขั้นเหนือสวรรค์ขั้นสูงสุด
ส่วนฉินเซียนจื่อและฉินตงพวกเขาทั้งสองคนเป็นยอดฝีมือขั้นสูงสุดเหนือสวรรค์อยู่แล้ว แม้ว่าการกินผลไม้เจ็ดดาราเข้าไปจะช่วยเพิ่มพลังให้พวกเขาก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถตัดผ่านไปถึงขั้นแกรนด์มาสเตอร์ได้
ถึงแม้ว่าขอบเขตแกรนด์มาสเตอร์และระดับเหนือสวรรค์ขั้นสูงสุดจะต่างกันแค่ขั้นเดียวแต่มันราวกับสวรรค์และโลก มันไม่ใช่ความแตกต่างทางด้านประจุพลัง แต่มันเป็นความต่างของเขตแดน
ยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์จะมีเขตแดนเป็นของตัวเองและจะสามารถเข้าถึงตลอดจนทำความเข้าใจกับขอบเขตแห่งจิตวิญญาณต่างๆได้อีกมากมาย ความสามารถในระดับแกรนด์มาสเตอร์ที่เพิ่มขึ้นมานั้นมีประสิทธิภาพและทรงพลังมาก อีกทั้งจะไม่จำกัดอยู่แค่จำนวนแก่นแท้พลังภายในกายที่คนผู้นั้นมีอีกต่อไป ดังนั้นไม่ใช่ว่าฝึกฝนหรือได้รับสมบัติล้ำค่าที่ช่วยเพิ่มพลังแล้วจะตัดผ่านไปสู่แกรนด์มาสเตอร์ได้อย่างง่ายดาย แต่จำเป็นต้องมีเงื่อนไขพิเศษบางอย่างอีกด้วย
ทุกคนต่างมองไปที่ฉิงเฟิงกับลั่วหนี่ชิงด้วยความอิจฉาเมื่อได้เห็นว่าพวกเขาทั้งสองมีระดับพลังเพิ่มขึ้น
จำเป็นต้องพูดว่าในเทือกเขาใหญ่แห่งนี้มีสมบัติล้ำค่ามากมายยิ่งนัก! พวกเขาเพิ่งจะเข้ามาในเทือกเขาได้ไม่นานก็พบกับผลไม้เจ็ดดาราแล้ว ถ้าหากสำรวจเข้าไปลึกกว่านี้ย่อมต้องมีสมบัติอื่นๆอีกมากมายแน่นอน
อย่างไรก็ตามอันตรายมักจะมาพร้อมกับสมบัติ ตัวอย่างเช่น งูเกล็ดแดงที่อยู่ใกล้ๆผลไม้เจ็ดดารานั่นเอง
เนื่องจากทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมของฉิงเฟิงทำให้ทั้งคนของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้และตระกูลลั่วต่างมองไปที่ฉิงเฟิงด้วยความเคารพแทนการเป็นปฏิปักษ์
มีสัตว์และแมลงที่มีพิษอยู่ภายในเทือกเขาใหญ่แห่งนี้มากมายนับไม่ถ้วนไม่มีใครสามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะปลอดภัยจากพิษเหล่านั้น หากพวกเขาโดนพิษก็จำเป็นต้องพึ่งพาทักษะทางการแพทย์ของฉิงเฟิง ทุกคนจึงทำตัวเป็นมิตรกับฉิงเฟิงมากขึ้น