My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 732 ศิลาหินที่แข็งแกร่ง
หลังจากฉิงเฟิงได้ช่วยชีวิตฉินเฮยเขาก็ได้รับคำขอบคุณและทัศนคติที่ดีจากเหล่าสาวกแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตามในหมู่คนเหล่านี้มีคนอยู่สองคนที่ยังคงเกลียดชังฉิงเฟิง หนึ่งคือลั่วเทียนเฮาของตระกูลลั่ว ส่วนอีกคนหนึ่งคือฉินตงแห่งตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ผู้ซึ่งมีระดับพลังเหนือกว่าเขา พวกเขาทั้งสองคนเกลียดฉิงเฟิงเข้าไส้
เทือกเขาสูงใหญ่ทอดยาวหลายร้อยกิโลเมตรแต่ทุกคนต่างก็เป็นผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งจึงสามารถเร่งความเร็วข้ามเทือกเขาได้อย่างรวดเร็ว ตลอดทางพวกเขายังได้พบกับกลุ่มอื่นๆเช่นเจียงไป่เต๋า ถังหยุน เฮลคิงและเหลิงเสวี่ยจากนิกายโลหิตสีชาด
ส่วนกองกำลังอื่นๆต่างก็มุ่งหน้ามายังใจกลางเทือกเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานแกรนด์มาสเตอร์เช่นกัน แม้ว่าจะมีสมบัติและสมุนไพรล้ำค่าอยู่ตลอดเทือกเขาเช่น ผลไม้เจ็ดดาราและดอกไม้แปลกๆบางประเภท แต่พวกเขาก็ไม่ได้หยุดเก็บรวบรวมให้เสียเวลาเพราะเป้าหมายหลักของพวกเขาคือการเข้าไปในสุสานแกรนด์มาสเตอร์
บ้าชิบ! พวกมันมาถึงก่อน
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยความกังวล
แม้ว่าผลไม้เจ็ดดารานั้นจะล้ำค่ามากแต่มันก็ไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับสมบัติภายในสุสานแกรนด์มาสเตอร์
ลั่วหนี่ชิงและฉินเซียนจื่อต่างก็ไม่ใช่คนโง่พวกเธอรู้ได้ในทันทีว่ากลุ่มอื่นๆไม่สนใจเรื่องผลไม้เจ็ดดารา แต่เลือกที่จะมุ่งหน้าตรงมายังสุสานแกรนด์มาสเตอร์เป็นอันดับแรก
พวกเรารีบไปกันเถอะ อย่ามัวสนใจสมบัติอื่นๆเลย เป้าหมายของพวกเราคือสิ่งที่อยู่ในสุสานแกรนด์มาสเตอร์ต่างหาก ลั่วหนี่ชิงตะโกนเตือนสติทุกคน ในขณะที่เธอพาสมาชิกตระกูลลั่วมุ่งหน้าไปต่ออย่างรวดเร็ว ฉินเซียนจื่อก็ไม่กล้าล่าช้าอีกต่อไปเธอนำสมาชิกของตำหนักโห่วเย่อหวงตี้ตามไปเช่นกัน
ในขณะนี้ทุกคนต่างก็รู้สึกเสียใจกับการกระทำของพวกเขาพวกเขามาที่นี่เพื่อเข้าสู่สุสานแกรนด์มาสเตอร์ แต่พวกเขากลับลืมจุดประสงค์หลักของภารกิจในครั้งนี้เพราะผลไม้เจ็ดดารา
ทุกคนเดินทางต่อไปหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาก็มาถึงจุดหมาย
สุสานแกรนด์มาสเตอร์ตั้งอยู่ในถ้ำกลางเทือกเขาอย่างไรก็ตาม ถ้ำถูกปิดกั้นด้วยศิลาหินขนาดมหึมาจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะเข้าไปข้างในถ้ำ
กลุ่มอื่นๆก็มาถึงเช่นกันแต่พวกเขาก็ถูกขวางด้วยศิลาหิน
มีหลายคนยืนออกันอยู่ที่หน้าศิลาหินกู่เจี้ยนหลง เตี๋ยชุ่ยหลัน เจียงไป่เต๋า ถังหยุน เฮลคิง เหลิงเสวี่ย ตูลูธ ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ความจริงพวกเขาได้มาถึงก่อนกลุ่มของฉิงเฟิงแต่ก็ติดอยู่ตรงศิลาหินที่ทางเข้าสุสาน
เมื่อฉิงเฟิงและคนอื่นๆมาถึงทุกคนก็มองพวกเขาด้วยแววตาแปลกๆ สายตาของพวกเขาส่วนใหญ่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่พุ่งแทงมาหาฉิงเฟิงโดยตรง
ความจริงแล้วพวกเขาเหล่านั้นปรารถนาที่จะฆ่าฉิงเฟิงภายในเทือกเขานี้แต่เพื่อให้มาถึงสุสานแกรนด์มาสเตอร์เร็วๆ พวกเขาจึงเลือกที่จะวางมือไว้ก่อนชั่วคราว
แม้ว่าฉิงเฟิงและคนในกลุ่มจะมาถึงช้าเกือบที่สุดแต่เขาก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นว่าทุกคนยังติดอยู่นอกถ้ำ มันจะเป็นความสูญเสียอย่างมหาศาลถ้าหากพวกเขาเข้าไปก่อนและพบสมบัติ
กลับกลายเป็นว่าสุดท้ายแล้วผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดก็คือฉิงเฟิงเขาได้กินผลไม้เจ็ดดาราและเข้าสู่ขั้นเหนือสวรรค์ระดับกลาง ส่วนคนอื่นๆที่มาถึงสุสานก่อนกลับติดอยู่หน้าทางเข้าและไม่ได้อะไรเลย ทำไมพวกนายถึงไม่เข้าไปข้างใน ฉินตงถาม
ทุกคนต่างลุกขึ้นมองไปที่เขาเมื่อได้ยินคำพูดนี้แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ
ฉินตงรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยท่ามกลางสายตามากมายที่ทิ่มแทงเขาเป็นที่นับน่าถือตาในฐานะที่เป็นศิษย์หลักของจ้าวตำหนัก แต่ตอนนี้แม้จะมีคนมองมาที่เขามากมายแต่กลับไม่มีใครตอบเขาสักคน มันทำให้เขารู้สึกขายหน้าไม่น้อย
แม้จะรู้สึกอับอายแต่ฉินตงก็ไม่กล้าที่จะแสดงความโกรธเกรี้ยวออกมาเนื่องจากเหล่าคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดต่างก็ทรงพลังและแข็งแกร่งมาก
กู่เจี้ยนหลงสัมผัสได้ถึงความกระอักกระอ่วนของฉิงตงจึงกล่าวว่า เหตุผลที่พวกเราไม่เข้าไปก็เพราะศิลาหินที่ขวางอยู่นี่ มันเป็นศิลาหินที่แปลกประหลาดมาก พวกเราทุกคนลองทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ฉินตงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของกู่เจี้ยนหลงเพราะถ้าหากไม่มีใครตอบคำถามของเขา เขาคงรู้สึกเหมือนถูกตบหน้า
ตอนนี้ทุกคนต่างรู้ว่าสุสานตั้งอยู่ใต้ศิลาหินยักษนี่แต่ถ้าหากเปิดไม่ได้แล้วจะเข้าไปได้อย่างไร
ขอฉันลองหน่อยสิว่าศิลาหินนี่มันแปลกตรงไหน ฉินตงกล่าวด้วยรอยยิ้มขณะที่เดินไปที่ศิลาหิน
ในฐานะที่เป็นยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ระดับสูงสุดฉินตงมั่นใจในความสามารถของเขามาก
ฉินตงเดินมาถึงหน้าศิลาหินเขาขับเคลื่อนแก่นแท้พลังในร่างและเหวี่ยงกำปั้นออกไปข้างหน้า ก่อรูปน้ำวน*(คลื่นพลัง)ขึ้นกลางอากาศก่อนที่กำปั้นของเขาจะกระแทกเข้าใส่
*จริงๆมันไม่ใช่น้ำวนครับลักษณะจะเป็นตามรูปนี้ ผมไม่แน่ใจคำจำกัดความ แต่ ENG ชอบใช้คำว่า whirlpool ให้แปลตรงตัวก็น้ำวนอะ ให้นึกภาพเวลาออกหมัดแรงๆแล้วอากาศเป็นหลุมหมุนๆตามแรงหมัด ประมาณนั้นแหละ เข้าใจตรงกันนะ*
เป้ง
!!!
กำปั้นของฉินตงปะทะเข้าหาศิลาหินตามมาด้วยเสียงทึบอย่างไรก็ตาม ศิลาหินไม่ได้ขยับแม้แต่นิ้วเดียว แต่กลับกลายเป็นว่าหมัดของฉินตงกลับรู้สึกปวดร้าวจนเขาต้องก้าวถอยหลัง
ผู้คนที่อยู่รอบข้างต่างมองไปที่ฉินตงอย่างเหนื่อยหน่ายพวกเขามั่นใจต่อผลลัพธ์นี้แต่แรกแล้ว แต่สำหรับฉินตงที่เป็นศิษย์เอกจ้าวตำหนักกลับรู้สึกขายหน้าอย่างยิ่งที่เขาไม่สามารถทำให้ศิลาหินนี้ขยับเขยื้อนได้แม้แต่น้อย
ในที่สุดฉินตงก็รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าไปภายในสุสานก็เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถผ่านอุปสรรคนี้ไปได้นั่นเอง
ศิลาหินนี้แปลกประหลาดเกินไปกำปั้นจากยอดยุทธ์ขั้นเหนือสวรรค์ระดับสูงสุดมีพลังหลายพันกิโลกรัมแต่ก็ไม่อาจทำให้มันขยับแม้แต่น้อยนิด
ดวงตาของฉิงเฟิงหรี่ลงเมื่อได้เห็นฉินตงแสดงฝีมือเขาแข็งแกร่งมาก ! มันเป็นไปตามที่เขาคาดไว้ ชายคนนี้อยู่ในขั้นสูงสุดแล้ว พลังหมัดของเขาเมื่อครู่นั้นสามารถเจาะทะลุแผ่นเหล็กไททาเนียมหรือระเบิดต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นชิ้นๆได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่สามารถทำให้ศิลาหินที่ขวางหน้าสุสานขยับได้
ฉินตงอย่าพยายามอีกเลย พวกเราทุกคนลองมาหมดแล้ว ไม่มีใครทำให้มันขยับได้
กู่เจี้ยนหลงกล่าวพร้อมขมวดคิ้ว
ฉินตงรู้สึกอึดอัดต่อคำพูดนี้แต่มันก็เป็นความจริงหากศิลาหินนี้สามารถเปิดด้วยพลัง กลุ่มคนเหล่านี้คงเข้าไปข้างในนานแล้ว
ยอดยุทธ์ระดับแกรนด์มาสเตอร์มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากแม้กระทั่งหลังจากที่ตายไปแล้วแต่สุสานของเขาก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนทั่วไปจะเปิดสุสานเข้าไปหาสมบัติภายในนั้น
เห็นได้ชัดจากศิลาหินในด่านแรกยามที่แกรนด์มาสเตอร์ผู้นี้ยังมีชีวิตอยู่ เขาต้องเป็นตัวตนไร้พ่ายในโลกหล้าอย่างแน่นอน ทุกคนเริ่มจินตนาการถึงสมบัติล้ำค่าภายในนั้นด้วยความตื่นเต้น
ฉิงเฟิงรู้ว่าเถาวัลย์อีกาดำอยู่ภายในสุสานนี้เขาต้องนำมันไปรักษาให้จางหยุนเหอก่อนเพื่อให้เขารักษาหลินเสวี่ยอีกที
เพื่อช่วยหลินเสวี่ยไม่ว่าจะอย่างไรฉิงเฟิงก็ต้องเข้าไปในนี้ให้ได้
ฉิงเฟิงเดินตรงไปที่ศิลาหินเขามุ่งมั่นที่จะหาวิธีเข้าไปในสุสาน
ฮ่าๆดูสิ นั่นใคร หลี่ฉิงเฟิงใช่ไหม เขาอยากขายหน้าอีกคนรึไง ?
เป็นไปไม่ได้หรอกในหมู่พวกเรายังไม่มีใครที่สามารถทำอะไรกับศิลาหินนี้ได้เลย แล้วเขาจะทำอะไรได้ เจ้าพูดถูกต้องชายหนุ่มผู้นี้ช่างไม่ประมาณตน แม้แต่เหล่าผู้แข็งแกร่งมากมายไม่ว่าจะเป็นกู่เจี้ยนหลง เตี๋ยชุ่นหลัน เจียงไป่เต๋า ถังหยุน เฮลคิงและอันดับหนึ่งเหลิงเสวี่ยก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย แล้วเขาเป็นใคร
ผู้คนรอบข้างต่างมองฉิงเฟิงด้วยความดูหมิ่นพวกเขาคิดว่าฉิงเฟิงบ้าไม่ก็โง่ที่ไม่รู้จักประมาณ