My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 757 ไม่มีวันให้อภัย
ที่รัก! คุณตื่นแล้ว จิตใจของฉิงเฟิงเต็มไปด้วยอารมณ์เมื่อเขาเห็นว่าหลินเสวี่ยได้ลืมตาขึ้นมาแล้ว
เพราะเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกจนแม้แต่เสียงก็ยังสั่น
ตั้งแต่ที่หลินเสวี่ยได้หมดสติไปฉิงเฟิงก็แทบไม่ได้พักผ่อน เขากังวลเกี่ยวกับเรื่องของเธอทั้งกลางวันและกลางคืน เขาฝันร้ายกลัวว่าเธอจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกต่อไป
กล่าวจากใจจริงถ้าหากหลินเสวี่ยไม่ฟื้นขึ้นมาตลอดกาลเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป ชีวิตที่เหลือของเขาคงเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
ทันทีที่หลินเสวี่ยเห็นใบหน้าของฉิงเฟิงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอก็เต็มไปด้วยเกลียดชัง ….. และความรัก แหมะ… แหมะ
หยดน้ำตาไหลลงอาบแก้มของเธอใบหน้าที่มีเสน่ห์ของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความเศร้า ริมฝีปากได้รูปของเธอแยกออกเหมือนกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ที่รักทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของผมทั้งหมด คุณจะทุบตีด่าทอหรือทำอะไรกับผมก็ได้ แต่ผมขอร้อง คุณอย่าร้องไห้อีกเลยมันไม่ดีต่อสุขภาพของคุณ
ฉิงเฟิงกล่าวอย่างกังวลใจ
ราชันหมาป่าผู้ซึ่งไม่เคยหวั่นเกรงต่อผู้ใดแม้แต่ประธานาธิบดีของทวีปหมาป่ากลับกลัวที่จะเห็นน้ำตาของหลินเสวี่ย
ฉิงเฟิงเหยียดมือออกไปพยายามที่จะเช็ดน้ำตาให้หลินเสวี่ยด้วยฝ่ามือของเขาแต่หลินเสวี่ยกลับเบือนหน้าหนีและไม่ยอมปล่อยให้เขาเช็ดน้ำตาให้เธอ เธอไม่มองเขาแม้แต่น้อยขณะที่ยังคงร้องไห้ไม่หยุด หลินเสวี่ยหลงรักฉิงเฟิงอย่างสุดซึ้งแต่เธอก็เกลียดเขา เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรหลังจากที่ตื่นขึ้นมา ให้อภัยเขางั้นหรือ ไม่มีทาง เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน !
เสวี่ยน้อยเธอต้องใจแข็งเอาไว้
!
สามีของเธอทรยศเธอไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นเธออย่าลงเอยแบบแม่ของเธอ
!
หลินเสวี่ยคิดในใจขณะที่เธอกำหมัดไว้แน่นเธอปิดตาแน่นและไม่ยอมมองหน้าผู้ชายคนที่เธอทั้งรักทั้งเกลียด
ฉิงเฟิงเธอถอยไปก่อนเถอะ อย่าทำให้หลินเสวี่ยตื่นเต้นไปมากกว่านี้ ถ้าหากสถานการณ์เลวร้ายเธอจะหมดสติไปอีก จางหยุนเหอกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว ฉิงเฟิงถอนหายใจหลินเสวี่ยฟื้นแล้วแต่เธอไม่ยอมให้อภัยเขาและไม่พูดคุยกับเขา เขาทำได้เพียงต้องเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย
ฉิงเฟิงรู้ดีว่าจางหยุนเหอพูดถูกหลินเสวี่ยเพิ่งฟื้นและอยู่ในสภาพที่อ่อนแอมาก เส้นประสาทของเธออ่อนล้ามาก เธอไม่ควรตื่นเต้นหรือตกอยู่ในภาวะหมดสติอีกครั้ง มิฉะนั้นเธออาจจะไม่ฟื้นขึ้นมาอีก
ฉิงเฟิงเดินออกไปข้างนอกโดยปกติเขาไม่ค่อยสูบบุหรี่แต่เนื่องจากความเครียดและความเศร้าในขณะนี้ทำให้เขาอยากสูบมาก
เขาเดินไปที่ร้านขายของชำใกล้ๆเพื่อซื้อบุหรี่จงหัวเดินไปเดินมาและจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบเพื่อระบายความหงุดหงิดของเขา
ภายในห้องผู้ป่วย
มู่เสี่ยวหยุนนั่งอยู่ที่หัวเตียงของหลินเสวี่ยและเช็ดน้ำตาของเธอด้วยผ้าเช็ดตัวเธอกล่าวว่า ลูกแม่ มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นระหว่างลูกและฉิงเฟิงกันแน่ หลินเสวี่ยส่ายหัวและน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาจากดวงตาของเธออีกครั้งอย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้บอกแม่ของเธอว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น มันเป็นเรื่องระหว่างฉิงเฟิงกับเธอ เธอไม่อยากเล่าให้แม่ของเธอต้องเป็นห่วง
เสวี่ยน้อยลูกเป็นลูกสาวของแม่ แม่ย่อมรู้นิสัยลูกตัวเองดีที่สุด อีกไม่กี่วันก็ถึงวันแต่งงานของลูกกับฉิงเฟิงแล้วแต่ลูกกลับหนีออกจากบ้าน อีกทั้งแม่ก็รู้ว่าลูกรักฉิงเฟิงแค่ไหน ดังนั้นต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นสำหรับลูกแน่นอน ไม่งั้นลูกคงไม่มีอาการแบบนี้
มู่เสี่ยวหยุนกล่าวเบาๆขณะที่กุมมือหลินเสวี่ยไว้
มู่เสี่ยวหยุนรู้ว่าลูกสาวของเธอเป็นคนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
ความภาคภูมิใจของผู้หญิงคือสามีของตัวเองดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นต้องเกี่ยวข้องกับฉิงเฟิงที่ทำให้หลินเสวี่ยเศร้าเสียใจ เพราะเธอไม่ยอมคุยกับเขาหลังจากที่ฟื้นขึ้นมา เสวี่ยน้อยแม่ไม่ใช่คนนอก แม่เป็นแม่ของลูก บอกแม่มา ฉิงเฟิงนอกใจลูกใช่ไหม
มู่เสี่ยวหยุนถาม
เธอมีประสบการณ์ในการถูกนอกใจสามีของเธอหลินซื่อมีเมียน้อยตั้งแต่พวกเธอยังหนุ่มสาว เขาแม้แต่มีลูกชายกับผู้หญิงคนนั้นซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้มู่เสี่ยวหยุนเจ็บปวดมาเป็นเวลานาน ในตอนนั้นมู่เสี่ยวหยุนแม้แต่คิดจะฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายเธอก็ชั่งใจเอาไว้ได้เพราะมีหลินเสวี่ย
ดังนั้นมู่เสี่ยวหยุนจึงรู้ว่าหลินเสวี่ยย่อมต้องเป็นคนหัวโบราณเหมือนเธอหลินเสวี่ยเป็นคนหัวแข็ง ตั้งแต่ที่เธอตกหลุมรักฉิงเฟิงเธอก็มีเพียงแค่เขาเท่านั้น ทุกครั้งที่มีผู้หญิงคนอื่นมาอยู่ใกล้ชิดฉิงเฟิงเธอก็จะไม่พอใจ หรือแม้แต่ไม่ชอบที่เขามีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นๆ
การแสดงออกของหลินเสวี่ยเปลี่ยนไปเมื่อได้ยินคำพูดของมู่เสี่ยวหยุนเห็นได้ชัดว่าแม่ของเธอเดาได้ถูกต้อง หลินเสวี่ยไม่ยอมตอบคำถามของแม่เธอเธอไม่ต้องการยอมรับว่าสามีนอกใจเธอ หากเธอพูดออกไปแม่ของเธอคิดอย่างไร ลูกสาวของเธอไม่สามารถแม้แต่จะยึดกุมหัวใจของสามีตัวเองจนเขาต้องไปหาผู้หญิงคนอื่นงั้นหรือ ?
ความจริงแล้วในใจของหลินเสวี่ยเต็มไปด้วยความเสียใจเธอสังเกตมานานแล้วว่าหลิวหรูหยานมีความสัมพันธ์ที่ผิดปกติกับฉิงเฟิง แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควรเพราะไว้ใจและมัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำงาน
หลินเสวี่ยคิดไม่ถึงว่าฉิงเฟิงและหลิวหรูหยานจะมีอะไรกันมานานขนาดนี้จนมีลูกที่ใกล้จะคลอดส่วนตัวเธอในฐานะภรรยาอย่างเป็นทางการของฉิงเฟิงกลับไม่เคยมีอะไรกับเขาแม้แต่ครั้งเดียว !
หลินเสวี่ยอยากหลับนอนกับฉิงเฟิงมานานแล้วแต่ฉิงเฟิงปฏิเสธเพราะเธอเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ เขาบอกว่าควรจะรอจนกว่าเธอจะฟื้นตัวเต็มที่ ซึ่งหลินเสวี่ยก็เห็นด้วยเพราะพวกเขากำลังจะจัดงานแต่งงานอีกครั้งในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขาก็ค่อยมีอะไรกันก็ได้ แต่สุดท้ายเธอกลับมารู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉิงเฟิงและหลิวหรูหยานเสียก่อนซึ่งทำให้เธอทั้งโกรธและเศร้า
เสวี่ยน้อยถึงแม้ฉิงเฟิงจะทำผิด แต่แม่ก็เห็นและรู้ว่าเขารักลูกจากใจจริง ลูกจะทำยังไงต่อไป จะให้อภัยเขาหรือเปล่า? มู่เสี่ยวหยุนถามขณะที่เธอมองหลินเสวี่ยด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความกังวล
ลูกสาวของเธอผ่านช่วงชีวิตที่ยากลำบากเธอต้องทนทุกข์ทรมานมากตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ใครจะไปคิดว่าหลังจากแต่งงานกับฉิงเฟิงแล้วยังจะต้องทนทรมานเช่นนี้อีก
มู่เสี่ยวหยุนก็โกรธฉิงเฟิงไม่น้อยสิ่งที่ผู้หญิงเกลียดมากที่สุดก็คือการที่สามีตัวเองนอกใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมให้อภัยกับเรื่องพวกนี้ได้ ถึงแม้ว่าจะยอมให้อภัย แต่ภายในใจก็ไม่มีทางเหมือนเดิมอีกต่อไป เช่นเดียวกับมู่เสี่ยวหยุนถึงแม้ว่าเธอจะยังอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับหลินซื่อ แต่เธอก็ยังคงจดจำวีรกรรมของเขาและความเจ็บปวดในวันที่เขานอกใจได้เป็นอย่างดี มันคือความเจ็บปวดที่ฝังลึก
แม่หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป หลินเสวี่ยกล่าวอย่างขมขื่นขณะที่ส่ายหัว
เธอจะทำอะไรได้ในใจเธอยังรักฉิงเฟิงอยู่ ถ้าหากเธอไม่ได้รักเขาแล้วเธอก็อาจจะขอหย่า การที่เธอเจ็บปวดก็เพราะเธอยังคงรักเขาอยู่ หัวใจของเธอเจ็บปวดทุกครั้งที่นึกถึงเขาอยู่กับนางจิ้งจอกคนนั้น หลิวหรูหยาน
เสวี่ยน้อยเธอต้องเข้มแข็งเข้าไว้
!
ยังไม่ต้องยกโทษให้ฉิงเฟิงในตอนนี้
หลินเสวี่ยคิดในใจอย่างตั้งใจ
หลินเสวี่ยได้สาบานในใจเธอจะไม่มีทางให้อภัยฉิงเฟิงไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น