My Cold and Elegant CEO Wife - ตอนที่ 758 ความหดหู่ของฉิงเฟิง
ฉิงเฟิงเดินไปเดินมาตามทางเดินเขารู้สึกทุกข์ใจมาก หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นน้ำตาของหลินเสวี่ย
เขารู้ดีว่าหลินเสวี่ยโมโหอย่างมากเธอไม่ยอมให้อภัยเขา
เฮ้อ…แม่งเอ้ย ฉิงเฟิงสบถออกมาพร้อมกับถอนหายใจ เขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรนอกจากถอนหายใจ
ในขณะเดียวกันจางหยุนเหอก็เดินออกมาพอดีเขากล่าวว่า ฉิงเฟิง ถึงแม้ว่าภรรยาของเธอจะตื่นขึ้นแล้ว แต่เธอก็ไม่ควรทำให้หล่อนตื่นเต้นตกใจเกินไปในช่วงนี้ ถ้าหากหมดสติไปอีกจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก
ฉิงเฟิงพยักหน้าเขารู้ว่าหลินเสวี่ยเพิ่งจะฟื้นตัวและไม่ควรตื่นเต้นตกใจจนเกินไป
ศาสตราจารย์จางหลินเสวี่ยไม่ยอมยกโทษให้ผม ผมไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไปดี ฉิงเฟิงกล่าวอย่างรู้สึกผิดด้วยเสียงต่ำ
ภรรยาของเธอไม่ยอมให้อภัยก็เพราะว่าหล่อนรักเธอมากเกินไปมีเพียงคนเดียวที่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ก็คือตัวของเธอเอง ดูแลภรรยาของเธอให้ดีกว่าเดิมและอย่าพูดถึงผู้หญิงที่ชื่อหลิวหรูหยานต่อหน้าหล่อน จางหยุนเหอแนะนำด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
ขอบคุณมากครับศาสตราจารย์จาง ฉิงเฟิงก้มหน้าและกล่าวด้วยความซาบซึ้ง
ถ้าใครได้มาเห็นวูฟคิงผู้โด่งดังกำลังก้มหน้าคำนับให้แก่ชายชราคนหนึ่งพวกเขาก็คงจะต้องตกตะลึงแน่นอน
ฉิงเฟิงไม่เคยก้มหัวให้แม้แต่ยอดฝีมือระดับแกรนด์มาสเตอร์แต่เขากลับปฏิบัติต่อจางหยุนเหอด้วยความเคารพเพราะชายชราผู้นี้ได้ช่วยชีวิตหลินเสวี่ยไว้ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ฉิงเฟิงพึงพอใจยิ่งกว่าการช่วยตัวเขาเองเสียอีก
ฉิงเฟิงฉันได้ทำตามสัญญา ปลุกหลินเสวี่ยให้เธอแล้ว ฉันหวังว่าเธอจะเติมเต็มคำสัญญาข้อที่สองที่ให้ไว้กับฉัน เอาชนะผู้อำนวยการสมาคมแพทย์แห่งชาติ เย่หยุนซัน จางหยุนเหอกล่าว
เสียงของจางหยุนเหอเต็มไปด้วยความเกลียดชังยามที่เอ่ยถึงเย่หยุนซันลูกศิษย์ที่ไร้ยางอายคนนี้ได้ทรยศและช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา เขาอยากจะฆ่าเย่หยุนซันให้ตายคามือแต่ก็ไม่อาจทำได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขอให้ฉิงเฟิงเต็มเติมความปรารถนาของเขา
ฉิงเฟิงพยักหน้าด้วยความมั่นใจและกล่าวว่า คุณไม่ต้องกังวลไปศาสตราจารย์จาง ผมจะเอาชนะเย่หยุนซันและแก้แค้นให้คุณได้อย่างแน่นอน !
หลังจากนั้นจางหยุนเหอก็ได้ให้คำแนะนำแก่ฉิงเฟิงในเรื่องสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับการดูแลหลินเสวี่ยหลังจากนั้นเขาก็จากไป ขาของเขาเพิ่งฟื้นตัวและร่างกายยังคงอ่อนแอ เขาจำเป็นต้องรีบกลับไปพักผ่อนให้เต็มที่
หลังจากจางหยุนเหอจากไปฉิงเฟิงก็เดินกลับเข้ามาในห้องของหลินเสวี่ย
ที่รักคุณหิวน้ำหรือเปล่าผมเทน้ำให้นะ ฉิงเฟิงถามหลินเสวี่ยด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ว่าหลินเสวี่ยจะยังไม่ยอมให้อภัยแต่ฉิงเฟิงก็ยังดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีเพื่อหวังว่าเธอจะยอมใจอ่อน
เมื่อได้ยินดังนั้นหลินเสวี่ยก็เบือนหน้าหนีในทันทีและไม่ยอมพูดคุยกับเขา
เสวี่ยน้อยเธอต้องทำได้
!
อย่าไปคุยกับเขา
!
หลินเสวี่ยคิดขณะที่เธอร่ำร้องอยู่ภายในใจ ทันทีที่ฉิงเฟิงเห็นการแสดงออกของเธอเขาก็รู้ว่าเธอไม่ต้องการจะคุยกับเขา ทำให้เขารู้สึกเสียใจมาก
ฉิงเฟิงรู้สึกผิดคาดมากแม้แต่ในสมัยที่เธอยังเป็นหลินเสวี่ยผู้เย็นชาเย่อหยิ่งแต่เธอก็ยังตอบสนองต่อเขาอยู่บ้าง แต่ตอนนี้เธอเพิกเฉยต่อเขาอย่างสิ้นเชิงและปฏิบัติกับเขาราวกับคนแปลกหน้า
สงครามเย็นระหว่างคู่รัก
ฉิงเฟิงคิดถึงคำพูดเหล่านั้นขึ้นมาเขามักเห็นข่าวว่าคู่สมรสมักจะมีสงครามเย็นในยามที่ทะเลาะกันหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนอกใจ
สงครามเย็นคืออะไร มันคือการที่ทั้งสองฝ่ายไม่สื่อสารและเพิกเฉยกันอย่างสิ้นเชิง มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก
ลองคิดถึงเรื่องนี้ดูถ้าหากภรรยาหรือสามีของคุณไม่สนใจคุณอย่างสิ้นเชิงและถือว่าคุณเป็นคนแปลกหน้าคุณจะรู้สึกอย่างไร ถูกต้อง คุณย่อมรู้สึกปวดใจอย่างแน่นอน สิ่งนี้กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมปัจจุบันมันแตกต่างจากความรุนแรงที่ผู้หญิงตบคุณเพื่อระบายความโกรธของเธอออกมา การลงไม้ลงมือนั้นดีกว่าสงครามเย็นเพราะหลังจากระบายความโกรธออกไปแล้วความสัมพันธ์ก็มักจะเริ่มกลับคืนมาเหมือนเดิม
แต่สงครามเย็นนั้นแตกต่างกันมันน่ากลัวกว่ามากเพราะผู้หญิงที่อยู่ในอารมณ์เช่นนี้จะไม่สนใจผู้ชายของเธอแม้แต่น้อย
ที่รักผมผิดเองถ้าคุณโกรธเกลียดหรือไม่พอใจผมคุณก็ทุบตีผมได้เลยตามสบาย
ฉิงเฟิงกล่าวด้วยเสียงต่ำราวกับเด็กประถมที่ทำความผิด
น้ำตาหลั่งไหลลงมาจากใบหน้าของหลินเสวี่ยเมื่อเธอได้ยินคำพูดของฉิงเฟิง
เธอสามารถทุบตีเขาได้หรือ ไม่แน่นอน เธอรักเขาจนหมดทั้งหัวใจ แต่เธอก็มีความภาคภูมิใจในตัวเอง เธอไม่สามารถยกโทษให้กับเรื่องของเขากับหลิวหรูหยานได้ ฉิงเฟิงคุณออกไปก่อนเถอะ ให้เสวี่ยน้อยได้อยู่คนเดียวสักพัก มู่เสี่ยวหยุนกล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจนักเมื่อได้เห็นน้ำตาของลูกสาวตัวเอง
มู่เสี่ยวหยุนเคยพึงพอใจในตัวลูกเขยคนนี้มากแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ผู้ชายหลายใจไม่ควรให้อภัย มันคือการทรยศต่อคู่รักของตัวเอง
ฉิงเฟิงทำได้เพียงถอนหายใจเมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจของแม่ยายตัวเองสุดท้ายแล้วเขาจึงทำได้เพียงต้องพยักหน้าและเดินออกจากห้องไป
เมื่อฉิงเฟิงเดินออกจากห้องมาได้สักพักเขาก็เห็นอลิซและสมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่ากำลังเดินตรงมาหาเขา อลิซทั้งยั่วยวนและทรงเสน่ห์ วันนี้เธอสวมชุดรัดรูปที่ช่วยขับเน้นทรวดทรงที่มีเสน่ห์ของเธอ หน้าอกคู่โตของเธอนั้นดึงดูดความสนใจของผู้คนโดยรอบ
โดยปกติแล้วฉิงเฟิงจะค่อนข้างพอใจและชื่นชมต่อเรือนร่างของอลิซแต่ยามนี้เขาหัวเสียเรื่องหลินเสวี่ยและไม่มีอารมณ์ไปคิดเรื่องแบบนั้น
พวกนายมาทำอะไรที่นี่ ฉิงเฟิงถามและขมวดคิ้วเมื่อเห็นสมาชิกในทีมเขี้ยวหมาป่า
เขาได้สั่งให้ทุกคนคอยคุ้มกันหลินเสวี่ยจากนอกโรงพยาบาลแล้วทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่
อลิซกล่าวด้วยรอยยิ้มอันเย้ายวนใจว่า บอสคะ คือพวกเราได้ยินข่าวว่าหลินเสวี่ยฟื้นแล้วดังนั้นพวกเราจึงอยากมาเยี่ยมเธอ
บอสพี่สะใภ้เป็นไงบ้าง ลู่ซวนจี๋และคนอื่นๆถามด้วยความห่วงใย
ลู่ซวนจี๋เคยพบกับหลินเสวี่ยมาหลายครั้งแล้วและเคารพเธออย่างสุดซึ้งเขารู้ดีว่าหลินเสวี่ยปฏิบัติต่อฉิงเฟิงเป็นอย่างดี
ฉิงเฟิงทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นเท่านั้นเขาไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าหลินเสวี่ยไม่ยอมคุยกับเขา เธอเพิ่งฟื้นขึ้นมา ไม่เป็นไรแล้ว เธอสบายดี บอสพวกเราซื้อผลไม้และดอกไม้มา เราจะเข้าไปเยี่ยมเธอนะครับ ลู่ซวนจี๋กล่าวพร้อมกับตระกร้าผลไม้ที่อยู่ในมือ
ในฐานะสมาชิกของทีมเขี้ยวหมาป่าลู่ซวนจี๋และคนอื่นๆรู้จักแต่เพียงการฆ่าคน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาซื้อของขวัญมาเยี่ยมผู้อื่น
ฉิงเฟิงต้องการที่จะหยุดพวกเขาเมื่อเขาเห็นว่าทุกคนต้องการที่จะเข้าไปในห้องเขากล่าวว่า ฉันขอขอบคุณในความห่วงใยของพวกนาย วางของฝากไว้ที่นี่แหละ หลินเสวี่ยต้องการพักผ่อนอย่าเพิ่งเข้าไปเลย
ฉิงเฟิงไม่กล้าปล่อยให้พวกเขาเข้าไปในห้องเพราะหลินเสวี่ยยังคงโกรธอยู่และไม่ยอมพูดใครกับเขาถ้าหากได้เห็นหน้าอลิซและคนอื่นๆเธออาจจะยิ่งหงุดหงิดมากขึ้น
เนื่องจากอลิซเป็นผู้ดูแลหลิวหรูหยานและค่อนข้างสนิทกับเธอซึ่งหลินเสวี่ยก็รู้เรื่องนี้ ดังนั้นถ้าหลินเสวี่ยเห็นหน้าอลิซเธอก็จะนึกถึงหลิวหรูหยาน ถ้าหากเธอหมดสติไปอีกคงไม่ดีแน่ ฉิงเฟิงจึงไม่กล้าปล่อยให้พวกเขาเข้าไปเยี่ยมหลินเสวี่ย