CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
หน้านิยาย
สล็อตเว็บตรง

My Death Flags Show No Sign of Ending - ตอนที่ 119 เส้นสีขาว และ เส้นสีแดง

  1. Home
  2. My Death Flags Show No Sign of Ending
  3. ตอนที่ 119 เส้นสีขาว และ เส้นสีแดง
ตอนก่อน
หน้านิยาย

[ คุณเวลส์ คุณเชื่อคำพูดของหมอนั้นจริงๆหรอ ? ] – ตัวแทนชาวเมือง

ฝั่งตัวแทนของชาวเมืองอีกคนที่นิ่งเงียบมาตลอดการสนทนาได้ตัดสินใจถามถึงการตัดสินใจของท่านนายกเทศมนตรี

หากมองจากมุมที่เป็นกลาง ทางฝั่งของฮาโรลด์มีความน่าสงสัยในทุกๆด้าน มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ตัวแทนของชาวเมืองจะคิดเช่นนั้นหลังจากได้ฟังเรื่องราวที่มันดูเหลือเชื่อจนเกินไปหน่อย

ซึ่ง เวลส์เขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนที่จะตอบกลับ

[ ข้ารู้ว่าพวกนายต้องการจะพูดอะไร และข้าก็เข้าใจดีอย่างถ่องแท้เลยล่ะ … ว่าแต่ ฟิออน่า เธอเชื่อในสิ่งที่พวกนั้นเล่ามาจริงๆรึ ? ] – เวลส์

เมื่อถูกถาม ฟิออน่าก็ตอบกลับไปโดยไร้ความลังเลใดๆ

[ ค่ะ ดิฉันได้เห็นกับตาตนเองว่าภายใต้เมืองแห่งนี้มีทั้งเหล่ามอนเตอร์จำนวนมากมายและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกสร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ตามที่เขากล่าวมาทุกๆอย่างค่ะ ดิฉันคิดว่าพวกเราจำเป็นจะต้องรีบดำเนินการณ์แก้ไขสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในตอนนี้ทันทีค่ะ ] – ฟิออน่า

[ ข้าเข้าใจแล้ว แต่ … ] – ตัวแทนชาวเมือง

ยังมีตัวแทนบางคนที่ยังสงสัยและเหลือบมองไปทางฮาโรลด์จากทางด้านข้าง เมื่อเห็นสายตานั้น ฟิออน่าก็เข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร เธอจึงกล่าวต่อ

[ ดิฉันเข้าใจค่ะว่าทำไมพวกท่านถึงยังสงสัยในตัวของเขา เพราะจากข้อมูลที่พวกเราได้รับมาทั้งหมดจากทั้ง 2 ฝ่าย สถานะของท่านฮาโรลด์ใช่ว่าจะหลุดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัย บางที สถานการณ์ทั้งหมดนี้อาจเป็นฝีมือของเขาก็ได้ค่ะ ] – ฟิออน่า

[ ถ้าหากเธอเองก็คิดเช่นนั้น ทำไมเธอถึงไม่คิดว่าพวกเราควรใช้เวลาหาลือและตัดสินให้รอบคอบกว่านี้ล่ะ ? ] – ตัวแทนของชาวเมือง

[ เนื่องจากพวกเรายังไม่มีข้อมูลที่มากพอและข้อมูลทั้งหมดที่พวกเราได้รับมาก็มาจากทางฝั่งนั้นทั้งหมด ทำให้พวกเราไม่สามารถตัดสินใจได้อย่างเหมาะสมได้ แม้บางทีเรื่องทั้งหมดนี่อาจจะเป็นเพียงข้ออ้างที่จะใช้ขับไล่พวกเราออกไปจากเมืองแห่งนี้เท่านั้น แต่ฝูงมอนเตอร์เหล่านั้นก็ยังคงอยู่ภายใต้เมืองของพวกเราอยู่ดี อันตรายเหล่านั้นเป็นของจริง ดังนั้นสิ่งที่พวกเราควรทำที่สุดในตอนนี้คือยืนยันให้ได้ว่ามูลเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงให้เร็วที่สุด และถ้าหากเป็นเช่นนั้น พวกเราจะได้มีเวลาคิดแผนรับมือใด้ทันการค่ะ ] – ฟิออน่า

ฟิออน่ากล่าวออกมาด้วยความมุ่งมั่น ราวกับสีหน้าที่ซีดเซียวเมื่อเช้ากลายเป็นเรื่องโกหกไป

เมื่อได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเธอ เหล่าตัวแทนของเมืองที่อยากจะคัดค้านก็ค่อยๆอ่อนลง

[ ดังนั้น พวกเราต้องจัดลำดับความสำคัญให้กับการอพยพชาวเมืองเป็นอันดับแรก ถ้าพ่อของดิฉันยังมีชีวิตอยู่ ท่านคงมีความคิดเช่นเดียวกับดิฉัน ท่านพ่อคงจะตัดสินใจเช่นเดียวกันแน่นอนค่ะ ] – ฟิออน่า

[ ท่านลอว์เรนซ์ … เฮ้อ.. เธอเหมือนพ่อของเธอมากจริงๆ … ] – ตัวแทนของชาวเมือง

ฮาโรลด์เองก็บอกไม่ได้ว่าชาวเมืองแห่งนี้ศรัทธาในตัวพ่อของฟิออน่ามากแค่ไหนตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ แต่แค่เอ่ยถึงเขาเพียงช่วงสั้นๆในตอนท้ายเท่านั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เหล่าตัวแทนคนอื่นๆยอมรับกันได้ทั้งหมด

เมื่อเห็นเช่นนั้น ฮาโรลด์จึงคิดว่าจังหวะตอนนี้แหละที่เหมาะจะพูดกล่าวปิดการประชุมครั้งนี้เสียที

[ พูดกันพอรึยัง ? จะได้รีบๆเริ่มกันเลยสักที ] – ฮาโรลด์

หลังจากนั้น เหตุการณ์ก็ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

ตัวแทนของฝั่งเมืองและฝั่งอัศวินได้เลือกตัวแทนที่จะเข้าไปสำรวจภายในเหมืองและยืนยันสถานการณ์ ซึ่งตัดสินใจกันว่าพวกเราจะเดินทางไปพร้อมกับฮาโรลด์ในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า

ทางฝั่งเมืองได้เลือกมา 3 คน ได้แก่ฟิออน่า รองนายก และตัวแทนจากฝั่งคณะกรรมการ สำหรับฝั่งอัศวิน พวกเขาได้เลือกมา 2 คน คือ ซิดที่ซึ่งเข้าใจความคิดของฮาโรลด์เป็นอย่างดี และ ลากาเรส ผู้ที่เป็นหัวหน้าหน่วย

ดังนั้น ทั้ง 6 คนรวมถึง ฮาโรลด์จึงออกสำรวจชมสิ่งปลูกสร้างใต้ดิน ซึ่งทั้งคนจากฝั่งชาวเมืองและฝั่งอัศวินเมื่อได้เยี่ยมชมฝูงมอนเตอร์ต่างพากันพูดไม่ออก

เมื่อยืนยันได้แล้วว่าเรื่องที่ฮาโรลด์เล่ามาเป็นความจริง ตัวแทนจากฝั่งเมืองก็ประกาศให้เริ่มต้นการอพยพโดยทันที โดยบอกกับผู้คนภายในเมืองว่าภายใต้เหมืองนั้นเต็มไปด้วยก๊าซติดไฟซึ่งพร้อมที่จะระเบิดได้ทุกเมื่อ

นี่เป็นเรื่องโกหกที่ฝั่งผุ้นำของเมือง อัศวิน และฮาโรลด์ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้า เพราะพวกเขาคิดว่าเรื่องของก๊าซติดไฟคงช่วยกระตุ้นให้รับรู้ถึงอันตรายได้ดีกว่าเรื่องเหลือเชื่ออย่างมีฝูงมอนเตอร์อยู่ภายใต้เมืองเป็นไหนๆ

และด้วยสิ่งเหล่านี้ ทำให้มีหลายๆต่อหลายคนอพยพออกจากเมืองกันทันทีหลังจากที่เรื่องก๊าซถูกประกาศออกไป

บางทีนี่อาจเป็นตัวกระตุ้นให้คนที่อยากจะออกจากเมืองนี้เต็มแก่อยู่ก่อนแล้ว เรื่องวุ่นวายในคราวนี้ทำให้พวกเราสามารถตัดสินใจได้โดยไม่ลังเล และยิ่งมีสถานที่รองรับเมื่ออพยพไปยิ่งทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจยิ่งขึ้นไปอีก

อีกทั้งพวกเขายังใช้คำว่า “การอพยพชั่วคราว” เพื่อให้เหล่าชาวเมืองตัดสินใจที่จะอพยพง่ายขึ้น เพราะนั้นทำให้เหล่าชาวเมืองคิดว่าเมื่อสถานการณ์ต่างๆคลี่คลายแล้ว พวกเขาจะสามารถกลับมายังเมืองแห่งนี้ได้อีกครั้ง แต่สำหรับฮาโรลด์เขาไม่คิดว่าคนเหล่านี้จะสามารถกลับมาอาศัยที่เมืองนี้ได้อีกครั้งแน่นอน เพราะถ้าหากสถานการณ์เลวร้ายลงอย่างที่คาดไว้จริง เป็นไปไม่ได้เลยที่เมืองนี้จะสามารถใช้อาศัยได้อยู่อีกแน่นอน

แน่นอนว่า เขาความคิดเห็นส่วนี้เขาไม่ได้บอกมันกับใคร

( ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี พวกเรามีทั้งทุนทรัพย์และสถานที่ที่จะต้องย้ายไป เท่านี้คงสามารถชดเชยให้กับพวกเขาได้บ้าง … ) – ฮาโรลด์

ฮาโรลด์ได้แต่ขอโทษกับคนเหล่านี้อยู่ภายในใจที่ชาวเมืองต้องถูกล่อลวงด้วยความหวังหลอกๆ ซึ่งถ้าไม่ทำเช่นนี้และบอกความจริงไปทั้งหมด สถานการณ์คงจะบายปลายจนไม่อาจควบคุมได้

และแล้ว ก็ผ่านไป 2 สัปดาห์ตั้งแต่เริ่มต้นการอพยพ ตอนนี้การอพยพคืบหน้าไปเป็นอย่างมาก

เอาตามจริง ตอนนี้ก็ยังบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่เหล่ามอนเตอร์จะเริ่มเคลื่อนไหว จึงยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ ดังนั้นจึงต้องมีมาตรการบางอย่างกรณีที่ไม่สามารถอพยพได้ทันเวลา เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฮาโรลด์จึงได้เตรียมกันบางอย่าง

[ แผนการ “เส้นสีแดง” คืบหน้าไปถึงไหนแล้ว ? ] – ฮาโรลด์

[ ของทั้งหมดที่จะถูกจัดส่งมาในวันพรุ่งนี้และน่าจะเพียงพอตามปริมาณที่พวกเราประมาณไว้ขอรับ ] – ลิสท์

ฮาโรลด์กำลังหาลือกับมาตรการรับมือที่กำลังจะมาถึง ซึ่งคนที่ตอบคำถามกับเขาไม่ใช่ใครอื่น หรือก็คือ ลิสท์

ดูเหมือน่วาพวกเขาจะสามารถจัดหาสิ่งของที่จำเป็นได้ทันเวลา แต่เมื่อคำนึงถึงเวลาที่จำสิ่งเหล่านั้นไปติดตั้งไว้ตามสถานที่ที่กำหนด เวลาก็แทบจะไม่พอแล้ว แต่เอาจริงๆ ถ้าหากการอพยพเสร็จสิ้นได้ทันเวลา แผนการนี้ก็ไม่จำเป้นตั้งแต่แรก แต่สำหรับฮาโรลด์เขาได้ตัดความเป็นไปได้ที่การอพยพจะเสร็จสิ้นได้อย่างทันเวลาไปแล้ว

นั้นเพราะฮาโรลด์ ผู้ที่เป็นที่รักของธงมรณะ ไม่มีทางที่เหตุการณ์เหล่านี้จะผ่านพ้นไปด้วยดีโดยที่เขาไม่ต้องเสี่ยงชีวิตได้อย่างแน่นอน ซึ่งสิ่งเหล่านี้กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับเขาไปแล้ว

ดังนั้น ฮาโรลด์จึงคิดที่จะใช้เวลาที่ยังเหลืออยู่ในการเตรียมการทุกๆอย่างให้พร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังใกล้เข้ามา แม้จะช่วยเพียงเล็กน้อย ถ้ามันลดความยากของเหตุการณ์นี้ได้บ้าง เขาก็พร้อมที่จะทำ

[ ตอนนี้ พวกเราได้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับแผนการ “เส้นสีขาว” ไว้เรียบร้อยแล้วขอรับ หากมันได้ผล พวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้แผน “เส้นสีแดง” อีกต่อ– ] – ลิสท์

[ ฮึ ไอ้แผนการนั้นชั้นไม่คาดหวังว่ามันจะได้ผลเลยซักนิด เพราะงั้นชั้นถึงคิดแผนการ “เส้นสีแดง” ยังไงล่ะ ] – ฮาโรลด์

กลยุทธ์ที่จะใช้เมื่อฝูงมอนเตอร์เริ่มเคลื่อนไหวคือแผนการ “เส้นสีขาว” ซึ่งถ้าหากเท่านี้ยังไม่เพียงพอ ก็จะใช้ขั้นที่ 2 “เส้นสีแดง” ซึ่งเป็นหนทางสุดท้าย

เอาตามจริง ฮาโรลด์คิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่สถานการณ์มันจะเลยเถิดถึงกับต้องใช้แผนการ “เส้นสีแดง”อย่างแน่นอน

ฮาโรลด์ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ …

นี่มันคือภารกิจที่แข่งกับเวลา มีชีวิตคนนับพันเป็นเดิมพัน ต้องไม่มีใครถูกทิ้งเอาไว้ข้างหลัง

และทันทีที่การประสานงานกับลิสท์จบลง ฮาโรลด์ก็ลุกขึ้นและจากไปทันที เพราะมีบางสิ่งที่เขาจำเป็นที่จะต้องรีบไปจัดการ

เขาเดินไปรอบๆเมืองบาร์สตัน บรรยากาศดูมีชีวิตชีวาน้อยลง เงียบเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด

ก็นะ มันก็เข้าใจได้ เพราะใต้เมืองมีลูกระเบิดลูกใหญ่กำลังรอคอยอยู่

แต่สิ่งที่เป็นปัญหายิ่งกว่าคือเหล่าชาวเมืองหัวรั้นที่คัดค้านการอพยพและไม่ยอมย้ายออกไปไหน คนเหล่านี้เชื่อว่าเรื่องก๊าซระเบิดภายในเหมืองเป็นเรื่องแหกตา

ใช่ว่าทุกคนจะยอมรับและพูดว่า “เข้าใจแล้ว” และย้ายก้นกันออกจากเมืองไปหลังจากถูกบอกว่าภายใต้เมืองของพวกเขามีก๊าซที่พร้อมระเบิดอยู่ทุกเมื่อ

ขณะเดินไปรอบๆเมือง สายตาของฮาโรลด์ก็มาหยุดอยู่ที่ชายคนหนึ่งที่กำลังส่งเสียงเอ๊ะอะโวยวาย

[ กูไม่สนอะไรทั้งนั้น! กูจะไม่มีวันออกไปไหนจากบ้านหลังนี้ทั้งนั้น! ]

[ พวกเราเข้าใจความรู้สึกของคุณดี แต่ว่าการอาศัยอยู่ภายในเมืองแห่งนี้ต่อไปมันอันตรายเกินไปจริงๆนะ ] – คีธ

มีชายคนหนึ่งวัย 30 กว่าๆกำลังยืนอยู่หน้าบ้าน เขากำลังทะเลาะกับคีธ แม้จะเผชิญหน้ากับคีธที่รูปร่างสูงใหญ่รูปลักษณ์แข็งแรง แต่ชายคนนั้นก็ยืนการเสียงแข็งปฎิเสธท่าเดียว นี่แสดงให้เห็นว่าหมอนี่เป็นคนที่กล้าหาญทีเดียว

และด้วยความมุ่งมั่นของชายคนนี้ ทำให้คนอื่นๆที่มีความคิดเช่นเดียวกับเขายืนกรานว่าจะไม่ย้ายไปไหนเช่นกัน

[ เอะอะโวยวายอะไรกัน ? ] – ฮาโรลด์

ฮาโรลด์ผลักคนอื่นๆที่มุงดูอยู่ออกไปให้พ้นทาง และเข้ามาแทรกตรงกลางระหว่างชายคนนี้กับคีธ นั้นทำให้สายตาของทุกๆคนโดยรอบจับจ้องมาที่เขา

[ ก-แกเป็นใครวะ ? ]

[ ชั้นเป็นหัวหน้าของไอ้หมอนี่ และชั้นเดาว่า แกคงเป็น …หัวโจกของเจ้าพวกโง่เง่าที่ไม่ยอมย้ายก้นออกไปจากเมืองสินะ ? ] – ฮาโรลด์

[ … ใช่ ถูกแล้ว! ที่นี่คือบ้าน บ้านของครอบครัวข้าและข้าจ—– ]

[ หุบปาก ไม่จำเป็นต้องพร่ามอะไรไร้สาระ สรุปสั้นๆคือ “ต่อให้ตาย กุก็ไม่ย้ายไปไหนทั้งสิ้น” ใช่มั้ย ? ] – ฮาโรลด์

ทันทีที่พูดจบ ฮาโรลด์ก็ดึงดาบสีดำที่เอวออกมาและฟันไปที่ชายคนนั้นในฉับเดียว

แม้ว่าจะดูโหดร้าย แต่ท่วงท่าการฟันนั้นทั้งเป็นธรรมชาติและสง่างาม

คมดาบที่ชุ่มไปด้วยเลือดของชายคน—– เอ่อ จริงๆมันควรจะเป็นแบบนั้น แต่ทว่ามันกับฟันถูกเพียงแค่เสื้อผ้าของเขาเท่านั้น

ทันทีที่ชายคนนั้นรู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เขาหงายหลังล้มลงในทันที ราวกับเป็นสัญญาให้ฝูงชนเกิดนความโกลาหล

[ กะ-แก ทะทะทะทำอะไ— ]

แม้ว่าชายคนนั้นต้องการที่จะถามเกี่ยวกับการโจมตีของฮาโรลด์ด้วยน้ำเสียงที่สั่นเคลือ แต่ว่าเขาก็กลัวมาจนไม่สามารถพูดมันออกมาให้จบประโยคได้

ก็ถือว่าเข้าใจได้สำหรับคนที่พึ่งได้รับประสบการณ์การหวิดถูกฟันมาหมาดๆ

[ แกไม่ได้มีความคิดที่จะย้ายออกจากเมืองนี้ แต่ถ้าไม่ออกจากเมือง สุดท้ายแกก็ตายอยู่ดี ดังนั้นไหนๆก็จะตายอยู่แล้ว ชั้นเลยจะรีบๆจัดการให้ อ้อใช่ เรียกครอบครัวของแกมาพร้อมกันทั้งหมดด้วย ชั้นจะได้จัดการให้ในทีเดียว ] – ฮาโรลด์

ฮาโรลด์กล่าวออกมาหน้าตาเฉย ราวกับเขาไม่ได้ทำอะไรผิด

“ถ้านายไม่ต้องการที่จะออกไปจากเมืองแห่งนี้ งั้นก็ตายซะ” และ”ไหนๆก็จะตายอยู่แล้ว เดี่ยวชั้นจะจัดการให้เร็วๆเอง” นั้นคือใจความสำคัญที่ฮาโรลด์ต้องการจะสื่อให้ชาวเมืองที่มุงดูอยู่โดยรอบได้ยิน

และไม่เพียงแค่ชายที่เกือบถูกฟันเท่านั้น คนอื่นๆทั้งหมดต่างตกอยู่ภายใต้จิตสังหารที่ฮาโรลด์ปล่อยออกมาพร้อมกับการฟันนั้น

[ ทำหน้าตกใจทำไม ? แกและครอบครัวตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตายกันอยู่แล้ว ชั้นแค่จะช่วยให้มันเร็วขึ้นอีกซักหน่อย มีอะไรผิดตรงไหน ? ] – ฮาโรลด์

ผิดทุกๆอย่าง ทั้งกระบวนการคิดและการกระทำ

“มนุษย์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเราคือปีศาจที่กระบวนการทางความคิดแตกจากพวกเรา”

นี่คงจะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดเมื่อได้ยินคำพูดของฮาโรลด์

[ เฮ้ย! เกิดบ้าอะไรขึ้นตรงนั้นน่ะ ?! ]

อาจเพราะพวกเขาได้ยินเสียงเอะอะโวยวายหรือไม่ก็มีผู้เห็นเหตุการณ์วิ่งไปแจ้งพวกเขาให้รับรู้ เหล่าอัศวินจำนวนหลายนายกำลังมุ่งหน้ามายังที่ๆฮาโรลด์อยู่ แม้อัศวินเหล่านี้กำลังยุ่งอยู่กับการโน้วน้ามชาวเมืองที่ยังไม่ยอมย้ายออกไป แต่พวกเขาก็ยังอุส่าสละเวลามาระงับเหตุ

เมื่อเห็นเช่นนั้น ฮาโรลด์ก็เก็บดาบของเขาเข้าฝัก

[ ฮึ แกนี่โชคดีนะ ถือว่ารอดไปได้ 1 วันละกัน ] – ฮาโรลด์

ฝูงชนแตกกระเจิงไปคนละทิศละทางทันที ไม่มีใครกล้าสบตากับฮาโรลด์อีก

เพียงไม่กี่นาที ชื่อเสียงของฮาโรลด์แพร่กระจายไปทั่วบาร์สตันทันที

แม้นั้นจะฟังดูเป็นปัญหา แต่ที่เป็นปัญหาจริงๆสำหรับเขาคือการที่มีอัศวินเข้ามาเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

และนั้นทำให้ในไม่กี่ ชม หลังจากนั้น ในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ลากาเลสก็เรียกหาตัวฮาโรลด์ให้เข้าไปพบเขาในห้องๆ 1 ภายในตึกสำนักงานชั่วคราวของหน่วยอัศวิน

สายตาที่ลากาเลสใช้มองฮาโรลด์นั้นรุนแรงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้กับรุนแรงกว่าครั้งไหนๆ

[ นี่มันเรื่องบ้าอะไร ! อฑิบายมาซะ !! ] – ลากาเรส

[ อธิบาย ? อธิบายอะไร ? ] – ฮาโรลด์

[ อย่ามาตีหน้าซื่อกับข้า แกไปฟันชาวเมืองกลางวันแสกๆเพียงเพราะเขาปฎิเสธที่จะออกจากเมืองเนี้ยนะ ! ] – ลากาเรส

[ แล้วไง ? ] – ฮาโรลด์

ท่าทางของฮาโรลด์ไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกผิดออกมาแม้แต่น้อย และนั้นยิ่งทำให้ลากาเรสเดือดยิ่งขึ้นไปอีก

เขามุ่งตรงมายังฮาโรลด์ กระชากคอเสื้อและตะคอกใส่อย่างแรง

[ แกพูดว่า แล้วไง? หรอ ??? นั้นคือทั้งหมดที่แกจะพูดหลังจากที่พยายามจะพรากชีวิตคนบริสุทธิ์อย่างงั้นรึไง !! ] – ลากาเรส

“สมแล้วที่เป็นอัศวิน ต่อให้ใครหน้าไหนก็ไม่เลือกปฎิบัติ” นั้นคือสิ่งที่ฮาโรลด์คิด หลังจากรับรู้ได้ถึงความยุติธรรมที่แน่วแน่ของลากาเลส

ลากาเลสแสดงความโกรธต่อการกระทำของฮาโรลด์ ซึ่งมันก็รุนแรงพอๆกับความยุติธรรมที่มีอยู่ในตัวของเขา นั้นก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมชายคนนี้ถึงไม่มีวันให้อภัยถึงสิ่งที่ฮาโรลด์กระทำลงไปไม่ว่าจะเหตุการณ์นี้หรือในอดีต

อย่างไรก็ตาม สำหรับในสถานการณ์ในปัจจุบัน ไอ้ความยุติธรรมนั้นไม่มีประโยชน์เลยซักนิด เมื่อคิดได้เช่นนั้น ฮาโรลด์จึงตอบกลับเขาไปแม้ว่าจะถูกคว้าคอเสื้ออยู่

[ การรั้นที่จะอยู่ในเมืองนี้มีแต่จะต้องตาย ชั้นแค่แสดงให้พวกมันเห็นถึงความจริงข้อนี้ก็เท่านั้น ] – ฮาโรลด์

[ แก !! ] – ลากาเรส

ขณะที่ลากาเลสง้างหมัดจะชกเข้าที่ใบหน้าของฮาโรลด์ เสียงเคาะประตูที่มาจากทางด้านนอกก็ดังขึ้นขัดการกระทำของเขาเสียก่อน

ซึ่งฮาโรลด์ ก็ตอบกลับเสียงนั้นว่า “เข้ามา” โดยไม่ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมนานเกินไป และเมื่อประตูห้องถูกเปิดออก เผยให้เห็นถึงร่างของฟิออน่า ที่มาพร้อมกับชายคนที่เกือบจะถูกฮาโรลด์ฟันเมื่อตอนกลางวัน บางที อาจเพราะลากาเรสจำเขาได้ เขาถึงกับชะงักจนตัวแข็งไปชั่วขณะ

เมื่อสังเกตว่ามือซ้ายของลากาเรสที่คว้าคอเสื้อเริ่มอ่อนฮาโรลด์จึงปัดมันออก

[ ดิฉันพาผู้ร่วมงานมาแล้วค่ะ ] – ฟิออน่า

[ เธอมาสาย ชั้นจำได้ว่าพวกเราคุยกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อยู่ก่อนแล้วไม่ใช่รึไง ] – ฮาโรลด์

[ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ผมเป็นคนผิดเองขอรับ ไม่ใช่ความผิดของคุณฟิออน่าเลยซักนิด ในตอนนั้นกลุ่มคนที่ร่วมต่อต้านการอพยพเข้ามาหาผม จึงทำให้ผมจำต้องใช้เวลาซักพักกว่าจะปลีกตัวออกมาได้ ]

[ ฮี อย่างน้อยนายก็แสดงดีใช้ได้เลยนี่หว่า ] – ฮาโรลด์

[ …. เดี่ยวสิ นี่พวกนายพูดเรื่องอะไรกัน ? ] – ลากาเรส

[ ให้ดิฉันเป็นคนอธิบายเองค่ะ ] – ฟิออน่า

ฟิออน่าเข้ามาช่วยเหลือในการอธิบายได้อย่างเหมาะเจาะ นั้นก็เพราะถ้าปล่อยให้ฮาโรลด์เป็นคนอธิบาย ปากเวรของเขาคงจะพูดประมาณว่า “นี่ยังไม่เข้าใจอีกหรอ ? ดูเหมือนหัวที่โตๆนั้นจะมีไว้แค่ประดับไหล่ของแกเท่านั้น” ต้องขอบคุณฟิออน่าในส่วนนี้จริงๆ

[ หลังจากจบการประชุมเมื่อวันก่อน ท่านฮาโรลด์สั่งให้ดิฉัน “หาคนในเมืองที่มีประสบการณ์หรือคุ้นเคยกับการเล่นละครให้ที” และชายคนนี้คือคนที่ดิฉันเลือกมาค่ะ ] – ฟิออน่า

[ ตอนที่กระผมยังเป็นเด็ก กระผมเคยเป็นส่วนหนึ่งของคณะละครเล็กๆขอรับ … ]

ชายคนนั้นพูดด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย

เมื่อถึงจุดๆนี้ สีหน้าของลากาเรสเริ่มซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ราวกับว่าเขาเริ่มปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดได้แล้ว

[ ท่านฮาโรลด์ขอให้ชายคนนี้รับบทแสดงเป็นผู้นำกลุ่มต่อต้านการอพยพเพื่อให้ชาวเมืองอีกหลายๆคนที่มีความคิดเช่นเดียวกับเขาเข้าร่วม และอีกคำขอคือขอให้เขาแกล้งทำเป็นถูกโจมตีต่อหน้าฝูงชนจำนวนมาก ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องถูกเก็บเป็นความลับแม้แต่ครอบครัวของเขาเองด้วย แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการบังคับให้ร่วมมือแต่อย่างใด พวกเราได้ทำการเจรจาหาข้อตกลง และตอบแทนค่าจ้างอย่างเหมาะสมค่ะ ] – ฟิออน่า

[ กระผมไม่ได้ต้องการที่จะต่อต้านการอพยพ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่กระผมจะต้องคัดค้านข้อเสนอเหล่านี้ แถมเงินเหล่านี้ก็สามารถช่วยเหลือครอบครัวของกระผมจากเหตุการณืภัยพิบัติในครั้งนี้ได้มากอีกด้วยขอรับ ]

[ สรุปสั้น เป้าหมายของฮาโรลด์คือ…. ] – ลากาเรส

[ ค่ะ เป็นอย่างที่ท่านลากาเรสคิด เป้าหมายของท่านฮาโรลด์คือการแต่งตั้งใครสักคนมารับบทเป็นผู้นำการต่อต้านการอพยพ จากนั้นทำให้เขาตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวและยอมรับที่จะอพยพไป ด้วยวิธีนี้ เมื่อผู้นำยอมอ่อนข้อ คนอื่นๆจะมีความคิดที่คล้อยตามและยอมจากเมืองนี้ไป แถมยังช่วยสามารถตัดความเป็นไปได้ที่จะมีคนกล้าขึ้นมารับหน้าที่เป็นผู้นำการต่อต้านอารอพยพคนใหม่อีกด้วยค่ะ ] – ฟิออน่า

[ แล้วกลุ่มต่อต้านคนอื่นๆล่ะ เขามาหานายทำไมกัน ? ] – ลากาเรส

[ ส่วนใหญ่พวกเขามาหากระผมเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันและเรื่องที่กระผมจะอะไรต่อไป กระผมจึงตอบไปว่ากระผมและครอบครัวตั้งใจที่จะออกจากเมืองนี้ไปทันที เพราะขืนอยู่ในเมืองนี้ต่อไป ทั้งตัวกระผมและครอบครัวคงถูกท่านฮาโรลด์สังหารแน่ๆขอรับ ]

[ หึ เป็นไปตามแผน ] – ฮาโรลด์

หลังจากคืนนี้เป็นต้นไป เรื่องเหล่านี้คงแพร่สะพัดในหมู่สมาชิกของกลุ่มต่อต้าน และคงส่งผลให้หลายๆคนเปลี่ยนใจที่จะยอมอพยพจากเมืองไป

เมื่อคำอธิบายทุกอย่างจบลง ลากาเรสก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง

[ แล้วทำไมแกไม่บอกอะไรกับข้าเลยวะ ! ] – ลากาเรส

[ ถ้าต้องการจะเก็บความลับ ยิ่งคนรู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี นั้นเป็นสามัญสำนึกของการเก็บความลับไม่ใช่รึไง ] – ฮาโรลด์

นอกจากนี้ ฮาโรลด์ยังเชื่อว่าผู้คนรอบตัวของเขาจะปฎิสัมพันธ์ก%

ตอนก่อน
หน้านิยาย

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 119 เส้นสีขาว และ เส้นสีแดง"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์