My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 406
มันคือชายคนนั้น หลิวปิงไม่ได้เข้าใจผิดแน่ หลิวปิงหายใจติดขัดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนกับมีอะไรที่คอยขัดหลอดลมของตัวเขาอยู่ หลิวปิงไม่สามารถที่จะกำจัดของสิ่งนั้นให้ออกไปได้เลยไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน ตัวเขาได้แต่กลืนน้ำลายซ้ำๆ ถ้าหากหลิวปิงไม่ได้เป็นเจ้าชาย และถ้าหากตัวเขามีความเร็วดุจดั่งสายฟ้า ตัวเขาก็คงจะหนีไปโดยที่ไม่คิดลังเลใดๆ หลังจากที่ได้เห็นลูกศรพลังงานหลิวปิงก็ได้สละความคิดนั้นออกไป ตัวเขาช่างโง่เขลาที่จะคิดว่าหนีพ้นไปได้
ท้องฟ้าปลอดโปร่งและเต็มไปด้วยสายลมอ่อนๆ มันเป็นบรรยากาศที่ดูอบอุ่นวันหนึ่ง
ฮาลั่วใช้มือข้างหนึ่งกุมไว้ที่อก ตัวเขาไม่สามารถที่จะบินลอยอยู่ต่อได้อีกต่อไป ฮาลั่วได้ตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง
“ติ้ง! สังหารเป้าหมาย ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,500”
ลู่โจวได้ลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างนุ่มนวล ชายคนนี้ก็คือจีเทียนเด๋า มหาวายร้ายผู้ที่สามารถเอาชนะศัตรูนับไม่ถ้วนในอดีตที่ผ่านมา
เฉินเหลียงชูได้แต่คุกเข่าอยู่บนพื้น ตัวเขาเฝ้ามองดูลู่โจวอย่างใจจดใจจ่อ ลู่โจวเปรียบเสมือนไอดอลของตัวเขา! ใครจะไปสนกันว่าตัวเขาจะเป็นผู้ที่มีรายชื่ออยู่บนอันดับสูงสุดของบัญชีขาว ไม่ว่าจะเป็นเซียงลี่, องค์ชาย หรือแม้แต่คนอื่นๆ พวกเขาทั้งหมดไม่เคยอยู่ในสายตาของเฉินเหลียงชูมาก่อน
ฮั๊วจงหยาง, ไป่ยู่ชิง, หยางเยียน และดีชิง รู้สึกว่าตัวเองกลับมามีพลังขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดแทบที่จะไม่รู้สึกถึงอาการบาดเจ็บและความเหนื่อยล้าเลยเมื่อได้พบกับปรมาจารย์ผู้ที่เป็นอาจารย์ของเจ้าสำนักตัวเอง ทั้งสี่คนได้โค้งคำนับให้กับลู่โจวอย่างพร้อมเพรียงกัน “ท่านผู้อาวุโส!”
หลี่จิงยี่ได้เก็บร่มกระดาษของนาง นางได้ถือมันไว้ในอ้อมแขนก่อนที่จะโค้งคำนับให้ “ท่านผู้อาวุโส”
ยอดฝีมืออันดับสองของโถงมังกรฟ้า ยู่ฮงจับจ้องไปที่ท้องฟ้าด้วยสีหน้าอันแสนจะเจ็บปวด ตัวเขารู้สึกกระอักกระอ่วนไม่ต่างจากเฉินเหลียงชู ตัวเขาไม่รู้เลยว่าจะถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองให้ออกมาเป็นคำพูดได้อย่างไร ยู่ฮงทำได้เพียงพยุงตัวลุกขึ้นมา
สาวกของสำนักอเวจีที่เหลืออยู่ต่างก็เข้าใจสถานการณ์ดี ทุกคนได้โค้งคำนับให้กับลู่โจวอย่างพร้อมเพรียงกัน “ท่านผู้อาวุโส!” เสียงของทุกคนเต็มไปด้วยความเป็นมิตรและความเคารพนับถือ ชายชราคนนี้เป็นปรมาจารย์ของเจ้าสำนักอเวจี เจ้าสำนักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวสำนักอเวจี เพราะแบบนั้นพวกเหล่าสาวกจึงเป็นเหมือนกับลูกศิษย์ของศิษย์สาวกอีกที
สีวู่หยาได้กางปีกของตัวเองออกมาอีกครั้ง ตัวเขาเหลือบมองไปที่ซากศพของฮาลั่วด้วยสีหน้าที่ตกตะลึง หลังจากที่ยืนยันว่าฮาลั่วได้แล้วตัวเขาก็ยิ่งตกใจมากยิ่งขึ้นที่ผู้เป็นอาจารย์ของเขามีทักษะในการยิงธนู มันเป็นทักษะที่มีตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ลู่โจวบินขึ้นไปบนอากาศ ตัวเขากำลังตรวจสอบเหตุการณ์รอบๆ ตัว ในที่สุดสายตาของเขาก็จ้องมองไปที่ชนเผ่าอื่นที่กำลังสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัว ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นก็ได้สั่งการออกมา “ฆ่าพวกมันซะ”
สีวู่หยาโค้งคำนับก่อนที่จะตอบรับกลับไป “ครับ”
คราวนี้ไม่มีใครกล้าขัดขวางสีวู่หยาอีกต่อไป ด้วยพลังของตัวเขารวมไปถึงสุดยอดอาวุธระดับสรวงสวรรค์ใครกันที่จะกล้าต่อกรเขา?
คนจากรั่วหลี่นับร้อยและผู้ฝึกเวทมนตร์คาถาที่เหลือต่างก็ต้องการที่จะหนีไปบนอากาศ แต่เมื่อผู้นำของพวกเขาอย่างฮาลั่วได้เสียชีวิตไป จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครกล้าหลบหนีอีก
หลังจากที่ลู่โจวได้แสดงพลังออกมา สีวู่หยาในตอนนี้ก็ได้สยายปีกปล่อยพลังการโจมตีไปทั่วอีกครั้ง คลื่นของแสงสีทองได้สาดเข้าใส่ร่างของผู้คนจากรั่วหลี่และลั่วหลาน
แม้ว่าผู้คนจากรั่วหลี่จะใช้พลังป้องกันตัวเอง แต่ถึงแบบนั้นเมื่ออยู่ต่อหน้าอาวุธระดับสรวงสวรรค์ก็ไม่มีใครที่จะต้านทานการโจมตีได้
สาวกของสำนักอเวจีที่เห็นแบบนั้นก็รู้สึกพึงพอใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ต่างเสียท่าให้กับผู้คนจากรั่วหลี่และลั่วหลาน
เหล่าผู้ฝึกเวทมนตร์คาถาไม่มีทางหนีจากการโจมตีของสีวู่หยาได้เลย พวกเขาถูกสังหารตายทีละคน ในตอนนี้ชนเผ่าอื่นลดเหลือน้อยลงเรื่อยๆ แม้ว่าในหมู่ของพวกเขาจะมียอดฝีมือผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวหกกลีบอยู่ แต่การที่จะรับมือกับการโจมตีของสีวู่หยาที่กำลังโจมตีอย่างบ้าคลั่งอยู่แบบนี้ได้ก็ยังเป็นเรื่องที่ยากเกินกว่าจะรับมืออยู่ดี
สีวู่หยาได้เปิดใช้พลังอวตารของตน พลังอวตารดอกบัวหกกลีบปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับปีกสีทองขนาดใหญ่
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
ลู่โจวได้แต่เฝ้ามองดูแต้มบุญที่ตัวเขาจะได้จากระบบ แม้ว่าเป้าหมายที่จัดการจะให้แต้มบุญคนละ 10 คะแนน แต่เนื่องจากศัตรูคราวนี้มีมาก ดังนั้นลู่โจวในตอนนี้จึงรู้สึกพอใจกับรางวัลที่ได้รับกลับมา หลังจากนั้นตัวเขาก็หันไปมองที่หลิวปิง
“หลิวปิง”
“หะ?”
“เจ้าสมรู้ร่วมคิดกับชนเผ่าอื่น เจ้าไม่กังวลว่าจักรพรรดิหย่งชิงจะตำหนิเจ้าเรื่องนี้หรือไงกัน?” ลู่โจวได้ถามออกมา
“เอ่อ…ข้า…” หลิวปิงยากที่จะแก้ตัว ไม่ว่าจะแก้ตัวยังไงตัวเขาก็ทำผิดอยู่ดี
ในตอนนั้นเองแม่ทัพทั้งสี่จากหกคนก็ได้หันมาเผชิญหน้ากับลู่โจวในเวลาเดียวกัน “ผู้อาวุโส…พวก…พวกเราอยากจะขอขมาแทนองค์ชาย!” ทั้งสี่คนได้ก้าวออกมาข้างหน้าด้วยความเคารพ
ดวงตาของลู่โจวจับจ้องไปที่แม่ทัพทั้งสี่
“ขอขมา?”
“ผู้อาวุโส…องค์ชายสี่ทรงประทับอยู่ที่พรมแดนมาตลอดหลายปี แม้ว่าเขาจะไม่ได้สร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่ถึงแบบนั้นการทำงานขององค์ชายก็ยังทรงมีความหมายอยู่ดี” แม่ทัพที่ยืนอยู่ทางซ้ายได้ลุกขึ้นพูด
“องค์ชายทรงงานอย่างขันแข็งมาโดยตลอด..ชาวเมืองทั้งหลายไม่มีสิ่งอื่นใดนอกเหนือไปจากคำสรรเสริญที่มีให้กับองค์ชาย”
“องค์ชายได้ทำตามพระประสงค์ขององค์จักรพรรดิมาโดยตลอด แต่ก็ยังมีอะไรหลายอย่างที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของตัวเขา”
แม่ทัพทั้งสี่กำลังเดินหน้าต่อไป
หลิวปิงที่เห็นแบบนั้นขมวดคิ้ว ‘พวกเขาจะทำอะไรกัน?’
“เหล่าแม่ทัพ?”
แม่ทัพที่อยู่ทางซ้ายสุดได้หันกลับมาพูด “องค์ชาย โปรดยกโทษให้พวกเราด้วยที่พวกเราไม่เชื่อฟัง”
ทั้งสี่คนโค้งคำนับให้กับหลิวปิงก่อนที่จะหันไปหาลู่โจว พวกเขาทั้งหมดเลือกที่จะกระโจนเข้าหาลู่โจวอย่างรวดเร็วแทน
“เพื่อจักรพรรดิ!”
หวืออ!
อวตารทั้งสี่ร่างได้ปรากฏตัวขึ้น พลังเหล่านั้นสะท้อนกันและกัน เสียงสะท้อนของพลังอวตารได้ดังไปทั่วเมืองแห่งนี้
“ท่านอาจารย์!”
“ผู้อาวุโส!”
ทุกๆ คนต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
อวตารสีทองทั้งสี่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพลังงานที่ดูเหมือนจะโปร่งใส เมื่อพลังอวตารทั้งสี่มาหลอมรวมกัน ชีวิตของพวกเขาก็จะถูกผูกเอาไว้ด้วยกัน…
มีเพียงเวลาชั่วครู่ที่เหลืออยู่ ลู่โจวได้เลือกที่จะใช้การ์ดป้องกันไร้ที่ติ ในตอนนั้นเองพระพุทธองค์ทองคำก็ปรากฏขึ้น มันเป็นพลังปกป้องตัวของลู่โจวเอาไว้
ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!
เสียงระเบิดจากการโจมตีได้ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 4 ครั้งด้วยกัน เมื่ออวตารทั้งสี่ได้ชนเข้ากับพระพุทธองค์ทองคำพลังทั้งหมดก็ได้แตกสลายไป
แม่ทัพทั้งหมดกระเด็นถอยกลับมาพร้อมกับกระอักเลือด
หลิวปิงที่เห็นแบบนั้นเพิ่งจะรู้ตัว ตัวเขาได้ตะโกนออกมา “พวกเจ้าใช้อะไรคิดกัน! พวกเจ้าคิดว่าจะไปทำอะไรได้?”
แม่ทัพสองคนที่เหลือได้หยุดหลิวปิงเอาไว้ “พวกเขาเป็นคนขององค์จักรพรรดิเอง! ได้โปรดสงบสติอารมณ์ลงด้วยเถอะองค์ชาย!”
คำพูดนี้ได้ทำให้หลิวปิงกลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง แม่ทัพทั้ง 4 เป็นคนขององค์จักรพรรดิ หลิวปิงสามารถเชื่อใจได้เพียงแม่ทัพทั้งสองที่ยืนอยู่เคียงข้างตัวเขาตั้งแต่เริ่มเท่านั้น คนอื่นๆ ที่หลิวปิงไว้ใจล้วนแต่ถูกสังหารตายที่เขตพรมแดนอันไกลโพ้นไปหมดแล้ว แม่ทัพทั้งสี่เป็นเพียงคนที่เชื่อฟังพ่อของตัวเขาอย่างองค์จักรพรรดิ แต่สิ่งที่ทำให้หลิวปิงตกใจมากที่สุดก็คือการที่ลู่โจวยังคงไม่เป็นอะไรหลังจากที่รับการโจมตีจากแม่ทัพทั้งสี่ แม้แต่การโจมตีทีเผลอก็ยังใช้ไม่ได้ผล ปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าช่างแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ! การโจมตีที่ร่วมมือกันจากแม่ทัพทั้งสี่ถือได้ว่าแข็งแกร่งกว่าการโจมตีของสุดยอดผู้พิทักษ์ทั้งสี่ที่ร่วมมือกันซะอีก แต่ไม่ว่าจะทรงพลังขนาดไหนพลังนั้นก็ไม่อาจทำอะไรพุทธองค์ทองคำที่สูงกว่า 100 ฟุตไปได้! ชายชราคนนี้แข็งแกร่งเกินไป!
สิบวินาทีได้ผ่านพ้นไปในพริบตา
ลู่โจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ที่ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความไม่พอใจออกมา พูดกันตามตรงลู่โจวไม่รู้วิธีอื่นเลยที่จะจัดการกับแม่ทัพทั้งสี่ได้ ทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้ก็คือการใช้การ์ดระเบิดจุดสุดยอด แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตามมันก็ดูเหมือนจะสิ้นเปลืองเกินกว่าเหตุ…แน่นอนว่าการใช้การ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตเองก็ไม่ต่างกัน และถ้าหากตัวเขาทิ้งเหล่าแม่ทัพให้พวกฮั๊วจงหยางจัดการไป ตัวเขาก็จะไม่ได้รับรางวัลแต้มบุญ นี่เป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับลู่โจว
ทุกคนไม่รู้เลยว่ามหาวายร้ายผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในดินแดนกำลังหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะรักษาแต้มบุญเอาไว้แทนที่จะคิดวิธีการโจมตีป้องกันตอบโต้
พรึ๊บ!
ท่ามกลางซากปรักหักพังมีใครคนหนึ่งยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้ง
เซียงลี่กระทืบเท้าลงบนพื้น แรงสั่นสะเทือนกระเพื่อนออกไปกว่าหลายร้อยเมตร แรงกระทืบพื้นเป็นเหมือนกับแรงระเบิดที่ถูกสร้างมาจากกระสุนปืนใหญ่ เซียงลี่ประสานมือของตัวเอง ที่นิ้วชี้ทั้งสองข้างของตัวเขากำลังชี้ออกมา ในตอนนั้นเองก็มีเครื่องรางชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้น ที่เครื่องรางได้เขียนเอาไว้ว่า ‘สละปัญญา’ มันเป็นคำที่เขียนไว้เพื่อเป็นการทำจิตใจให้ว่างเปล่า เลิกใช้ความคิดทั้งหมดเพื่อที่จะทำสมาธิ พลังสมาธิจะเป็นพลังที่มาของความแข็งแกร่ง
ดวงตาของเซียงลี่เปล่งประกายออกมา ที่ริมฝีปากของเขาเต็มไปด้วยรอยเลือด
ลู่โจวมองไปที่เซียงลี่ ในตอนนั้นเองตัวเขาได้ยกฝ่ามือขึ้น ดอกบัวสีฟ้าได้ปรากฏขึ้นที่ใต้เท้าของเขา ในตอนนั้นเองแสงสีฟ้าก็ได้ส่องสว่างออกจากนิ้วมือของลู่โจว…
ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนกำเนิดจากความว่างเปล่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่อยู่ในสังสารวัฏ
“สละปัญญา!” พลังฝ่ามือขนาดใหญ่ได้พุ่งตรงมาหาลู่โจว ที่พลังฝ่ามือนั้นมีคำว่าสละปัญญาสลักไว้
“เป็นไปไม่ได้…” เซียงลี่เห็นนิ้วของลู่โจวขยายใหญ่ขึ้น มันคือพลังฝ่ามือสละปัญญานั่นเอง ในตอนนี้ตัวเขาไร้ซึ่งการป้องกันใดๆ
ตู๊ม!
พลังสุดยอดฝ่ามือผนึกของสำนักเซียนสวรรค์ได้กระแทกลงบนพื้น มันก็ได้สร้างหลุมลึกที่มีรูปร่างของพลังฝ่ามือที่ทำให้ทุกๆ คนต้องตื่นตกใจ