My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 497
ตอนที่ 497 ศีรษะปริศนา
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
เลือดที่พุ่งออกมาจากบาดแผลของเหวินชูทําให้หน้าอกของเขาเต็มไปด้วยของเหลวสีแดง เมื่อรู้สึกตัวว่าไม่อาจหายใจได้อีก เหวินชูก็รู้สึกราวกับวิญญาณของตนกําลังถูกมือที่มองไม่เห็นล้วงออกมา เหวินชูที่กําลังจะหมดลมหายใจได้แต่เดินเซถอยหลัง
พระอาทิตย์กําลังสาดส่องแสงอยู่บนใบหน้าของฉางตง แสงสว่างได้ส่องสีหน้าอันสงบเยือกเย็นและความไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไรของยู่ฉางตงออกมา บางที่อาจเป็นเพราะเหวินชูเคยชินกับภาพที่เคยเห็นแล้ว เพราะแบบนั้นตัวเขาจึงไม่รู้สึกยินดียินร้ายอะไร
ยู่ฉางตงยกฝ่ามือขึ้นมา หลังจากที่โค่นต้นไม้มากมายหลายต้น สุดท้ายฝักดาบก็บินกลับมาหาตัวเขา ยู่ฉางตงคว้าฝักดาบก่อนที่จะเก็บดาบยืนยาวลงไปในฝึกอย่างไม่ลังเล จู่ๆ ยู่ฉางตงก็รู้สึกสงสัยในคําพูดของตน มันเป็นคําพูดที่อวดอ้างเกินจริงไปหรือเปล่า? ท้ายที่สุดแล้วก็ยังมีผู้เป็นอาจารย์ที่ยู่ฉางตงยังไม่เคยเอาชนะได้!
ในขณะนี้ลู่โจวกําลังนั่งทําสมาธิจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์อยู่ ตัวเขาจะต้องฟื้นฟูพลังที่ถูกใช้จนหมด
รางวัลแต้มบุญ 1,500 ทําให้ลู่โจวรู้สึกงุนงง
ในบรรดาลูกศิษย์ทั้งเก้าของลู่โจว ผู้ที่มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถสังหารยอดฝีมือระดับสูงมากที่สุดก็คือยู่ฉางตง ในตอนนี้ยู่เฉิงไห่ก็ยังไม่กลับมา และยี่เทียนซินยังคงถูกเนรเทศอยู่หรือว่ามันอาจจะเป็นฝีมือของหมิงซีหยิน ในระหว่างการต่อสู้ที่หุบเขาฤดูร้อน หมิงซี่หยินเคยสังหารผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวห้ากลีบในตอนที่ตัวเขามีเพียงพลังอวตารดอกบัวสามกลีบ แต่ถึงแบบนั้นหมิงซี่หยินในตอนนี้ยังคงอยู่ในศาลาปีศาจลอยฟ้า ในตอนนี้จะเป็นใครไปได้อีกถ้าหากไม่ใช่ยู่ฉางตง?
ยู่ฉางตงเป็นผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวสามกลีบ แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ยังมีประสบการณ์และเคล็ดวิชาในตอนที่เป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบอยู่ ยู่ฉางตงที่ตัดดอกบัวทองคําสามารถสังหารผู้ฝึกยุทธผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวห้ากลีบอย่างง่ายดาย
ลู่โจวไม่ได้สนใจเรื่องนี้มากมายอะไร ตัวเขาเลือกที่จะหลับตาทําสมาธิต่อไป
หลังจากการต่อสู้ เมืองมณฑลจิงก็ไม่ได้สงบสุขอีกต่อไป
ถนนทุกสายล้วนถูกชาวสํานักอเวจียึดครองเอาไว้
มีบ้านเรือนบางหลังเท่านั้นที่ได้รับความเสียหาย การต่อสู้ที่เมืองมณฑลจึงไม่ได้สร้างความเสียหายอะไรให้กับชาวเมืองมากนัก
ด้วยพลังวรยุทธสูงส่งของผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบมี มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่การต่อสู้จะสิ้นสุดอย่างรวดเร็ว ถ้าหากไม่มีเขตแดนพลัง ผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบสองคนคงจะต้องทําลายเมืองมณฑลจิงไปนานแล้ว นอกจากนี้ยังมีพลังของเขตแดน พลังเขตแดนของเมืองช่วยทําให้อาคารบ้านเรือนได้รับการปกป้องเป็นอย่างดี
ในขณะนี้สาวกของสํานักอเวจีอยู่ทั่วทุกแห่งหน จากกําแพงเมืองไปสู่ประตูเมือง ทั่วทุกที่ล้วนมีแต่แมลงวันที่กําลังบินพลุกพล่าน มันเป็นแมลงวันที่อยู่เหนือซากศพนั่นเอง
ในตอนนี้พื้นที่ที่มีเขตแดนพลังถูกชาวสํานักอเวจียึดครองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กลิ่นคาวเลือดได้ลอยไปตามท้องถนน มันได้ลอยไปจนถึงยอดกําแพงเมืองที่สูงชัน
ภายในคฤหาสน์แม่ทัพ
ยู่เฉิงไห่, สีวู่หยา และหวางชื่อเจียกําลังคุยกันถึงแผนการครั้งต่อไป
“ศิษย์น้องผู้หลักแหลม มณฑลเหลียง, มณฑลยี และมณฑลจึงบัดนี้ถูกสํานักอเวจีของพวกเรายึดครองแล้ว พวกเราควรจะมุ่งหน้าไปทางเหนือต่อสินะ?” ยู่เฉิงไห่ถามออกมา
สีวู่หยาที่กําลังจะตอบแต่ก็เพราะการมาถึงอย่างเร่งด่วนของฮั๊วจงหยางจึงทําให้ตัวเขายังไม่ตัดสินใจที่จะตอบ “ท่านเจ้าสํานัก พวกเราพบหัวของเหวินชูอยู่ที่ประตูเมืองทางตอนเหนือครับ!”
ยู่เฉิงไห่, สีวู่หยา และหวางชื่อเจียต่างก็ลุกขึ้นยืนเพราะความตกใจ
หวางชื่อเจียยอดฝีมือผู้มีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบได้ถามออกมา “เป็นฝีมือของใครกัน?”
ฮั๊วจงหยางส่ายหัวก่อนที่จะตอบออกมา “พวกเราไม่แน่ใจ”
ยู่เฉิงให้ได้พูดต่อ “แน่นอนว่านี่จะต้องเป็นฝีมือของยอดฝีมือ…แล้วมีเบาะแสอะไรบ้าง?”
“มีเพียงหัวของเหวินชูเท่านั้น…แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนหัวของเขาจะถูกตัดด้วยของมีคมอย่างดาบ” ฮั๊วจงหยางตอบ
“ยอดฝีมือผู้ใช้ดาบ?” รอยยิ้มผุดขึ้นบนหน้าของยู่เฉิงไห่ “อืม นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่พวกเรากําลังทําย่อมดึงดูดผู้คนที่เห็นด้วย ถ้าหากข้าได้พบกับยอดฝีมือท่านนั้น ข้าจะต้องขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัวแน่”
ในท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ยู่เฉิงไห่พูดออกมาได้แสดงให้เห็นถึงความเสียดาย ถ้าหากได้พบกับยอดฝีมือผู้ที่สังหารเหวินชูได้ ถ้าหากยอดฝีมือคนนั้นตัดสินใจช่วยเหลือสํานักอเวจี นั้นจะต้องเป็นประโยชน์ขึ้นมากแน่
หวางชื่อเจียคารวะก่อนจะพูดต่อ “การที่เจ้าสํานักยู่ได้รับการสนับสนุนจากผู้คนเช่นนี้ ในสักวันหนึ่งเจ้าและสํานักอเวจีจะต้องเป็นหนึ่งในโลกหล้าได้แน่”
ฮั๊วจงหยางกล่าวเสริม “ข้าได้ส่งคนไปทางตอนเหนือเพื่อตรวจสอบแล้ว ดูเหมือนว่าที่ไม่ไกลเมืองจะเกิดการต่อสู้ขึ้น ดูเหมือนว่าเหวินชูจะปลดปล่อยพลังออกมาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ถึงแบบนั้นพวกเราก็สังเกตเห็นทักษะดาบของคู่ต่อสู้ของเหวินชูได้ ทักษะดาบของเขายอดเยี่ยมมาก ไม่มีดาบพลังงานเล่มไหนถูกใช้อย่างสูญเปล่า การโจมตีด้วยดาบพลังงานของเขาไม่ได้ทิ้งร่องรอยการต่อสู้มากมายอะไรนัก”
สีวู่หยาที่ได้ฟังทุกอย่างพูดออกมาอย่างสับสน “นอกจากศิษย์พี่รองแล้ว ใครกันที่จะสามารถทําเช่นนั้นได้?”
ยู่เฉิงไห่ส่ายหัว “ศิษย์น้องผู้หลักแหลม เหวินชูได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับข้า ถ้าหากเป็นศิษย์น้องรอง เหวินชูคงไม่แม้แต่จะมีโอกาสได้ตอบโต้แน่ เพราะแบบนั้นคงไม่ใช่เขาแน่ นอกจากนี้ข้ายังรู้จักเขาดี ถ้าหากเป็นเจ้านั่นจริง เขาก็คงจะปล่อยให้เหวินชูรอดชีวิตไปแล้วล่ะ”
เมื่อทุกคนได้ยินแบบนั้นต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
สีวู่หยาสงสัยว่าตัวเขาควรจะพูดถึงเรื่องที่ยู่ฉางตงแยกดอกบัวทองคําของตัวเองดีไหม แต่ในที่สุดสีวู่หยาก็ไม่ได้พูดอะไร ในช่วงเวลาสําคัญแบบนี้ศิษย์พี่ใหญ่ของเขาที่กําลังคิดการใหญ่คงจะไม่ต้องการได้ยินเกี่ยวกับการแยกดอกบัวทองคําแน่ งานที่กําลังทําอยู่สําคัญกว่าการฝึกยุทธมาก ในตอนนี้ในใจของศิษย์พี่ใหญ่ของเขาไม่มีอะไรอยู่นอกซะจากการพิชิตโลกใบนี้
ในศาลาตะวันออกของศาลาปีศาจลอยฟ้า
หลังจากที่นั่งทําสมาธิเป็นเวลากว่าห้าวัน ลู่โจวก็รู้สึกพลังวิเศษของเขาเกือบที่จะเติมเต็มแล้ว อย่างไรก็ตามแค่การนั่งสมาธิอย่างเดียวมันยังไม่พอ
ในตอนนี้ม่านพลังทั้งหมดได้รับการฟื้นฟูแล้ว และโลกใบนี้ก็ยังถูกการปรากฏตัวของผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจากศาลาปีศาจลอยฟ้าคอยข่มขู่เอาไว้ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่ลู่โจวจะฝึกฝนตัวเอง เหลือแค่เพียงก้าวเดียวเท่านั้นจู่โจวก็จะเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวสองกลีบได้ และยังมีโอกาสสูงที่ลู่โจวจะข้ามไปอีกขั้น
ลู่โจวเปิดเมนูระบบดู
อายุขัย: 16,744 วัน
ในตอนนี้ลู่โจวมีการ์ดพลังชีวิตอีก 48 ใบ
ในตอนนี้ลู่โจวมีอายุขัยประมาณ 45 ปี แต่ถึงแบบนั้นร่างกายของลู่โจวก็ยังไม่สามารถทํางานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หลังจากคิดทบทวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ ลู่โจวก็ได้ใช้การ์ดพลังชีวิตอีก 10 ใบ อายุขัยของลู่โจวเพิ่มขึ้น 4,000 วัน
ลู่โจวไม่ได้ใช้การ์ดพลังชีวิตที่เหลืออยู่ทั้งหมด จากสัญชาตญาณที่ลู่โจวมี ตัวเขาคิดว่ามูลค่าของการ์ดพวกนี้ที่มีอาจจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปิดใช้งานเคล็ดวิชาเปิดโลกาได้
“ท่านอาจารย์” เสียงของหยวนเอ๋อได้ดังมาจากนอกห้อง
“เข้ามาสิ”
หยวนเอ๋อได้ผลักประตูเข้ามาก่อนที่จะพาธิดาหอยสังข์เข้ามาในห้อง
ธิดาหอยสังข์ดูเขินอายเล็กน้อย บางทีนางอาจจะยังตกใจเมื่อได้กินเม็ดยาแห่งการเบ่งบานไป
“เอามือเจ้ามาให้ข้าดูซะ” ลู่โจวพูดออกมา
“ค่ะ” ธิดาหอยสังข์ยื่นมือของนางให้กับลู่โจว
ลู่โจววางสองนิ้วลงบนข้อมือของธิดาหอยสังข์
“หืม?” ลู่โจวรู้สึกโล่งใจที่นอกเหนือจากจุดตันเถียนยังมีส่วนอื่นถูกเปิดใช้งานขึ้นมาได้ ตอนนี้พลังลมปราณสามารถไหลผ่านเส้นพลังลมปราณของสาวน้อยได้แล้ว แต่ดูเหมือนสิ่งต่างๆ จะดูแปลกไป ถ้าหากนางไม่เคยฝึกร่างกายมาก่อน แล้วนางจะกลายเป็นผู้มีพลังลมปราณได้อย่างไร? การที่จะโคจรพลังลมปราณได้ไม่ใช่เรื่องตลก ถ้าหากร่างกายไม่อาจทนทานพลังลมปราณได้ สาวน้อยคนนี้จะต้องเจ็บปวดอย่างแน่นอน
ลู่โจวยกนิ้วขึ้นมาก่อนที่จะจ้องมองไปที่ธิดาหอยสังข์ “หอยสังข์ ตอบข้าตามตรงซะ…เจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการฝึกยุทธเลยอย่างงั้นเหรอ?”
“การฝึกยุทธ?” สาวน้อยกะพริบตาดวงโต
ลู่โจวได้พลิกฝ่ามือของตน ในตอนนั้นเองพลังอวตารขนาดจิ๋วก็ปรากฏตัวขึ้น
กลีบดอกบัวสองกลีบได้หมุนรอบอยู่ที่ใต้อวตาร
หยวนเอ๋อไม่พบว่าเรื่องที่ได้เห็นเป็นเรื่องแปลก มันมีข่าวมาอย่างเนิ่นนานแล้วว่าผู้เป็นอาจารย์ของนางกําลังฝึกควบคุมพลังอวตารจากขั้นต่างๆ อยู่
“นี่” ลู่โจวพูดต่อ “นี่ก็คือความหมายของการฝึกยุทธ”
“ข้าเคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” ธิดาหอยสังข์พูดออกมาอย่างสงสัย
“แล้วมันเป็นยังไงล่ะ?”
“แปดกลีบ, เก้ากลีบ และสิบกลีบ…” ธิดาหอยสังข์ยื่นนิ้วมือออกมาก่อนที่จะนับกลีบดอกบัว สาวน้อยรู้สึกมีความสุขในขณะที่กําลังจ้องมองมายังร่างอวตาร
เมื่อได้ยินแบบนั้นลู่โจวก็ตกใจเล็กน้อย “เจ้าเห็นมันที่ไหน?”
ธิดาหอยสังข์ส่ายหัวก่อนจะพิมพ์ออกมา “ข้าจําไม่ได้…บางทีข้าอาจจะกําลังฝันอยู่ก็ได้”
“…”
ลู่โจวพูดไม่ออก นางกําลังจะบอกว่าเห็นทุกอย่างจากในความฝันอย่างงั้นเหรอ?
เมื่อเห็นธิดาหอยสังข์กลับมาเป็นปกติโดยที่ไม่ผิดแปลกอะไร มีเพียงปัญหาของเส้นพลังลมปราณทั้งแปดของนางที่ยังไม่ได้มีความทนทานเป็นพิเศษอะไร ในที่สุดจู่โจวก็พูดออกมาอีกครั้ง “หยวนเอ๋อ”
“ค่ะ ท่านอาจารย์
“บอกให้ทุกคนฝึกฝนตนให้ดี ในอีกหกเดือนข้างหน้าทุกคนจะมีอิสระในการเลือดตัดดอกบัวทองคํา ให้ทุกคนช่วยเหลือในการฝึกฝนซึ่งกันและกัน พวกเจ้าจะต้องฝึกฝนให้เร็วที่สุด และอย่าได้ให้ใครสอนการฝึกยุทธให้กับหอยสังข์”
หยวนเอ๋อเข้าใจในคําแนะนําส่วนแรกดี แต่คําแนะนําในส่วนที่สองทําให้นางสับสน
ในตอนที่หยวนเอ๋อกําลังจะอ้าปากถาม ในตอนนั้นเองลู่โจวก็พูดขึ้นมาก่อน “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เจ้าก็ไปได้แล้วล่ะ”
“ค่ะ ท่านอาจารย์” หยวนเอ๋อได้พาธิดาหอยสังข์ออกจากศาลาตะวันออกไป
ศาลาทางทิศตะวันออกเงียบงันอีกครั้ง
ลู่โจวในตอนนี้กําลังใช้ความคิดต่อ ถ้าหากมีผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบคนอื่นๆ อยู่ หรือแม้แต่มีผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวสิบกลีบก็ตาม ในโลกใบนี้พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหนได้?
พลังอวตารดอกบัวสิบกลีบไม่ได้มีอยู่ในตําราเท่านั้น มันยังมีพลังอวตารสหัสะภพอยู่ด้วย
ลู่โจวได้ตรวจสอบเมนูร้านค้าของระบบ ราคาของพลังอวตารทศภพจะต้องใช้แต้มบุญแลกถึง 500,000 แต้มบุญ