My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 503
ตอนที่ 503 ในเมื่อข้าอยากให้เจ้าตาย เจ้าก็ต้องตาย
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบทั้ง 100 คนที่บินผ่านมามีภารกิจที่จะต้องทํา เป็นเพราะเสียงร้องและขนาดตัวของเทียนกูวทําให้ทุกคนต่างก็หันมาสนใจ ในตอนนี้เหล่าผู้ฝึกยุทธที่ผ่านทางมาเดินทางมาพร้อมกับดาบในมือ
ผู้ฝึกยุทธทั้ง 100 คนมองเห็นปีกขนาดใหญ่ยักษ์คู่หนึ่งกําลังพุ่งตกมา ในตอนนั้นพวกเขาอยู่ห่างจากสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ไปหลายไมล์ เป็นเพราะมีผู้ฝึกยุทธทั้ง 2 ฝ่ายกําลังต่อสู้กัน ดังนั้นบุคคลที่สามอย่างจอมยุทธผู้ใช้ดาบทุกคนจึงหวังที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการต่อสู้ เป้าหมายของพวกเขามีเพียงอย่างเดียว ผู้ฝึกยุทธทุกคนล้วนต้องการจับเทียนกูวสัตว์ร้ายมาครอบครอง แต่เมื่อเข้าใกล้สนามการต่อสู้มากขึ้น ผู้ฝึกยุทธทุกคนก็มองเห็นเทียนกวถูกพลังฝ่ามือขนาดใหญ่ซัดเข้าใส่ ทุกคนต่างก็หยุดมองดูชายชราจากด้านหลังเทียนกูว
ผมของชายชราคนนั้นพลิ้วไหวไปกับสายลม ดวงตาของเขาเฉียบแหลม ชายคนนั้นสวมชุดคลุมของชาวเต๋า แค่ได้มองรัศมีของชายชราคนนี้เพียงอย่างเดียวมันก็เพียงพอแล้วที่ทุกคนจะเคารพในชายคนนี้
แม้ว่าจะเป็นชายชราแต่ก็ไม่อาจตัดสินใครจากรูปลักษณ์ภายนอกได้ ชายชราคนนี้ไม่ได้ดูอ่อนแอเลย
ในตอนที่ทุกคนตัดสินใจบินต่อไปใกล้ ในตอนนั้นเองพลังอวตารก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
มันเป็นพลังอวตารที่มีความสูงกว่า 150 ฟุตและมีความกว้างอีก 40 ฟุต อวตารที่ได้เห็นมีกลีบดอกบัวเก้ากลีบคอยล้อมรอบดอกบัวทองคําเอาไว้ ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบทั้ง 100 คนต่างก็ตกตะลึง ทุกคนตกใจเกินกว่าจะกล้าขยับไปไหน! ในเวลาเดียวกันทุกคนก็ได้ยินเสียงของชายชรา “กําจัดชนเผ่าอื่นซะ” เมื่อได้ยินดังนั้นทุกคนก็รู้ได้ทันทีว่าชายชราคนนี้กําลังข่มขู่ทุกคน ไม่ว่าชายชราคนนี้จะเป็นมิตรหรือศัตรู ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบทุกคนที่ได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างก็ล้มเลิกความคิดที่จะจับเทียนกูวไปในทันที
ทุกคนต่างก็เหลือบมองไปยังทิศทางที่ลู่โจวชี้ ทิศทางตรงนั้นมีผู้ฝึกยุทธหลายคนพยายามที่จะหนีออกจากพื้นที่ที่เทียนกวตกสู่พื้น
เวลาไม่เคยคอยใคร ผู้อาวุโสผู้นําของเหล่าผู้ใช้ดาบรีบสั่งการด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นในทันที “สังหารชนเผ่าอื่น!”
“สังหารชนเผ่าอื่น!”
ใครจะกล้าขัดคําสั่งของผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้?
ทุกคนได้เลิกใช้ความคิดวอกแวกไปในทันที
ผู้ฝึกยุทธทั้ง 100 คนรีบพุ่งไล่ล่าเป้าหมายด้วยดาบที่มี ทุกคนต่างก็ใช้ความเร็วสูงสุดในการไล่ตาม
เมื่อผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้ขอความช่วยเหลือ เป็นธรรมดาที่ทุกคนอยากจะทําให้ดีที่สุด ทุกคนไม่เคยรู้สึกเป็นเกียรติแบบนี้มาก่อน ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบยังคงไล่ตามชนเผ่าอื่นอย่างกระตือรือร้น ทุกคนต่างก็สร้างดาบพลังงานขึ้นมาก่อนที่จะปลดปล่อยพวกมันไปยังด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
ต้นไม้ข้างทางถูกดาบพลังงานทั้งหลายหักโค่น ดาบพลังงานที่เกิดจากผู้ฝึกยุทธนับร้อยได้เคลื่อนไหวราวกับฝูงปลาที่กําลังแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทร
ลานนี ชาวรั่วหลี่ได้เหลือบมองกลับมาในขณะที่โดนอุ้ม ฝูงชนที่กําลังไล่ตามพวกเขาได้ทําให้ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็น “หนีเร็วเข้า! เร็วกว่านี้!”
ปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าเป็นผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบของจริง มันไม่ใช่ข่าวลือแต่อย่างใด แล้วเพราะเหตุใดทําไมปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าถึงไม่โจมตีชนเผ่าอื่นกลับไปเอง? ในตอนนั้นเองทุกคนก็นึกไปถึงการละเล่นของแมวกับหนู แมวมักจะเล่นกับเหยื่ออย่างหนูก่อนที่จะฆ่าพวกมัน แม้ว่าหนูจะมีปีกงอกก็ตามแต่ถึงแบบนั้นพวกมันก็ไม่อาจหนีรอดจากแมวได้ ในตอนนั้นเองความสิ้นหวังก็เริ่มเพิ่มพูนขึ้นมา ลานนีที่คิดแบบนั้นเริ่มหายใจลําบาก ในเวลาแบบนั้นเองลูกน้องที่กําลังอุ้มลานนีอยู่ก็ได้หยุดวิ่ง
ลานนีที่เห็นแบบนั้นขมวดคิ้ว “หยุดทําไมกัน?”
“นี่มันบ้าอะไรกัน? นี่มันไม่ใช่ความผิดของพวกเราซะด้วยซ้ำ” ลูกน้องของลานี้ได้แต่สาปแช่งผู้เป็นเจ้านายอยู่ภายในใจ
ลูกน้องที่อุ้มลานี้อยู่ได้เกร็งแขนก่อนที่จะเหวี่ยงลานีออกจากตัว เมื่อสลัดลานีออกไปได้ชายคนนั้นได้ถูกดาบพลังงานปริศนาที่ลอยมาจากด้านหลังเสียบแทงจนล้มลงกับพื้น
เหล่าลูกน้องผู้โชคร้ายได้หันไปรอบตัว หลังจากนั้นพวกเขาก็เหลือบมองมาที่อวตารดอกบัวเก้ากลีบ เวลา 10 วินาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่พริบตาเดียวภาพอวตารที่เห็นก็เริ่มเลือนราง “เป็นเพราะเจ้าแท้ๆ ที่ลากพวกข้าเข้ามาเกี่ยวแบบนี้!”
ลานนีกําลังทุกข์ทรมานอย่างหนักจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับ ตัวเขาต้องบาดเจ็บเพราะพลังฝ่ามือสละปัญญาถึง 2 ครั้งด้วยกัน และการที่ลานนียังรอดมาได้ก็เพราะตัวเขามีเทียนกูว ด้วยพลังพันธะแห่งโชคชะตาทําให้ลานนีสามารถโยกย้ายความเสียหายส่วนใหญ่ไปให้กับเทียนกูวได้ แม้ว่าจะทําแบบนั้นแล้วแต่ตัวเขาก็ยังใกล้ตายอยู่ดี บาดแผลจากการโจมตีและบาดแผลจากการตกจากที่สูงได้ทําให้ลานนีหายใจรวยรินเต็มที่ “เจ้านี่เป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจริงๆ ด้วย!” โลงศพที่บรรพบุรุษทิ้งให้เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดี การที่ปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าไม่สามารถทําลายโลงศพได้ก็เท่ากับว่าเขาไม่ใช่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ แล้วเขาจะมีพลังแบบนั้นได้ยังไงกัน?
ในตอนนั้นเองผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบนับ 100 ก็ได้ค้นหาตัวลานนีด้วยดาบที่พวกเขามี
“ผู้อาวุโสทางนี้”
“ พบเป้าหมายแล้ว!”
“ถ้าเป็นไปได้ก็จับเป็นพวกมันซะ”
“ครับ!”
ลูกน้องของลานนีไม่ได้สนใจเรื่องอะไรอีกต่อไป พวกเขาทุกคนต่างกัดฟันก่อนที่จะชี้ไปทางลานนีที่กําลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น “ท่านหัวหน้าเป็นผู้รนหาเรื่องเอง เพราะแบบนั้นท่านก็ชดใช้สิ่งที่ทําซะเถอะ!” เหล่าลูกน้องทุกคนที่พูดเสร็จได้หันหลังหนีอย่างไม่คิดชีวิต
ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบหลายคนลอยมาตามเสียง พวกเขาได้แบกลานนีขึ้นมาก่อนที่จะพากลับไป
ในขณะที่ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบคนอื่นๆ ยังคงไล่ล่าพวกที่เหลือต่อ
การไล่ล่าครั้งนี้ทําให้ได้ยินเสียงคร่ำครวญเป็นระยะๆ
ลู่โจวเฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากบนอากาศ ตัวเขาได้เอามือลูบเคราข้างหนึ่งก่อนที่จะเอามืออีกข้างไขว้หลังเอาไว้ ดูเหมือนว่าการมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบจะทําให้เรื่องทุกอย่างง่ายขึ้นจริงๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกที่ถูกเวลาไปซะหมด ถ้าหากผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบทั้ง 100 คนไม่ได้ผ่านทางมาตอนนี้ ลู่โจวก็คงจะต้องใช้การ์ดการโจมตีของเพชฌฆาตจัดการกับชนเผ่าอื่น 6 ใบ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนจะไม่จําเป็นที่จะต้องทําแบบนั้นแล้ว
หลังจากที่ผ่านไปหลายชั่วโมง ผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ดาบทั้ง 100 คนก็ได้บินกลับมา พวกเขา 2 คนได้ แบกลานนีผู้มีสีหน้าเศร้าโศกและเซื่องซึมกลับมาด้วย ผู้ฝึกยุทธนอกเหนือจาก 2 คนนั้นได้ล้อมรอบลานนีเอาไว้อย่างใกล้ชิด
เมื่อผู้อาวุโสซึ่งเป็นผู้นําจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตัวเขาก็ได้คารวะให้กับลู่โจวบนอากาศ “ผู้อาวุโส..ข้าขอถามอะไรท่านจะได้ไหม? ท่านก็คือผู้อาวุโสจี ปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าสินะ?”
ลู่โจวเหลือบมองอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะถามกลับมา “เจ้ารู้จักข้าอย่างงั้นเหรอ?”
คําพูดของลู่โจวสั้นๆ เปรียบเสมือนการยืนยันตัวตน
ผู้อาวุโสได้คารวะจู่โจวก่อนที่จะพูดอีกครั้ง “ข้าคือหม่าชิงแห่งสํานักชิงหยุนขอคารวะผู้อาวุโส
ทุกๆ คนต่างก็โค้งคํานับจู่โจวอย่างพร้อมเพรียงกัน “ผู้อาวุโสจี”
“เจ้ามาที่นี่ทําไมกัน?”
“พวกเราได้รับเชิญจากสํานักเผิงไหลให้ไปร่วมงานเลี้ยงที่เกาะของพวกเขา” หม่าชิงได้ตอบกลับมาอย่างตรงไปตรงมา
–
“สํานักเพิ่งไหลอย่างงั้นเหรอ?” ลู่โจวได้ครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ตัวเขาได้พบกับหวางซื่อเจีย เจ้าเกาะเพิ่งไหลในตอนที่อยู่ในมณฑลจิงมาแล้ว เกาะเพิ่งไหลในตอนนี้กําลังเจออุปสรรคอย่างงั้นเหรอ?
หม่าชิงตอบกลับไป “เกาะเผิงไหลบัดนี้กําลังเผชิญหน้ากับปัญหาบางอย่างอยู่ เป็นเพราะสํานักชิงหยุนของพวกเรามีความสัมพันธ์อันดีกับเกาะเพิ่งไหลมาโดยตลอด เพราะแบบนั้นพวกเราจึงต้องให้ความช่วยเหลือชาวเกาะเพิ่งไหล”
เมื่อจู่โจวได้ยินเช่นนั้น ตัวเขาก็ไม่คิดที่จะถามอะไรต่อ ยังไงซะเรื่องต่อจากนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเขา
หม่าชิงได้เอามือชี้ไปยังลานนีที่ใกล้จะตายเต็มที่ก่อนจะพูดต่อ “ผู้อาวุโสจี ชนเผ่าอื่นถูกกําจัดไปหมดแล้ว ชายคนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่เหลือรอดอยู่ ดูเหมือนว่าชายคนนี้กําลังใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายอยู่”
“ดีมาก” ลู่โจวลูบเคราอย่างเยือกเย็น เป็นเพราะจู่โจวเป็นผู้อาวุโสกว่าและยังมีพลังที่เหนือชั้นกว่าพวกเขา เพราะแบบนั้นลู่โจวจึงไม่ต้องพูดขอบคุณอะไรให้มากความ
สาวกชาวชิงหยุนที่ได้ฟังแบบนั้นต่างก็รู้สึกยินดี
หม่าชิงได้ขยับนิ้วเล็กน้อย ในตอนนั้นเองดาบพลังงานเล่มหนึ่งก็ถูกสร้างขึ้น “ถึงแม้ว่าจะเป็นชนเผ่าอื่นแต่ยังไงซะเขาก็ยังมีหัวใจ ไม่จําเป็นที่จะต้องทรมานอีกต่อไป ผู้อาวุโสจีข้าจะปลดปล่อยชายคนนี้ให้พ้นจากความทุกข์ทรมานเอง” เมื่อพูดจบดาบพลังงานก็ได้แยกตัวออกเป็นห้าส่วน ดาบพลังงานทุกส่วนได้พุ่งเข้าหาลานนี
หม่าชิงที่กําลังจะสังหารลานนีได้ถูกจู่โจวห้ามเอาไว้ซะก่อน “หยุด”
“ผู้อาวุโส?” หม่าชิงได้เรียกดาบพลังงานกลับมาในทันที ในตอนนี้ตัวเขาไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวต่อ หม่าชิงโค้งคํานับให้ก่อนที่จะรอคําสั่ง
“ชาวรั่วหลี่ทั้งเจ้าเล่ห์และยังเจ้าแผนการข้าคงจะปล่อยให้เขาตายไปแบบง่ายๆ ไม่ได้หรอก”
“ท่านพูดถูกแล้ว ผู้อาวุโสข้าไม่ทันได้คิดให้ถี่ถ้วน ข้าจะใช้วิธีปลดปล่อยหยาบคายเช่นนี้ได้ยังไงกัน?” หม่าชิงหันกลับไป “ข้าจะประหารเขาให้สมศักดิ์ศรีด้วยเขตแดนแห่งดาบเอง”
ลู่โจวขมวดคิ้วเล็กน้อย “เจ้านี่มันฟังไม่รู้เรื่องรีไงกัน??
“พอได้แล้ว”
“หะ?”
ในตอนนั้นเองลู่โจวก็ได้ชูฝ่ามือขึ้น
เมื่อหม่าชิงเห็นดังนั้นตัวเขาก็ได้ส่งสัญญาณให้กับทุกคน “ข้าเข้าใจแล้ว! ถอยก่อนทุกคน!”
“ครับ!” สาวกสํานักชิงหยุนได้บินถอยกลับไปด้วยท่าทีที่งุนงง
ลู่โจวได้ใช้พลังวิเศษอีกครั้ง ในตอนนั้นเองที่ระหว่างนิ้วมือก็ได้มีแสงสีฟ้าจางๆ ส่องสว่างออกมา พลังฝ่ามือได้ปรากฏขึ้นพร้อมกับอักษรสละปัญญา
หม่าชิงที่เห็นแบบนั้นอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงอันแหบห้าว “นี่มันฝ่ามือสละปัญญา?”
ในขณะนั้นเองดวงตาของลานนีก็เบิกกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ลานนีจําพลังฝ่ามือที่เห็นได้ดี ลานนีที่เห็นแบบนั้นรีบกางแขนออกมา
สาวกสองคนที่คอยจับลานนีเอาไว้กระเด็นเพราะลานนี!
ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นได้ใช้พลังฝ่ามือจู่โจมลานนี
หม่าชิงขมวดคิ้ว “ชาวรั่วหลี่เป็นคนพวกเจ้าเล่ห์ซะจริง!”
ในตอนแรกลู่โจวตั้งใจที่จะใช้พลังวิเศษ 1 ใน 3 ที่ตัวเขามี แต่เมื่อเห็นลานนีสามารถรอดมาถึงตอนนี้ได้ ความโกรธที่ลู่โจวมีก็ปะทุขึ้นมา ตัวเขาได้พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ในเมื่อข้าอยากให้เจ้าตาย เจ้าก็ต้องตาย”
พลังฝามือสละปัญญาได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นสองเท่า! นอกจากพลังทําลายล้างแล้วความเร็วเองก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ลานนีที่รวบรวมแรงทั้งหมดวิ่งหนีสั่นทั้งตัวเพราะความกลัว “นี่มัน…พลังของอวตารดอกบัวเก้ากลีบอย่างงั้นสินะ?” ลานนีในตอนนี้ถูกความสิ้นหวังครอบน้ำ
ตู๊ม!
พลังฝ่ามือได้ซัดเข้าใส่ร่างของลานนีไปเต็มๆ ทั้งใบหน้า หน้าอก แขนและขาของเขาต่างก็ได้ความรู้สึก ลานนีในตอนนี้ไม่สามารถรับรู้ถึงอะไรได้อีก