My Disciples Are All Villains - ตอนที่ 301
ใบมีดพลังงานที่มีรูปร่างอันแปลกประหลาดได้พุ่งเข้าหาลู่โจว
ลู่โจวได้เอามือทุบลงบนโต๊ะที่อยู่ด้านหน้า
ตู๊ม!
มือของลู่โจวที่ทุบลงไปเต็มไปด้วยพลังลมปราณ พลังลมปราณนั้นได้กระเพื่อมไปรอบๆ โต๊ะ ใบมีดพลังงานได้เปลี่ยนกลับกลายเป็นเหล้าก่อนที่จะหกลงบนพื้นร
และด้วยพลังป้องกันที่ลู่โจวได้ใช้ทำให้ตัวเขาไม่ต้องเปื้อนเหล้าที่หกลงบนพื้น
ใบมีพลังงานที่ถูกเปลี่ยนกลับให้กลายเป็นเหล้าได้ตกลงสู่พื้นราวกับฝนตกปรอยๆ
แม้ว่าจะโจมตีเป็นครั้งที่สองแต่ถึงแบบนั้นผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
เปลือกตาของหยวนดู่กระตุก สิ่งที่ตัวเขาได้ศึกษาและฝึกฝนตัวเองมาโดยตลอดกว่าหลายปีเป็นเส้นทางแห่งดาบที่ได้ฝึกฝนอยู่ในสุสานแห่งดาบ ตัวเขาฝึกฝนตัวเองชนสามารถเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างให้กลายเป็นดาบได้อย่างเชี่ยวชาญ ตัวเขาไม่คาดคิดเลยว่าวิชานี้จะถูกลู่โจวป้องกันได้อย่างง่ายดาย
ทุกๆ คนที่เฝ้ามองดูการต่อสู้ต่างก็ไม่สามารถคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้อีกต่อไป อย่างมากที่สุดทุกคนก็สามารถเปลี่ยนพลังลมปราณให้กลายเป็นดาบพลังงานก่อนที่จะโจมตีศัตรูได้ เป็นไปได้ยัไงงกันที่จะเปลี่ยนของเหลวอย่างเหล้าให้กลายเป็นอาวุธแบบนั้น?
เล้งลั่วได้พูดออกมา “พลังลมปราณได้ก่อตัวเป็นสุญญากาศก่อนที่จะล้อมรอบเหล้าเอาไว้ การที่ใครสักคนจะทำแบบนี้ได้คนคนนั้นจะต้องฝึกฝนการเปลี่ยนรูปพลังลมปราณให้เชี่ยวชาญมากพอ”
“อย่างงี้นี้เอง” ฮั๊ววู่เด๋าเริ่มเข้าใจแล้ว
การที่ผู้ฝึกยุทธจะโจมตีศัตรูด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ ถ้าหากพวกเขาสามารถใช้พลังลมปราณของตัวเองห่อหุ้มไปที่อาวุธที่ใช้ได้แล้ว พลังการโจมตีของอาวุธก็จะเพิ่มพูนขึ้นมา แต่ไม่ว่ายังไงน้ำก็ยังเป็นของเหลวที่ยังไม่แข็งตัวมากพอ การที่จะใช้มันโจมตีได้คงจะสร้างความเสียหายอะไรไม่ได้มาก นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ฝึกยุทธส่วนใหญ่ไม่ได้เสียเวลาไปกับการเปลี่ยนของเหลวให้กลายเป็นอาวุธเช่นนี้
ทุกๆ คนไม่คาดคิดเลยว่าหยวนดู่จะสามารถเปลี่ยนเหล้าให้กลายเป็นอาวุธได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนแปลกใจมากกว่านั่นคือการที่ลู่โจวสามารถรับมือกับการโจมตีได้อย่างง่ายดาย!
“ต่อไป…” คราวนี้หยวนดู่ได้ถอยกลับไปหลายก้าวก่อนที่จะกางแขนออก ในตอนนั้นเองใบมีดพลังลมปราณก็ได้ปรากฏขึ้นข้างกายของเขา
เมื่อเห็นแบบนั้นสีหน้าของหยวนเอ๋อก็ได้เปลี่ยนไป “ไหนบอกเอาไว้ว่าผู้ฝึกยุทธขั้นสังหรณ์หยั่งรู้จะสามารถใช้ดาบพลังงานได้เพียงแค่ 2 เล่มแค่นั้นไง? นี่มันโกงกันชัดๆ! “
หยวนดู่ไม่แม้แต่จะหันไปมองหยวนเอ๋อ ตัวเขาเพียงพูดออกมาลอยๆ เพียงเท่านั้น “สาวน้อย แล้วใครบอกเจ้ากันว่านี่ไม่ใช้ดาบพลังงานเพียงแค่สองเล่มน่ะ? “
“หะ? “
ใบมีดพลังงานยังคงหมุนรอบตัวของหยวนดู่
เมื่อทุกคนพยายามเฝ้ามองอย่างรอบคอบทุกคนก็พบว่าดาบพลังงานทั้งหลายมันเรียวบางพอๆ กับนิ้วมือเพียงแค่นิ้วเดียวเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นมันเริ่มมีขนาดเล็กลง และเล็กลงไปอีก มันได้แยกตัวเองจากหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่…ขนาดที่หดลงจะทำให้จำนวนของมันเพิ่มมากขึ้น
เล้งลั่วส่ายหัว “ยังไงซะข้าก็ยังคิดว่าคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ แม้ว่าจะมีจำนวนมากมายอะไรแต่ถ้าหากมันไร้ซึ่งคุณภาพ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากของไร้ค่า”
หยวนดู่ไม่ได้เห็นด้วยกับเล้งลั่ว “จำนวนที่มากน่ะสามารถก่อตัวเป็นรูปแบบของพลังได้”
ใบมีดพลังงานนับไม่ถ้วนในตอนนี้เรียวบางราวกับเข็ม มันได้ก่อตัวขึ้นจนกลายเป็นพลังดาบ
“มีใครทำแบบนั้นได้ไหม? ” คนอื่นๆ ต่างก็พูดไม่ออก สิ่งที่ทุกคนได้เห็นมันอยู่เหนือความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ฝึกยุทธขั้นสังหรณ์หยั่งรู้ของพวกเขาไปแล้ว ในทางเทคนิค การที่ผู้ฝึกยุทธขั้นสังหรณ์หยั่งรู้จะปลดปล่อยวิชานี้ได้เป็นไปไม่ได้เลย ท้ายที่สุดแล้วด้วยความรู้, ประสบการณ์ รวมไปถึงการควบคุมที่ใกล้เคียงกับความสมบูรณ์แบบทำให้หยวนดู่สามารถใช้เทคนิคนี้ออกมาได้ “การก่อตัวแห่งดาบนี้ข้าได้รับแรงบันดาลใจมาจากม่านพลังแห่งดาบทั้งเจ็ดที่มีอยู่ภายในสุสานแห่งดาบ ข้าน่ะได้ศึกษามันมากว่าหลายปีแล้ว”
หยวนดู่ได้พูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ “ข้าน่ะสงสัยจริงๆ ว่าท่านจะทำลายพลังของข้าได้ยังไงพี่จี? “
‘ม่านพลังแห่งดาบทั้งเจ็ด? ‘ คนอื่นๆ ที่ได้ยินแบบนั้นต่างก็พูดไม่ออกถึงความไร้ยางอายที่หยวนดู่มี หยวนดู่ได้ใช้เวลาอันยาวนานในการเก็บตัวอยู่ในสุสานแห่งดาบเพื่อฝึกฝนและคิดค้นวิชานี้ขึ้น แต่ถึงแบบนั้นตัวเขากลับบอกให้ลู่โจวทำลายพลังที่เขาได้คิดค้นมาในระยะเวลาสั้นๆ แบบนี้…นี่เป็นวิธีการประลองอย่างงั้นหรอ? มันไม่ควรจะยุติธรรมมากกว่านี้หรอกหรอ?
ฮั๊ววู่เด๋าเองรู้สึกละอายเช่นกัน ตัวเขาเห็นตัวเองอยู่ในตัวของหยวนดู่ ในอดีตตัวเขาได้ศึกษาพลังป้องกันขั้นสุดยอดมาโดยใช้เวลามากกว่า 20 ปีเพื่อมาท้าให้ปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าทำลายมันในเวลาสั้นๆ เมื่อมองย้อนกลับไปฮั๊ววู่เด๋าก็พบว่าสิ่งที่ตัวเองทำมันโง่เง่าและไร้ยางอายแค่ไหน ตัวเขาได้แต่ส่ายหัว แม้ว่าอัจฉริยะผู้ใช้ดาบจากเมืองหลวงทางตอนเหนือเองก็ยังทำผิดพลาดเช่นเดียวกับตัวเขา
ใบมีดพลังงานได้เสียบแทงไปบนพื้นเพื่อแทนตัวเองให้เป็นดาบทั้งเจ็ด จุดที่มันเสียบแทงไปได้ส่องแสงสว่างสีทองจางๆ ออกมา
ถ้าหากวิชานี้จะต้องเผชิญหน้ากับผู้มีพลังระดับมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ การที่จะทำลายมันได้เพียงแค่การกระทืบเท้าเพียงครั้งเดียวก็คงจะจัดการได้แล้ว แต่การที่ผู้ฝึกยุทธขั้นสังหรณ์หยั่งรู้จะจัดการมันได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย
เล้งลั่วได้แต่ส่ายหัวเมื่อได้เห็นแบบนี้
ฝานลี่เทียนพูดขึ้น “จริงอยู่ว่าคุณภาพเองก็สำคัญ แต่ถึงแบบนั้นเมื่อมีทั้งคุณภาพและจำนวนอยู่ในมือด้วยแล้ว…ถ้าเป็นแบบนั้นจริงมันคงจะน่ากลัวมาก เจ้าคิดว่ายังไงกันเล้งลั่ว? “
เล้งลั่วที่ได้ฟังแบบนั้นถึงกับผงะ ‘ตาแก่นี่…เจ้าใช้เวลาเพียงแค่วันเดียวก็อ่านขาดได้ถึงเพียงนี้…’
ในตอนนั้นเองลู่โจวยังคงไม่ได้เคลื่อนไหว ตัวเขาจิบเหล้าที่อยู่ในมืออย่างช้าๆ ลู่โจวได้ผลักมือซ้ายไปที่ด้านหน้าเบาๆ มือของลู่โจวได้สัมผัสกับโต๊ะก่อนที่จะผลักตัวเองให้ถอยหลังไปได้ครึ่งเมตร หลังจากที่ประเมินพลังที่อยู่ตรงหน้าลู่โจวก็ได้พูดออกมา “ช่างเป็นพลังอะไรที่อ่อนแอเช่นนี้”
“หืม? “
“ข้าไม่จำเป็นจะต้องรวบรวมพลังแบบเจ้า แต่ข้าน่ะสามารถโจมตีเจ้าได้ทุกเมื่อ” ลู่โจวได้ยกมือฝ่ามือขึ้นมา ในตอนนั้นเองดาบพลังงานที่ตัวเขามีก็ได้ปรากฏขึ้นบนอากาศ มันเป็นดาบที่มีอยู่ทั้งหมดสองเล่ม ดาบพลังงานของตัวเขามันดูเบาบางยิ่งกว่าดาบเล่มไหนๆ แต่ถึงแบบนั้นมันก็ยังดูสะดุดตามาก
“…” หยวนดู่เดินโซเซไปด้านหลัง ตัวเขารู้สึกเหมือนอยากจะอาเจียนออกมา คำพูดที่ลู่โจวได้ใช้ได้จี้แทงใจดำของหยวนดู่ไปเต็มๆ ตัวเขาได้ศึกษาพลังวิชาแห่งดาบวิชานี้มาอย่างเนิ่นนาน ความคิด, ทฤษฎี หรือแม้แต่ความซับซ้อนเองต่างก็ถูกคิดค้นจนสมบูรณ์แบบ หยวนดู่ได้ศึกษามันจนเชี่ยวชาญที่จะใช้ได้ แต่ถึงแบบนั้นเขากลับมองข้ามจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดไป เป็นเพราะเวลาในการเตรียมตัวหยวนดู่ไม่มีทางเลยที่จะบังคับให้ศัตรูของเขาอยู่ในระยะของมันตลอดไปได้ ไม่ว่าพลังจะสุดยอดเพียงใด แต่ถ้าหากมันไม่สามารถโจมตีคู่ต่อสู้โดนได้มันก็ไม่ต่างอะไรกับวิชาไร้ประโยชน์
เมื่อเห็นท่าทีของหยวนดู่ คนอื่นๆ ก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนที่จะส่ายหัว ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นอัจฉริยะมากแค่ไหน ทุ่มเทเวลาในการฝึกฝนตัวเองอย่างหนักมากแค่ไหน เรื่องทั้งหมดก็คงจะไร้ประโยชน์ไปถ้าหากไม่คิดถึงสถานการณ์ความเป็นจริง หยวนดู่ในตอนนี้ได้เอื้อมมือขวาออกมา
พรึ๊บ!
เกิดลมกระโชกแรงในพลังแห่งดาบของหยวนดู่เอง ใบมีดขนาดเล็กทั้งหลายได้ถูกสายลมพัดพาจนหายไป หยวนดู่ได้แต่หลับตาลง ตัวเขานิ่งเงียบไปไม่ได้พูดอะไรออกมา
คนอื่นๆ ที่เห็นแบบนั้นต่างก็คิดว่าแปลก พวกเขาสงสัยว่าหยวนดู่จะทำอะไรต่อไปกันแน่…
ลู่โจววางถ้วยเหล้าลงบนโต๊ะก่อนที่จะค่อยๆ ลุกขึ้นมา “ปล่อยวางความหลงใหลของเจ้าไปซะ ขีดจำกัดของเจ้าเองก็ยังขึ้นอยู่กับเวลา…แม้ว่าข้าจะอายุมากกว่าแต่ข้าก็ไม่ได้กลัวเรื่องเวลาที่เหลือเลย ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง”
“โอกาสอย่างงั้นหรอ? ” หยวนดู่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือด
ลู่โจวได้พูดออกมาอย่างเยือกเย็น “ข้ารับรองได้ว่าเจ้าจะต้องอยู่รอดไปได้อีก 10 ปีแน่…” เป็นธรรมชาติที่จะไม่มีใครมั่นใจว่าจะเอาชนะขีดจำกัดอายุขัยที่มีไปได้ โดยปกติแล้วไม่มีใครในโลกแห่งนี้สามารถรู้อายุขัยล่วงหน้าได้
ในระหว่างที่ลู่โจวเก็บตัวฝึกฝนตัวเองอยู่ มีปัญหามากมายหลายอย่างปรากฏขึ้นมาในจิตใจของเขา ปัญหาเหล่านั้นจำเป็นจะต้องจัดการอย่างเร่งด่วน หนึ่งในปัญหาที่ว่าก็คือขีดจำกัดที่มีนั่นเอง
“ไม่จำเป็นจะต้องทำแบบนั้น” คำตอบของหยวนดู่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ ในตอนนั้นเองพลังลมปราณภายในร่างกายของเขาก็พุ่งสูงขึ้น มันไม่ใช่พลังที่อยู่ในขั้นสังหรณ์หยั่งรู้อีกต่อไป พลังมันยังคงเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์!
“การโจมตีครั้งสุดท้าย…” หยวนดู่จ้องมองไปที่ลู่โจว “กรุณาชี้แนะข้าด้วย” ท่าทีของเขาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่านี้เป็นกระบวนท่าการโจมตีครั้งสุดท้าย ตัวเขาไม่คิดที่จะออมพลังอีกต่อไป หยวนดู่ตั้งใจที่จะใช้พลังทั้งหมดที่มี มันเป็นการเดิมพันชีวิตเอาไว้กับการโจมตีนั่นเอง
พรึ๊บ!
พลังอวตารที่สูงตระหง่านจนมองไม่เห็นด้านบนได้ปรากฏออกมา ใบมีดพลังงานนับไม่ถ้วนบินไปรอบๆ อวตารของตัวเขา ดูเหมือนว่าศาลาปปีศาจลอยฟ้าจะเต็มไปด้วยใบมีดพลังงานไปซะแล้ว…
เล้งลั่วและฝานลี่เทียนเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่พวกเขาจะส่ายหัว ฮั๊ววู่เด๋าเองก็ใช้พลังผนึกตราประทับทั้งหกเพื่อปกป้องทุกๆ คน
ลู่โจวเป็นคนเดียวที่อยู่นอกพลังของฮั๊ววู่เด๋า ตัวเขายังคงเอามือไขว้หลังอย่างไม่รู้ร้อน
หยวนดู่ในตอนนั้นได้กระทืบพื้นอย่างรุนแรง! ตัวเขาได้ลอยขึ้นไปบนส่วนหัวของพลังอวตารก่อนที่จะเริ่มรวบรวมพลัง! ในเวลาเดียวกันหยวนดู่ก็ได้กางฝ่ามือทั้งสองข้างไปที่ด้านหน้า
พรึ๊บ! พรึ๊บ! พรึ๊บ!
ใบมีดพลังงานได้มารวมตัวกันที่ด้านหน้าหยวนดู่ ได้เวลาแล้วที่หยวนดู่จะเปิดเผยไพ่ตายที่เก็บซ่อนมา ใบมีดพลังงานของเขายังดูผิดรูปผิดร่างเช่นเคย ใบมีดพลังงานอันมหาศาลได้มารวมตัวกัน ดูเหมือนว่าหยวนดู่จะรวบรวมพลังทั้งหมดที่ตัวเขามีไปกับการโจมตีนี้
ไม่มีใครคาดคิดว่าหยวนดู่จะโจมตีด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี
‘เขาตั้งใจที่จะฆ่าอีกฝ่ายให้ได้สินะ? ‘
สุดท้ายแล้วก็เป็นเหมือนกับที่ต้วนมู่เฉิงได้พูดเอาไว้ก่อนหน้านี้ ไม่มีการต่อสู้ไหนเป็นไปอย่างยุติธรรม ใบมีดพลังงานนับพันกำลังอยู่ภายใต้การควบคุมของพลังอวตารหยวนดู่เป็นที่เรียบร้อย
ราวกับว่าพลังลมปราณทั้งหมดบนภูเขาทองถูกพลังอวตารอันใหญ่ยักษ์รวบรวมเอาไว้ทั้งหมด
นกหรือแม้แต่สัตว์ร้ายทั้งหลายต่างก็บินอพยพออกจากภูเขาทองไปไกล
ทันทีที่รวบรวมใบมีดพลังงานได้มากพอพวกมันทั้งหมดก็ได้พุ่งไปหาลู่โจว
“ท่านอาจารย์! “
“ท่านปรมาจารย์! “
เมื่อใบมีดพลังงานกำลังจะจู่โจมเข้าไปที่หน้าผากของลู่โจว ในตอนนั้นตัวเขาก็ได้พูดออกมา “น่ารำคาญซะจริง”