MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม - ตอนที่ 636-640
ตอนที่636
ทัดธนเอ่ย “ผมจะบอกเมื่อมีรายละเอียด แต่ว่าใกล้แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้น…..ว่าที่ภรรยาของคุณเป็นคนอย่างไร?”ได้ยินว่าเขากำลังจะแต่งงาน นี่ถือเป็นข่าวที่น่าตื่นเต้นที่สุด
ทัดธนนิ่งคิดและเอ่ย “เป็นรักแรกของผม เป็นผู้หญิงที่ผมชอบมานานแสนนาน”
ปาณีไม่คาดคิดว่าเขาจะลงมือเร็วขนาดนี้ เขาถึงกับตัดสินใจจะแต่งงานแล้ว?
นี่มันออกจะสุดขีดเกินไปแล้วหน่า?
ธามนิธิกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ปาณีก็เปิดประตูเดินเข้ามาและมองดูเขาผ่านแสงไฟในห้องอันอบอุ่น “แนเพิ่งดูทีวีกับคุณแม่ ทัดธนกำลังจะแต่งงานแล้วนะคะ”
ธามนิธิจ้องมองหนังสือ ได้ยินน้ำเสียงของเธอฟังดูตื่นเต้นอยู่บ้าง จึงอดมองเธอขึ้นมาไม่ได้ “จริงหรือ?”
“อื้ม”ปาณีสะบัดรองเท้าทิ้ง ก่อนจะปีนขึ้นไปบนเตียงและหยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุม “ดูเหมือนว่าเขาจะแต่งงานกับพลอย ลงมือเร็วชะมัด!”
เวลานั้นที่ปาณีบอกเขาเรื่องสถานการณ์ของพลอย เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะตัดสินใจแบบี้
ธามนิธิเอ่ย “คนอย่างเขาอะไรก็กล้าทำทั้งนั้น ยิ่งไปหว่านั้น ถ้าหากเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว ก็จะไม่เปลี่ยนแปลงโดยง่าย”
สำหรับนิสัยของทัดธนนั้นธามนิธิชื่นชมเป็นอย่างมาก ถึงกับอยากคว้าตัวทัดธนมาอยู่กับตนที่นี่
แน่นอนว่า ต่อให้เขาไม่มา ในฐานะคู่แข่งธามนิธิก็ยังคงชื่นชมเขาอยู่ดี
ปาณีจ้องมองธามนิธิที่กำลังเยินยอทัดธน “ดูเหมือนคุณอาจะชื่นชอบเขามาก”
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน ธามนิธิคงยอมรับ
แต่นิสัยพื้นเพของปาณีนั้นเป็นผู้หญิงแสนกล ธามนิธินั้นเจ้าใจเป็นอย่างดี
ถ้าหากเขาบอกว่าชื่นชอบ ไม่รู้ว่าเธอนั้นจะคิดไปถึงไหนต่อไหน
เขามองดูเธอ ก่อนจะกอดเธอให้นอนลงไปด้วยกัน “ฉันไม่ได้ชอบเขา แค่คิดว่าเขาเป็นคนไม่เลวก็แค่นั้น”
“แล้วมันไม่ใช่ชื่นชอบหรอกหรือคะ?”
“นอนไหม?”ธามนิธิมองเธอ “ถ้าขืนยังพูดอีกฉันจะปิดปากเธอ”
“แต่ฉันอยากคุยกับคุณนี่!”มีที่ไหนกันขนาดคนจะพูดยังไม่ให้พูด?
ปาณีเพิ่งจะเอ่ยประโยคนี้ขึ้นมา ธามนิธิก็เงยหน้าขึ้นมาจูบเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอได้มีโอกาสพูดขึ้นอีก
ตั้งแต่ครั้งที่แล้ว หลังจากที่รู้ว่าเธอกินยา ยามนอนของธามนิธิก็คือนอนเท่านั้น ไม่ได้แตะต้องเธอแต่อย่างใด
ปาณีรู้ว่าในใจของเขายังคงถือสาเรื่องนี้อยู่
เธอแปลกใจไม่น้อยกับปฏิกิริยาของเขาในวันนี้
มือของเธอวางลงบนรอบคอของเขาอย่างไม่รู้สึกตัวและโอบกอดเขาเอาไว้
ธามนิธิเงยหน้าขึ้น จ้องดูปาณีที่กอดเขาขึ้นมาก่อน พวกเขาสนิทแนบแน่นเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเวลาที่อยู่ด้วยกัน ก็ดูจะอดไม่ได้ที่จะหลอมรวมอีกฝ่ายเข้าไปในกระดูกของตน
ธามนิธิจ้องดุใบหน้าที่แดงระเรื่อของยังตัวเล็ก ร่างกายมีปฏิกิริยาขึ้นมาตั้งแต่ตอนที่กำลังจูบกับเธอ
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เขาคงต้องการเธอไปแล้ว
แต่ว่าในตอนนี้ เขายับยั้งตัวเองเอาไว้ “นอนเถอะ”
เพราะที่นี่คือบ้านวิสิทธิ์เวช คนในครอบครัวต่างก็คาดหวังให้ปาณีตั้งครรภ์กันทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็กลับมาน้อยมาก ดังนั้นที่นี่จึงไม่มีใครเตรียมเครื่องป้องกันเอาไว้
เธอไม่อยากตั้งครรภ์ เขาก็ไม่อยากเอาเปรียบเธอในเวลาแบบนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เธอต้องแอบไปทานยาทีหลัง
ปาณีดูคล้ายกับลูกแมวตัวน้อย เธอเกาฝ่ามือของเขา “เรื่องกินยา คุณอย่าโกรธเลยนะคะ”
“ไม่โกรธ”ไม่กี่วันมานี้เขาไม่ก็โกรธแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเอ่ยคำพูดเหล่านี้กับปาณีออกไปแล้ว เขาก็ยิ่งไม่รู้สึกโกรธอะไรอีกต่อไป
ปาณีเอ่ย “คุณอยากมีลูก รอให้ฉันการงานมั่นคง ฉันจะลองคิดถึงมันนะคะ”
เธอไม่อยากให้เรื่องลูกมาทำให้พวกเขาห่างกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเขาไปด้วยกันได้ดีอย่างยิ่ง ทำไมจะต้องเพิ่มเจ้าตัวยุ่งขึ้นมาให้มันวุ่นวายด้วย?
ธามนิธิจ้องมองปาณี เขาก้มหน้าลงและจูบเธออีกครั้งหนึ่ง “สามีรู้แล้วครับ ไม่ได้โกรธคุณ ที่วันนี้ไม่แตะต้องเธอไม่ใช่เพราะว่าโกรธ”
ตอนที่637
เขารู้ว่าเธอต้องคิดมากเกินไปแน่
หลังจากอธิบายกับเธอถึงเหตุผลเขาก็กอดเธอนอนหลับ ก่อนจะกัดลงไปที่ใบหูของเธออย่างหมั่นเขี้ยว “รอให้ฉันกลับไปแล้วจะเก็บกวาดเธอให้เรียบอีกรอบ”
“……”
ตอนเช้า ปาณีลงมาจากชั้นบนและมองเห็นเณศรากำลังนั่งอยู่ในห้องรับแขก ฐิติพรกับผาณิดาแม่ของเณศรานั้นกำลังรดน้ำดอกไม้อยู่ในสวน ผู้สูงวัยทั้งสองกำลังพูดคุยกันอยู่
เณศรามองเห็นปาณีจึงเอ่ยขึ้นอย่างมีจุดประสงค์ “นี่ไม่ใช่พี่สะใภ้ของฉันหรอกหรือ? มองดูเธอแล้ว เห็นทีเมื่อคืนคงจะนอนค้างที่นี่?”
“ทำไมหรือ?”ปาณีเอ่ยถาม
ทำไมเธอถึงไม่สามารถอยู่ค้างคืนที่นี่ได้?
เณศรายิ้มมุมปากขึ้น “ไม่มีอะไร ฉันก็แค่สงสัย เธอหย่ากับพี่ชายฉันไปแล้วเรียบร้อย แต่กลับยังวิ่งมาที่บ้านวิสิทธิ์เวช ไม่รู้สึกกระดากใจบ้างหรือไง? ในเมื่อหย่ากันแล้วก็เป็นคนละครอบครัวแล้ว เธอไม่ควรคิดที่จะใช้วิธีนี้กลับมาอยู่ข้างกายธามนิธิอีก! แต่ยังไงซะสารรูปเธอแบบนี้ ต่อให้ทุ่มเทความคิดไปมากกว่านี้ เขาก็ไม่มองเธอหรอก!”
นลินนั้นยังคงอยู่ที่ปักกิ่งและไม่ได้กลับมา เธอถูกธามนิธิกระตุ้นเตือนไปไม่เบา แต่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเณศราแต่อย่างใด
ดังนั้น ตอนนี้เณศราจึงไม่รู้ว่าปาณีกับธามนิธินั้นอยู่ด้วยกัน และยิ่งไม่รู้ว่า ธามนิธิพาปาณีไปปักกิ่งและพบกับจอมพลนรเทพเรียบร้อยแล้ว
ทันทีที่เณศราพูดจาไร้สาระจบ ธามนิธิก็ลงมาจากชั้นบนพอดี
เธอเพิ่งจะพูดจบก็เห็นธามนิธิเดินลงมาจากชั้นบน ธามนิธิกวาดตาดูเณศราด้วยสายตาที่แฝงความหมาย สายตานั้นมองดูจนเณศรารู้สึกวิตกกังวลขึ้นมา
“พี่ธามนิธิ”
เณศราเอ่ยทักทายอย่างมีมารยาท
ธามนิธิตอบรับ “อืม”
เห็นเขาดูนิ่งเงียบแบบนี้ คล้ายว่าเขาคงจะไม่ได้ยินคำพูดที่ตนเองเอ่ยกับปาณีเหล่านี้
แบบนี้ก็ดี!
ขอแค่ธามนิธิไม่ได้ยิน เณศราก็รู้สึกวางใจขึ้นมา
ถ้าหากปาณีกล้าไปฟ้อง เธอก็จะยืนกรานว่าปาณีใส่ร้ายเธอแค่นี้ก็ได้แล้ว
หึ ยังไงซะตอนนี้ธามนิธิก็ไม่ได้ชื่นชอบปาณี ไม่ว่าตนเองพูดอะไร เขาก็ไม่สงสัยแน่
ตอนที่เณศรากำลังคิดไปไกล ธามนิธิก็มองดูปาณีและเอ่ย “ไปทานข้าวเถอะ”
ปาณีพยักหน้าและเดินไปยังห้องอาหาร
สำหรับคำพูดเหล่านั้นของเณศรา เธอชินชาเสียแล้ว
เมื่อก่อนเธอเคยคิด ถ้าหากตนเองหย่ากับธามนิธิ ไม่แน่ว่าอาจจะหยุดพวกคำพูดนินทาเหล่านั้นลงได้ แต่ตอนนี้ถึงได้ค้นพบว่า ที่แท้ตนเองนั้นช่างเด็กเกินไป
บนโลกใบนี้มีเรื่องซุบซิบนินทาตั้งมากมาย ไม่ว่าคุณจะดีหรือเลวก็มักจะต้องมีคนที่ทำร้ายคุณลับหลังเข้าสักคน
เหมือนกับว่าถ้าไม่หาเรื่องคุณสักสองสามประโยค เธอก็จะอยู่ไม่เป็นสุข
ปาณีกับธามนิธิเพิ่งจะมาถึงห้องอาหาร ในขณะที่ฐิติพรกับผาณิดานั้นเข้ามาก่อนแล้ว
พอเห็นปาณี ผาณิดาก็เอ่ยทักทายอย่างยิ้มแย้ม “ปาณี”
ผาณิดานั้นเหมือนกับฐิติพรที่ค่อนข้างชื่นชอบปาณี มองดูปาณีได้อย่างสบายตาเป็นอย่างยิ่ง
ถึงแม้อายุของปาณียังน้อยแต่กลับขยันขันแข็งอย่างยิ่ง อีกทั้งยังรู้ความและมีอารมณ์แจ่มใส
คล้ายกับว่าด้วยอายุขนาดพวกเธอ ล้วนชื่นชอบเด็กผู้หญิงที่รู้เรื่องรู้ราวกันทั้งนั้น กลับเป็นลูกสาวของตนที่เอาแต่ทำเรื่องไร้สาระ ผาณิดาจึงรู้สึกปวดหัวเป็นอย่างยิ่ง
“คุณป้า” ปาณีเอ่ยทักทาย
เมื่อก่อนเธอ
มักเรียกแบบนี้จนชินไปแล้ว ปาณีจึงไม่เปลี่ยนคำเรียก
ผาณิดาเอ่ยตอบรับ ทุกครั้งที่เธอมองดูปาณี เธอก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา
เณศราเดินเข้ามาก็รู้สึกทนไม่ได้ที่เห็นปาณีถูกปฏิบัติอย่างดี อาศัยอะไรกัน? ตนเองมีตรงไหนที่แย่กว่าปาณีมิทราบ?
ฐิติพรกำลังพูดคุยอยู่กับผาณิดา เณศราจึงทำแต่นั่งลงด้านข้างอย่างนิ่งเงียบและมองประเมิณดูปาณี
ตอนที่แม่ของตนเองนั้นอยู่ด้วย เณศรากลับค่อนข้างทำตัวอยู่ในกรอบในเกณฑ์ไม่น้อย
ปาณีไม่ได้รบกวนพวกเธอและเดินเข้าห้องครัวไป ก่อนจะคุณน้าที่ต้มบะหมี่อยู่ตักเส้นขึ้นมา ก่อนจะส่งไปยังตรงหน้าธามนิธิ และไปตักใส่จานของตนเพิ่มอีกหนึ่งจาน
ตอนที่638
หลังจากนั้นเณศราก็เห็นเธอกับธามนิธินั่งลงด้วยกันและเริ่มทานบะหมี่
น่าไม่อาย!
เห็นๆอยู่ว่าหย่ากันแล้วแต่ยังจงใจทำตัวเข้าใกล้ธามนิธิ
ปาณีช่างมีจิตใจเจ้าเล่ห์
เณศราถึงกระทั่งคิดไปชั่วครู่ว่า นลินนั้นอาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปาณีเสียด้วยซ้ำ
วิธีล่อลวงใจของปาณี ออกจะเหนือชั้นเกินไปหน่อยแล้วมั้ง!
ที่สำคัญก็คือ เธอมองเห็นอะไร?
เธอกลับมองเห็นธามนิธิที่ปฏิบัติต่อปาณีเป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน ทั้งคู่ดูไม่เหมือนกับคนที่หย่าร้างกันเลยสักนิด
เณศราเหลือบมองฐิติพร อดไม่ได้ที่จะถามข้อสงสัยของตน “คุณอา ปาณีหย่ากับพี่ธามนิธิแล้วแต่ยังคงอยู่ใกล้ชิดขนาดนี้เลยหรือคะ?”
ฐิติพรมองดูลูกชายและลูกสะใภ้ที่กำลังนั่งทานอาหารเช้า ไม่รู้สึกว่ามีตรงไหนผิดปกติ เธอจึงมองเณศราและเอ่ย “มีอะไรหรือ?”
“…….”
เณศรามองดูฐิติพรที่มีท่าทางราวกับไม่รู้สึกว่ามีอะไรแปลก เธอคิดขึ้นมาในใจอย่างอดไม่อยู่ ท่านผู้สูงวัยของบ้านยังปกติดีอยู่หรือไม่?
ดูเหมือนจะไม่ได้มีปัญหาอะไร
ผาณิดาถลึงตาใส่เณศรารอบหนึ่ง “ทำไมเธอถึงไปยุ่งเรื่องของคนอื่นนัก? นิสัยเสียนี้ไปเรียนมาจากใครกัน? มองเห็นพี่ธามนิธิกับพี่สะใภ้รักกันดี เธอไม่ดีใจหรือยังไง? จะต้องเห็นพวกเขาเลิกรากันถึงจะโอเคหรือ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ…..”เณศราโดนอบรมอย่างไม่ทันตั้งตัวจึงดูใสซื่ออย่างยิ่ง “แต่ว่าพวกเธอหย่ากันแล้วนี่คะ!”
“ปิดปากแกลงเลยนะ โตขนาดนี้ยังไม่รู้จักพูดจาอยู่อีก?”ในความคิดของพวกเขา ปาณีสามารถอยู่ด้วยกันกับธามนิธิได้ถือเป็นเรื่องที่ดีงามอย่างยิ่ง
คำพูดพวกนี้ของเณศรา แทบจะทำลายบรรยากาศในตอนนี้ลงซะหมด
เณศราถูกผาณิดาหงุดหงิดใส่ไม่เบา จึงรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง
ผาณิดาอยู่เป็นเพื่อนฐิติพรอยู่ชั่วครู่จึงพาเณศรากลับไป
ฐิติพรเดินเข้ามาและมองดูทั้งสองคนที่ยังคงนั่งทานบะหมี่อยู่ “ปาณี”
“คุณแม่”
ปาณีมองฐิติพรและเอ่ยอย่างมีมารยาท
ฐิติพรจ้องดูลูกชายและลูกสะใภ้ของตน เห็นพวกเขารักกันดีจึงพอใจอย่างยิ่ง และเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย “พวกเธอยังไม่ได้ทำหนังสือหย่าใช่ไหม?”
ได้ยินว่าหลังจากเซ็นข้อตกลงการหย่า ฐิติพรก็ให้คนจับตาดูมาโดนตลอดไม่ให้พวกเขาได้รับหนังสือหย่า และหลังจากนั้นธามนิธิก็ไม่ได้พูดถึงอีกเช่นเดียวกัน
มือที่กำลังถือตะเกือบของธามนิธิกระตุกขึ้น
วินาทีถัดมาก็ได้ยินปาณีที่อยูด้านข้างเอ่ยขึ้น “หย่าแล้วยังต้องไปรับหนังสือรับรองหรือคะ?”
ดูเหมือนว่าเธอจะลืมเรื่องนี้ไปสนิท
คิดว่าแค่เซ็นข้อตกลงการหย่าก็เรียบร้อย เรื่องพวกนี้ธามนิธิจะเป็นคนไปจัดการเอง
ฐิติพรหัวเราะและเอ่ย “แน่นอนสิ! เด็กโง่ แต่ในเมื่อตอนนี้พวกเธอดีกันแล้ว ไม่ต้องไปเอาหนังสือหย่าแล้ว ปาณีรีบคลอดหลานรักให้บ้านเรา เธอกับธามนิธิจะต้องดีกันเอาไว้ อย่าให้พวกผู้หญิงคนอื่นเข้ามาทำให้เสียสมาธิ”
สำหรับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ฐิติพรนั้นคาดหวังกับมันเป็นอย่างยิ่ง
ในใจของเธอ เธอยอมรับปาณีเป็นลูกสะใภ้แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น
ปาณีอดมองไปยังธามนิธิไม่ได้ พอนึกถึงเรื่องหนังสือหย่าที่เขายื้อมันกับตนเองเอาไว้ ก็ไม่ได้มีท่าทีอะไรอีก
จู่ๆเธอก็ค้นพบว่า ตนเองคล้ายกับถูกวางแผนมาแล้ว
หลังจากข้าวเช้า ปาณีก็ขึ้นไปชั้นบนโดยมีธามนิธิตามมาอยู่ด้านหลัง “ปาณี”
ภายในจิตใจของธามนิธิในขณะนี้ทำได้เพียงใช้ความเงียบมาอธิบายเท่านั้
เดิมทีเรื่องพวกนี้ปาณีไม่เคยจะใส่ใจ เขาไม่เอ่ยขึ้นมา ก็คล้ายว่าเธอจะคิดไม่ถึงมันมาก่อน
ตอนนี้ฐิติพรเอ่ยขึ้น ต่อให้ปาณีซื่อบื้อยิ่งกว่านี้ก็ยังคงคิดออก
ปาณีเดินเข้าประตูไป ธามนิธิตามเธอเข้าไปและเห็นเธอหยุดยืนอยู่ข้างเตียง
ปาณีรู้สึกโกรธอย่างไม่สามารถอธิบายได้
เธอได้ยินธามนิธิเดินเข้ามาและเรียกเธอ “ภรรยา…..”
ตอนที่639
“พวกเราจะไปเอาหนังสือหย่าเมื่อไหร่คะ?”น้ำเสียงของปาณีนั้นดูหอบเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้….ออกจะเกินไปหน่อยแล้ว!
ธามนิธิเดินเข้าไป “หนังสือหย่าอะไรกัน?”
เขาแกล้งโง่!
ปาณีหันหลับไปและถลึงตาใส่เขา “ที่จริงคุณไม่เคยคิดที่จะไปเอาหนังสือหย่าใช่ไหมคะ?”
“…..”ธามนิธิจ้องดูทางอื่นและไม่ตอบกลับ
มองเห็นเขาหลบหลีกแบบนี้ ปาณีก็รู้แล้ว่าตนเองนั้นเดาถูก
คนนี้ๆเป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
หลอกได้เสียจนเธอตะลึง
ที่แท้แล้วเขารับรู้จริงหรือเปล่า ว่าตอนที่หย่ากัน จิตใจของเธอเจ็บปวดนานแค่ไหน?
ในตอนนั้นเธอรู้สึกว่าตัวเองแทบจะเป็นคนซึมเศร้าไปแล้ว
แค่คิดว่าตนเองเสียเขาไปขึ้นมา ในใจก็รู้สึกเป็นทุกข์อย่างมาก
แต่กลับนึกไม่ถึงว่า ที่แท้……ที่แท้นี่เป็นเล่ห์กลของเขา เธอรู้สึกว่าตนเองเสียใจไปอย่างเปล่าประโยชน์แล้ว!
“คุณเอาข้อตกลงการหย่ามาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้”ปาณีเอ่ย
ธามนิธิหันหน้ากลับมามองเธอ และเอ่ยอย่างใสซื่อ “ฉีกไปแล้ว”
“……….”ปาณีจ้องขา มองเห็นได้ชัดว่าโกรธอย่างมากที่ถูกเขาหลอก
ธามนิธิเข้าไปหาเธอและโอบกอดเธอเอาไว้ “พวกเราดีกันขนาดนี้ จะเอาข้อตกลงการหย่าไปทำไม เอาหนังสือหย่าไปทำไม?”
“คุณทำเรื่องหย่าปลอมๆมาหลอกฉัน”ปาณีแทบจะไม่รู้ว่าตนเองพูดอะไรออกไป
ทำไมถึงมีผู้ชายใจดำขนาดนี้ได้?
ยิ่งไปกว่านั้น เขากลับยังทำตัวเหมือนเป็นเรื่องจริงได้อยู่อีก
ธามนิธิพูด “เป็นฉันผิดเอง ฉันผิดไปแล้ว”
“ฉันจะหย่ากับคุณ!”ปาณีเอ่ย “ทำไมคุณถึงทำเหมือนกับว่าฉันเป็นคนโง่?”
ไม่หย่ากันก็แล้วไป แต่เรื่องที่หลอกเธอจะอธิบายว่ายังไง?
ทำเกินไปแล้ว
เพิ่งจะพูดจบ มือที่กอดเธออยู่ก็กระชับแน่นขึ้นมา นัยน์ตาของเขาดูจริงจังอย่างยิ่ง “เธอพูดอะไร?”
“……”ร่างกายของเขาแข็งกระด้างขึ้นมา ทำเอาปาณีปาณีรู้สึกวิตกกังวล เธอมองเขาและรู้สึกได้ว่าเขากำลังโกรธขึ้นมาแล้ว จึงเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ฉัน……”
“ฉันไม่ถือสาถ้าเธอจะพูดอีกที” ธามนิธิเลิกคิ้วขึ้น และมองดูเธออย่างเคร่งเครียดเป็นอย่างยิ่ง
ท่าทีแบบนี้ของเขา ปาณีจะเอาความกล้าที่ไหนมาพูด?
เธอไม่พูดจา ธามนิธิจึงผลักเธอลงบนเตียงและกดตัวเธอเอาไว้ “เห็นทีฉันจะตามใจเธอมากเกินไปแล้ว!”
วันนี้จะต้องให้เธอรู้ให้ได้ ว่าในบ้านนี้ ใครกันแน่ที่พูดแล้วถือว่าจบ
ปาณี “…….”
บ้าเอ้ย เนื้อเรื่องเดิมไม่สมควรเป็นแบบนี้นี่หน่า!
ธามนิธิกัดลงบนริมฝีปากบนของปาณี เธอเอ่ยขึ้นอย่างใสซื่อ “เจ็บ”
ธามนิธิจับมือทั้งสองข้างของเธอและกดมันเอาไว้เหนือศีรษะ มองดูหน้าอกของเธอที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลงเนื่องจากความร้อนลน ดวงตาของเขาดูเคร่งขรึม “ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ถ้าหากฉันได้ยินเธอพูดถึงเรื่องหย่าขึ้นมาอีก ก็อย่าโทษว่าฉันไม่รักษาสัญญา”
“สัญญา?”ปาณีจ้องมองเขา “สัญญาอะไร?”
ธามนิธิเอ่ย “ตอนนี้ให้เธอมีลูก รอเธอมีลูก เธอก็จะได้ไม่คิดไปจากฉันอีก”
“อุ๊บ” ปาณีอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “พูดหยั่งกับว่าอยากมีก็มีได้!”
มีลูกนั้นเป็นเรื่องของโชคชะตา จะมีหรือไม่มีนั้นไม่มีใครสามารถล่วงรู้ก่อนได้!
ธามนิธิเลิกคิ้ว น้ำเสียงทุ่มต่ำ “พูดแบบนี้ ปาณีของฉันอยากลองดูไหม?”
สายตาที่เขามองดูเธอเต็มไปด้วยความอันตราย
ปาณีไม่กล้าคิดที่จะลอง “ไม่เอานะคะ”
“ถ้าอย่างนั้นเธอรู้ว่าตนเองผิดไปแล้วใช่ไหม?”
“…….”ปาณีจ้องมองดวงตาอันดำสนิทของเขา คุณอากำลังคิดบัญชีกับเธอ?
เมื่อเธอถูกบังคับให้ต้องคิดว่าจะจัดการกับมันอย่างไร ธามนิธิ จูบเธอที่ริมฝีปากสักพักหนึ่งแล้วบ่นว่า “ฉันถือว่าคุณเป็นลูกของฉันและคนที่ฉันชอบเสมอคุณรู้ไหมว่าฉันเสียใจเมื่อคุณ หย่าฉันเหรอ
ขณะที่เธอกำลังพยายามคิดหาวิธีจัดการกับสถานการณ์นี้ ธามนิธิก็จูบปากเธอลงชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยเสียงต่ำ “ฉันคิดมาเสมอว่าเธอคือสิ่งที่ลำค่าของฉัน คือคนที่ฉันชอบมากที่สุด เธอพูดเรื่องหย่ากับฉันขึ้นมา รู้ไหมว่าจิตใจฉันเจ็บปวดมากแค่ไหน? ”
ตอนที่640
พอเขาเอ่ยพูด ก็คล้ายกับทำให้รู้สึกถึงความเจ็บปวดของเขา
ปาณีก็รู้สึกเสียใจเช่นกัน “งั้นคุณก็อย่าตอบตกลงสิคะ”
เขาตอบตกลงอย่าง่ายดาย จนเธอคิดไปว่าพวกเขานั้นจบสิ้นกันแล้ว
ธามนิธิเอ่ย “ไม่ให้เธอลองทำดู เธอจะรู้สึกสำนึกเสียใจได้ยังไง”
ถ้าไม่ให้เธอได้ลิ้มรสของการหย่าร้าง เธอจะรู้ได้อย่างไรว่าว่าการอยู่ข้างเขานั้นดีแค่ไหน?
ปาณีไม่ได้ส่งเสียงและไม่ได้สบตาเขาเช่นกัน
ธามนิธิอดไม่ได้ที่จะเปิดคลาสเรียนการเมืองกับเธอขึ้นมา “คนอื่นพูดถึงเธอ เธอก็คิดอยากจะหย่ากับฉันขึ้นมา เป็นแบบนี้คนอื่นจะไม่พูดถึงเธออีกต่อไปแล้วหรือ? แบบนี้มีแต่จะพูดแย่ลงกว่าเดิม บอกว่าฉันมองไม่เห็นหัวเธอ ถ้าจากอยากฟังคำคนจริงๆ ชั่วชีวิตนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
บางครั้งใช้ความเงียบพูดกับเธอ เธอไม่เข้าใจ
เด็กน้อยก็เป็นเช่นนี้ ไม่มีทางเข้าใจเหตุผลอะไรได้ถ้าหากไม่ได้เปชิญด้วยตัวเองมาก่อน
มีแต่ให้เธอได้ทดสองด้วยตัวเองเท่านั้น เธอถึงรู้ได้ว่าใครที่พูดถูกต้อง
ดังนั้น ธามนิธิจึงใช้การลงมือกระทำในการบอกกับเธอ
หลังจากนี้ เธอสมควรที่จะอยู่ข้างเขาอย่างวางใจได้แล้ว!
เพื่อที่จะรักษาภรรยาของตนเองไว้ เขานั้นทุ่มเทแรงใจอย่างสุดความสามารถ
-
ไวยาตย์เดินเขามาจากด้านนอก ฐิติพรมองดูเขา “ไวยาตย์”
“สวัสดีครับคุณนาย”ไวยาตย์เอ่ยถาม “คุณธามนิธิหล่ะครับ?”
“อยู่ชั้นบน”ฐิติพรเอ่ย “ฉันเห็นเขากับปาณีช่วงนี้ความสัมพันธ์ไม่เลว เลยบอกกับพวกเขาไปว่าไม่ต้องไปเอาหนังสือหย่า”
ไวยาตย์ฟังจบก็มองดูฐิติพรอย่างไม่อยากเชื่อ “ท่านไม่ได้เอ่ยต่อหน้าปาณีใช่ไหมครับ?”
“ทำไมกัน?”
ไวยาตย์ปวดหัว “เรื่องนี้ปาณีไม่รู้มาก่อน ท่านไม่ใช่ไปเตือนเธอขึ้นมาหรอกหรือ? ถ้าหากเธอไปโวยวายกับคุณธามนิธิเรื่องการหย่าขึ้นมาอีกจะทำยังไงกันครับ?”
ถึงเวลานั้น คุณธามนิธิจะต้องปวดหัวขึ้นมาอีกครั้งแน่
ฐิติพรเอ่ยอย่างตกใจ “จริงหรือ? อย่างนั้นเรื่องที่หย่าตอนแรก เป็นปาณีพูดขึ้นมา?”
ในจุดนี้ กลับเป็นฐิติพรที่รู้สึกสงสัยไม่น้อย
เธอคิดว่าลูกชายของเธอนั้นดีขึ้นแล้ว และลืมปาณีไปเสียสนิท
คิดไม่ถึงว่ากลับเป็นปาณีที่หยิบยกเรื่องหย่าขึ้นมา?
-
ธามนิธิออกมาจากห้อง ไวยาตย์ยืนรอเขาที่หน้าประตูอย่างลุกรี้ลุกลน “คุณธามนิธิ ยังดีอยู่ไหมครับ?”
เขาดูลนลานแบบนี้ ทำเอาธามนิธิงุนงง “เป็นอะไรไป?”
“ปาณีไม่ได้โวยวายจะไปเอาหนังสือใช่ไหมครับ?”ไวยาตย์เอ่ย “ผมเพิ่งจะได้ยินคุณนายพูดขึ้นมาที่ชั้นล่าง”
“…..”ธามนิธิตอบเสียงต่ำ “ไม่มี”
มันเป็นไหวพริบของเขา ที่ทำให้เธอกลัวก่อนที่เขาจะทำให้เธอสงบลง
ตอนเริ่มต้นที่ฐิติพรเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมา ธามนิธินั้นรู้สึกตระหนกขึ้นมาจริงๆ
ไวยาตย์ได้ยินถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “อย่างนั้นก็ดีแล้วครับ”
“นายร้อนลนแทนเธอหรือว่าแทนฉัน?” มองเห็นไวยาตย์ถอนหายใจโล่งอกแบบนี้ ธามนิธิอดไม่ได้ที่จะทำการขุดคุ้ยขึ้นมา
คนๆนี้ ไม่ใช่เลขาของเขาแล้วกระมัง?
คงไม่ใช่เลขาของยัยตัวเล็กหรอกมั้ง?
ไวยาตย์เอ่ย “แน่นอนว่าผมเป็นกังวลแทนคุณ ใครใช้ให้ปาณีเป็นคนที่สามารถกระตุกอารมณ์คุณไปมาได้มากที่สุดบนโลกใบนี้กัน?”
พอความสัมพันธ์ของพวกเขามีปัญหาขึ้นมาทีไร คนที่ซวยไม่ใช่เป็นเขาหรอกหรือไง!
ทุกวันต้องเผชิญหน้ากับธามนิธิที่มีสีหน้าเคร่งเครียด เขากลัวเป็นที่สุด
ธามนิธิเหลือบมองไวยาตย์รอบหนึ่ง ก่อนจะเดินไปที่ห้องหนังสือ “มีเรื่องอะไร?”
ไวยาตย์เดินไปกับเขา และส่งเอกสารให้แก่เขา “นี่คือที่คุณให้ผมเตรียม ข้อมูลของsnow culture คุณลองดูนะครับ”
ธามนิธิรับเข้ามาและพลิกดูไปมา “นายไปตามธีระมาที”
ไวยาตย์เอ่ยรับ “ครับ”
-
ดึกของวันถัดมา ไวยาตย์ เรียกธีระมาที่บ้านและทำการเซ็นเอกสาร