MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม - ตอนที่ 806-810
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
ตอนที่806
ยังเป็นธามนิธิที่โทรเข้ามา ปาณีรับสาย “คุณอา”
“เธออยากแต่งงานกับเวทัส?”
“…..”ฟ้าดินเป็นพยาน ปาณีรู้สึกมาโดยตลอดว่าคุณอาเป็นคนที่มีเหตุผล แต่ในตอนนี้ เธอคิดว่าเธอสมควรจะต้องดึงความคิดนี้กลับมา
นี่เขาไปเริ่มฟังจากช่วงไหนกัน เธออยากแต่งงานกับเวทัส?
เธอเอ่ยเสียงอ่อน “ไม่มีนะคะ”
“ไม่มี?”ธามนิธิคล้ายพ้นลมหายใจออกมาครั้งหนึ่ง บ่งบอกถึงความประชดประชันอย่างเต็มเปี่ยม
ปาณีมีท่าทีเจี๋ยมเจี้ยมอย่างยิ่ง “เมื่อกี้คุณไม่ได้ยินหรือคะ? ฉันอยากไปแต่งงานกับเขาตรงไหนกัน?”
“แน่นอน ฉันได้ยินชัดเต็มสองรูหู”
ปาณีนั่งลงอย่างเสียไม่ได้ เธอเอ่ยอธิบายให้กับชายหนุ่มที่กำลังหึงเป็นลมบ้าหมู “คุณก็รู้ดีนี่คะว่าฉันคิดแหย่ให้เขาโกรธ ใครใช้ให้เขามาหาเรื่องฉันหล่ะ ถ้ารู้ว่าเขาจะน่ารังเกียจขนาดนี้ อีกทั้งยังเป็นหลานชายของคุณ ทีแรกฉันไม่แต่งให้คุณแล้ว แบบนี้จะได้ไม่ต้องเจอเขาบ่อยๆ แทบจะทำฉันบ้าตายอยู่แล้ว”
“……”
เดิมธามนิธิคิดจะอบรมเธอสักสองสามประโยค ผลคือพอฟังไป นี่เธอกำลังพูดอะไรอยู่?
แม้กระทั่งเสียใจที่แต่งงานกับเขายังเอ่ยออกมาได้
“เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไร? ฉันได้ยินไม่ชัด เธอพูดอีกทีสิ”
“ใครใช้ให้เขามาหาเรื่องฉัน”
“หลังจากนั้น”
“ถ้ารู้ว่าเขาจะน่ารังเกียจขนาดนี้ อีกทั้งยังเป็นหลานชายของคุณ…”
“ยังมีอีก?”
“ทีแรกฉันแต่งกับคุณถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด สามีของฉันคือคนที่ดีที่สุดแล้ว”ปาณีพูดอย่างภาคภูมิใจ
“……..”
ปาณีถึงจะซุกซนแต่เธอก็ยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ดังนั้นจึงพยายามอย่างสุดชีวิต
เธอเอ่ยกับธามนิธิ “ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว เราเข้านอนกันเถอะค่ะ ถูกเขารบกวนเข้าให้ คความคิดของฉันมันยุ่งเหยิงหมดแล้ว”
งานก็ใกล้จะเสร็จแล้ว ตอนนี้เธออยากเข้านอน พรุ่งนี้เธอยังต้องไปที่บริษัท
ธามนิธิเอ่ย “ไปนอนเถอะ”
ปาณีกลับไม่ได้วางสายลง เธอชาร์จโทรศัพท์ไว้ ก่อนจะวางมันลงที่ด้านหนึ่ง
ธามนิธิทำงานเสร็จแล้ว เขาเอ่ยพูดกับเธออยู่สองสามประโยค พอเห็นว่าเธอไม่ตอบกลับมาจึงค่อยวางสายลง
ธามนิธิกลับมากลางดึกของวันศุกร์ ส่วนเวทัสที่จัดการเรื่องของทีมแข่งเสร็จและบินกลับไปในตอนบ่ายของวันนั้นพอดี ทำให้เขารอดไปได้อีกครั้ง
ไม่งั้นด้วยนิสัยของธามนิธิแล้ว เขาอาจจะต้องได้รับบทเรียนอยู่ยกหนึ่งแน่
ธามนิธิกลับมาเป็นเวลาดึกมาก ปาณีนั้นเข้านอนไปเรียบร้อยแล้ว
เขาเปิดประตูเข้าไป มองเห็นเธอนอนเล่นอยู่บนเตียงและกำลังกอดหมอนที่เขาซื้อให้เธอเมื่อก่อนหน้าเอาไว้อยู่ ก่อนจะเรียกเขาขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสนิทสนม “สามี”
ธามนิธิที่เดิมกำลังเตรียมตัวไปอาบน้ำ ก็เปลี่ยนเป็นนั่งลงที่ขอบเตียง ตัดใจเดินต่อไปไม่ได้แม้แต่เพียงครึ่งก้าว
แต่ได้ยินเธอเอ่ยเรียกสามีสองคำ เขาก็รู้สึกว่ามีความหวานล้ำพุ่งขึ้นมาในหัวใจ
ดวงตาย้อมไปด้วยความอบอุ่น
เช้าตรู่ ปาณีถูกธามนิธิกอดเอาไว้อยู่ในอ้อมอก เธอลืมตาขึ้นมาแอย่างช้าๆ
เธอมองดูผู้ชายข้างๆกาย มือของเขาวางอยู่บนเอวของเธอ ดวงตาปิดสนิทยังคงนอนหลับอยู่
ท่าทางการนอนของเธออกจะน่าอนาถใจอยู่บ้าง ไม่เหมือนธามนิธิที่มักจะนอนนิ่งๆ
ปาณีรู้สึกว่าทุกครั้งที่มองดูคุณอานอนหลับแบบนี้ ตนเองนั้นแทบจะอยากเอาหน้าแทรกแผ่นดิน
เธอเคลื่อนไหวเบาๆและยืดตัวให้ตรง ยึดขาทั้งสองข้างที่อยู่บนตัวเขากลับมาอย่างระมัดระวังเนื่องจากกลับว่าจะปลุกเขาตื่น
ธามนิธินอนไปอีกครู๋หนึ่งถึงค่อยตื่นขึ้นมา และเผชิญกับสายตาราวกับเจ้าแมวน้อยคู่หนึ่ง มุมปากหยิบยกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว “ตื่นแล้วหรือ?”
ปาณีเอ่ย “คุณกลับมาเมื่อคืนหรือคะ ทำไมไม่ปลุกฉัน?”
ธามนิธิมองเธอก่อนจะเอ่ยพูดอย่างจริงจัง “เรียกแล้ว ปลุกไม่ตื่น เธอไม่รู้หรือว่าพอหลับแล้วเธอเป็นยังไง”
“……”ปาณีเต็มไปด้วยความสงสัย “ฉันหลับลึกขนาดนั้นเลยหรือคะ? ไม่ใช่หรอกมั้ง!
ตอนที่807
เห็นเธอเชื่อในคำพูดของเขา ธามนิธิก็ขมวดคิ้ว เขาก็แค่ล้อเธอเล่น
เขาเอ่ยถาม “เวทัสไปแล้วหรือ?”
“ค่ะ ไปเมื่อวานตอนบ่าย”ปาณีเอ่ย “ถ้าร้มาก่อนว่าคุณจะกลับมา ฉันควรจะรั้งเขาเอาไว้ ให้คุณได้สั่งสอนเขาสักหน่อย”
ตอนนี้ปาณีรู้สึกแค้นใจเวทัสอย่างยิ่ง ไม่ใช่แค่เพียงทั่วๆไป
ธษมนิธิมองดูท่าทีไม่เป็นมิตรของเธอ นี่แหละคือปาณีของเขาไม่ผิดตัวแน่ “เธอเกลียดเขาขนาดนั้นเลยหรือ?”
“ก็เขาทำตัวน่าเกลียดชังนี่คะ”ปาณีกอดสามีของตนเอาไว้ เธอแสดงความภักดีออกมา “เขาไม่เคยรู้ว่าอะไรคือการรักคนๆหนึ่ง เขาเห็นแก่ตัวเป็นอย่างยิ่ง แถมยังเอาแต่คิดจะสร้างปัญหา ไม่เหมือนสามีของฉันที่ดีกับฉันขนาดนี้ ซื้อของอร่อยๆให้ฉันกินบ่อยๆ แถมยังเอาใจใส่ฉันอยู่ทุกวัน”
พูดจบ ปาณีก็มองธามนิธิ เธอรู้ว่าธามนิธินั้นเป็นไหน้ำส้มถังใหญ่ ไม่ว่าตนเองจะมีอะไรกับเวทัสหรือไม่ ขอแค่อยู่ต่อหน้าคุณอาด้วยท่าทีเกลียดชังเวทัสอย่างยิ่ง แบบนี้ก็ถือว่าไม่ผิดแล้ว
ด้วยความฉลาดของธามนิธิ ความคิดนี้ของเธอ เขานั้นดูออก
แต่ การที่ปาณียอมที่จะเอาอกเอาใจเขา เขาก็ยังคงดีใจเป็นอย่างยิ่ง
-
เพียงพริบตา ธามนิธิก็ไปเมืองสิงห์มาเป็นเวลาครึ่งปีแล้ว กลางดึก ปาณีนอนอยู่บนเตียง ในขณะที่กำลังต่อสายอยู่กับธามนิธิ เธอก็ดูเถาเป่าในมือถือไปด้วย “สามี ฉันซื้อของมาให้คุณ”
“……” ฟากธามนิธินั้นกำลังยุ่งอยู่กับงาน ผ่านไปครู่หนึ่งเขาถึงเอ่ยถามขึ้น “ซื้ออะไรมา?”
ปาณีส่งภาพหน้าจอให้เขาดู “ผ้าพันคอ ตอนนี้อากาศที่เมืองสิงห์ควรจะลดลงแล้ว ฉันใส่ที่อยู่เป็นที่ของคุณที่นั่นไป ให้พวกเขาส่งของไปให้คุณ”
ธามนิธิที่เมื่อก่อนไม่ชอบเสียงรบกวนอย่างยิ่ง มาตอนนี้กลับเคยชินที่จะเปิดสายคุยกับเธอเอาไว้ ปกติเขามักจะเป็นฝ่ายที่ฟังเธอเอ่ยพูด นานครั้งๆถึงตอบกลับสักที
ผ่านไปชั่วครู่ ปาณีเห็นเขายังไม่ตอบกลับจึงเอ่ยขึ้น “คุณยุ่งมากหรือคะ?”
“กำลังทำงาน”
“ถ้าอย่างนั้นฉันวางสายนะคะ? ฉันมัวแต่พูดคงรบกวนคุณอย่างยิ่ง”ปาณีไม่เหมือนเขาที่นิ่งเงียบขนาดนั้น พอต่อสายคุยกันขึ้นมา เธอก็มักจะอดพูดเจื้อยแจ้วขึ้นมาเสียไม่ได้
ธามนิธิตอบ “ไม่ต้อง”
ผ่านไปสักพัก ปาณีได้ยินธามนิธิพูดขึ้น “ฉันกลับไปสิ้นเดือนนี้”
ปาณีชะงักไปชั่วครู่ วันนี้เพิ่งจะวันที่สิบ ยังคงห่างไกลจากสิ้นเดือนอยู่อีกนาน “หมายความว่าคุณไม่กลับมาในวันหยุดแล้วใช่ไหมคะ?”
เธอรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง
ผ่านไปชั่วครู่ ธามนิธิถึงค่อยเอ่ยขึ้นมา “สินเดือนกลับไปไม่ไปไหนแล้ว อยู่ที่เมืองชยุตเป็นเพื่อนเธอ”
“……”ประโยคนี้ทำเอาปาณีที่พึ่งจะใจหายไป กลับมามีความหวังอีกครั้ง เธอเอ่ยอย่างไม่อยากเชื่อ “จริงหรือคะ?”
ก่อนหน้านี้เขาเคยบอกว่าต้องอยู่ที่นั่นประมาณหนึ่งปี ตอนนี้พึ่งจะครึ่งปี เขาก็กลับมาแล้ว?
“อืม”
ที่ธามนิธิยุ่งขนาดนี้ก็เพราะเขาอยากรีบจัดการเรื่องที่เมืองสิงห์ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด จะได้กลับบ้านไวๆ
หลังจากที่แต่งงานกับเธอ เขาก็รู้สึกคล้ายว่าตนเองมีห่วงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง
เอาแต่คิดอยากจะกลับไปหาเธออยู่ตลอดเวลา
ธามนิธิใกล้จะกลับมาแล้ว ปาณีจึงมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาหาเธออยู่บ่อยๆ แต่นั่นก็เป็นแค่ช่วงวันหยุดเท่านั้น เธอยังคงชอบที่มีเขาอยู่ข้างๆกายมากกว่า
เป็นเพราะมีความุข ปาณีจึงเพิ่มของช็อปปิ้งลงตระกร้าไม่น้อย
ธามนิธิเอ่ย “ปาณี”
น้ำเสียงของเขาที่ดังขึ้นมาเต็มไปด้วยความจริงจัง
ปาณีเอ่ย “เป็นอะไรไปคะ?”
“รอหลังจากที่ฉันกลับไป พวกเราแต่งงานกันเถอะ”
“…….”ปาณีรู้สึกนี่ออกจะแปลกประหลาดอยู่บ้าง “พวกเราเดิมทีก็เป็นสามีภรรยาอยู่แล้วนี่คะ?”
พวกเขามีใบจดทะเบียนสมรส และยังไม่ได้หย่ากัน
ธามนิธิเอ่ย “ก็แค่แต่งงานกันอีกครั้ง”
ครั้งก่อนที่เขาขอเธอแต่งงาน สุดท้ายคือมีเรื่องอื่นเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน
ตอนที่808
ตอนนี้ทั้งคู่ห่างกันมานานขนาดนี้ ธามนิธิอยากจะเริ่มใหม่อีกครั้ง
เขาเอ่ยกับปาณี “พวกเรายังไม่ได้ถ่ายรูปแต่งงานใช่ไหม?”
ตอนนั้นเขายังนั่งอยู่บนรถเข็น จึงไม่ได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ แต่ตอนนี้เขาอยากจะเติมเต็มให้กับปาณี
คำพูดของธามนิธิ ทำเอาภายในใจของปาณี เปลี่ยนเป็นคาดหวังขึ้นมา
ภาพแต่งงานหรือ เธอก็อยากได้เช่นกัน
ครั้งก่อนที่ไปบ้านพี่สาว มองเห็นเธอกับพี่เขยถ่ายรูปแต่งงานด้วยกัน ปาณีก็ร็สึกอิจฉาอย่างยิ่ง
-
เช้าวันรุ้งขึ้น ปาณีไปเรียนที่มหาลัยและบังเอิญเจอกับติรยา มองเห็นเธอลงมาจากรถตู้และถูกหญิงสาวรอบล้อมเอาไว้อยู่ตรงกลาง
“ติรยา คุณสวยจังเลย เซ็นชื่อให้ฉันหน่อยได้ไหม?”
ช่วงนี้ติรยามามหาลัยน้อยครั้ง เธอเซ็นสัญญากับบริษัทบันเทิงเอาไว้และกลายเป็นศิลปินฝึกหัดอยู่ และรอคอยที่จะได้เปิดตัว เร็วๆนี้เธอเพิ่งจะเข้าร่วมรายการโชว์ความสามารถบนทางอินเตอร์เน็ต และรายการนั้นก็ได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย ดังนั้นตอนนี้เธอจึงมีชื่อเสียงอยู่บ้าง พอวันนี้มามหาลัยจึงถูกเพื่อนนักเรียนล้อมหน้าล้อมหลัง
ปาณีมองดูเธอและนิ่งงันไป นึกถึงก่อนหน้าที่ธามนิธิบอกว่าติรยามาขอร้องให้เขาช่วยเหลือเธอ เรื่องที่เธอเข้าสู่วงการบันเทิง เห็นทีคงจะเป็นคุณอาที่ช่วยกรุยทางให้?
ชยรพเดินเข้ามาและหยุดอยู่ข้างๆปาณี เขากวาดตามองติรยาหนึ่งรอบและเอ่ย “เมื่อก่อนเธอออกจะดูย่ำแย่ขนาดนั้น นึกไม่ถึงเลยว่าจะดังขึ้นมาได้”
สายตาของปาณีตกลงบนตัวชยรพ เธอไม่คิดจะถกเถียงเรื่องของติรยาแต่อย่างใด “พวกเราไปเถอะ เอ่อใช่ โมรีทำไมไม่อยู่กับนาย?”
“ฉันมาจากที่บ้าน”ชยรพอยู่ที่เมืองชยุต บางครั้งก็จะกลับบ้านบ้าง ดังนั้นจึงไม่ได้ไปรับโมรี
คิดถึงเรื่องกลับบ้าน สีหน้าของชยรพก็เปลี่ยนเป็นกระด้างขึ้นมาเล็กน้อย
ปาณีดูออกถึงร่อยรอยนั้น “ทะเลาะกับที่บ้านมาหรือไง?”
ชยรพเอ่ย “พวกเขาไม่ยอมให้ฉันคบกับโมรี”
ชยรพเป็นลูกคนเดียว บ้านของเขาอยู่ที่เมืองชยินซึ่งห่างไกลออกไป ด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้ยังมีข่าวซุบซิบกับเวทัสอยู่บนอินเตอร์เน็ต ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอคือแฟนของเวทัส ดังนั้นคนบ้านตระกูลเพิ่มสินจึงไม่เห็นด้วยที่เธอจะคบหากับชยรพ
บอกว่าผู้หญิงคนนี้จิตใจล้ำลึกนัก
ปาณีเอ่ย “สถานะที่บ้านของพวกนายมีความต่างกันอยู่บ้าง จึงไม่แปลกที่พ่อแม่ของนายจะไม่เห็นด้วย แต่ว่าขอแค่ตัวนายมีความสุขก็พอแล้ว”
ตระกูลเพิ่มสินนั้นมีฐานะร่ำรวย
ปาณีนึกถึงคนบ้ายวิสิทธิ์เวชขึ้นมาและรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างโชคดีเป็นอย่างยิ่ง คนในบ้านล้วนเป็นคนมีเหตุผล
ชยรพพยักหน้า “เรื่องนี้เธออย่าพูดกับโมรีนะ ฉันกลัวว่าเธอจะคิดมาก”
“อืม”พวกเขาคบกันมากว่าครึ่งปีแล้ว ปาณีพบว่า ชยรพคนนี้นั้นใส่ใจโมรีอยู่ไม่น้อย ปกติเวลาซื้อเสื้อผ้าซื้อข้างของให้เธอก็มือหนักอยู่ไม่เบา
ขอแค่มีเวลา เขาก็จะไปรับไปส่งเธอ
ปกติเห็นเขาล่องลอยไปมา เธอจึงไม่เคยคิดว่าที่แท้แล้วเขาจะเป็นแฟนหนุ่มในอุดมคติขนาดนี้
ปาณีนั้นคาดหวังให้เขาและโมรีคบกันต่อไปเป็นอย่างมาก
เข้ามาในห้องเรียน ปาณีเห็นว่าโมรีนั้นมาถึงแล้วและกำลังเล่นโทรศัพท์อยู่
ปาณีเอ่ยทักเธอ “อรุณสวัสดิ์”
เธอมองมายังปาณีและยิ้ม
ปาณีนั่งลง “เธอกำลังดูอะไรอยู่น่ะ?”
โมรีเอ่ย “ฉันกำลังดูติรยา ตอนนี้เธอดังไม่น้อยเลย”
ถึงแม้ชื่อเสียงในมหาลัยเมื่อก่อนอาจจะไม่ค่อยดีนัก แต่ในรายการ คนอื่นนั้นไม่รู้ถึงเรื่องของเธอในมหาลัย ต่อให้เมื่อก่อนจะถูกปาณีเปิดโปงไปแล้ว แต่อิทธิพลของปาณีนั้นก็ยังคงน้อยกว่ากระแสความนิยมในรายการ
ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าเพื่อนบนอินเตอร์นั้นเป็นจำพวกคนลืมง่าย ถ้าหากไม่มีใครขุดขึ้นมา ก็ไม่มีใครจำเรื่องที่ตริยาเคยทำเหล่านั้นได้
ตอนที่809
ที่สำคัญคือ ในบรรดาผู้เข้าแข่งขัน ติรยาถือเป็นคนที่มีพรสวรรค์เป็นอย่างยิ่ง เธอเรียนเต้นรำมาตั้งแต่ยังเล็ก มาตอนนี้เข้าร่วมรายการโชว์ ก็เท่ากับว่าเป็นการยื่นเวทีเต้นรำให้กับเธอ
ปาณีนึกถึงติรยาที่เมื่อก่อนนั่งฝันว่าตนเองจะโด่งดัง คิดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้….ความปราถนาของเธอจะเป็นจริงขึ้นมา
ไม่นานนัก ติรยาก็เดินเข้ามาด้านใน พวกนักเรียนเห็นเธอเข้าก็กระตือรือร้นเช่นกัน “ติรยา ฉันชอบเธอมากๆเลย เซ็นชื่อให้หน่อยได้ไหม”
เพื่อนร่วมห้องเรียนของตนกลายเป็นดาราไปแล้ว ทุกคนต่างล้วนภาคภูมิใจ
ตอนนี้รายการนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ถ้าหากติรยาคว้ารางวัลมาได้ ภายหลังก็สมควรเปิดตัวได้โดยตรง
ติรยานั่งลง กิริยาท่าทีดีเป็นอย่างยิ่ง “ได้สิ มาทีละคนๆนะ”
เธอไม่มีท่าทีถือตัวเลยสักนิด
ทุกคนพอเห็นเธอที่ดังขนาดนี้ แต่กลับไม่ถือตัวเลยสักนิด จึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชม
ทีนาร์นั่งอยู่ด้านหนึ่งและกำลังมองดูติรยา นึกถึงเมื่อก่อนที่บ้านของติรยาล้มละลาย และเรื่องที่ตนเองนั้นรังแกเธอ เธอจึงรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง เกรงว่าเวลานี้ติรยาจะมาหาเรื่องเธอ
เดินปาณีก็ยังคิดอยู่ว่า ด้วยนิสัยของติรยาแล้ว เธอจะต้องเอาคืนแน่นอน แต่เธอกลับไม่ได้ทำ ราวกับว่าเธอจดจำเรื่องที่ทีนาร์รังแกเธอในอดีตไม่ได้
ยามบ่าย ตอนที่ปาณีกลับมาถึงบ้าน เธอมองเห็นน้าลำมุงกำลังนั่งดูทีวีอยู่และเป็นรายการที่ติรยาเข้าร่วมพอดี
เธอมองดูใบหน้าของติรยาและเอ่ย “เฮ้อ นี่ไม่ใช่แฟนเก่าของเวทัสหรอกหรือ?”
ปาณีเอ่ย “ใช่สิคะ”
ความนิยมของติรยานั้นสูงไม่น้อย หลังจากที่เข้าร่วมรายการ ความนิยมของเธอก็อยู่ในห้าอันดับแรกมาตลอด
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องที่บ้านของเธอล้มละลายหรือไม่ เธอในตอนนี้ มีท่าทีอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างยิ่ง ไม่หยิ่งยโสดังเช่นในอดีต
คนเรามักจะต้องเผชิญกับความล้มเหลวก่อน ถึงเติบโตขึ้น ปาณีรู้สึกได้ว่าเธอนั้นโตแล้ว
น้าลำมุงเอ่ย “ลูกสาวฉันตอนนี้ชอบดูรายการนี้มาก เป็นเธอที่นำนะให้ฉันดูรายการ”
ปาณีอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
ตอนค่ำ จันวิภากลับมาแล้วจึงนั่งทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนปาณี
เธอเอ่ยกับปาณี “เธอรู้ไหมว่าวันนี้ที่โรงพยาบาลฉันเจอใคร?”
“ใครคะ?”
จันวิภาบอก “นลิน แถมท้องยังโตแล้วอีกด้วย”
เมื่อก่อนมองไม่เห็นหัวธามนิธิ ผลลัพธ์คือหลังจากนั้นเธอแต่งให้กับชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง และมีลูกให้กับเขา ตอนนี้นลินยังมีอะไรให้ยโสได้อีก
ปาณีรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง “ฉันคิดว่าเธอจะเอาเด็กออกซะอีก”
ด้วยนิสัยของนลิน จะยินยอมให้กำเนิดกับลูกปิยพนธ์ได้ยังไง?
“เธอคิดว่านลินไม่อยากเอาออกหรือไง? ฉันได้ยินมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ผู้หญิงคนนี้เลือดเย็นนัก ขนาดเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองยังกล้าลงมือ เพียงแต่คนในตระกูลนาทันเลิศไม่ยิมยอม แถมแม่ของปิยพนธ์ก็ไม่ใช่ตะเกียงขาดน้ำมัน นิสัยยังแรงกว่าแม่ของนลินเสียอีก”ข้อมูลเหล่านี้ของจันวิภา ล้วนฟังเขาเล่ามาทั้งสิ้น
เธอเกลียดนลินเข้ากระดูกดำ ขอแค่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับนลิน เธอก็มักจะสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ปาณีเอ่ย “คงเป็นกรรมตามสนองเธอแหละค่ะ! เมื่อก่อนตอนที่บ้านมีสุวรรณ์คิดว่าแม่เธอเป็นคนดี ก็รังแกกันนัก ตอนที่คุณอาบาดเจ็บ พวกเขาที่มาที่นี่พูดว่าอะไรบ้าง? ตอนนี้เธอเจอกับคนที่ร้ายกาจยิ่งกว่า ก็บอกได้แค่ว่าสมควรแล้ว”
จันวิภาเอ่ย “นั่นหน่ะสิ จะรับมือคนประเภทนี้ได้ ก็ต้องเป็นคนที่ร้ายกาจยิ่งกว่านั่นแหละ”
ทั้งสองคนนั่งทานข้าวและพูดคุยกันไปด้วย จันวิภามองปาณี “อ้อใช่ โมรีเป็นยังไงบ้าง? นานแล้วที่เธอไม่ได้มาที่บ้าน”
ตอนที่810
ตอนแรกที่เธอเป็นแฟนเวทัส จันวิภานั้นมีท่าทีที่ดีต่อเธอไม่น้อย
ปาณีเอ่ย “ช่วงนี้เธอค่อนข้างยุ่ง ในทีมแข่งมีเรื่อง แถมเธอยังต้องไปเข้าเรียน เพียงแต่ เธอกับเวทัสเลิกกันแล้วนะคะ ตอนนี้เธอกำลังดูใจกับชยรพอยู่”
ได้ยินดังนี้ จันวิภาก็รู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง “จริงหรือ?”
นึกถึงลูกชายของตน จันวิภาก็ถอนหายใจออกมารอบหนึ่ง ลูกชายของเธอนั้นทำตัวไม่ค่อยจะเป็นที่พึ่งพาได้ในด้านความรักสักเท่าไหร่ เธอเองก็จนปัญญา
-
สิ้นเดือน ธามนิธิกลับมาแล้ว โดยมีปาณีเป็นคนไปรับเขาที่สนามบิน
เขาใส่ชุดสูทสีดำทั้งตัว ด้านนอกคลุมด้วยชุดคลุมกันลม ปาณีกำลังพิงอยู่ในอ้อมอดเขาและกอดเขาไว้ มองดูชายหนุ่มตรงหน้าที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลายี่สิบวัน “ยินดีต้อนรับกลับมาค่ะ”
ไวยาตย์อยู่ด้านหลังธามนิธิ เอ่ยอย่างยิ้มๆ “มองเห็นคุณธามนิธิกลับมา ไม่ใช่ว่าเธอดีใจจนบื้อไปแล้วหรอกนะ?”
“ใช่”ปาณีเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง “พวกนายไม่ได้กลับมานานมากแล้ว”
ธามนิธิกุมมือเธอเอาไว้ “ไปกันเถอะ”
ไวยาตย์เดินตามด้านหลังของพวกเขา รู้สึกว่าตนเองเป็นหมาหัวเน่าจนไม่รู้จะเน่ายังไงได้อีก
ในบ้านนั้นเปิดฮีตเตอร์เอาไว้ ทำให้อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง
ปาณีเดินเข้าบ้านไปพร้อมๆกับธามนิธิ คนรับใช้มาช่วยรับกระเป๋าเดินทางของธามนิธิขึ้นไปขั้นบน ส่วนปาณีกับธามนิธินั้นนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก เธอกุมมือของเขาเอาไว้ “กลับมาบ้านแล้ว ดีใจไหมคะ?”
“เห็นเธอแล้วดีใจยิ่งกว่า”
“……”
ไวยาตย์ทนดูต่อไปไม่ไหว จึงรับเดินไปชั้นบนเพื่อเก็บข้าวของทันที
ธามนิธิถอดชุดคลุมออกและเดินไปเข้าห้องน้ำ โทรศัพท์มือถือของเขายังคงอยู่ในกระเป๋าเสื้อ ปาณีได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเลยรับสาย ยังไม่ทันจะได้เอ่ยพูด ก็ได้ยินเสียงติรยาลอยออกมาตามสาย “คุณลุงธามนิธิ ได้ยินว่าคุณกลับมาเมืองชยุตแล้ว ให้ฉันเลี้ยงข้าวคุณนะคะ! ก่อนหน้านี้คุณช่วยฉันไว้มาก ฉันรู้สึกเกรงใจอยู่ไม่น้อย”
“…….”ปาณีคิดไม่ถึงเลยว่าติรยาจะกล้าโทรหาธามนิธิแบบนี้
ธามนิธิเดินเข้ามา มองเห็นในมือเธอกำลังถือโทรศัพท์ของตนอยู่จึงเอ่ยถาม “ใครโทรมา?”
“ติรยาค่ะ เธอนัดคุณทานข้าว”รายการแข่งขันใกล้จะถึงบทสรุปเข้ามาแล้ว ติรยานั้นเป็นผู้ถูกคัดเลือกเป็นสี่คนในรอบสุดท้าย ต่อให้ไม่ได้รางวัลมาแต่ก็เปลี่ยนแปลงเรื่องที่เธอได้เข้าสู่วงการบันเทิงไปแล้วเรียบร้อยไม่ได้
ถึงจะบอกว่าวงการบันเทองนั้นช่างซับซ้อน แต่ตอนนี้เธอไม่มีอะไรให้เสียอีก อีกทั้งยังต้องการเงิน จึงต้องเลือกเดินเส้นทางนี้เท่านั้น
หลังจากปาณีพูดจบก็มองหน้าธามนิธิโดยตลอด เขาเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “ช่วยฉันปฏิเสธเธอให้หน่อยละกัน ก็แค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น”
ราวกับว่าเป็นแค่คนที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร
ปาณีได้รับความเห็นชอบแล้วจึงเอ่ยกับติรยาที่อยู่ในสาย “คุณอาไม่มีเวลาว่าง แถมนี่ก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น เธออย่าได้เก็บไปใส่ใจ”
ได้ยินเสียงของปาณี คิรยาก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะรีบเอ่ย “โอเค งั้นฝากขอบคุณเขาด้วยนะ”
หลังจากนั้นเธอก็วางสายไป
ธามนิธินั่งลงข้างๆปาณีเรียบร้อยแล้ว ปาณีหันไปมองเขาด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน ธามนิธิเห็นจึงเอ่ยถาม “เป็นอะไรไป?”
ปาณีเอ่ย “ติรยาคล้ายว่าจะสนิทกับคุณอยู่บ้าง ปกติเธอติดต่อคุณอยู่ไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ?”
เธอเดาไม่ผิด ที่ติรยาดังขึ้นมาขนาดนี้ ที่แท้เกี่ยวข้องกับคุณอาจริงๆ
ในตอนนั้นเขาบอกกับเธอถึงเรื่องพวกนี้ แต่ปาณีคิดไม่ถึงเลยว่าธามนิธิจะช่วยเหลือเธอ
ตอนที่ธามนิธิยังไม่กลับมา ปาณีก็คิดอยากจะเอ่ยถาม แต่ก็รู้สึกว่าถามไปก็คงจะไม่ดีนัก
ตอนนี้เขากลับมาแล้ว บวกกับสายนี้ที่โทรเข้ามา ปาณีจึงเอ่ยถามเขาออกมาตรงๆ
ธามนิธิมองดูปาณี “ไม่เคย นี่เป็นครั้งแรก”