MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม - ตอนที่ 581-585
ตอนที่581
เป็นเพราะว่าเขาไม่รู้ชื่อจริงของปาณี เด็กสมาร์ทก็เลยแนะนำเธอด้วยชื่อที่เธอใช้ในโลกโซเชียล
พอได้ยินชื่อแอนเดรีย ทัดธนก็ชะงักไปชั่วครู่ เเละหันไปมองที่ปาณี
สำหรับนายทัดธน นอกเหนือจากที่ปาณีเคยพูดไว้เเล้วนั้น เขายังมีสถานะอื่นอีกด้วย เขาเป็นอาของเวทัส เเละเป็นน้องชายของนพรุจ
ในขณะเดียวกัน บริษัทบีเอ็มก็ถือเป็นบริษัทย่อยภายใต้การดำเนินงานของบริษัทยูจี ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัด
เพราะว่าก่อนหน้านั้น มีข่าวลือเเพร่สะบัดในโลกโซเชียลว่าแอนเดรียออกมาแฉ นลิน มีสุวรรณ์ เเล้วยังแฉเรื่องชู้สาวของชลธีอีก บริษัทบีเอ็มก็ได้รับผลกระทบไปไม่น้อย
เมื่อไม่กี่วันก่อน ทางบอร์ดบริหารบริษัทก็พากันพูดถึงเรื่องนี้ไม่หยุดหย่อน เรื่องส่วนตัวของพ่อลูกบ้านมีสุวรรณ์ลามมาถึงบริษัท ทำให้คณะกรรมการบอร์ดบริหารรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ต่อมาได้ยินว่า ทั้งๆที่รู้ว่าผิดแต่ชลธีก็ยังจะทำ เขาพาผลิดาเข้ามาอยู่ในบ้านมีสุวรรณ์ด้วย ซึ่งทัดธนก็เป็นคนเข้ามาจัดการเรื่องนี้
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ผลิดาก็ได้ถูกพาตัวไปทำแท้ง
สำหรับชลธีเเล้ว ทัดธนถือว่าเป็นคนที่พูดจาอะไรก็มักจะมีน้ำหนักเสมอ
เเละจากที่ธามนิธิได้ปะติดปะต่อเรื่องราวดูเเล้วนั้น ถ้าหากไม่ใช่ทัดธนเเล้วล่ะก็ ป่านนี้บริษัทบีเอ็มจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้
จนถึงตอนนี้ ข่าวคราวบนโลกโซเชียลเรื่องที่ชลธีไปมีชู้กับคนอื่น มันได้ผ่านช่วงที่เรียกว่าอื้อฉาวจนกลายเป็นประเด็นร้อนเเรงไปแล้ว ทุกวันนี้คนเริ่มพูดถึงเรื่องนี้น้อยลงๆ นั่นก็เป็นผลมาจากการใช้เส้นสายของเขาทั้งนั้น
เเต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ได้ยินมาว่าแอนเดรียนั้นเป็นผู้ชาย เเต่ที่จริงแล้วกลับกลายเป็นผู้หญิงซะได้ ?
ปาณีมองไปที่ทัดธน เธอพูดกับเขาด้วยท่าทีค่อนข้างประหม่า ” สวัสดีค่ะ ”
หลังจากที่มีข่าวเรื่องชลธีออกมา ปาณีถึงได้รู้ว่าที่เเท้บริษัทบีเอ็มก็เป็นของบ้านมีสุวรรณ์นี่เอง
เเละเพิ่งได้รู้ว่าบ้านมีสุวรรณ์นั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน รวมไปถึงสถานะของเธอกับธามนิธิเองก็มีความเเตกต่างกันมาก
เเต่เธอก็รู้ว่าทัดธนนั้นไม่เหมือนกับนลิน มีสุวรรณ์
อย่างน้อยๆสิ่งที่เขาทำลงไป ก็เพื่อธุรกิจของเขา
ทัดธนมองมาที่ปาณี เขารู้ดีว่าเธอเป็นใคร——ภรรยาของธามนิธิ ไม่ใช่สิ ต้องเรียกว่าอดีตภรรยาถึงจะถูก
เมื่อตอนที่ธามนิธิเเต่งงาน เขาก็ได้ให้คนจัดการเรื่องซองงานเเต่ง เเต่ตัวเขาเองก็ไม่ได้มาร่วมงาน เเละในตอนท้ายก็เห็นในรูปที่คนอื่นๆเเชร์กัน
ทัดธนยื่นมือออกไปอย่างสุภาพ เเละพูดกับปาณี ” สวัสดีครับ ได้ยินชื่อเสียงของคุณมานาน ยินดีที่ได้พบนะครับ ”
เขาเป็นผู้ชายวัยสามสิบกว่าๆ นิ้วมือเรียวยาว มองดูสะอาดสอ้าน ท่าทางสุภาพสำรวม เเละดูภูมิฐาน
ตัวจริงเขาดูดีมีสง่ามากกว่าที่เคยเห็นในทีวี
ถูกเขายกย่องชื่นชมเอาแบบนี้ ยิ่งทำให้ปาณีทำตัวไม่ถูก ” ฉันเองค่ะ เมื่อนานมาเเล้วฉันเคยดูคุณทัดธนกล่าวสุนทรพจน์ออกทีวีด้วยค่ะ ”
เมื่อเปรียบเทียบกับนพรุจที่ไม่เคยปรากฏตัวต่อสาธารณะเเล้ว ทัดธนก็จัดอยู่ในระดับแนวหน้าที่มักจะโลดเเล่นปรากฏตัวอยู่ตามหน้าจอทีวี รวมไปการเป็นบุคคลสำคัญที่มักจะขึ้นหน้าหนึ่งนิตยสารรายสัปดาห์อีกด้วย
เเละยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเบอร์หนึ่งของท่านประธาน ที่เป็นขวัญใจสาวๆ เเละมีสาวๆอยากจะเเต่งงานด้วยมากที่สุด
” อย่างนั้นเหรอ ?แล้วผมพูดอะไรไปบ้างนะ ?” ท่าทางของทัดธน ดูไม่มีท่าทีวางมาดหรืออวดเบ่งแต่อย่างใด เเต่ตัวเขาเองก็จัดเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่จับตามองในอันดับต้นๆของประเทศ ทำให้ผู้คนต่างก็เคารพยำเกรง
ปาณีตอบเขาว่า ” คุณพูดว่า เมื่อคนเราอยากได้สิ่งใด ก็ต้องกล้าคิดกล้าทำ ถ้าหากสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ตัวเองไม่กล้าแม้เเต่จะคิด ก็คงไม่มีใครเอามาวางประเคนไว้ให้ตรงหน้าหรอก เเละเพราะคุณนี่เอง ถึงทำให้ได้ฉันรู้ว่าอะไรคือกฎแห่งแรงดึงดูด ”
” อย่างนั้นรึ ?ทัดธนหัวเราะชอบใจ ” ดูเเล้ว คุณน่าจะเป็นคนที่ชอบนำความรู้เเละประสบการณ์จริงมาเขียนเป็นเรื่องราวสินะ ”
” ใช่เเล้วค่ะ ” ปาณีพูดต่อไป ” คำพูดเหล่านั้นของคุณ มีอิทธิพลต่อฉันมากเลยค่ะ ”
เมื่อตอนที่เธออยู่ ม.3 ซึ่งเป็นวัยหัวเลี้ยวหัวต่อของเธอนั้น คำพูดของทัดธนเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่เข้าไปปลูกฝัง บ่มเพาะอยู่ในจิตใจของเธอนับตั้งเเต่นั้นมา
ในบางครั้งที่เธอรู้สึกว่าชีวิตท้อเเท้ ไม่รู้จะไปต่อทางไหน เเต่เมื่อนึกถึงคำพูดของเขา มันทำให้เธอมีแรงบันดาลใจที่จะก้าวต่อไปอีกครั้ง
มิเช่นนั้น เมื่ออยู่ภายใต้อิทธิพลความคิดของฝนสิริ ปาณีก็ไม่รู้ว่าเธอจะเลือกทางเดินชีวิตในแบบไหนไปแล้ว
ตอนที่582
ทัดธนบอกกับเธอว่า ” ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากครับ ”
ตรีวิทย์ยืนมองปาณีพูดคัยกับทัดธนอยู่ข้างๆ เห็นได้ชัดว่า เหมือนเธอจะชื่นชมในตัวทัดธนเอามากๆ
” ทัดธน ” จังหวะที่พวกเขากับสนทนากันอยู่นั้น นลิน มีสุวรรณ์ ก็เดินเข้ามาทักทายเขา ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ว่างอยู่
หลังจากนั่งลงไปเเล้ว เมื่อนลินก็ได้เห็นปาณีก็ชะงักไปชั่วครู่ ” ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ?”
ปาณีที่ไม่ชอบนลิน มีสุวรรณ์เป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว เมื่อเห็นเธอมาปรากฏตัวอยู่ข้างๆคนที่ตัวเองรู้สึกชื่นชมมากๆ ยิ่งทำให้ปาณีรู้สึกแปลกๆชอบกล
เเต่นลิน มีสุวรรณ์ก็เป็นของเค้าแบบนั้น เป็นคนที่มีมิตรสหายอยู่เยอะเเยะมากมาย
เธอคือผู้บริหารใหญ่ของบริษัทยูจี ส่วนบริษัทบีเอ็มนั้นเป็นของบ้านมีสุวรรณ์
ถึงเเม้ว่าตำเเหน่ง CEO ของทัดธน จะได้มาโดยการเสนอชื่อจากบอร์ดกรรมการบริษัทให้ได้รับดำรงตำแหน่ง เเต่ทว่าพ่อของนลิน มีสุวรรณ์คือประธานกรรมการบริษัทบีเอ็ม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดในบริษัท
ดังนั้น พวกเขาก็ต้องรู้จักกันดีอย่างแน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้น ทัดธนยังช่วยโน้มน้าวพ่อของเธอ ทำให้พ่อของเธอจัดการให้ผลิดาออกไปอยู่ที่อื่น เเละไปรับแม่ของเธอกลับมา
เธอก็เลยรู้สึกขอบคุณทัดธนเป็นอย่างมาก
ทัดธนตอบแทนปาณีไปว่า ” เพื่อนผมเอง ”
เพราะเขารู้จักกับตรีวิทย์ เเละเมื่อตรีวิทย์เป็นเเนะนำให้รู้จัก ดังนั้นถ้าจะพูดว่าเธอเป็นเพื่อนของเขามันก็ไม่ผิด
นลินขำออกมาเบาๆ ” คุณปาณีนี่ก็สอดแทรกไปได้ทุกที่เลยนะคะ เพิ่งจะหย่ากับคุณธามนิธิไปหยกๆ ตอนนี้คงไม่ได้กำลังจะเล็งๆหันมาซบอกคุณทัดธนหรอกนะคะ ?”
เมื่อเธอพูดจบ ก็รู้สึกได้ว่าทัดธนหันมามองที่เธอเเวบหนึ่ง
นลินรีบหุบปากทันที
เเต่ไหนเเต่ไรมา นลินก็รู้สึกไม่ค่อยชอบทัดธนอยู่เเล้ว เพราะทัดธนดูเหมือนจะเป็นคนที่พูดจาดี เเต่เมื่อไหร่ที่เขาซีเรียสจริงจังขึ้นมา เขาก็เป็นคนที่เกรี้ยวกราดมากๆ
เขาเป็นผู้ชายที่ไม่เคยสนใจในรูปลักษณ์ความงามของนลิน มีสุวรรณ์ เเละไม่ยอมรับในความหยิ่งยโสของเธอด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเหมือนจะอ่านเธอได้อย่างทะลุปรุโปร่งอยู่ตลอด เลยทำให้นลินรู้สึกอึดอัดอยู่เสมอ
ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเรื่องในครั้งนี้ ในสถานการณ์ปกติเธอก็ไม่คิดอยากจะพูดคุยติดต่ออะไรกับเขาทั้งนั้น
ทัดธนพูดกับปาณี ” อย่าไปถือสาเลย ช่วงนี้เธอคงอารมณ์ไม่ค่อยดีนะ ”
ปาณีหันไปมองทางนลิน มีสุวรรณ์ ก่อนจะตอบด้วยท่าทางสุขุมเเละใจเย็น ” ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้ติดใจอะไรหรอกค่ะ อาจารย์นลินเองก็ไม่ควรจะเก็บมาใส่ใจ ตอนนี้ดูไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ฉันเคยรู้จักคุณเลย ”
เเต่ก่อนเธอเสเเสร้งออกจะเก่ง เเล้วตอนนี้เลิกเสเเสร้งแล้วอย่างนั้นเหรอ ?
คำพูดประโยคนี้ของปาณีทำเอานลินนิ่งแข็งทื่อไปเลย จนเธอกลับมาย้อนนึกว่าตัวเองพูดอะไรกับปาณีเอาไว้ ก็ยิ่งทำให้สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปจากเดิม
นี่ตัวเธอเองขาดสติสัมปชัญญะ จนเผลอเปลี่ยนเป็นคนแบบนี้ไปตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน ?
นี่มันไม่ใช่เธอ !
เธอไม่ควรแสดงกิริยาแบบนั้น
นลินลุกขึ้นยืน สายตาพลันได้เห็นเปียโนตัวหนึ่งตั้งอยู่ เธอจึงเดินไปตรงนั้นเเละเริ่มบรรเลงเปียโนเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
ในไม่ช้าเธอก็ใช้วิธีนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคนได้
ผ่านไปครู่หนึ่ง นลินจึงเดินกลับมา เธอมองมาที่ปาณี ” คุณปาณีอยากลองสักหน่อยมั๊ยคะ ?”
นี่เธอกำลังยั่วยุอยู่อย่างนั้นหรือ !
นลินรู้ดีแก่ใจว่าปาณีเล่นเปียโนไม่เป็น
ได้ยินว่าตั้งเเต่เป็นเด็กปาณีก็ใช้ชีวิตอย่างลำบากยากเข็ญ บรรดาลูกคนมีเงินเมื่อเลิกเรียนก็ได้ไปเรียนพิเศษ ฝึกฝนทักษะต่างๆ เเต่ปาณีต้องรีบกลับบ้านเพื่อไปช่วยแม่ทำงานบ้าน
ด้วยสิ่งเเวดล้อมในวัยเยาว์ของเธอสองคน ก็ย่อมตัดสินได้เเล้วว่าเธอทั้งคู่นั้นเเตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ดังนั้นนลินจึงไม่ได้รู้สึกว่า การทำให้ปาณีเลิกรากับธามนิธิ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องแต่อย่างใด
เเต่ปาณีก็ไม่ได้โง่ ทำไมเธอจะมองไม่ออกว่านลินกำลังขุดหลุมพรางดักทางเธอไว้ ” ฉันคงไม่ขอร่วมวงความสนุกครื้นเครงนี้ด้วยล่ะค่ะ ”
” อย่าบอกคะนะว่าระดับคุณปาณี แม้เเต่เปียโนก็ยังเล่นไม่เป็น ?” นลินพูดพลางเลิกคิ้ว
จงใจหยิบยกเอาสิ่งที่ปาณีทำไม่ได้มาพูดให้เธอต้องลำบากใจ นี่มันเจตนาหาเรื่องกันชัดๆ
ธีระที่ยืนอยู่ข้างๆ เห็นนลินกำลังจงใจทำให้ปาณีอึดอัด ก็เลยพูดออกไปว่า ” เล่นเปียโนไม่เป็นก็ไม่เห็นจะเป็นไรเลย สมัยผมเป็นเด็กผมก็ไม่ชอบเล่นเปียโน ก็เลยไม่คิดอยากเรียน ”
ตอนที่583
” ถ้าอย่างนั้น มีอะไรที่คุณปาณีพอจะทำเป็นบ้างล่ะคะ ?” นลินทำเป็นมองหน้าปาณีด้วยความสงสัย
ปากก็พูดเหมือนจะสงสัย เเต่ที่จริงก็ตั้งใจที่จะเย้ยหยันใส่ปาณี ว่าอะไรๆเธอก็คงทำไม่เป็นทั้งนั้น เเต่กลับทำตัวเพ้อฝันคิดอยากจะอยู่กับธามนิธิ
เธอมีสิทธิ์อะไรถึงกล้าคิดแบบนั้น ?
ปาณีนิ่งเงียบไม่ตอบโต้ ได้เเต่มองหน้านลินอย่างเงียบๆ
เธอรู้ดีว่า ไม่สามารถเอาตัวเธอเองไปเปรียบเทียบกับคนอย่างนลิน มีสุวรรณ์ได้
สมัยก่อน นลิน มีสุวรรณ์ก็เคยได้รับสมญานามมาตลอดว่า เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในเมืองชยุต
นลินหัวเราะออกมาเบาๆ :” แหม่ ถ้าทำให้คุณปาณีรู้สึกประหม่าแบบนี้ ถ้างั้นก็ถือว่าเมื่อสักครู่นี้ดิฉันไม่ได้พูดอะไรออกไปก็แล้วกันนะคะ !”
เธอก็เเค่อยากจะให้ปาณีได้รู้ตัวเองว่า เธอกับธามนิธิน่ะเเตกต่างกันขนาดไหน จะได้ไม่ต้องมาปรากฏกายอยู่เคียงข้างธามนิธิอีก
อย่างไรก็ตาม เมื่อปาณีได้ยินประโยคนั้นของนลิน มีสุวรรณ์ เธอก็เลยลุกขึ้นยืนเเล้วพูดว่า ” ถ้าหากคุณนลิน มีสุวรรณ์อยากฟังมากขนาดนี้เเล้วฉันปฏิเสธ ก็คงจะผิดแปลกมนุษย์มนาทั่วไปเกินไปหน่อย จริงมั๊ยคะ ?”
นลินยืนตัวเเข็งทื่อ นั่นหมายความว่า ปาณีตอบตกลงอย่างนั้นหรือ ?
ยังไม่ทันรอให้นลินได้เอ่ยปากพูดอะไรต่อ ปาณีก็เดินไปถึงเปียโนเเละนั่งลงตรงนั้นเรียบร้อย
ธามนิธิก็ได้เห็นฉากนี้เเล้วด้วยเช่นกัน สายตาเขาจดจ้องไปที่ปาณี
นลินก็มองจ้องไปที่เธอ เเละไม่เชื่อว่าปาณีจะเล่นเปียโนได้จริงๆ
เพราะก่อนหน้านี้เธอก็รู้เรื่องของปาณีอย่างชัดเจนมาโดยตลอด
เเละไม่มีวันเชื่อว่า ผู้หญิงอย่างปาณีจะเล่นเปียโนเป็นจริงๆ
ในวินาทีนั้น ทุกคนก็ได้เห็นปาณีบรรจงวางนิ้วเรียวยาวของเธอลงบนคีย์บอร์ดเปียโน จากนั้นก็เริ่มบรรเลงด้วยความสงบสุขุมเยือกเย็น
ชั้นบนของสวนจตุจักร ยังมีเปียโนที่ธามนิธิเคยซื้อให้เธอตั้งวางไว้อยู่ ทุกๆสัปดาห์จะมีครูมาสอนเปียโนให้แก่เธอ เเละธามนิธิเองก็มักจะสอนเธออยู่บ่อยๆด้วย
แต่หลังจากที่เธอหย่ากับธามนิธิเเล้ว ปาณีก็ไม่ได้เล่นเปียโนอีกเลย
ปาณีคิดถึงไม่เลยว่า นลินคิดว่าจะใช้เรื่องเปียโนเพื่อทำให้เธอต้องรู้สึกลำบากใจแบบนี้
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ปาณีคงจะเสร็จกับดักของนลินเเน่ๆ เเต่ทว่าตอนนี้นลินดูจะคิดมากไปจริงๆ
ปาณีกลับไม่คิดว่าตัวเธอเองคู่ควรกับคำสบประมาทเย้ยหยันของนลินเอาซะเลย
เธอไม่ได้ไร้พรสวรรค์ซะหน่อย เธอเเค่ไม่มีโอกาสก็เท่านั้นเอง
ถ้าหากเธอมีโอกาสได้ร่ำเรียน เธอก็อาจจะไม่ได้แย่กว่าคนอื่นๆซะด้วยซ้ำ
หากเเต่เพียงเพราะว่า เธอไม่ได้เกิดมาเยี่ยงคุณหนูตระกูลมีสุวรรณ์ ที่เกิดมาพร้อมกับทุกสิ่งที่เพียบพร้อม ทำให้เธอต้องมาโดนดูถูกเหยียดหยามอย่างนั้นหรือ ?
ยิ่งนลินทำแบบนี้กับเธอ กลับทำให้เธอรู้สึกขบขันมากขึ้นไปอีก
เมื่อบทเพลงเเรกบรรเลงจบไป ปาณีจึงลุกขึ้นยืนเเล้วเดินไปทางนลินที่อยู่ข้างๆ ก่อนจะยิ้มออกมาเบาๆ ” คุณนลินพอใจเเล้วรึยังคะ ?”
นลินทำหน้าเหวอ ” นี่เธอเล่นเปียโนเป็นด้วยเหรอ ?”
ปาณีพูดพลางเลิกคิ้ว ” นี่ก็เป็นเพลงในสิทธิบัตรของคุณนลินด้วยใช่มั๊ยคะ ?”
นลินตอบไปว่า ” เมื่อก่อนเธอเล่นไม่เป็น ”
ปาณีไม่รู้ว่านลินไปได้ยินที่ไหนมา เเต่เมื่อก่อนเธอก็เล่นไม่เป็นจริงๆ
ปาณีเปลี่ยนการแสดงท่าทางเป็นสีหน้าอันเคร่งขรึม ” ใช่ค่ะ เมื่อก่อนฉันก็เล่นไม่เป็นหรอกค่ะ ฐานะของบ้านฉันไม่ดีพอที่จะส่งให้ฉันไปเรียน และเเม่ของฉันก็ไม่มีปัญญาที่จะซื้อเปียโนให้ฉันหรอกค่ะ เพราะแม่ฉันไม่มีเงิน สำหรับครอบครัวของฉันเเล้ว การได้มีข้าวกิน ได้เรียนหนังสือ เเค่นี้ก็ถือว่าดีมากเเล้วล่ะค่ะ แต่ว่าอะไรที่เเต่ก่อนฉันทำไม่เป็น ฉันก็ค่อยๆศึกษาเรียนรู้ไปในภายหลังได้นี่คะ ไม่เห็นมันจะน่าละอายตรงไหน ?จริงมั๊ยคะ คุณทัดธน ?”
พูดจบ ปาณีก็หันไปมองที่ทัดธน
ถ้าหากจะเปรียบว่านลิน มีสุวรรณ์ คือดอกกุหลาบในสวนหรูที่งามพริ้งพราย ปาณีก็คงคล้ายกับเป็นดอกหญ้าป่า ที่ผลิดอกเบ่งบานในฤดูใบไม้ผลิ
หญิงสาวที่มองดูเเสนจะบอบบาง เเต่กลับไม่ย่อท้อที่จะฟันฝ่าอุปสรรค
ยิ่งทำให้ผู้คนอยากจะปกป้องทะนุถนอมเธอ :” อืม ไม่มีใครที่เก่งมาตั้งเเต่เกิดหรอก ต้องเกิดมาเเล้วถึงค่อยทำสิ่งนั้นได้ คนเราก็ต้องมีการศึกษาเรียนรู้ ต้องอยู่ไปจนแก่เฒ่า คุณปาณีสติปัญญาช่างเฉียบคม ”
เมื่อสักครู่ตอนที่ได้เห็นปาณีถูกนลินรังแกอยู่นั้น ทัดธนก็รู้สึกแอบเป็นห่วงอยู่เหมือนกัน เพราะนลินต้องรู้อยู่แก่ใจดีอยู่เเล้วว่าปาณีเล่นเปียโนไม่เป็น ถึงได้พยายามเอาเรื่องนั้นมาจี้จุดเธอ
ตอนที่584
คิดไม่ถึงว่า ปาณีจะเล่นเปียโนได้ เเถมยังเล่นได้ดีแบบไม่มีผิดเพี้ยนซะด้วย ทำเอานลิน มีสุวรรณ์ถึงกับหน้าเเตกเลยทีเดียว
ที่สำคัญก็คือ เขาก็คาดไม่ถึงว่าปาณีจะเป็นคนฉลาดมีไหวพริบได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่ตัวเองเล่นเปียโนได้ เเต่กลับจงใจแกล้งทำเป็นว่าตัวเองเล่นไม่เป็น
รอจนโดนคนอื่นรังแกหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่ยอมลดลาวาศอก เธอถึงตอบโต้กลับ
ทุกสิ่งที่ปาณีแสดงออกมานั้น ล้วนอยู่ในสายตาของของผู้คนที่อยู่บริเวณนั้น
เเต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะรู้จักตัวตนของเธอ มีบางคนถึงกับถามด้วยความสงสัย ” นั่นใครอ่ะ ?”
ถ้าถึงขนาดพูดคุยกับคุณหนูแห่งบ้านมีสุวรรณ์ได้ ก็คงไม่น่าจะใช่คนธรรมดาๆทั่วไป
” ภรรยาของคุณธามนิธิไง ไม่ใช่สิ น่าจะเรียกว่าอดีตภรรยามากกว่า เพราะเค้าสองคนหย่ากันเเล้ว ”
” ได้ยินว่าภรรยาของคุณธามนิธิ เป็นหญิงสาวที่มาจากชนบทไม่ใช่เหรอ ?ฉันว่าเค้าก็ดูดีใช้ได้เลยนะ ” ดูบุคลิกดีหน้าตาสะสวย เเต่ก็ต่างคนต่างมุมมอง ปาณีเป็นสาวที่ดูดี มีความเป็นธรรมชาติ ยิ้มแย้มเเจ่มใส ในสายตาของผู้ที่พบเห็นจากตรงนั้น เธอดูไม่ด้อยไปกว่านลิน มีสุวรรณ์เลย
เเละยังมีคนพูดอีกว่า : ” ไม่คิดว่าเธอจะหย่ากับคุณธามนิธิเลยนะ น่าเสียดายจัง ! ”
” ก็ใช่น่ะสิ !รูปร่างหน้าตาก็ไม่ได้ดูเเย่ เมื่อก่อนตอนที่คุณธามนิธิยังนั่งวีลเเชร์อยุ่น่ะ เธอก็ไม่เคยรังเกียจเลย เทียบกับคนของบ้านมีสุวรรณ์คนนั้นนะ เธอคนนี้ดีกว่าเป็นไหนๆ
พวกคนที่เมื่อก่อนเคยหัวเราะเยอะใส่ปาณีเอาไว้ มาบัดนี้เมื่อได้เห็นอีกด้านหนึ่งของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะพากันสรรเสริญเยินยอปาณี
ธามนิธิที่นั่งอยู่ตรงนั้น เมื่อได้ยินคนเหล่านั้นกำลังพูดถึงภรรยาตน ก็อดไม่ได้ที่จะยกมุมปากเผลอยิ้มออกมา
ถึงแม้ว่าในสายตาของคนอื่นๆมองว่าเป็นเพราะเขาที่ทิ้งเธอไป เเต่เขากลับไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ดีตรงไหน
ตราบใดที่พวกเขาไม่ใช้สายตาเหมือนเมื่อก่อน ในการมองดูเเละวิพากษ์วิจารณ์ผู้หญิงของเขา รวมทั้งให้พวกเขาได้รับรู้ถึงสิ่งดีๆในตัวเธอ ตัวเขาเองก็ยินดีที่จะรับคำตำหนิติเตียนแบบนั้นได้
ขณะที่นลิน มีสุวรรณ์กำลังเดินออกจากห้องโถงนั้น เธอก็ได้ยินหลายๆคนยังคงพูดคุยถึงปาณีอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นบางคนถึงขั้นพูดว่าปาณีดีกว่าเธอ ทำเอานลินโมโหจนแทบจะระเบิดออกมา
เห็นชัดๆว่าเธออยากจะทำให้ปาณีต้องอับอายขายหน้า แต่กลับนึกไม่ถึงว่า แทนที่ปาณีจะเสียหน้า เธอกลับฉวยโอกาสนี้ให้ได้หน้าแทน
เมื่อนลินกลับออกมาจากห้องน้ำก็เห็นธามนิธิอยู่ตรงนั้น เธอจึงเดินเข้าไปหาเขา ” ธามนิธิ ”
เขาหันไปมองเธอเเวบหนึ่ง ทำไมเขาจะดูไม่ออกล่ะว่าเมื่อสักครู่นี้นลินจงใจที่จะกลั่นแกล้งปาณี ?
เขาก็เเค่คิดไม่ถึงว่า จนป่านนี้เเล้วทำไมนลินยังไม่ยอมเลิกราเสียที
” ขอบคุณ ”
จู่ๆ ธามนิธิก็พูดโพล่งออกมา
นลินไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดขอบคุณใส่เธอ ” อะไรนะ ?”
ธามนิธิพูดอย่างจริงใจว่า : ” ถ้าหากไม่ใช่เพราะคุณ คนพวกนั้นจะรู้ได้อย่างไงว่าปาณีน่ะดีเเค่ไหน ?ผมก็เลยขอบคุณคุณไง ”
นลินยืนนิ่งตัวเเข็งทื่อ คำพูดประโยคนี้ของธามนิธิทำให้เธอรู้สึกเจ็บใจเหมือนโดนตบหน้ายังไงยังงั้น เธอพูดกับเขาด้วยความกังวลใจว่า ” ธามนิธิ คุณคงไม่ได้ยังชอบเธออยู่ใช่ไหม ?”
ถึงแม้พวกเขาจะหย่าจากกันเเล้ว เเต่วันนี้นลินก็ได้เห็นตอนที่ปาณีกำลังถูกรังแก เเละก็เป็นธามนิธิที่ออกหน้าช่วยเธอ
นลินยังรู้สึกอยู่เสมอว่า ธามนิธิยังคงมีความรู้สึกดีๆให้กับปาณีอยู่
ไม่น่าจะใช่ความรัก เเต่พอนึกถึงที่เขาเคยทำดีต่อปาณีขนาดไหน ก็ยิ่งทำให้นลินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลใจขึ้นมา
นลินอดใจไม่ได้ที่จะพูดว่าร้ายให้ปาณี :” ปาณีเพิ่งจะเเยกทางกับคุณแท้ๆ มาตอนนี้ก็ไปเข้าหาคุณทัดธน ผู้หญิงแบบนั้นน่ะ เพื่อความสำเร็จของตัวเองก็เลยต้องยอมทำทุกอย่าง เเต่ก็โทษเธอไม่ได้หรอกนะ ใครใช้ให้เธอโตมาด้วยสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่เพียบพร้อมเองล่ะ ?ฉันก็เเค่หวังว่า คุณคงไม่ไปเห็นอกเห็นใจมันให้มากนัก ”
ธามนิธิถือแก้วน้ำอยู่ในมือ ก่อนจะหันไปมองที่นลิน ” คุณหนูมีสุวรรณ์ลดตัวลงมาถึงขั้นหัดพูดว่าร้ายใส่คนอื่นตั้งเเต่เมื่อไหร่กัน ?”
ก่อนหน้านี้ ถึงเเม้ว่านลินจะถอนหมั้นเเล้วหนีไป เเต่เธอจัดเป็นคนที่มีสไตล์มากคนหนึ่ง เเละไม่ลดตัวลงมาทำเรื่องแบบนี้แน่ๆ
ตอนที่585
ไม่คิดเลยว่าเดี๋ยวนี้เธอชักจะทำตัวน่าเกลียดขึ้นไปทุกที
นลินกัดริมฝีปากตัวเอง คำพูดจากปากของเขาทำให้เธอรู้สึกแย่มาก
แต่จะทำอย่างได้ เมื่อปาณียิ่งกลับเข้ามาอยู่ใกล้เขามากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งทำให้เขาหันมาใส่ใจในตัวปาณีมากยิ่งขึ้น
นลินกัดปากตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้นว่า ” ฉันก็เเค่กลัวว่าคุณจะถูกผู้หญิงคนนั้นหลอกเอาอีก กว่าจะแยกทางกันได้ก็ไม่ง่ายเลย ถ้าจู่ๆเธอจะกลับเข้ามาหาคุณอีก เเล้วคุณเกิดใจอ่อนขึ้นมาจะทำยังไง ?”
” มันก็เรื่องของผม เเล้วคุณมายุ่งอะไรด้วย ?”
เมื่อเห็นเขาเริ่มโกรธ นลินจึงรีบหลบเลี่ยงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาในทันที :” ธามนิธิ อาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดของจอมพลนรเทพ คุณจะไปด้วยรึเปล่า ?พวกเราไปด้วยกันมั๊ย ?”
ปาณีคิดว่านลินไปแล้ว เเต่ที่ไหนได้เธอยังอยู่ เเล้วยิ่งเห็นเธอกำลังคุยอยู่กับธามนิธิโดยในมือหนึ่งเธอก็ถือเครื่องดื่ม อีกมือหนึ่งก็ถือโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะกดส่งข้อความไปหาเขา ” คุณกำลังทำอะไรคะ ?”
ผู้หญิงเเพศยาคนนั้นมีสิทธิ์อะไรไปอยู่ข้างๆเขา ?
เขาดูไม่ออกหรือยังไงกันนะ ว่าเมื่อกี้นี้นลิน มีสุวรรณ์ต้องการจะฉีกหน้าเธอชัดๆ ?
โครตเกลียดเลย
ธามนิธิอ่านดูข้อความเเล้วก็อดไม่ได้ที่อมยิ้ม เขารู้ว่าแม่สาวน้อยของเขากำลังหึงเขาอยู่
เขาจึงส่งข้อความกลับไปหาเธอ ” กำลังคิดถึงคุณอยู่ไง ”
” …… ” หลังจากได้อ่านที่เขาส่งกลับมา ใบหน้าหดหู่เศร้าหมองของปาณี ก็ดูมีประกายของความอบอุ่นเพิ่มขึ้นมาหน่อย ” ไม่เชื่อ ”
” รีบมานี่เลย มาช่วยเอาเธอไปให้พ้นๆหน่อยเถอะ รำคาญจะแย่อยู่เเล้ว ” ธามนิธิดูรำคาญสุดๆ
การได้เจอกับคนอย่างนลิน มีสุวรรณ์ มันช่างน่าปวดหัวจริงๆ ก็เพราะเหตุนี้ ทุกวันนี้เขาถึงไม่อยากจะไปออกงานลี้ยงต่างๆ ที่มีโอกาสจะได้พบเจอกับนลิน มีสุวรรณ์
ปาณีอ่านจากข้อความที่เขาส่งมา ก็รับรู้ถึงความรู้สึกรังเกียจที่เขามีต่อนลิน เธอจึงรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ” จัดการเอาเองเถอะค่ะ ”
นลิน มีสุวรรณ์นั่งอยู่ข้างๆธามนิธิ ตาก็มองดูที่เขา โดยไม่รู้ว่าเขากำลังคุยกับใครอยู่ เเต่ดูท่าทางเขาจะแฮปปี้มากซะด้วย จนไม่สนใจในตัวเธอเลยแม้เเต่น้อย
” ธามนิธิ ?” นลินพยายามพูดโน้มน้าวเขา :” จอมพลนรเทพคิดถึงคุณมากเลยนะ คุณก็ไปสักหน่อยเถอะ !เดี๋ยวฉันไปกับคุณด้วย ”
” ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปกะเเฟนของผม ” ธามนิธิตอบอย่างไม่ใยดี
” เเฟนเหรอ ?” นลินมองหน้าเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ” นี่คุณ …… มีเเฟนเเล้วเหรอ ?”
ทำไมเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ?
เขาเพิ่งจะหย่าได้ไม่กี่วันเอง ทำไมถึงมีแฟนใหม่เเล้วล่ะ ?
ธามนิธิมองดูนลิน ที่กำลังทำหน้าเหวออยู่ในตอนนี้ ” ถึงตอนนั้นคุณก็รู้เองแหละ ”
คำพูดของเขาทำให้น้านลินถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว
ตอนเเรกก็คิดว่าการที่เขาหย่าเเล้ว จะทำให้เธอมีโอกาสซะอีก
แต่เขากลับมีแฟนเเล้วอย่างนั้นหรือ ?
นลินคิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ออก ว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร ถึงทำให้ธามนิธิเปลี่ยนใจได้ไวขนาดนี้
งานในวันนี้สิ้นสุดลง ธีระบอกกับปาณีว่าเขาจะไปส่งเธอที่บ้าน เเต่ปาณีปฏิเสธ
หลังจากที่เธอเดินออกมาจากโรงเเรมยังไม่ทันไร รถของธามนิธิก็ขับมาจอดข้างๆเธอ ” ขึ้นรถสิ ”
ปาณีมองไปที่เขาเเละยิ้มอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถของเขา
ธามนิธิขับรถมาคนเดียว ซึ่งไม่มีไวยาตย์อยู่ด้วย
เพราะเขาคิดว่า ถ้าไวยาตย์อยู่ด้วยก็จะกลายเป็นก้างขวางคอซะเปล่าๆ ซึ่งออกจะเป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวะหว่างเขากับปาณีมากไปสักหน่อย
ปาณีคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ ก็หันไปถามเขา ” ทำไมคุณมาคนเดียวล่ะคะ ?”
” เอ่อ เเล้วคุณคิดว่าควรจะมีใครอีกล่ะ ?” ธามนิธิหันไปมองที่เธอเเวบหนึ่งด้วยความสงสัย
” เเล้วคุณน้านลินไม่มาด้วยหรอกเหรอคะ ?”
พอพูดประโยคนี้จบ ปาณีก็ได้เห็นว่าหน้าของธามนิธิเริ่มเปลี่ยนเป็นหมองคล้ำ
ปาณีหัวเราะออกมา พยายามไม่จุดประกายให้เขาโกรธ ” ฉันเห็นพวกคุณสองคนเดินอิงแอบแนบชิดดูสนิทสนม เธอก็เป็นผู้หญิงที่สวย เเล้วผู้ชายก็ต้องชอบผู้หญิงสวยๆด้วยกันทั้งนั้น ก็ถือเป็นเรื่องปกตินี่นา !”