MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม - ตอนที่ 621-625
ตอนที่621
ปาณีเอ่ยขึ้นอย่างจริงใจ “ฉันจะไปขอโทษเขา”
นอกจากเอ่ยขอโทษแล้ว ก็ไม่มีวิธีอื่นอีก
“……..”ไวยาตย์เอ่ย “อีกสักครู่พวกเราต้องออกไปข้างนอก คุณธามนิธิอยากพบเพื่อน วันนี้เธออยู่ที่นี่พักผ่อนเถอะ”
“อย่างงั้นพวกเธอจะกลับมาเมื่อไหร่”ปาณีไม่อยากจะอยู่ที่นี่คนเดียวนัก เธอไม่คุ้นชินกับที่นี่ ถึงแม้จะมีน้าลำมุงที่คอยพูดคุยได้อยู่ที่นี่ แต่เธอก็ยังรู้สึกแปลกๆอยู่ดี
เธอชอบที่จะอยู่ข้างกายธามนิธิ ขอแค่มีเขาอยู่ข้างๆเธอถึงจะรู้สึกปลอดภัย
แต่วันนี้เขาโกรธเธอเข้าแล้ว เห็นทีคงจะไม่พาเธอไปด้วยแน่
ไวยาตย์เอ่ย “ฉันจะให้เขากลับมาเร็วที่สุด”
เขาถอนหายใจขึ้นมาครั้งหนึ่ง เรื่องราวของคนสองคน เขาเข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้
แถวตัวเขาในตอนนี้ ขนาดสาเหตุที่ทั้งคู่ทะเลาะกันเขายังคงไม่รู้อย่างชัดเจนเสียด้วยซ้ำ
ปาณีเพิ่งจะคุยกับไวยาตย์จบลงก็มองเห็นธามนิธิเดินออกมาแล้วเรียบร้อย เขาเปลี่ยนชุดแล้วและมองดูเธออย่างเย็นชารอบหนึ่ง ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่าง
สายตาที่มองเธอคู่นั้นราวกับเข็มก็มิปาน ทำเอาปาณีรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาในใจ
หลังจากธามนิธิออกไปแล้ว เธอก็นั่งรับแดดอยู่ที่ระเบียงโดยมีแมวของน้าลำมุงกำลังนั่งอยู่บนตักเธอ ปาณีที่ด้านหนึ่งกำลังลูบไล้เจ้าแมวเหมียว อีกด้านก็กำลังคิดว่าจะขอโทษคุณอายังไงดี
“ปาณี”เมธชนันยืนอยู่ในสวนและกำลังมองเธออยู่ “เธออยู่ที่นั่นคนเดียวได้ไงหน่ะ?”
“คุณอาออกไปเจอเพื่อนข้างนอก ส่วนฉัน…..ฉันมีธุระนิดหน่อย”เธอก็มีมาดของตัวเอง จึงไม่ได้เอ่ยออกไปว่าตนเองถูกทิ้งไว้ที่นี่
แบบนี้ฟังดูแล้วน่าสงสารไปหน่อย แถมไม่แน่ว่าอาจจะถูกเมธชนันหัวเราะเยาะเอาได้
เมธชนันเอ่ยถาม “ธุระอะไร? เสร็จหรือยัง? ฉันอยากพาเธอไปเดินเล่น ไปไหม?”
“ไปไหน?”มาที่นี่เป็นครั้งแรก ปาณีค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นอยู่บ้าง
พรุ่งนี้พวกเขาต้องบินแต่เช้า อันที่จริงเธอก็อยากออกไปดูข้างนอก แต่คุณอานั้นยุ่งเป็นอย่างยิ่งเธอจึงไม่กล้าเอ่ยขอขึ้นมา
เมธชนันเอ่ย “ไปไหนก็ได้ ตามใจเธอ”
“งั้นนายรอฉันแปปนึง”ปาณีสวมรองเท้าอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งลงมา
เธอไม่แม้แต่กระทั่งจะแต่งหน้า เมธชันเห็นเธอวิ่งลงมาอย่างเรียบง่าย ก็อดตะลึงอยู่บ้างไม่ได้ “ฉันคิดว่าเธอไม่ให้เกียรติฉันเลย”
“ฉันทำไม?”ปาณีรู้สึกงง
“พวกผู้หญิงเวลาออกจากบ้าน ไม่ใช่ว่าจะต้องแต่งหน้าแต่งตัวอยู่ครึ่งวันหรอกหรือไง?”อย่างน้อยนลินก็เป็นแบบนั้น
เมื่อก่อนยามออกไปข้างนอกกับเธอ เมธชนันจะต้องคอยเธอเป็นเวลานานเสมอ
ปาณีมองไปยังเขา “ฉันหน้าสดหน้าเกลียดมากหรือ?”
“น่าเกลียดสุดๆไปเลย”
“งั้นก็ดีแล้วนี่”ปาณีเอ่ย “ฉันจะแต่งหน้าให้นายดูไปทำไมกัน?”
“………”
ยามค่ำ เมื่อธามนิธิและไวยาตย์กลับมา ปาณีนั้นไม่อยู่บ้าน น้าลำมุงมองเห็นธามนิธิจึงยิ้นและเอ่ย “ธามนิธิกลับมาแล้วหรือ?”
ธามนิธิพยักหน้า และมองไปรอบๆคิดอยากเอ่ยถามอะไรขึ้น แต่กลับไม่เอ่ยออกมาก
“ปาณีหล่ะครับ?”กลับเป็นไวยาตย์ที่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ จึงเอ่ยถามขึ้นมาแทน
น้าลำมุงเอ่ยอย่างอ่อนโยน “เธออยู่บ้านคนเดียวน่าเบื่อ ฉันเลยให้ชนันพาเธอออกไปเดินเล่น พวกเธอต้องขึ้นเครื่องพรุ่งนี้เช้าใช่ไหม?”
“ครับ”ไวยาตย์พยักหน้า มองเห็นธามนิธินั่งลงในมุมหนึ่ง
น้าลำมุงนำผลไม้มาวางบนโต๊ะให้เขา แต่เขากลับไม่ได้แตะต้องมันแต่อย่างใด
รออยู่เกือบชั่วโมง ข้างนอกบ้านก็มีเสียงจอดรถดังขึ้นมา
ที่ที่ธามนิธินั่งอยู่นั้น สามารถมองเห็นปาณีเดินลงมาจากรถของเมธชนันได้อย่างพอดี
เห็นเธอมีรอยยิ้มประดับที่มุมปาก เห็นทีคงเบิกบานใจอยู่ไม่น้อย?
ถึงแม้ว่าชนันนั้นจะเป็นพี่น้องของตนเอง แต่ยังไงซะก็ถือว่าเป็นผู้ชาย พอมองเห็นทั้งคู่กลับมาด้วยกัน ดวงตาของธามนิธิก็เข้มขึ้นมา
ไม่นานนัก ด้านหลังก็ส่งเสียงปาณีที่เอ่ยขึ้นอย่างเบาๆ “ไวยาตย์ พวกคุณกลับมาแล้วหรือ”
ตอนที่622
ไวยาตย์เอ่ย “กลับมาสักพักแล้ว”
เขามองดูปาณีและบอกใบ้ทางสายตาไปให้เธอ ธามนิธิที่นั่งอยู่บนโซฟานั้นกำลังอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่เมื่อกี้เป็นต้นมาไวยาตย์แทบจะไม่กล้าเอ่ยพูดอะไรขึ้นมาเลยสักนิด
ปาณีจ้องไปที่ธามนิธิ และเดินเข้าไปอย่างใจเย็น “คุณอา”
ครั้งนี้เธอออกไปข้างนอก จิตใจรู้สึกไม่เลวเลยทีเดียว เพียงแต่พอเพิ่งจะเห็นเขา ก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกร้อนรนขึ้นมา
ปกติยามที่ธามนิธิมีท่าทีแบบนี้ คนรอบข้างมักจะหลีกหนีเขาให้ไกลออกไปหน่อย เพื่อจะได้ไม่ถูกเขาโมโหใส่ แต่ปาณีนั้นกลับเดินเข้าไปตรงหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด ก่อนจะจ้องดูเขาอย่างอ่อนโยน “กลับมาแล้วหรือคะ?”
ธามนิธิเงยหน้าขึ้นมามองดูเธอ มองเสียจนคนรู้สึกเป็นกังวล “กี่โมงแล้ว?”
เมธชนันเดินเข้ามาและเอ่ยช่วยปาณี “เสียเวลาบนถนนไปสักหน่อย”
ธามนิธิไม่สนใจเมธชนัน แต่กลับเอาแต่มองดูปาณี
คล้ายว่ากำลังรอให้เธอเป็นคนเอ่ยตอบ
คนอื่นจะพูดยังไงเขาไม่ฟัง เขาแค่อยากฟังเธอพูดเท่านั้น!
ปาณีมองดูเขา “กลับดึกมากไปหน่อย ขอโทษนะคะ”
“เธอมากับฉัน”อาจจะเพราะคิดว่าต่อหน้าคนอื่นๆ ไม่สะดวกที่จะเอ่ยอะไรมากนัก ธามนิธิจึงยืนขึ้นและเดินขึ้นไปชั่นบน
ปาณีมองดูด้านหลังของเขา ก่อนจะมองที่ไวยาตย์อย่างไม่มั่นใจ “ฉันจะตายไหมเนี่ย?”
“ขอให้เธอโชคดี”ไวยาตย์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจ
เมธชนันจ้องมองปาณี ด้วยสีหน้าที่กำลังรอชมความสนุกบนความทุกข์ของคนอื่น “ถ้าหากลงไม้ลงมือกันอย่าลืมเรียกฉันหล่ะ ฉันจะไปแยกให้”
รู้สึกราวกับว่าในสายตาของธามนิธินั้นปาณีดูเหมือนเป็นเด็กน้อยก็มิปาน ไม่ว่าอะไรก็ต้องมีธามนิธิคอยเข้ามาดูแลอยู่เสมอ
ปาณีจ้องไปที่จอมวายร้ายตัวใหญ่ก่อนจะเอ่ย “ไสหัวไปเลย”
หลังจากนั้นก็วิ่งขึ้นชั้นบนไป
ธามนิธิยืมอยู่ในห้อง ดูคล้ายตู้เย็นเคลื่อนที่ได้ ทำเอาทั้งห้องเปลี่ยนเป็นหนาวเย็นขึ้นมา
ปาณีเดาว่าอาจเป็นเพราะเขาเห็นตนเองออกไปกับเมธชนันเข้าจึงเกิดหึงขึ้นมา
ผู้ชายคนนี้ ขอแค่รอบตัวเธอมีคนต่างเพศอยู่ เขาก็สามารถหึงขึ้นมาได้
ปาณีเดินไปถึงด้านหลังเขา ธามนิธิที่ได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอก็กำลังจะเอ่ยปากพูดขึ้น แต่ปาณีกับชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน “ให้ฉันคุกเข่าด้วยเลยไหมคะ?”
“……..”
เห็นชัดๆว่าตอนนี้กำลังซีเรียสและเขากำลังโมโหเธออยู่ เธอกลับยังพูดประโยคเหล่านั้นออกมาได้
ประโยคนี้ที่ดูราวกับกำลังหยอกเล่นของเธอทำให้ธามนิธินิ่งไปชั่วครู่ หลังจากนั้นก็รู้สึกว่าอารมณ์โกรธของตนเองนั้นลดลงมาแล้วครึ่งหนึ่ง
เขาหันหน้ากลับมาและจ้องดูเธอ ปาณีที่เผชิญหน้ากับเขากลับนำกระเป๋าเปาของตนเองวางลงมาและหยิบกล่องๆหนึ่งขึ้นมาจากกระเป๋า ก่อนจะทำการส่งให้แก่เขา “นี่ให้คุณค่ะ”
“…..”ธามนิธิมองดูสิ่งของที่ถูกส่งมาอย่างเย็นชารอบหนึ่ง “นี่คืออะไร?”
เขาก็นับถือเธอแล้วเช่นกัน เขาโกรธขนาดนี้ เธอกลับยังคงพูดจากับเขาได้อย่างน่ารักนุ่มนวล ราวกับว่าเธอกับเขาไม่เคยอยู่ในโลกเดียวกันมาก่อน
ปาณีเอ่ย “คุณลองเปิดดูสิคะ ฉันทำเองกับมือเลยนะ”
ธามนิธิที่ตอนนี้กำลังโกรธ เห็นๆอยู่ว่าไม่ควรให้ความร่วมมือไปกับเธอแต่มือของเขากลับไม่รักดีไปเปิดกล่องขึ้นมาจนได้
เขามองเห็นแก้วเซรามิคอยู่ด้านใน บนแก้วเขียนตัวย่อของชื่อเธอและเขาเอาไว้ว่า ‘ธามณี’
ปาณีลูบมือไปมาที่สันจมูกของตน ก่อนจะเอ่ยอธิบายด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน “เดิมทีเมธชนันบอกว่าจะพาฉันออกไปเที่ยวเล่น แต่ว่าคิดถึงคุณที่กำลังโกรธอยู่ ฉันก็ไม่มีอารมณ์ไปจริงๆ ก็เลยไปซื้อของขวัญให้คุณแทน แก้วใบนี้ใช้เวลาทำนานมาก ตอนที่เผามันก็ถูกเผาจนพังไป เหลือแค่ใบนี้เท่านั้น เผามันตั้งหกชั่วโมงเชียวนะคะ! ก็เลยทำให้กลับมาก็ดึกแล้ว คุณยกโทษให้ฉันเถอะนะคะ?”
“…….”เดิมทีธามนิธิโกรธเป็นอย่างยิ่ง
ตอนที่623
นั่นเป็นเพราะเรื่องที่เธอแอบกินยาลับหลังเขา
ยังมี เรื่องที่เธอออกไปกับเมธชนันแล้วกลับมาดึกๆดื่นๆ
แต่ว่า การกระทำของปาณีกลับทำให้เขาในตอนนี้ แม้กระทั่งจะโมโหหัวร้อนก็ยังทำไม่ออก
เธอใช้เวลาไปทั้งวันในการทำของขวัญ เพื่อที่จะเกลี้ยกล่อมเขา ไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นที่ไหนทั้งสิ้น ถ้าหากเขายังโมโหเธอต่อไป ยังจะเรียกว่าคนได้อย่างไรกัน?
ปาณีเห็นเขาไม่พูดจา จึงจ้องไปที่ธามนิธิด้วยความระมัดระวัง “ได้ไหมคะ? ได้ไหม?”
ทุกครั้งที่เขาโกรธขึ้นมา เธออยากที่จะไม่สนใจเขายิ่งนัก
ความจริงแล้วเรื่องในครั้งนี้ ปาณีรู้สึกว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิดใหญ่โตเลยจริงๆ ธามนิธิโกรธเธอขนาดนี้ เธอรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง
แต่ สำหรับเธอแล้ว ยังไมซะธามนิธิก็คือคนที่ดีกับเธอที่สุดในโลกใบนี้
เธอไม่อยากเห็นเขาเสียใจและก็ไม่อยากทำสงครามเย็นกับเขา อีกทั้งเธอยังไม่อยากสูญเสียความรู้สึกของทั้งสองคนไปด้วยการทำลายข้าวของ
ดังนั้น ถ้าหากเป็นสิ่งที่เธอนั้นสามารถทำได้ เธอก็จะทำเพื่อไปรักษามันให้ดี
ถึงแม้ทุกคนต่างพูดว่า ยามทะเลาะกัน เรื่องก้มหัวไม่ควรเป็นผู้หญิงที่กระทำ แต่ในบางครั้งเธอก็รู้สึกว่า ถ้าหากก้มหัวแล้วสามารถทำให้พวกเขากลับมาอยู่ในความสงบได้ ก็ไม่มีอะไรที่ไม่สมควรกระทำ
ธามนิธิถูกปาณีจ้องมอง เขาขยับสายตาอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ก่อนจะหยิบถ้วยไปด้านหนึ่งแล้ววางลง
ปาณีไม่รู้ว่าท่าทีแบบนี้ของเขาคือยังโกรธอยู่ หรือว่าไม่โกรธแล้วกันแน่
เธอเอ่ยปาก “เก็บแก้วของฉันไปแล้ว ฉันถือว่าคุณไม่โกรธฉันแล้วนะคะ?”
ธามนิธิในตอนนี้ไม่โกรธอีกต่อไป และไม่โมโหใส่เธอ แต่เรื่องยาคลุมนั้นสำหรับเขาแล้วไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
ในใจของเขาสลัดมันทิ้งไปไม่ได้
แต่ก็ไม่ได้เอ่ยตอบกลับขึ้นมา
ปาณีไม่สนใจเขา เธอนั่งลงตรงหน้าคอมพิวเตอร์และเริ่มทำงาน ในขณะที่ธามนิธินั้นไปอาบน้ำ
กลางคืนตอนเธอทำงานเสร็จและอาบน้ำออกมา มองเห็นเขากำลังนอนอยู่บนเตียง ไม่ได้ดูโทรศัพท์หรืออ่านหนังสือแต่อย่างใด ทำแค่จ้องมองดูเพดานห้อง ไม่รู้ว่ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่
ปาณีขึ้นไปบนเตียง ก่อนจะตรงเข้าไปกอดเขาอย่างไม่เกรงใจ
ธามนิธิ “………”
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร เขายกโทษให้เธอแล้ว?
เขามองดูเธอ “เธอกำลังทำอะไร?”
“นอน”ปาณีเอ่ย “อยากกอดคุณแล้วนอน”
อีกทั้งยังรู้สึกว่ากอดเขานอนไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร
ธามนิธิรู้สึกซึมเซา อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้นมาหนึ่งประโยค “ฉันพูดว่ายกโทษให้เธอแล้วหรือ?”
“คุณรับแก้วฉันไปเก็บแล้วนี่คะ”ปาณีพูด “ถ้าหากคุณไม่อยากยกโทษให้ งั้นก็เอาแก้วคืนมาให้ฉัน ฉันจะเอาไปให้ไวยาตย์”
“……..”ธามนิธิไม่ได้เอ่ยเสียงและรู้สึกปวดหัว ทำไมที่ไหนๆก็มีไวยาตย์ไปซะทุกที่?
เธอยังสามารถคิดไปถึงไวยาตย์ได้อยู่ทุกที่ทุกเวลาอยู่อีก
เห็นเขาไม่เอ่ยพูด ปาณีจึงเงยหน้าขึ้น และมองดูเขาด้วยดวงตาที่สุกใส “คุณอา หรือว่า….คุณอยากจะมีลูกใช่ไหมคะ?”
บอกว่าเธอนั้นโง่ แต่บางครั้งเธอก็ฉลาดอยู่ไม่น้อย ประโยคนี้พูดเข้าไปถึงในจิตใจของธามนิธิ
เขามองดูเธอ “ถ้าใช่แล้วอย่างไร?”
ปาณีเอ่ย “คุณอยากมีลูก คุณก็บอกฉันตรงๆสิคะ! ถ้าคุณไม่เอ่ย ฉันก็ยังคิดไปว่าคุณก็แค่รู้สึกว่ายุ่งยาก ฉันก็เลยเลือกทานยาไงคะ”
คำพูดของปาณี ทำเอาธามนิธินิ่งงันไป ถ้างั้น แบบนี้หมายความว่า ขอแค่เขาเอ่ย เธอก็ยินยอมมีลูกงั้นหรือ?
ธามนิธิเอ่ยถาม “บอกกับเธอแล้วเธอจะตกลงหรือ?”
“ไม่ค่ะ”
“…….”ธามนิธิฟังปาณีพูดจบก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ขึ้นมาดี
“พอเถอะ”เขาถอนหายใจขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ทีหลังไม่ต้องกินยาอีกแล้ว ไม่ดีต่อร่างกายอย่างมาก ทีหลังฉันจะระวัง”
กินยานั้นมีผลทำร้ายสุขภาพเป็นอย่างมาก ถ้าหากต้องทานยาแบบนี้เท่านั้น เขายอมไม่แตะต้องเธอยังจะดีเสียกว่า
ตอนที่624
ปาณีจ้องดูเขาและเอ่ย “ดังนั้น เป็นเพราะว่าฉันกินยาแล้วทำร้ายสุขภาพ ก็เลยโกรธหรือคะ?”
เธอเพิ่งจะรู้ ที่แท้ คุณอาเป็นห่วงเธอ
เพียงแต่ เมื่อคืนเขาโกรธขนาดนั้น เธอถูกเขาทำให้ตกใจแทบแย่
วันนี้เธอคิดมาทั้งวัน ถึงค่อยคิดออก
ธามนิธิไม่ได้เอ่ยตอบ ไม่พูดแสดงออกมาว่ายอมรับ
ปาณีจ้องดูเขาอยู่ก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้
-
วันรุ่งขึ้น ยามฟ้ายังไม่สาง พวกเขาก็ไปสนามบิน
เมื่อกลับมาถึงบ้าน แสงแดดนั้นเพิ่งจะสาดส่องบนท้องฟ้า และยังไม่ถึงเวลาไปเรียนของปาณี
ปาณีจึงนั่งอยู่ในบ้านทานขนมก่อน ถึงจะไปเรียนที่มหาลัย
ช่วงนี้ผลงานของแอนเดรียเพิ่งจะเปิดเผยถึงการข่าวการทำเป็นภาพยนตร์ บนอินเตอร์เน็ตจึงเต็มไปด้วยการถกเถียงอันเผ็ดร้อนขึ้นมา
คนที่เคยพบปาณีมาก่อนในกิจกรรมเมื่อก่อนหน้านี้ไปแอบกระจายข่าวลับหลังว่าแท้จริงแล้วแอนเดรียนั้นเป็นสาวสวยแถมยังมีแฟนหนุ่มรูปหล่อ
ข่าวเรื่องนี้ ยิ่งทำให้เหล่าแฟนคลับเดือดถึงที่สุด
สำหรับข่าวพวกนี้ ปาณีนั้นไม่ได้ใส่ใจมากนัก สำหรับเธอแล้วเรื่องพวกนี้ราวกับว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับเธอแต่อย่างใด
เพียงแค่ในบางครั้งที่เห็นคนอื่นถกเถียงกันเรื่องของเธอ ในใจก็มีความสุขอยู่ไม่น้อย
โมรีที่นั่งอยู่ด้านข้างกำลังถอนหายใจขึ้นมาเป็นรอบที่สาม ปาณีจึงอดไม่ได้ที่จะมองดูเธอครู่หนึ่ง “เป็นอะไรไป? วันนี้เอาแต่ถอนหายใจทั้งวัน”
“เวทัสบอกว่าเขาจะออกจากทีมแข่ง”โมรีขมวดคิ้ว ทีมของพวกเขาเพิ่งจะผงาดขึ้นมาตอนนี้เปรียบได้ดังพระอาทิตย์ตอนเที่ยงวัน เวทัสที่ดันออกจากทีมในเวลานี้ ทำเอาเหล่าแฟนคลับเป็นบ้าไปตามๆกัน
ปาณีนิ่งไป สองวันที่ไม่อยู่ในเมืองชยุต เธอแทบเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว
โมรีเอ่ยกับปาณี “เขาบอกว่าเขาจะไปต่างประเทศ เป็นเรื่องจริงรึเปล่า?”
ปาณีกับเวทัสล้วนเป็นคนในครอบครัววิสิทธิ์เวช ควรจะรู้ข่าวอะไรบ้าง
คนในทีมนั้นไม่ค่อยจะเชื่อว่าเวทัสจะเลือกไปต่างประเทศในเวลานี้
ปาณีฟังโมรีเอ่ยและพยักหน้า “อืม”
ความจริงให้เวทัสไปต่างประเทศก็ไม่เลวนัก
ตอนนี้เขาอายุยังน้อยจึงเอาความสนใจทั้งหมดมาลงที่ตัวเธอซะหมด รอให้เขาไปอยู่ต่างประเทศ ได้เดินเล่นสักรอบสองรอบ สายตาก็จะกว้างไกลขึ้น และอาจจะไม่คิดอะไรกับเธอขึ้นมาอีก
โมรีมองดูปาณี “ต้องไปให้ได้เลยหรือ?”
“เอ่อ เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้”ตัวของเวทัสจะไปหรือไม่ไป ปาณีเองก็ไม่แน่ใจเช่นกัน
ตอนที่เธอกำลังพูดคุยอยู่กับโมรี เวทัสก็เดินเข้ามาแล้ว ไม่กี่วันมานี้อากาศค่อนข้างร้อน เขาสวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว แขนเสื้อถูกพับขึ้นมายังข้อศอก เห็นได้ชัดว่าเป็นการแต่งตัวที่เรียบง่ายอย่างที่สุด แต่กลับยังทำให้พวกผู้หญิงกรีดร้องขึ้นมาได้
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของเขาดูเย็นชาอย่างยิ่ง
เขาเหลือบมองปาณีรอบหนึ่ง ก่อนจะเคลื่อนสายตาไปที่อื่นอย่างเย็นชา
โมรีมองดูปาณีด้วยท่าทางสงสัย “พวกเธอไม่ใช่ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกนะ?”
คนอื่นไม่รู้ แต่โมรีนั้นรู้ดี
ตั้งแต่ที่ปาณีหย่า เวทัสก็ใส่ใจเรื่องปาณีเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อไม่กี่วันก่อนก็เอาแต่ไปหาปาณีในที่ที่เธออยู่อาศัย หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมา เวทัสดูคล้ายได้รับความกระทบกระเทือนครั้งใหญ่ และไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอีก
ปาณีเอ่ย “ไม่มีอะไร”
หลังจากอาหารเย็น ธามนิธินั่งอยู่ในสวนด้านหลัง มองดูพระอาทิตย์กำลังตกดิน ปาณีที่ในมือกำลังถือโทรศัพท์คุยอยู่กับธีระ ก็เดินเข้าไปหาเขา
คุยอยู่เกือบชั่วโมง ล้วนแต่เป็นเรื่องงานทั้งสิ้น
ตอนที่ใกล้วางสาย ธีระจึงเอ่ยขึ้น “เออใช่ คุณทัดธนอยากนัดเธอทานข้าว เธอสะดวกไหม?”
“เขานัดฉันทำไม?”ปาณีรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่าเด็กสมาร์ทจะแนะนำเธอให้รู้จักกับทัดธนและหลังจากได้พูดคุยในวันนี้ก็จัดได้ว่าเป็นคนที่ไม่เลวนัก เพียงแต่อาจเป็นเพราะเขามีความสัมพันธ์กับนลิน ปาณีจึงไม่อยากไปหาทัดธนเพื่อให้เขามาลงทุนกับเธอ
ตอนที่625
ธีระเอ่ย “ไม่รู้สิ ยังไงก็เถอะ ฉันว่าท่าทีแบบนี้ของเขา เห็นทีคงจะอยากร่วมลงทุนกับพวกเรา เธอไม่ลองคิดดูดีๆ”
ปาณีลังเลไปชั่วครู่ก่อนที่จะพยักหน้า “งั้นคุณจัดการให้หน่อยเถอะ ว่าเราจะเชิญเขาทานข้าวเมื่อไหร่ดี”
ลงทุนหรือไม่เป็นแค่เรื่องหนึ่ง แต่ปาณีนั้นกลับกำลังคิดดถึงเรื่องอีกเรื่องขึ้นมาได้
นั่นก็คือเรื่องของพลอย น้องสาวของเมธชนันคนนั้น
ถึงแม้ตอนนี้จะกลับมาที่เมืองชยุตเรียบร้อยแล้ว แต่ในสองวันนี้ เวลาที่ปาณีว่างๆไม่ได้ทำอะไรก็มักจะนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเสมอ
ดังนั้น เธอรู้สึกว่าเธอมีเรื่องที่สมควรจะไปเจอทัดธน
-
เช้าวันถัดมา ปาณีเพิ่งจะตื่นและไม่ได้รีบร้อนลุกจากเตียง เธอยังคงนอนเล่นโทรศัพท์มือถือ และเห็นข้อความที่ธีระส่งให้เธอ “ทางคุณทัดธนบอกว่า คืนนี้ว่าง เธอหล่ะ?”
“ถ้าอย่างนั้นก็คืนนี้เถอะ”
ปาณีตอบกลับเสร็จ จึงเอ่ยกับธามนิธิที่ยังไม่ได้ลุกขึ้นจากเตียงเช่นเดียวกัน “คุณอา คืนนี้ฉันต้องไปทานข้าวกับทัดธนนะคะ กลับดึกหน่อย”
ธามนิธิรู้ว่าช่วงนี้ปาณีกำลังทำอะไร จึงเอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ “พวกเธอคิดอยากให้ทัดธนมาลงทุนด้วย?”
“เอ่อ คุณคิดว่ามีปัญหาหรือคะ?”ช่วงนี้ปาณีรู้สึกลังเลไม่มั่นใจอยู่บ้าง จึงอยากฟังคำแนะนำของธามนิธิ
ธามนิธิถึงแม้จะไม่ชอบบ้านมีสุวรรณ์ แต่กลับทัดธนคนนี้นั้นเขากลับไม่ได้มีความเกลียดชังอะไร “ปัญหานั้นไม่มีหรอก เขานั้นค่อนข้างเป็นคนทำอะไรมีเหตุผล”
ถ้าหากเขาลงทุนให้กับปาณี นั่นก็เพราะเขารู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะลงทุน ถึงเลือกที่จะทำแบบนี้
“อืม”ปาณีเอ่ย “ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ เห็นทีฉันจะต้องสู้เพื่อให้ได้เขามาลงทุนสักตั้ง เพียงแต่ เขาไม่ได้เห็นตัวตนของพวกเราหรอกค่ะ ที่ฉันไปทานข้าวกับเขานั่นก็เพราะมีคนให้ฉันฝากข้อความไปให้เขา”
“ใคร?”ปาณีมองดูปาณีอย่างสงสัย
ปาณีเอ่ย “บ้านวิสิทธิ์เวช”
“เธอไปสนิทกับบ้านวิสิทธิ์เวชขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”ไม่ใช่เพราะรู้จักกับเมธชนัน เมธชนันนั้นคงไม่ต้องมาฝากข้อความผ่านเธอไปยังทัดธนหรอกหน่า?
“ไม่ได้ฟังมาหรอกค่ะ ก็แค่บังเอิญไปพบเท่านั้น”
-
ยามค่ำ เมื่อถึงสถานที่ทานข้าว ตอนที่ปาณีเดินเข้าไป ทัดธนกับธีระก็มาถึงก่อนแล้ว
ปาณีเดินเข้าไป “คุณทัดธน”
ทัดธนจ้องดูเธอ ท่าทีดูเป็นกันเอง “นั่งเถอะ”
ปาณีนั่งลง และถูดทัดธนเอ่ยถาม “คุณปาณีดื่มอะไรดีครับ?”
“เครื่องดื่มทั่วไปก็พอแล้วค่ะ”ถ้าหากดื่มเหล้า เธอกลับไปคงถูกคุณอาตีตายแน่
ทัดธนรินเครื่องดื่มให้เธอ และเอ่ยกับปาณี “กลับไปครั้งที่แล้ว อ่านหนังสือของคุณปาณี สนุกมาก”
ปาณีที่ถูกชมก็ตะลึงไปอยู่บ้าง ผู้หญิงชอบหนังสือของเธอเธอพอเข้าใจได้ แต่ผู้ชายตัวโตอย่างเขา กลับอ่านหนังสือของเธอด้วย?
เธอเอ่ยตอบอยากประดักประเดิด “เป็นเกียรติอย่างยิ่งค่ะ”
ทัดธนเอ่ย “ถ้าหากสร้างเป็นหนัง จะต้องดังพลุแตกแน่นอน คุณธีระก็ได้ส่งหนังสือโครงการของบริษัทมาให้ผมแล้ว ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าทำได้ไม่เลวเลย”
มาถึงก็ถูกชม ปาณีคาดไม่ถึงอย่างยิ่ง
เธออยากเข้าใจทัดธนแต่ก็พบเจอกันน้อยครั้ง เธอจึงจ้องมองเขาและเอ่ย “คุณพูดจริงหรือคะ?”
ทัดธนตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มขึ้นมา “ผมไม่เคยพูดโกหก”
“………..”
ทัดธนเอ่ย “จะถือสาไหมถ้าผมจะเอ่ยถึงเรื่องส่วนตัว?”
“ไม่ถือสาค่ะ”
สายตาของทัดธนตกลงบนแก้วเหล้าที่อยู่ด้านหน้าเขา “ผมก็เคยมี คนรักที่คล้ายคุณปาณีแบบนี้ แต่น่าเสียดายที่เราเลิกกันไปแล้ว”
ยามที่เอ่ยพูด สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าและสำนึกเสียใจ
ปาณีคาดไม่ถึง ว่าผู้ชายที่ในสาตตาเธอดูมีชีวิตชีวาและไฟแรงคนนี้ก็มีสีหน้าแบบนี้ด้วยเช่นกัน