MY GIRL ภรรยาตัวน้อยของผม - ตอนที่ 801-805
ตอนที่801
นภันต์ไม่เคยรู้ถึงเรื่องน้อยใจเสียใจระหว่างพวกเขามาก่อน ดังนั้นมีอะไรจึงพูดออกมาตรงๆ
โมรีได้ยินคำพูดของนภันต์เข้าก็นิ่งไป เธอมองไปยังเวทัส สีหน้าดูซับซ้อนอยู่บ้าง
ตอนนี้เธอคบกับชยรพแล้ว เธออยากรู้ว่าเวทัสนั้นจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง
เขาจะรู้สึกเสียใจขึ้นมาสักนิดบ้างไหม สนใจเธอสักนิดบ้างรึเปล่า?
เวทัสได้ยินคำพูดของนภันต์จึงมองไปยังโมรีกับชยรพ “ยินดีด้วย”
“…….”สายตาของโมรีมีความผิดหวังเพิ่มขึ้นมา
ชยรพยิ้มและเอ่ย “ขอบคุณ”
ปาณีมองดูฉากตรงหน้า ก่อนจะเรียกนภันต์เข้าไปยังห้องอาหาร
นภันต์เอ่ย “พี่ วันนี้พี่กลับมา ทำไมไม่บอกผมเลย?”
“อยากจะเซอร์ไพรส์นายไง”ปาณีพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม
นภันต์กรอกตารอบหนึ่ง “เชื่อพี่ก็บ้าแล้ว! เห็นชัดว่าพี่ลืมน้องชายคนนี้ไปแล้ว”
“นายรู้ตัวก็ดี”ปาณีเดินเข้าไปในห้องครัวเพื่อหาของกินเล็กน้อย เธอเอ่ยกับนภันต์“การแข่งของพวกนายครั้งนี้ฉันดูแล้ว เล่นได้ไม่เลวเลย”
“ใช่ไหมหล่ะ? ผมออกจะเก่ง”พอเวทัสไป เขาก็กลายมาเป็นตัวหลักของทีม อีกทั้งพวกเขายังแย่งตัวผู้เล่นมาจากทีมอื่นอีกด้วย ตอนนี้ทีมแข่งของพวกเขาจึงแข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย
ปาณีมองท่าทางหลงตัวเองของเขาแล้วอดหัวเราะไม่ได้
เป็นเวลาย่ายแล้ว ปาณีล้างมือก่อนจะเข้าไปในห้องครัวเพื่อเตรียมหุงข้าว
เธอเอ่ยถามนภันต์“ทำไมอยู่ดีๆเวทัสถึงกลับมาหล่ะ?”
“ในทีมมีปัญหานิดหน่อย เขาก็เลยกลับมา”นภันต์เอ่ย “ผมรับถือเขาไม่น้อยเลย นั่งเครื่องบินมาสิบกว่าชั่วโมง เขามาที่นี่ไม่มีท่าทีเหนื่อยเลยสักนิด เทียบกับพักผ่อนแล้วยังจะดีซะกว่า พี่ว่า ใช่เป็นเพราะเขาอยากกลับมาดูโมรีรึเปล่า? พวกเขาไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนเคยคบกันหรือ?”
เด็กน้อยนภันต์จนกระทั่งถึงตอนนี้ก็ยังคิดไม่ตกว่า ทำไมโมรีกับชยรพถึงมาคบกันได้
หัวหน้าทีมเพิ่งจะไป พวกเขาก็คบกันลับหลังหัวหน้าแล้ว คล้ายไม่ค่อยให้เกียรติอยู่นิดหน่อย
แต่พอเห็นเวทัสไม่ได้โกรธอะไร นภันต์ก็รู้สึกนับถืออยู่บ้าง
ปาณีนึกถึงเวทัสขึ้นมา แทบจะไม่ร็ว่าตนเองสมควรพูดอะไรดี
-
พวกเขาอยู่ที่บ้านเกือบๆชั่วโมงก็กลับไป เวทัสก็ไปกับพวกเขาด้วยเช่นกัน
ปาณีอยู่บ้านทำอาหารเย็น ฐิติพรกับจันวิภานั้นกลับมาแล้ว และมองเห็นว่าเธอทำอาหารเสร็จแล้วเรียบร้อย จึงเอ่ย “ปาณี กลับมาแล้วหรือ!”
“ค่ะ” ปาณีเอ่ย “ทานข้าวได้แล้วนะคะ”
“ทำไมกลับมาก็มานั่งทำกับข้าวอย่างนี้หล่ะ?”ฐิติพรเอ่ย “เพิ่งจะกลับมา คงจะเหนื่อยแย่ ทำไมไม่ไปพักผ่อน”
ปาณีเอ่ย “ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ”
ปาณีมองไปยังจันวิภา “พี่สาว”
จันวิภามองดูไปรอบทิศ แต่กลับไม่เห็นเวทัส “เจ้าเด็กน้อยของฉันกลับมาแล้วหรือ? คนหล่ะ?”
“เขาออกไปข้างนอกกับเพื่อนแล้วค่ะ”
จันวิภาเอ่ยอย่างปวดหัว “จริงๆเลย อยู่บ้านได้ไม่ถึงสิบห้านาที”
ถึงแม้เวทัสจะไปได้ไม่นาน แต่จันวิภาคิดถึงเขาอย่างยิ่ง คอยเป็นกังวลอยู่เสมอว่าเขาอยู่ข้างนอกจะเป็นอย่างไร
ปาณีมองดูจันวิภาและฐิติพร “วันนี้ไปไหนกันมาคะ?”
“นัดเจอเพื่อนเอาไว้”ฐิติพรนั่งลงและพูดกับปาณี “รีบนั่งลงเถอะ อย่ามัวแต่ยุ่งอยู่เลย เรื่องพวกนี้ให้น้าลำมุงทำก็พอ”
“ไม่เป็นไรค่ะ”ปาณีเอ่ย “นานๆทำครั้งถือเป็นการออกกำลังกาย”
“ไปอยู่กับธามนิธิที่เมืองสิงห์เป็นยังไงบ้าง”ฐิติพรเอ่ยถามอย่างสงสัย
ปาณีเอ่ย “ก็ดีค่ะ”
“ทำไมฉันได้ยินมาว่า ก่อนหน้านั้นพวกเธอทะเลาะกันหรือ?”จันวิภาไม่สนใจเวทัสอีกต่อไป เธอทุ่มความสนใจไปที่ปาณีแทน
ปาณีนึกถึงตนเองตอนเพิ่งจะไปถึงที่นั่นแล้วเกิดหึงและทะเลาะกับธามนิธิขึ้นมา เธอเอ่ยอ้อมแอ้ม “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เป็นฉันที่ไม่รู้ความเอง”
ตอนที่802
“แบบนี้ต้องเป็นเพราะธามนิธิรังแกเธอแน่นอน”ในสายตาคนบ้านวิสิทธิ์เวช ปาณีนั้นเป็นคนรู้จักกาลเทศะและคิดถึงคนอื่นเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นถ้าทั้งคู่ทะเลาะกันขึ้นมา แปดส่วนต้องเป็นเพราะธามนิธิทำอะไรให้เธอเสียใจอย่างแน่นอน
ระดับความลำเอียงของจันวิภาและฐิติพร ทำเอาปาณีรู้สึกละอายใจขึ้นมาอยู่บ้าง
-
หลังจากที่พวกเขาทานข้าวเสร็จ ตอนที่ทั้งสามคนก็นั่งอยู่ที่โซฟาดูละครและพูดคุยกันไปพลางๆ เวทัสนั้นก็กลับมาถึงที่บ้านพอดี
“เด็กน้อย”จันวิภามองเขา “มานี่เร็ว มาให้แม่ดูหน้าหน่อย ทำไมผอมลงล่ะลูก?”
“…..”เวทัสมองดูแม่ของเขา รู้สึกปวดหัวขึ้นมา ไม่เห็นจะต้องตรงไปตรงมาขนาดนี้ก็ได้มั้ง?
เมื่อก่อนใครกันที่ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเขาเสียยิ่งกว่าอะไร ในสายตามีแต่ปาณีกับคุณอาเท่านั้น
เขาเดินเข้ามาและนั่งลง ก่อนจะเหลืองมองปาณีรอบหนึ่งและรีบเบือนสายตาออกไป
ตอนแรกที่เวทัสออกจากบ้านไป เขานั้นพกอารมณ์คลุกกรุ่นออกไปด้วย ตอนนี้กลับมาบ้านก็ยังคงมีร่องรอยความไม่ชอบใจอยู่บ้าง
ปาณีรู้สึกว่าตอนนี้พวกเขากำลังไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่ ตนเองนั่งอยู่ที่นี่ออกจะทำลายบรรยากาศอยู่บ้างจึงรีบลุกขึ้นยืนและเอ่ย “ฉันยังมีงานที่ยังค้างอยู่ ขอตัวไปทำก่อนนะคะ”
จันวิภาที่รู้ถึงความสัมพันธ์ของปาณีและเวทัสเช่นกันจึงพยักหน้า “อืม”
เวทัสมองดูด้านหลังของปาณี สายตาเข้มขึ้นมา
หลังจากที่ตนจากไป เธอนับวันยิ่งมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อยๆ
ความรู้สึกนี้ทำให้ข้างในใจของเขารู้สึกย่ำแย่ที่สุด
-
ปาณีกลับมาถึงห้องและหยิบเสื้อผ้าเตรียมตัวที่จะไปอาบน้ำ ระหว่างนั้นธามนิธิก็โทรเข้ามาพอดี “กำลังทำอะไรอยู่?”
“เตรียมไปอาบน้ำค่ะ”ปาณีพิงอยู่กับอ่างล้างมือ
ได้ยินเธอพูดว่าอาบน้ำ ธามนิธิก็รู้สึกว่าลมหายใจของตนเองนั้นหนักขึ้นมา
ปาณีเอ่ย “เป็นอะไรไปคะ โทรมาแต่ไม่พูดไม่จา”
“อยากฟังเธอพูด”ธามนิธิเอ่ย “ฉันอยากได้ยินเสียงเธอ”
เขาเพิ่งจะทำงานเสร็จและกลับถึงบ้าน มีเพียงเขาตัวคนเดียวเท่านั้นไม่มีปาณี จึงรู้สึกไม่ชินอย่างมาก ดังนั้นจึงอยากฟังเสียงเธอพูดคุย
ปาณีหัวเราะ “อ้อใช่สิ วันนี้ชมนาดปล่อยวิดีโอที่ฉันกับเธอทะเลาะวิวาทกันขึ้นไปบนอินเตอร์เน็ต ภายหลังไม่รู้ว่าวิดีโอนั้นถูกใครลบไปแล้ว”
เรื่องนี้ปาณคิดไม่ออกเสียที ดังนั้นจึงบอกให้ธามนิธิฟัง
ธามนิธิเอ่ย “ไวยาตย์บอกฉันเรื่องนี้แล้ว”
ปกติหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปาณี ไวยาตย์มักจะมารายงานเขาเสมอ
ช่วงนี้เขากลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงให้ไวยาตย์คอยจับตาดูอยู่ตลอด ผลคือมีคนแย่งก้าวตัดหน้าเขาไปหนึ่งก้าว
ความรู้สึกนี้ ทำเอาคุณปู่ธามนิธิคนนี้รู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง
ในเมื่อเป็นเรื่องของภรรยาเขา แต่กลับมีคนเป็นเดือดเป็นร้อนยิ่งกว่า!
ปาณีพึมพำ “ไม่รู้ว่าใครกันที่เป็นคนทำ”
ธามนิธินิ่งเงียบ ในใจพอจะมีคำตอบขึ้นมา
ความเร็วขนาดนี้ แถมยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือปาณี เห็นทีคงจะเป็นเขานั่นแหละ!
เขาเอ่ยกับปาณี “เธอจะไปอายน้ำไม่ใช่หรือ?”
ปาณีเอ่ย “ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันวางแล้วนะคะ”
“ถือสายไว้อย่างนี้แหละ!” ธามนิธิเอ่ย “ฉันอยากได้ยินเสียงของเธอ”
“ฉันอาบน้ำคุณยังจะฟังหรือคะ? คุฯอา คุณกลายเป็นคนไม่ดีไปแล้วนะคะ”
“……..”
ปาณีวางมือถือลงมุมหนึ่ง ก่อนจะเดินไปอาบน้ำ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เดิมทีปาณีคิดว่าธามนิธิคงจะวางสายไปแล้ว ผลคือเธอพบว่าสายยังคงค้างอยู่
เธอเอ่ยถาม “คุณอา กำลังทำอะไรอยู่คะ?”
“ทำงาน”
ปาณีรู้ว่าเวลาเขาทำงานไม่ชอบให้คนรบกวน “ทำไมคุณถึงไม่วางสายคะเนี่ย?”
“อยากได้ยินเสียงเธอ”แบบนี้ถึงค่อยเหมือนว่าเธออยู่ข้างๆขึ้นมา
ธามนิธิรู้สึกว่ายิ่งตนเองอายุมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ยิ่งรู้สึกต้องการการดูแลอยู่เป็นเพื่อนมากกว่าเมื่อก่อน
ตอนที่803
ปาณีหัวเราะขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณเองค่ะ”
เธอวางมือถือลงข้างๆโดยไม่ได้วางสาย ก่อนจะหยิบโน๊ตบุ๊คขึ้นมาทำงาน
ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกันมาก แต่เสียงยังคงเชื่อมต่อกันอยู่ตลอด ราวกับว่าอีกฝ่ายอยู่ข้างๆตน
ปาณีทำงานอยู่สักครู่ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา
“ใครคะ?”ปาณีรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย และเดินไปเปิดประตู
เป็นเวทัสที่ยืนอยู่หน้าประตู
ปาณีมองดูเขา “นายมีธุระอะไรหรือ?”
ถึงกับต้องมาหาเธอโดยฌฉพาะ
เวทัสมองดูปาณี ดวงตาของเขาดูซับซ้อนจนคนเดาไม่ถูก “ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เลวเลย”นอกจากเรื่องที่ถูกเขาจูบจนเธอแทบจะโมโหจนลมจับแล้ว ปาณีรู้สึกว่าตนเองในช่วงนี้นั้นไม่เลวเลย
เวทัสพูดอย่างมีนัยะ “เป็นเพราะฉันไม่อยู่ที่นี่ ดังนั้นเธอก็เลยใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ใช่ไหม?”
ถึงจะเข้าใจสิ่งที่เธอตอบมา แต่เขาก็ยังอดไม่ได้ที่จะถาม
เขาคาดหวังว่าปาณีจะพูดจาดีๆให้เขาฟังสักหน่อย
แต่ปาณีกลับไม่เอ่ยอะไรออกมา….
“คงใช่”ปาณีไม่มีความคิดที่จะเอ่ยเอาใจเขา “นายมาหาฉัน คงไม่ใช่แค่เพราะอยากพูดเรื่องพวกนี้ใช่ไหม? ถ้าหากไม่มีอะไรแล้ว ฉันจะกลับไปทำงานต่อ”
ท่าทีเย็นชาของปาณี ทำให้เวทัสรู้สึกปวดใจ เขาขวางเธอเอาไว้ “ทำไมเธอต้องกลัวจะเจอฉันด้วย?”
“แน่นอนว่าฉันกลัวนายจะเป็นบ้าขึ้นมากระทันหัน”ตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เขาบังคับจูบเธอ ตอนนี้ปาณีแม้กระทั่งคำพูดก็ยังหลีกห่างให้ไกลจากเขาหน่อย
มุมปากของเวทัสยกขึ้น เขารู้สึกอยากจะล้างแค้นโลกใบนี้ขึ้นมา “ทำไมพอฉันไม่อยู่ ทุกวันเธอถึงสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ขนาดนี้?”
“คนที่เกลียดไม่อยู่แล้ว แน่นอนว่าต้องดีใจอยู่บ้าง”ปาณีตอนนี้ยามเอ่ยพูดจากับเขา คิดคำไหนไม่น่าฟังขึ้นมาได้ก็ล้วนเอาออกมาพูดให้หมด
“ปาณี” เวทัสเอ่ยอย่างผิดหวังอยู่บ้าง “ฉันชอบเธอมากขนาดนี้ ทำไมเธอถึงไม่สามารถเหลือที่ในใจเธอให้ฉันสักนิดบ้าง?”
ปาณมองตัวโง่งมตรงหน้า “นี่ยังต้องถามอีกหรือไง แน่นอนว่าเป็นเพราะฉันไม่ได้ชอบนายไง นี่นายกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่? ที่นี่คือบ้านนะ ถ้าหากแม่ของนาย ยายของนายมาเห็นเข้า นายคิดว่าพวกเขาจะมองนายยังไง?”
“พวกเขาจะคิดอะไรได้”ถูกท่าทีของปาณีกระตุ้นเข้าให้ เขาจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น “ต่อให้ฉันมีอะไรกับเธอจริง คนที่ถูกไล่ออกไปก็มีแค่เธอเท่านั้น ไม่ใช่ฉัน ฉันต่างหากถึงจะเป็นคนของบ้านนี้ แถมเธอ พอคุณน้าไม่อยู่ เธอก็ไม่นับว่าเป็นอะไรทั้งนั้น เธออยากลองวัดดูไหมล่ะ ถ้าหากวันนี้เกิดเรื่องขึ้น เธอกับฉัน ใครจะถูกไล่ออกไป?”
“……”ปาณีชะงักไปเล็กน้อย เข้าใจแล้วว่าคนตรงหน้าคนนี้ ที่แท้ก็มาหาเรื่องเธอ
เขาถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก ก่อนหน้าเป็นเพราะธามนิธิยังคงนั่งอยู่บนรถเข็น ดังนั้นจึงเกรงกว่าจะทำให้คนในบ้านเสียใจ
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน!
ธามนิธิดีขึ้นแล้ว เขาจึงไม่ต้องเป็นกังวลเรื่อคุณน้าอีก
ในส่วนของคนในบ้าน ต่อให้พวกเขาดีกับปาณีแค่ไหน ปาณีก็ไม่มีทางล้ำหน้าไปกว่าตำแหน่งของเขาได้แน่นอน
เมื่อก่อนเวทัสนั้นแค่ทำตัวไม่จริงใจกับเธอเท่าไหร่ แต่มาตอนนี้ ท่าทีของเธอทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างมากขึ้นมาจริงๆ
มากเสียจนกระทั่งไม่สามารถพูดจามีมารยาทได้อีกต่อไป
เขาเห็นปาณียืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่แม้กระทั่งเอ่ยพูด จึงคิดว่าเธอรู้สึกสำนึกเสียใจขึ้นมาแล้ว
สายตาของเขาอ่อนลง และเอ่ยด้วยน้ำเสียงประณีประนอม “ฉันก็ไม่ได้อยากจะทำแบบนี้กับเธอ แค่หวังว่าเธอจะเชื่อฟังฉันบ้างสักนิด”
“เชื่อฟัง?”ปาณีมองเขา ท่าทีของเวทัสที่ทำตัวราวกับว่าเขาครอบครองทุกอย่างไว้ได้ในกำมือ ทำเอาเธอรู้สึกอยากหัวเราะเยาะ
เวทัสเอ่ย “อย่าอยู่กับคุณน้าเลย ในใจเขาไม่เคยมีเธออยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทิ้งเธอไว้คนเดียวที่เมืองสิงห์หรอก”
ตอนที่804
“ไม่อยู่กับเขา แล้วฉันจะมาอยู่กับนายหรือไง?”ปาณีรู้สึกว่าเขาทำตัวเป็นเด็กเล็กๆ
จนกระทั่งตอนนี้ยังมองสถาณการณ์ไม่ออกอย่างถ่องแท้
ถึงแม้ว่าเธอกับธามนิธิยังไม่ได้ประกาศเรื่องการคืนดีกันออกไป แต่พวกเขานั้นก็อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเวทัสกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
เวทัสมองเธอ สายตาเต็มไปด้วยความครอบครอง “รอฉันอีกสองปี ฉันจะกลับมา ถึงนอนนั้นฉันจะขอเธอแต่งงาน”
ในสายตาเขา ปาณีกลายเป็นผู้หญิงที่เขาจะต้องได้มาให้ได้ไปแล้ว ไม่ว่าจะต้องทำยังไง หรือเป็นอย่างไร เขาก็จะต้องได้ตัวเธอ
ความคิดนี้ไม่ได้หายไปหลังจากที่เขาไปต่างประเทศ แต่นับวันกลับยิ่งล้ำลึกมากขึ้นเรื่อยๆ
ถามจบ เขาก็มองดูปาณีและเอ่ยอย่างคาดหวัง “ดีไหม?”
ปาณีนิ่งเงียบ ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอก็ยังไม่เอ่ยพูดอะไรออกมา
เวทัสนั้นก็ยังคงจับจ้องเธออยู่ตลอด
จู่ปาณีก็พูดขึ้น “ดี!”
“……”เวทัสชะงักไปเล็กน้อย นี่ปาณีกำลัง……ตกลงงั้นหรือ?
เธอตกลงที่จะรอเขางั้นหรือ?
ปาณีเอ่ยหัวเราะ “ที่จริงถ้านายไม่พูดแบบนี้ ฉันคงไม่รู้เลยว่านายชอบฉันมากขนาดนี้!”
ใบหน้าของเธอประดับรอยยิ้มที่ดูซับซ้อน ราวกับว่าเธอรอคำพูดนี้ของเขามานานมากแล้ว
เวทัสเอ่ย “ฉันชอบเธอมาตลอด”
“ดังนั้น อีกสองปีให้หลัง นายจะยอมกลับมาขอฉันแต่งงานจริงๆหรือ?”ปาณีเอ่ยถาม
เวทัสพยักหน้า “แน่นอนว่าจริง ปาณี ฉันชอบเธอมาก…”
สีหน้าของปาณีไม่เชื่อ “ถ้าหากนายหลอกฉันขึ้นมาจะทำยังไง? ถ้าหากนายไปอยู่ข้างนอกนั่นแล้วบังเอิญเจอพี่สาวคนสวยเข้า เลยชอบคนอื่นขึ้นมาจะทำยังไง?”
เวทัสเอ่ยปฏิเสธราวกับเด็กน้อยใสซื่อ “ไม่มีทาง”
ธามนิธิที่ตอนนี้นั่งอยู่หน้าโต๊ะหนังสือและกำลังฟังบทสนทนาของทั้งสองคนในโทรศัพท์ สายตาของเขาพลันมืดครึ้มขึ้นมา
ไวยาตย์เดินเข้ามาและมองเห็นธามนิธิ จึงกำลังจะเอ่ยปากพูด แต่ก็เห็นว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่ จึงไม่ได้ส่งเสียงออกไปในทันด
เขาเพียงได้ยินปาณีพูดขึ้นมาในสายว่า “นี่มันไม่แน่นอนหรอก ก็เหมือนเมื่อก่อน นายบอกนายชอบฉันมาก ทั้งชีวิตนี้อยากอยู่กับฉัน สุดท้ายแล้วไม่ใช่ว่านายวิ่งไปคบกับติรยาหรือไง”
“…..”พอยกเรื่องในอดีตขึ้นมา เวทัสก็มีสีหน้าสำนึกเสียใจ “ตอนนั้นฉันโง่เกินไป ขอแค่เธอยอมที่จะรอฉัน ฉันรับรองว่าต่อจากนี้ไปจะรักเธอแค่คนเดียว จะรักเธอให้มากกว่าที่คุณน้ารักเธอ”
ไวยาตย์ที่ฟังถึงตรงนี้ ทั้งตัวก็อยู่ได้ไม่สุขอีกต่อไป แอบลอบมองสีหน้าของธามนิธิอย่างเป็นกังวล ให้ตายเถอะ นี่มันเรื่องอะไรกัน?
ปาณีกับเวทัส?
สองคนนั้นเบื่อชีวิตแล้วหรือยังไง?
กล้าพลอดรักให้คำสาบานต่อกันแบบนี้ เกรงว่าคงอยากตายเข้าแล้ว!
ไวยาตย์จู่ๆก็เกิดแรงกระตุ้นขึ้นมา จึงรีบร้อนเอามือปิดโทรศัพท์ของธามนิธิไว้
สีหน้าของธามนิธินิ่งสงบ บนใบหน้าดูมีความรู้สึกซับซ้อนอยู่บ้าง ในมือของเขากุมปากกาไว้แน่น และไม่มีทีท่าว่าจะเคลื่อนไหว
ปาณีเอ่ยกับเวทัส “ฉันยังไม่เชื่อนายอยู่ดี เอาแบบนี้ละกัน?”
เธอเสนอความคิดขึ้นมาก่อน โดยมีเวทัสมองดูเธออยู่
ปาณีเอ่ย “ตอนนี้พวกเราไปบอกกับคุณยายของนาย บอกว่าอีกสองปีให้หลังนายจะมาสู่ขอฉัน มีพวกเขาเป็นพยาน ฉันถึงไม่กลัวว่าจะโดนนายหลอก นายว่ายังไง?”
“…..”เวทัสที่กำลังฟังอยู่ แทบจะไม่กล้าเชื่อว่าคำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของปาณี
ผู้หญิงหน้าไม่อายคนนี้!
เธอกล้าคบชู้?
เธอคิดจะทำอะไร?
เสียแรงที่ตนเองอุตส่าห์ไปหลงเชื่อเธอขนาดนั้น แต่เธอกลับ…
ทำให้เขาโกรธแทบตายอยู่แล้ว!
เวทัสได้ยินคำพูดของปาณีก็ชะงักไปชั่วครู่ ตอนนี้ ให้เขาไปบอกกับคุณยายอย่างนั้นน่ะหรือ?
เดิมที เวทัสก็มีความคิดที่จะพูดอะไรอยู่บ้าง แต่ท้ายสุดปาณีกลับออกจะทำให้คนหัวเสียจนพูดไม่ออก
แต่ในตอนนี้ หากให้เขาไปพูด เขากลับลังเลอยู่บ้าง
ตอนที่805
ปาณีเพิ่งจะหย่ากับธามนิธิได้ไม่นาน ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างปาณีกับคุณน้า ถ้าหากตอนนี้พวกเขาเดินไปบอก แน่นอนว่ายายของเขาจะต้องไม่เข้าใจพวกเขาแน่ แถมยังจะคิดด้วยว่าตนเองนั้นแย่งผู้หญิงของคุณอาไป เป็นที่เสื่อมเสียของวงศ์ตระกูล
ถึงเวลานั้นไม่เพียงแค่ปาณีที่จะถูกคนรังเกียจ แม้กระทั่งตัวของเขาเองก็จะสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจากคนในครอบครัวไปเช่นเดียวกัน
เขาเอ่ยกับปาณี “คุณยายอายุเยอะแล้ว ตอนนี้ไปบอกท่าน ออกจะไม่เหมาะสมอยู่บ้าง เธอรอฉันสองปี รอให้ฉันกลับมา รอตอนที่พวกเขาไม่สนใจความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับคุณน้ามากเท่าไหร่แล้ว ตอนนั้นน่าจะดีกว่า เธอคิดว่ายังไง?”
ที่เขาต้องการคือให้ปาณียอมรับ ยอมที่จะคบกับเขา เขาอยากได้ปาณี อยากให้แอนเดรีย ผู้หญิงคนนี้เป็นของเขา
แต่ก็ไม่อยากจะทำลายตำแหน่งของตนในบ้านลงเช่นกัน
เวทัสรู้อย่างแจ่มแจ้งว่าสถานะของครอบครัวนั้นมีประโยชน์ต่อเขา ถ้าหากไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้ว เขาก็อาจจะต้องกลายเป็นแบบติรยาก็เป็นได้
ปาณีฟังคำพูดของเวทัส มุมปากของเธอยกยิ้มขึ้น อย่างที่คิดไว้ เธอรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้
รู้จักกับเขามาตั้งนาน เขาเป็นคนแบบไหน เธอรู้มาตั้งนานแสนนานแล้ว
ถ้าหากตัวเธอเอาแต่โต้เถียงกับเขา ไม่แน่ว่าเขาอาจจะโมโหจนลงไปพูดกับที่บ้านขึ้นมาจริงๆ
แต่พอเธอตอบตกลงว่าจะคบกับเขาขึ้นมาจริงๆ เขากลับคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆและสถานะของตนเองขึ้นมา
ช่างน่าหัวเราะเยาะจะตายไป!
ผู้ชายคนนี้ เป็นรักแรกของเธอ เป็นคนที่ปากก็เอาแต่บอกว่าชอบเธอ คอยตามพัวพันกับเธอ?
ปาณีจ้องดูเวทัส “ตอนนี้นายถึงรู้ว่าคุณยายของนายอายุมากแล้ว? เมื่อกี้ไม่ใช่ว่านายเพิ่งจะอยากเอาเรื่องเมื่ออดีตของเราไปทำบทความ หลังจากนั้นก็ไล่ฉันออกจากบ้านไปหรือไง? ถ้าหากนายชอบฉันจริงๆ มีหรือที่จะมาลังเลอยู่แบบนี้? มานั่งคิดถึงตำแหน่งของตัวเองในบ้านนี้ นั่งกระวนกระวายแบบนี้หรือไง? เวทัส อย่าบอกเลยว่านายรักฉันมากแค่ไหน ความรักแบบนี้ของนาย ต่อให้ฉันทดสอบนายอีกกี่ครั้ง นายก็เป็นแบบเดิม นายยังคงรักแค่ตัวเองตลอดไป”
“…….”มองดูปาณีที่จู่ๆก็สีหน้าเปลี่ยนไป เวทัสก็แข็งทื่อไปชั่วครู่ ก่อนจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อกี้เธอ….เธอก็แค่ ทดสอบเขางั้นหรือ?
เขามองปาณี และรู้สึกโกรธจนสมองตื้อไปหมดขึ้นมา “ที่แท้ในใจเธอไม่เคยคิดที่จะตอบตกลงฉันอยู่เลย”
“นายยังไม่จริงใจเลย อาศัยอะไรมาให้ฉันจริงใจด้วย?”มุมปากของปาณียกขึ้น รู้สึกเกียจคร้านที่จะพูดจากับคนโง่แบบนี้อย่างยิ่ง
เธอกันหลังและเดินไป ในมือหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมา ก่อนจะพูดขึ้นกับธามนิธิที่อยู่ในสาย “คุณอา คุณได้ยินหมดแล้วใช่ไหมคะ? ฉันว่าตอนนี้คุณคงมีเรื่องที่อยากจะคุยกับเวทัสอยู่ไม่น้อย คุณพูดกับเขาเถอะค่ะ!”
ปาณีพูดไป และยื่นโทรศัพท์ไปให้เวทัส
เวทัส “……”
โทรศัพท์ของเธอ ที่แท้แล้วต่อสายไว้ตลอดหรือ?
เป็นแบบนี้แล้ว เมื่อกี้เธอยังมาแสดงละครพวกนั้นกับเขาอีก?
ปาณีไม่พูดพร่ำทำเพลงกับเขาอีก เธอยัดโทรศัพท์ใส่มือเขาโดยตรง เวทัสมองดูเธอ รู้สึกว่าตนเองโดนเธอทำให้โกรธจนแทบจะกระอักเลือดออกมา
ส่วนไวยาตย์นั้นมึนไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้กำลังแสดงอะไรกันอยู่
ธามนิธิเอ่ยกับเวทัสเสียงต่ำ “ใครให้นายกลับมา”
เวทัสถือโทรศัพท์เอาไว้ สีหน้าด้านหนึ่งดำคล้ำด้านหนึ่งซีดขาว เขามองดูปาณี แต่เธอทำแค่เพียงกำลังมองดูสีเล็บของตนเองอย่างใสซื่อเท่านั้น เป็นส้มโอที่ช่วยทำให้เธอเมื่อวันก่อน ดูดีไม่น้อยเลยทีเดียว
เวทัสถูกสั่งสอนไปยกหนึ่ง ในใจยังรู้สึกตระหนกอยู่บ้าง หลังจากคุยเสร็จก็รีบเดินออกไปทันที
ปาณีมองดูเบื้องหลังของเขา อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ เมื่อกี้ยังอยากได้เธออยู่เลย ช่างน่าสนุกจริงๆ
พอเวทัสเดินไป มือถือที่เพิ่งจะถูกเขาวางสายไปก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง