My MCV and Doomsday - ตอนที่ 495
Chapter 495: ฉันพึ่งต้องการบางอย่าง
ฟานยี่ตงรู้สึกไม่น่าเชื่ออย่างมาก! ผู้รอดชีวิตธรรมดาจะมีคริสตัลวิวัฒนาการมากมายขนาดนั้นได้ยังไงกัน?
เฮอจุนฮงและพี่สาวเฉียนก็ประหลาดใจกับภาพที่เห็นด้วยเช่นกัน พวกเขาอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าพื้นหลังของเจียงลู่ฉีคือใครและถ้าเขาเหลืออะไรที่ยังไม่มีอีก ไม่ว่าจะเป็นนิวเคลียสเลือดกลายพันธุ์ระดับ 2 หรือคริสตัลวิวัฒนาการ เขาก็สามารถหยิบมันออกมาได้อย่างง่ายดาย
เจียงจู้อิงภาคภูมิใจในตัวของพี่ชายเธออย่างมาก เธอก็มองไปที่ฟานยี่ตงอย่างเหยียดหยาม ถึงแม้ว่าเจียงจู้อิงจะไม่รู้ถึงความลับของคริสตัลวิวัฒนาการ เธอก็ไม่สนใจมันอยู่ดี ตราบเท่าที่พี่ชายของเธอแข็งแกร่งยิ่งขึ้นแล้วละก็มันก็พอเพียงแล้วที่เธอจะมีความสุข
“ฮ่าๆ กัปตันเจียง มันเหมือนกับว่าคุณไม่ได้ขาดสมบัติเลยนะครับ แล้วผู้บังคับบัญชาลู่ละครับ? กัปตันเจียงเอาคริสตัลวิวัฒนาการของเขาออกมาแล้วนะครับ”ฟานยี่ตงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
ลู่เทียนยู่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงต่ำ “คริสตัลวิวัฒนาการหนึ่งก้อน”
นิวเคลียสเลือดอาจจะหาได้ยาก แต่พวกมันก็สามารถใช้ประโยชน์ได้เพียงการค้นคว้าของกองทัพ อย่างไรก็ตามมันเป็นคนละกรณีกับคริสตัลวิวัฒนาการเลย กองทัพมีผู้มีพลังเหนือธรรมชาติมากมายเต็มไปหมดที่ทกคนต่างต้องการคริสตัลวิวัฒนาการ แล้วมันจะเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไรในการแลกเปลี่ยนพวกมันกับผู้รอดชีวิต
“แล้วกัปตันเจียงละครับ?”ฟานยี่ตงตบมือและยิ้มออกมา เขาก็ดูเหมือนกับหมาป่าที่ละโมภโลภมากที่ค้นพบกับเหยื่อตัวอ้วนพี เขาก็รู้แล้วว่าเจียงลู่ฉีต้องการนิวเคลียสเป็นอย่างมาก
เจียงลู่ฉีก็มองไปที่ฟานยี่ตงและพูดอย่างไม่แยแส “สองก้อน”
เมื่อได้ยินคำพูดของเจียงลู่ฉีแล้วฟานยี่ตงก็ตื่นเต้นอย่างมากและหลังจากนั้นลู่เทียนยู่ก็พูดอีกครั้งหนึ่ง “ผู้บังคับบัญชาลู่ ถ้าคุณไม่ใจกว้างแล้วละก็ ผมอาจจะให้นิวเคลียสเลือดกับกัปตันเจียงนะครับ”
ลู่เทียนยู่ยังคงเงียบอยู่ สุดท้ายแล้วคริสตัลวิวัฒนาการทั้งสองก้อนมันก็เกินราคาที่กองทัพจะจ่ายไหวไปแล้ว ลู่เทียนยู่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากยอมแพ้
ฟานยี่ตงก็ยิ้มและพูดกับเจียงลู่ฉี “เยี่ยม! การตกลงเป็นอันเสร็จสิ้น! ตั้งแต่ที่กัปตันเจียงตัดสินใจได้อย่างเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ ผมก็จะรับข้อเสนอของคุณครับ”และหลังจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาดังก้อง
เฮอจุนฮงก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ คริสตัลวิวัฒนาการสองก้อนสำหรับนิวเคลียสเลือดหนึ่งก้อนงั้นเหรอ? ฟานยี่ตงทำการค้าได้สุดยอดมาก
ลู่เทียนยู่ก็พูดไม่ออก เมื่อเขาไม่สามารถหยุดความคิดในหัวของเขาว่าทำไมเจียงลู่ฉีถึงต้องการมันเป็นอย่างมากขนาดนั้น พูดตามปกติแล้ว นิวเคลียสเลือดมันไร้ประโยชน์สำหรับผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไป
“มาแลกเปลี่ยนพวกมันให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เถอะครับ!”ฟานยี่ตงอุทานออกมา
‘ปึง!’
คริสตัลวิวัฒนาการสองก้อนก็ถูกวางไว้บนโต๊ะและดวงตาของฟานยี่ตงก็ส่องประกายออกมาและเขาก็รีบเอื้อมมือไปหยิบพวกมัน
“มืออยู่นิ่งๆซะ! นิวเคลียสเลือดของนายอยู่ไหน?”เจียงจู้อิงหยุดเขาและถามออกมา
“ฮ่าๆ ผมกำลังจะให้กับกัปตันเจียงเลยละครับ”ฟานยี่ตงก็ส่งนิวเคลียสเลือดให้กับเจียงจู้อิงในทันที
“พี่ชาย นี่ของพี่!”เจียงจู้อิงก็ส่งมันให้กับพี่ชายของเธอเหมือนกับส่งสมบัติไปให้
เพียงเวลาไม่นานที่เจียงลู่ฉีสัมผัสมัน เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็แจ้งเขา ‘ตรวจพบพลังงานกลายพันธุ์ระดับ 2’
เจียงลู่ฉีก็ค่อนข้างที่จะพึงพอใจ เขาได้รับนิวเคลียสเลือดกลายพันธุ์มาแล้วสองก้อน ซึ่งหมายความว่าส่วนที่ยากที่สุดในเงื่อนไขการอัพเกรดก็สำเร็จลงแล้ว
ฟานยี่ตงก็หยิบไปที่คริสตัลวิวัฒนาการทั้งสองก้อนในทันที หลังจากสัมผัสได้ถึงพลังงานของพวกมันแล้ว เขาก็ยิ้มออกมาเหมือนกับเด็ก “กัปตันเจียง มันเป็นเกียรติมากเลยครับที่ได้ทำธุรกิจกับคุณ!”
อย่างไรก็ตามฟานยี่ตงก็อดที่จะจ้องไปที่ฝ่ามือของเจียงลู่ฉีเสียมิได้ ซึ่งมันมีคริสตัลวิวัฒนาการหลายก้อนวางกองอยู่ด้านหน้าของเขา
ลู่เทียนยู่ก็ส่ายหัวเมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น เขาสงสัยว่าทำไมเจียงลู่ฉีถึงได้ทำแบบนั้น คนที่เปิดเผยสมบัติของเขาก็จะถูกโจมตีอยู่เสมอๆ
“ฉันต้องการถามอะไรนายสักอย่าง”ลู่เทียนยู่ก็พูดกับเจียงลู่ฉีซึ่งทำให้เขาประหลาดใจอยู่เล็กน้อย
“นายได้คริสตัลวิวัฒนาการขนาดนั้นมาได้ยังไงกัน? นายมาจากที่ไหน?”ลู่เทียนยู่ถาม
เจียงลู่ฉีก็ยังคงใจเย็นอยู่หลังจากได้ยินคำถาม แต่ฟานยี่ตงก็รู้สึกกลัว เขาก็สงสัยถึงต้นกำเนิดของคริสตัลวิวัฒนาการด้วยเช่นกัน พูดตามปกติแล้วมันน่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไปที่จะมีคริสตัลวิวัฒนาการเช่นนี้และนอกจากนี้แล้ว คนส่วนใหญ่ก็จะกินมันไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วเจียงลู่ฉีจะเก็บพวกมันหกก้อนไว้ได้ยังไงกัน?
‘ทำไมลู่เทียนยู่ถึงถามคำถามแบบนั้นกัน?’ฟานยี่ตงสงสัย หลังจากคิดอยู่สักพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกว่ามันไม่มีสิ่งใดที่เขาจะต้องกังวล ตั้งแต่ที่เขาได้มันมาจากการทำธุรกิจ ในเวลาเดียวกันเขาก็ต้องการที่จะปล้นคริสตัลที่เหลือของเจียงลู่ฉี
“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องตอบคำถามนาย”เจียงลู่ฉีตอบกลับอย่างใจเย็น
“ใช่ ทำไมพี่ชายของฉันต้องบอกนายด้วยกัน?!”เจียงจู้อิงขมวดคิ้ว ถ้าใครก็ตามต้องการที่จะล้วงความลับของพี่ชายของเธอแล้วละก็เธอก็จะระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น
การแสดงออกของลู่เทียนยู่ก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้คาดคิดว่าเจียงลู่ฉีจะโอหังมากขนาดนี้ ในสายตาของเขาแล้ว ทีมผู้รอดชีวิตธรรมดาก็ไม่ได้ต่างไปจากม็อบที่ไร้กฏระเบียบที่จะล่มลงเมื่อโดนการจู่โจมใส่ เมืองเฮยจิงก็มีทีมแบบนี้อยู่มากมาย ดังนั้นเขาจะให้ความเคารพกับพวกเขาได้ไงกัน?
สำหรับเจียงจู้อิงแล้ว ลู่เทียนยู่ก็ไม่รู้สึกโกรธกับสาวน้อยเช่นนั้น
ฟานยี่ตงก็พยายามที่จะสงบศึกกับทั้งสองฝั่ง “ผู้บังคับบัญชาลู่ครับ มันไม่ได้เรื่องที่ดีเท่าไหร่ครับที่ต้องการรู้ที่มาของคนอื่น”
“อย่าลืมว่าพื้นที่ปลอดภัยทั้งหมดตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพ ถ้าคริสตัลวิวัฒนาการของนายเกี่ยวข้องกับพื้นที่ปลอดภัยอื่นแล้วละก็ฉันก็จะต้องสืบค้นเกี่ยวกับเรื่องนี้และจัดการกับพวกเขา”ลู่เทียนยู่พูดด้วยเสียงอันเบาบาง
“ผู้บังคับบัญชาลู่ อย่าลืมว่าเมืองเฮยจิงเป็นของพวกเรา ผู้รอดชีวิต ถึงแม้ว่าผู้บังคับบัญชาลู่จะทรงพลัง มันก็จะเป็นเรื่องที่ดีกว่านะครับสำหรับคุณที่จะไม่ยุ่งวุ่นวายกับเมืองเฮยจิงและเรื่องของเขา”ฟานยี่ตงไอและพูดออกมา
“นายกำลังข่มขู่ฉันงั้นเหรอ?”ลู่เทียนยู่ถามออกมาอย่างโกรธเคือง
“ไม่ครับ คุณพูดอะไรอยู่กัน…”ฟานยี่ตงหัวเราะและพยายามที่จะทำให้เรื่องมันง่ายขึ้น
ลู่เทียนยู่ยิ้มออกมาอย่างเย็นชาและพูดออกมา “เยี่ยม!”เขาเหลือบตามองไปที่เจียงลู่ฉี แต่เขาก็กำลังจ้องไปที่เจียงจู้อิง
“นายมองอะไรอยู่กัน? ไม่ได้ยินที่เขาพูดงั้นเหรอ?”เจียงจู้อิงพูดอย่างไม่มีพิธีการอะไร
ฟานยี่ตงก็กดดันกับคำพูดของเจียงจู้อิงด้วยเช่นกัน เขาก็หงุดหงิดกับลู่เทียนยู่แล้ว แต่ทำไมหญิงสาวคนนี้ถึงได้เทน้ำมันลงบนกองไฟอีกกัน? เขาตัดสินใจว่าจะทำให้เจียงลู่ฉีจ่ายสิ่งที่น้องสาวทำกลับไป
ในเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีพูดออกมาในช่วงเวลาที่กำลังเล่นกับคริสตัลวิวัฒนาการในมือของเขา “ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วละก็ฉันก็รู้สึกโล่งใจ”
ฟานยี่ตงยิ้มออกมาและคิดว่าเจียงลู่ฉีเป็นชายหนุ่มที่ใสซื่อ
‘เขาเป็นคนโดนหลอกง่ายขนาดนี้ได้ยังไงกัน?’ฟานยี่ตงรู้สึกเหมือนกับว่าเขาไม่ได้หลอกเจียงลู่ฉีอีกในภายหลังแล้วละก็เขาก็คงสูญเสียโอกาสในชีวิตนี้แล้ว
“กัปตันเจียงครับ คุณเป็นแขกที่ทรงเกียรติของผม ถ้าคุณต้องการอะไรสักอย่างแล้วละก็คุณสามารถบอกผมได้เลยและผมจะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อทำให้คุณพึงพอใจครับ”
“เยี่ยมเลย ฉันพึ่งจะต้องการอะไรบางอย่างอยู่”เจียงลู่ฉียิ้ม
“กัปตันเจียง ผมกำลังรับฟังครับ”ฟานยี่ตงพูดออกมา
“หัวของนายยังไง!”เจียงลู่ฉีตอบกลับ ในขณะที่ชักปืนของเขาออกมาและเล็งปากกระบอกปืนดำไปที่หัวของฟานยี่ตง
“นายต้องการที่จะตายแล้วละ!”ฟานยี่ตงร้องออกมาและหลังจากนั้นเขาก็พลิกโต๊ะหินอ่อนด้านหน้าเขาและแยกเขาออกมาจากเจียงลู่ฉี
‘ปัง!’
เสียงดังก็ดังก้องออกมารอบโรงอาหารและเจียงลู่ฉีก็กระโดดกลับไป
“อ๊า!”พนักงานสาวกรีดร้องออกมาและลูกน้องของฟานยี่ตงก็ยกปืนของพวกเขาขึ้นและเริ่มยิงออกไป
“ทำอะไร!”ลู่เทียนยู่ก็รีบนำสมาชิกของเขาหลบไปด้านข้าง
พี่สาวเฉียนก็รู้สึกหวาดกลัวด้วยเช่นกันและกรีดร้องออกมา โชคดีที่เธอโดนผลักทันท่วงทีโดยเฮอจุนฮง
เฮอจุนฮงก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน เมื่อเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าเจียงลู่ฉีจะโจมตีใส่ฟานยี่ตรง
เจียงจู้อิงก็หลบอยู่ด้านหลังเสา เธอนั้นไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธ ตราบเท่าที่เธอยกมือของเธอขึ้นมา ประกายไฟฟ้าก็จะปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเธอ ไม่สำคัญว่าเธอจะจัดการกับใคร พวกเขาก็จะส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและล้มลงบนพื้นในตอนที่โดนการโจมตีของเธอ
“ทรงพลัง!”ลู่เทียนยู่ตะโกน
ในตอนแรก เขาพิจารณาว่าเจียงจู้อิงเป็นลูกน้องของฟานยี่ตง แต่มันเหมือนกับว่าเขาคิดผิด เธอเป็นเพื่อนร่วมทีมของเจียงลู่ฉีต่างหาก! ไม่สงสัยเลยว่าทำไมชายหนุ่มคนนี้ถึงทำตัวเย่อหยิ่งขนาดนี้ อย่างไรก็ตามการกระทำของเจียงลู่ฉีก็ส่งผลกระทบกับจิตใจของลู่เทียนยู่ เขาสามารถที่จะมองเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเจียงลู่ฉีเพียงแค่เบี่ยงตัวเล็กน้อยและยิงออกไปโดยไม่มองคู่ต่อสู้ และทุกครั้งที่เขายิงออกไป กระสุนของเขาก็จะฆ่าใครสักคนไป ในช่วงเวลาสั้นๆ เจียงลู่ฉีก็ฆ่าคนไปหลายคนแล้วโดยที่เหงื่อยังไม่ตกเลยด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าเจียงจู้อิงจะเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติระดับ 2 ที่มีความสามารถที่น่าตื่นตระหนกก็ตามที เธอก็ไม่สามารถที่จะแสดงประสิทธิภาพที่แท้จริงออกมาได้โดยปราศจากพื้นที่ที่ป้องกันกระสุน ไม่สำคัญว่าเธอจะแข็งแกร่งแค่ไหน ร่างกายของเธอก็ไม่สามารถที่จะหยุดกระสุนได้
ลู่เทียนยู่ประหลาดใจมากและเขาก็สงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงการไหลเวียนพลังงานจากเจียงลู่ฉีเลย ในเวลาเดียวกัน เขาก็ประทับใจกับความสามารถในการยิงปืนที่สุดยอดของเขา มันเหมือนกับว่าเขาสามารถอ่านความคิดของคู่ต่อสู้ได้และการยิงของเขาในแต่ละนัดก็จะเก็บเกี่ยวชีวิตของผู้คนไป
“เหี้..!”ฟานยี่ตงรู้สึกหดหู่กับความทรงพลังของเจียงลู่ฉีและกับความจริงที่เขาสูญเสียลูกน้องของเขาไปทีละคนทีละคนโดยไม่มีโอกาสได้สู้กลับ มันเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบกับจิตใจอย่างมาก!
ยังไงก็ตาม โรงอาหารแห่งนี้มันเป็นอาณาเขตของเขาและเขานั้นเป็นคนที่ชอบวางแผน ฟานยี่ตงจะพาลูกน้องมาแค่นี้ได้ยังไงกัน?
ทันใดนั้น ห่ากระสุนก็ยิงออกมาจากศาลาและกระเบื้องที่อยู่บนเพดานก็เริ่มลงมา เจียงลู่ฉีก็เหลือบตามองขึ้นไปอย่างรวดเร็วและเห็นคนหลายสิบคนที่โผล่ออกมาจากหน้าต่างชั้นบน
ในเวลาเดียวกัน ร่างสองร่างก็กระโดดออกมาจากหน้าต่างและหล่นลงบนศาลาเหมือนกับลิงที่ปราดเปรียวพร้อมกับหมัดหนัก
‘บึ้ม!’
ก้อนอิฐก็บินไปมารอบทุกทิศทางและลูกน้องของฟานยี่ตงก็ปรากฏจากก้อนอิฐเหล่านั้น
“นายคิดว่าการลอบโจมตีของนายมันจะได้ผลงั้นเหรอ!?”เจียงจู้อิงก็ปรากฏขึ้นมาเหมือนกับเป็นผีด้านหน้าทั้งสองและหลังจากนั้นเธอก็เอื้อมไปจับชายทั้งสองคนและตาข่ายกระแสไฟฟ้าก็พันทั้งสองคนไว้ กระแสไฟฟ้าก็สว่างวาบขึ้นกลางอากาศ
เขาก็ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เจียงลู่ฉีก็ยกปากกระบอกปืนและยิงขึ้นฟ้า ชายหลายคนก็หล่นจากหน้าต่างลงบนพื้นในทันทีและเลือดก็สาดกระจายไปทั่วกระจก การลอบโจมตีนี้ไม่เพียงแต่ล้มเหลว แต่เจียงลู่ฉีก็ฆ่าลูกน้องของฟานยี่ตงมากขึ้นไปอีก
“อดทนไว้อีกสักพักหนึ่ง! กำลังเสริมกำลังมา!”ฟานยี่ตงตะโกนออกมา
เมืองเฮยจิงนั้นไม่ใหญ่ ดังนั้นเสียงปืนที่ดังขึ้นก็น่าจะดึงดูดพันธมิตรของเขามาได้ นอกจากนี้เจียงลู่ฉีและเจียงจู้อิงอาจจะดุร้าย แต่พวกเขาถูกกักขังอยู่ในศาลา
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะเอาชนะฟานยี่ตง”ลู่เทียนยู่มองไปที่เจียงลู่ฉีและส่ายหัว เมื่อเขายืนอยู่ในสถานที่ปลอดภัยพร้อมกับสมาชิกของเขา สุดท้ายแล้วเขาก็เข้าใจว่าทำไมเจียงลู่ฉีพูดว่าเขาโล่งอกก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ที่กองทัพไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาแล้ว เจียงลู่ฉีก็สามารถต่อสู้กับฟานยี่ตงโดยไม่ต้องกังวลเลย
อย่างไรก็ตาม ในความคิดของเขาแล้ว เจียงลู่ฉีก็มั่นใจในตัวของเขาเองมากเกินไป มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเจียงลู่ฉีที่จะฆ่าลูกน้องทั้งหมดของฟานยี่ตงพร้อมกับน้องสาวของเขา นอกจากนี้แล้ว เมื่อกระสุนของพวกเขาถูกใช้จนหมดแล้ว พวกเขาก็จะสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไป ถึงแม้ว่าการลอบโจมตีของฟานยี่ตงจะจบด้วยการล้มเหลว มันก็ยังคงทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัยและกักัขังพวกเขาอยู่ในพื้นที้นี่ซึ่งมันเป็นเรื่องยากในการป้องกันกระสุน
มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดที่ในเวลานั้นฟานยี่ตงก็เหมือนกับได้ยินเสียงแปลกประหลาด เขาก็หันหัวไปเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน เพียงแค่นั้นสัมผัสลางร้ายก็เกิดขึ้น ในเวลาเดียวกัน ลู่เทียนยู่ก็สังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติและหัวก็ฟาดเข้าใส่กำแพงด้านหลังฟานยี่ตง
“บึ้ม!”
เสียงก็ดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณและหลังจากนั้นตึกก็ถล่มลง ในขณะที่กำแพงเหมือนกับถูกผลักลงไปโดยแรงอันมหาศาล แรงทำลายล้างก็ส่งผลกระทบกับลูกน้องของฟานยี่ตงที่อยู่ใกล้กับกำแพงที่สุดและส่งพวกเขากระเด็นออกไปเหมือนกับแผ่นกระดาษ คนเหล่านั้นก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะได้ร้องเลยแม้แต่น้อย ก่อนที่จะเปลี่ยนกลายเป็นเนื้อบด
พื้นดินก็เหมือนกับถูกระเบิดโดยสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่!
การแสดงออกของลู่เทียนยู่ก็เปลี่ยนไปอย่างมากและเขาก็มองไปยังวัตถุสีขาวที่ปรากฏขึ้นมาจากกำแพงที่พังทลายอย่างไม่เชื่อ เมื่อฝุ่นนั้นจางหายไป รูปลักษณ์ของวัตถุสีขาวที่แท้จริงก็ปรากฏขึ้น มันเป็นด้านหน้ารถของรถมินิบัสซึ่งหันไปหาสนามหญ้าอย่างเยือกเย็น!