My MCV and Doomsday - ตอนที่ 521
รัฐบาลได้ประกาศถึงเหตุฉุกเฉิน ผู้คนในหลายๆแห่ง พยายามช่วยตัวของพวกเขาเองอย่างยากลําบาก รอคอยการช่วยเหลือ มีเพียงแค่กลุ่มของคนกลุ่มนี้เท่านั้นที่หลบหนีออกมาจากที่กําบังของพวกเขา โดยไม่ได้รับการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง นอกจากนี้แล้ว มีทหารเพียงไม่กี่คนอยู่กับพวกเขา นี่คือเหตุผลที่ว่า ทําไมพวกเขาถึงได้ถามว่าพวกเขาทําสําเร็จได้ยังไง
“ ทีมฉี่หยิงช่วยพวกเราไว้ครับ” หัวหน้าเจ้าหน้าที่อธิบาย
“ทีมฉี่หยิง?” เจ้าหน้าที่อีกคนมึนงง แต่หลังจากนั้นเขาก็ตื่นเต้น “พวกเขาอยู่ที่ไหนกันครับ?”
หัวหน้าเจ้าหน้าที่ชี้ไปที่รถมินิบัสของเจียงลู่ฉี่
“โอ้ รถมินิบัสละ!” เจ้าหน้าที่ก็รับรู้ เมื่อรถมินิบัสถูกเรียกว่าเป็นดั่งเอกลักษณ์ของทีมฉี่หยิง พวกเขาเป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่ขับพวกมัน
ในตอนนี้ รถมินิบัสถูกปกคลุมไปด้วยเลือดของนกกลายพันธุ์ ซึ่งเป็นที่ดึงดูดสายตามาก หน้า ต่างของมันถูกย้อมไปด้วยเลือด และหยดเลือดไหลลงมาอย่างเชื่องช้า
ในช่วงเวลาเดียวกัน เจียงลู่ฉีกําลังเดินลงมาจากห้องยิ่งขึ้น หลังจากนั้น เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ผ่านจุดที่ไม่เปื้อนเลือด เขาคอยสังเกตที่พักอาศัย มันถูกปกคลุมไปด้วยชั้นเหล็ก ซึ่งมันถูกเสริมด้วยปูนซีเมนต์ และมีจุดยิงปืนหลายจุดมากมายด้านในกําแพง
คนที่ได้รับบาดเจ็บที่พบเห็นได้ทั่วทุกแห่งในที่พักอาศัย และพวกเขาส่วนใหญ่ต่างร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด ในยามเดียวกัน ทหารมากมายเตรียมต่อสู้อย่างเร่งรีบ หลังจากที่เตรียมตัวเสร็จ ที่มหลายต่อหลายทีมมากมายพุ่งตัวออกไปด้านนอก เพื่อไปช่วยชีวิตประชาชน
เจียงลู่ฉีรู้สึกเศร้าเสียใจด้วยสายตาแบบนี้ ถึงแม้ว่าหลุมดําจะยังไม่ได้เข้าไปใกล้กับพวกเขา มันเริ่มต้นที่จะสร้างความวุ่นวายในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว
สัตว์ประหลาดกลายพันธุ์มีมากมายหลากหลายตัวและพวกมันก็ไม่กลัวตายอีกด้วย พวกมัน สามารถที่จะสร้างความเสียหายที่ไม่สามารถฟื้นกลับคืนจากพื้นที่ปลอดภัยได้ ก่อนวันโลกาวินาศแล้ว หนูสามารถที่จะให้กําเนิดลูกออกมาหลายสิบตัวขึ้นพร้อมกันในเวลาเดียว และพวกมันไม่ได้สูญเสียความสามารถไปด้วย หลังจากการวิวัฒนาการแล้ว ดังนั้นใครก็ตามสามารถที่จะจินตนาการได้ถึงความน่ากลัวจากกองทัพที่โจมตีอย่างไม่หยุดไม่หย่อนได้เลย
เจียงลู่ฉีประเมินว่าการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และพวกสัตว์กลายพันธุ์เหล่านั้นจะคงอยู่ ไปอีกเป็นเวลานาน ยังไงก็ตาม ในขณะที่พวกสัตว์ปากลายพันธุ์กําลังล่อให้พวกมนุษย์ยิงใส่พวกมัน หลุมดําค่อยๆเคลื่อนที่มาหาพวกเขาอย่างช้าๆ โดยไม่พบกับอุปสรรคใดๆ ในตอนสุดท้าย มัน ก็จะกลืนพื้นที่ปลอดภัยไปทั้งหมด! มันเลวร้ายขนาดไหนกัน!? เจ้าหลุมดํามันมีสติปัญญา มันได้ใช้กองกําลังภายนอกเพื่อที่จะลอการโจมตีจากมนุษย์ไป ในขณะที่กองกําลังภายในกําลังก่อความ เสียหายกับพื้นที่มีคนอาศัยเยอะ
ทันใดนั้น เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง และมันได้ส่งข้อความมาให้กับเขา
“ตรวจพบพลังงานที่พิเศษ… ดูดซึมมันหรือไม่?”
“เอ๋?” เจียงลู่ฉีสับสน
“อะไรเนี่ย? พลังงานประเภทไหนกันที่สามารถดูดซึมได้?
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เหลือบมองไปที่เลือดบนกระจก สิ่งที่เมสีดพันธุ์แห่งดวงดาวต้องการที่ จะดูดซึมก็คือพลังงานภายในเลือดนั้น!
“พลังงานพิเศษอะไร? มันเกี่ยวข้องกับหลุมดําหรือเปล่า?” เจียงลู่ฉีถามอย่างรวดเร็ว
“พลังงานพิเศษคล้ายคลึงกับต้นกําเนิดของตัวปัญหา เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวได้ส่งข้อความกลับมา
เจียงลู่ฉีถอนหายใจอย่างโล่งอก หลังจากได้ยินคําตอบ
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทําไมหลุมดําถึงสามารถควบคุมสัตว์ประหลาดตัวใหญ่เหล่านั้นได้ ยังไงก็ตาม เจียงลู่ฉีคิดอยู่ตลอดเวลา ว่าเจ้าหลุมดําสร้างปัญหาให้กับเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว เขาไม่ได้คาดคิดเลยว่า เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวจะสามารถดูดซึมพลังงานของมันได้
“ดูดซึมมันเลย!
“พลังงานพิเศษจํานวนเล็กน้อยให้ถูกดูดซึม ยืนยันตัวตนของพลังงานพิเศษ มันถูกเรียกว่า แสงดํา เมื่อดูดซึมแสงดําได้ถึงจํานวนหนึ่ง มันสามารถที่จะเป็ดและใช้งานแผงควบคุมหลักได้
เพียงเวลาไม่นานที่เสียงเครื่องจักรอันเยือกเย็นหยุดลง เจียงลู่ฉีตกใจอย่างมาก
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? แผงควบคุมหลักมันคืออะไร?”
เจียงลู่ฉีตกอยู่ในความคิดที่ว่า เขาได้รับรู้ถึงความสามารถทุกอย่างของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว แล้ว เขาไม่ได้คาดเลยว่าเขาจะรู้จักมันได้เพียงบางส่วน แต่เขายอมรับกับความรู้ใหม่อย่างรวดเร็ว ในความเป็นจริงแล้ว เขายังไม่ได้รู้ถึงต้นกําเนิดของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวเลยด้วยซ้ําไป หลังจากที่ดูดซึมแสงดําไป ฟังก์ชั่นลับของเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวก็เริ่มใช้งาน
“นั่นหมายความว่า เจ้าแสงดําคือพลังงานที่เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวจําเป็นต้องควบคุมให้ดีๆสินะ เจียงลู่ฉีคิด
ในโลกที่ล่มสลายอันเลวร้ายเช่นนี้ พลังงานประเภทใหม่ได้ถือกําเนิดขึ้น ทั้งเนื้อกลายพันธุ์และ คริสตัลวิวัฒนาการ ซึ่งมันสามารถสกัดจาก แก่นแท้ของนิวเคลียสกลายพันธุ์ ที่เป็นต้นกําเนิดของพลังงาน สําหรับพวกมีพลังเหนือธรรมชาติ แน่นอนว่านิวเคลียสเลือตกลายพันธุ์สามารถที่จะ ใช้เป็นต้นกําเนิดพลังงาน สําหรับรถมินิบัสของเจียงใต้ ไว้สําหรับการเพิ่มความสามารถของฟังก์ชั่น หรือใช้พวกมันเป็นตัวอัพเกรด
จากยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์ของการพัฒนาอารยธรรมของมนุษย์เป็นประวัติ ศาสตร์ของการพัฒนาด้านพลังงาน ยกตัวอย่างเช่น การกําเนิดของไฟที่เป็นจุดพลิกผันในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ หลังจากที่มนุษย์ได้เรียนรู้การสร้างไฟ พวกเขาเริ่มเลี้ยงสัตว์ เมื่อมนุษย์ได้สร้างเครื่องจักรไอน้ํา พวกเขาก็ได้เข้าสู่ยุคเครื่องจักรไอน้ํา หลังจากนั้น พวกเขายิ่งพบกับต้นกําเนิดพลังงานต่างๆมากมายอีกหลายอย่าง อย่างเช่น แสงอาทิตย์ ลม นิวเคลียร์ และอย่างอื่น
น้ํามันเบนซินและดีเซล เป็นต้นกําเนิดพลังงานที่ล้าหลัง เมื่อเทียบกับพลังงานใหม่ที่เกิดขึ้น หลังวันโลกาวินาศ มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าแสงเป็นต้นกําเนิดพลังงานที่เมสีดพันธุ์แห่งดวงดาวจําเป็นต้องใช้
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือเครื่องจักร พลังงานเป็นสิ่งที่แสนสําคัญสําหรับพวกเขา เมื่อต้นกําเนิดของพลังงานสามารถที่จะทําให้เจ้าหลุมดําเคลื่อนไหวได้ พลังงานของแสงดําจะต้องแข็งแกร่งอย่างมาก ถ้ารถมินิบัสของเพียงนี้สามารถที่จะใช้แสงตําเป็นต้นกําเนิดของพลังงานได้ มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ และเปลี่ยนแปลงเป็นแบบอื่น
มันน่าเศร้าที่เลือกได้เก็บกักแสงดําเพียงเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉีหวังว่าจะให้ฟังก์ชั่นลับทํางาน ความหวังของเขาก็ถูกตัด หลังจากที่ได้รับการแจ้งเตือนว่ามันไม่ได้มีพลังงานเหลือมากพอ
“ฉันจะหาทางดูดซับแสงดําได้มากกว่านี้” เจียงลู่ฉีตัดสินใจ รถมินิบัสของเจียงลู่ฉีเป็นเหมือนกับร่มป้องกัน แต่เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวคือแก่นหลัก ความสําเร็จทั้งหมดของเจียงลู่ฉีขึ้นอยู่กับความจริงที่เขาได้รับ เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวมาก่อนวันโลกาวินาศ ถ้าไม่ใช่เพราะเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวแล้ว เขาคงจะเป็นเหมือนกับผู้รอดชีวิตธรรมดาทั่วไปคนอื่นที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอด เขาอาจจะตายโดยไม่มีทางสู้ด้วยซ้ําไป ในอีกความหมายหนึ่ง เจียงลู่ฉีติดหนี้ชีวิตกับเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวอยู่ เขาจึงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะช่วยเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวดูดซึมพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ
“มันมีนกกลายพันธุ์นับพันตัวรอบพื้นที่ปลอดภัย ฉันต้องการที่จะดูดซึมพวกมันทั้งหมด!” เจียงลู่ฉีคิดออกมาอย่างตื่นเต้น
ทันใดนั้น เสียงเคาะก็ดังขึ้นด้านนอกรถมินิบัส
“ขออนุญาตให้ผมได้พูดคุยกับกัปตันเจียงได้ใหมครับ? ผมเป็นหนึ่งในลูกน้องของนายพลจางครับ!” เจ้าหน้าที่ด้านนอกประตูรถมินิบัสตะโกนออกมา
เจียงลู่ฉีเปิดประตูและพูดออกมา “ฉันเอง”
“กัปตันเจียงครับ ผมเฟิงเจียง ผู้บังคับบัญชาที่อยู่ภายใต้นายพลจางครับ” เฟิงเจียงทําความ เคารพท่าทหาร อย่างตื่นเต้น
ย้อนกลับไปที่เกาะเซนไฮ่ เพิ่งเจียงก็ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องราวมากมายของเจียงลู่นี่และทีมของ เขานอกจากนี้แล้ว นายพลจางก็นับถือพวกเขาเป็นอย่างมาก เมื่อเขาเป็นทหารแล้ว เฟิงเจียงก็นับถือทีมฉี่หยิงจากก้นบึงของหัวใจ
“ยินดีที่ได้รู้จัก ผู้บังคับบัญชาเฟิง คุณสามารถที่จะบอกผมเกี่ยวกับสถานการณ์โดยรวมอย่าง ละเอียดได้ใหม?” เจียงลู่ฉีถาม
“มันเลวร้ายมากเลยครับ สัตว์ประหลาดปรากฏตัวขึ้นอย่างฉับพลัน จึงทําให้พวกเราต้องสู้กับ มันโดยไม่มีเวลาได้เตรียมตัว” เฟิงเจียงอธิบาย “โชคดีที่หลายทีมได้ถูกส่งออกไปเพื่อช่วยเหลือชาวเมืองแล้ว ผมเชื่อว่าพวกเราจะควบคุมสถานการณ์ได้ในอีกไม่ช้า หน้าที่หลักของพวกเรา คือการเคลื่อนย้ายชาวเมืองให้ได้รับการสูญเสียที่น้อยที่สุดครับ”
“พื้นที่บริเวณไหนได้รับผลกระทบมากที่สุดกัน?” เจียงลู่ฉีถาม
เฟิงเจียงตอบกลับในทันทีโดยไม่คิด “พื้นที่หมายเลข 1 ถึงหมายเลข 7 ครับ รวมทั้ง ค่ายกองทหารที่ 4 สถานที่เหล่านี้ต่างเต็มไปด้วยผู้คนจํานวนมาก และค่ายทหารที่ 4 เป็นค่ายที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณ ยังไงก็ตาม สถานการณ์มันก็ดีขึ้นแล้ว เนื่องจากว่าทหารส่วนใหญ่ได้ถูกส่งออกไปป้องกันและเตรียมพร้อม สถานการณ์ของโรงงานก็ย่ําแย่มากครับ เมื่อมีชาวเมืองมากมายทํางาน
ในช่วงกลางวัน ดังนั้นมันจึงมีคนไม่มากที่อยู่ภายในตัวอาคาร….. ถ่านหินและโรงงานซ่อมแซ มรักษาเป็นสถานที่ที่มีคนมากที่สุด มันเป็นสถานการณ์ที่เข้าขั้นวิกฤติเลยครับ พวกเรากําลังเตรี ยมตัวที่จะส่งกองกําลังทหารออกไปอยู่ครับ”
ทหารทั้งหมดที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาต่างรวมตัวกันในพื้นที่ฉุกเฉิน และกําลังรอคอยเขาอยู่ เพิ่งเจียงได้ใช้เวลาที่เหลืออยู่ในการพบกับเจียงลู่ฉีและแสดงความขอบคุณ ที่จริงแล้ว ตัวตนของเจียงลู่ฉีทําให้เขาประหลาดใจ ในความคิดของเขาแล้ว เขาน่าจะเป็นคนที่ดูดุร้าย เขาไม่ได้ คาดว่าจะพบกับชายหนุ่มที่ดูอ่อนโยนแทน
เมื่อเฟิงเจียงพูดจบ เจียงลู่ฉีต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่างต่อ แต่เขาก็หยุด เมื่อกลุ่มรถอีกกลุ่มหนึ่งขับเข้ามาด้านใน มีคนสามคนที่กระโดดลงมาจากรถที่นําหน้า เจียงลู่ฉีเหลือบตามองไปที่พวกเขา และเขาก็พบว่าเขารู้จักสองคน คนแรกคือลู่เทียนหยู่ที่เขาพบที่เมืองเอยจิง ในขณะที่อีกคนคือจี่เชียงหมิงที่เขาเห็น เมื่อเขามาถึงพื้นที่ปลอดภัย คนสุดท้ายคือผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
“จี่เชียงหมิงก็เข้าร่วมหน่วยสงครามด้วยงั้นเหรอ?” เฟิงเจียงอุทานออกมาอย่างตกใจ “มาที่นี่อย่างเร่งด่วนเช่นนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาต้องการที่จะไปกับพวกเราสินะ”
เมื่อลู่เทียนหยู่เห็นผู้บังคับบัญชาเฟิง เขาก็เดินไปหาเขา เฟิงเจียงก็เช่นกัน
ถึงแม้ว่าหน่วยสงครามจะมีสมาชิกเพียงไม่กี่คน พวกเขาต่างมีสิทธิ์ที่จะออกคําสั่งขั้นสูงสุด ในอนาคตแล้ว สมาชิกของหน่วยทั้งหมดอาจจะได้รับการเลื่อนขั้นเป็นนายพลก็เป็นได้ สมาชิกทั้งหมดต่างเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติชั้นยอดกันทั้งนั้น
เมื่อเจียงลู่ฉีพบกับลู่เทียนหยู่ครั้งแรก พวกเขาก็ไม่ได้มีโอกาสที่จะได้ทําความรู้จักกัน แต่ใน ครั้งนี้ หลังจากที่เห็นลู่เทียนหยู่ เจียงลู่นี่ก็รู้สึกแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
“ผู้บังคับบัญชาเฟิงครับ ทั้งหมดนี้คือสมาชิกของหน่วยสงครามที่ได้มารวมตัวครับ พวกเราคว รที่จะออกเดินทางได้แล้ว เวลาทุกวินาทีมันสําคัญมากครับ” ลู่เทียนหยู่พูด หลังจากนั้น เขาก็สังเกตเห็นเจียงลู่ฉี การแสดงออกของลู่เทียนหยู่ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อย และเขาสงสัยว่าทํา ไมเจียงลู่ฉีถึงได้อยู่ที่นี่”
“ผู้บังคับบัญชาเฟิง ผมว่าผมต้องการที่จะไปกับคุณด้วย” เจียงลู่ฉีพูดออกมา
ทุกคนมองมายังเขา เมื่อพวกเขาได้ยินดังนั้น จี่เชียงหมิงก็ตกตะลึง เมื่อเขาไม่เข้าใจว่า ทําไมทีมผู้รอดชีวิตถึงต้องการที่จะเข้าร่วมภารกิจที่สุดแสนอันตรายเช่นนี้
เฟิงเจียงมีความสุขอย่างมาก กับคําขอที่คาดไม่ถึงของเจียงลู่ฉี “นั่นมันยอดเยี่ยมเลยครับ!”
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทําไมเจียงลู่ฉีต้องการที่จะไปกับพวกเขา เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีกับเขา สุดท้ายแล้ว ความแข็งแกร่งของทีมฉี่หยิงนั้นพิเศษมาก นอกจากนี้แล้ว เพิ่งเจียงก็รู้ว่านายพลจาง ต้องการที่จะให้ทีมนี้หยิงเข้าร่วมกองทัพ
จี่เชียงหมิงรู้สึกหงุดหงิดใจ ตราบเท่าที่เขารู้ ทหารส่วนใหญ่ไม่ได้ชอบที่จะร่วมมือกับทีมผู้รอด ชีวิต เมื่อสมาชิกของพวกเขาต่างหยิ่งยโสกันอย่างมาก เขาสงสัยว่าทําไมเพิ่งเจียงถึงได้มีความสุขเช่นนี้
“ถ้างั้นไปกันเถอะ” เจียงลู่ฉีพูด
จี่เชียงหมิงรู้สึกค่อนข้างแปลก สําหรับผู้รอดชีวิตที่จะต้องกังวลมากกว่ากองทัพในการออกทํา ภารกิจ
“ช่างมันเถอะ งั้นไปกันเถอะ” ลู่เทียนหยู่พูด