My MCV and Doomsday - ตอนที่ 522
รถของกองทัพมากกว่ายี่สิบคัน รวมทั้งรถมินิบัสของเจียงลู่ฉีและรถ off-road ของจางไฮ่ ขับออกไปจากที่พักอาศัยและมุ่งหน้าไปยังโรงงานถ่านหินและซ่อมบํารุง
จุดดําที่หนาแน่นที่ปรากฏขึ้นบนอากาศ รวมทั้งเสียงลมหวีดหวิวก็ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ในเวลาเดียวกัน เสียงปืนที่ดังกึกก้องก็ได้ยินทั่วทุกทิศทาง ในชั่วพริบตาพื้นที่ปลอดภัยทั้งแห่ง ได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นสนามรบที่ดุเดือด
“ทําไมทีมฉี่หยิงถึงต้องการที่จะมากับพวกเรากันนะ? ถ้าพวกเขาไม่ฟังคําสั่งของพวกเรากันละ?” จี่เซียงหมิงถามออกมาอย่างด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล
ลู่เทียนหยู่ตอบกลับอย่างใจเย็น “ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาหรอก ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ได้ส่งผลกระทบกับภารกิจของพวกเรา พวกเขาสามารถที่จะทําอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการทํามัน”
“ชายคนนั้นคือเจียงลู่ฉีอย่างงั้นเหรอ? นั่นคือรถมินิบัสที่อยู่ในข่าวลือใช่ไหม?” ผู้หญิงคนนั้น ถามออกมาในทันที มันเหมือนกับว่าเธอค่อนข้างที่จะสนใจในตัวของเจียงลู่ฉียังไงยังงั้น
“ข่าวลือ?” ลู่เทียนหหยู่ถามออกมาอย่างประหลาดใจ
“ใช่ เธอไม่รู้งั้นเหรอ? เจียงลู่ฉีเป็นที่โด่งดังไปทั่วเจียงหนิงเลยนะ” ผู้หญิงตอบกลับมาพร้อมกับรอยยิ้ม
จี่เซียงหมิงถามอย่างลังเลใจ “คุณเลขาหวันครับ ไม่ใช่ว่าคุณต้องการที่จะตรวจสอบเกี่ยวกับแผนกโลจิสติกส์อย่างงั้นเหรอครับ? พวกเราควรที่จะถามเกี่ยวกับสถานการณ์ก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ”
“ไม่จําเป็น” ผู้หญิงคนนั้นตอบกลับอย่างเย็นชา
จี่เซียงหมิงต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายแล้ว เขาก็ปัดความคิดนั้นทิ้งไป เลขาหวันก็เป็นเจ้าหน้าที่จากพื้นที่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอได้กลายเป็นเลขาของฮานหยวนแทน
จี่เซียงหมิงรู้สึกอยู่เสมอๆว่าผู้หญิงคนนี้เข้าใจได้ยาก ถึงแม้ว่าเธอจะดูไม่มีพิษมีภัย จี่เซียงหมิงรู้สึกหวาดกลัวเธอและเว้นระยะห่างจากเธอไป หวันหลานเป็นน้องสาวของเธอ แต่เธอไม่ได้สนใจ น้องสาวของเธอเลยด้วยซ้ำ จี่เซียงหมิงก็หยุดที่จะเปลี่ยนความคิดของเธอ เมื่อมันไม่ใช่ธุระอะไรของเขา
“พวกเราควรที่จะไปยังพื้นที่บริเวณที่สําคัญและอันตรายที่สุดได้แล้ว” หวันยี่หลิงพูด
ลู่เทียนหยู่และจี่เซียงหมิงคิดว่านี่คือภารกิจช่วยเหลือของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้พูดอะไรออกมา
เพียงเวลาไม่นาน พวกเขาก็มาถึงโรงงานซ่อมแซมอัตโนมัติ
ถึงแม้ว่าเจียงลู่ฉีจะเตรียมตัวมาแล้ว ตั้งแต่ที่เขามีประสบการณ์จากการบุกโจมตีจากแผนกโลจิสติกส์ เขาก็ยังตกตกะลึงกับสภาพปัจจุบันของโรงงาน โรงงานมันได้ถล่มไปแล้ว!
ยิ่งแย่ไปกว่านั้นก็คือ ไส้เดือนยักษ์หลายต่อหลายตัวกําลังขุดออกมาจากเศษซากปรักหักพัง ทันใดนั้น ไส้เดือนพร้อมกับเศษปนซีเมนต์ที่อยู่ในปากของมันก็ปรากฏขึ้น หลังจากนั้น มันได้พุ่งตัวเข้าใส่ทหารที่อยู่ไม่ห่างจากพวกมัน ทหารได้เล็งปืนใส่มันและยิงใส่พวกมันอย่างต่อเนื่อง แต่กระสุนของพวกเขามันไร้ประโยชน์ มีเพียงแค่ระเบิดต่อต้านรถถังเท่านั้นที่ทําให้พวกมันเจ็บได้ แต่แม้กระนั้น พวกมันยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าพวกมัน เมื่อร่างกายของพวกมันยังคงเคลื่อนไหวต่อไปได้ แม้ว่ามันจะเจ็บหนักก็ตาม
ไส้เดือนกลายพันธุ์ก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นใต้เท้าของทหาร และกลืนเขาไปทั้งคน!
หลันซิหยู่ขมวดคิ้ว “มันแย่ขนาดนี้ได้ยังไง?”
เจียงลู่ฉีสังเกตว่าผู้หญิงทั้งหมดของทีมเขาต่างรู้สึกขยะแขยงกันทั้งหมด มันเหมือนกับว่าผู้หญิงจะหวาดกลัวกับสิ่งที่น่าขยะแขยงแบบนี้
“พวกมันอยู่ที่นี่ละ!” หวันยี่หลิงพูดออกมาอย่างตื่นเต้น
จี่เซียงหมิงและลู่เทียนหยู่รู้สึกสับสน ว่าทําไมเธอถึงได้ตื่นเต้นขนาดนี้
“ช่วยพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้” หวันยี่หลิงสั่ง
ในตอนแรก หวันยี่หลิงไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะสั่งหน่วยสงครามได้ แต่หลังจากการประชุม หน่วยนี้ได้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของฮานหยวน นอกจากนี้แล้ว หวันยี่หลิงเป็นตัวแทนของฮานหยวน ดังนั้นเธอจึงสามารถที่จะสั่งการกับพวกเขาได้
“รับทราบ!” ลู่เทียนหยู่ตอบกลับทันที
ในชั่วขณะต่อมา เขาได้สั่งการลูกน้องทั้งหมดผ่านเครื่องสื่อสาร ให้พวกเขานําในกลออกมา หลังจากนั้น ทหารหลายสิบคนกระโดดลงจากรถของพวกเขาและวิ่งเข้าใส่ไส้เดือนกลายพันธุ์ พวกเขาวิ่งเข้าไปใกล้ไส้เดือน ในขณะที่หลบการโจมตีของพวกมันอย่างคล่องแคล่ว
เมื่อไส้เดือนกลายพันธุ์อ้าปาก ทหารก็จะขว้างระเบิดเข้าไปด้านในทันที หลังจากนั้น ไส้เดือนก็จะกลิ่นระเบิดลงไป หลังจากนั้น ร่างของพวกมันจะถูกฉีกกระชาก ในขณะที่เลือดและเนื้อสาดกระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
ภารกิจนี้ค่อนข้างที่จะอันตรายมาก แต่มันจบลงอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับการสูญเสียเลย เมื่อทหารร่วมมือกันและกันเป็นอย่างดี
ลู่เทียนหยู่พึงพอใจมากกับการร่วมมือกันอย่างยอดเยี่ยมของพวกเขา มันเป็นผลลัพธ์จากการฝึกฝนมาอย่างยาวนาน คนนับสิบคนต่างปฏิบัติเหมือนกับเป็นคนๆเดียวกัน หลังจากนั้น ลู่เทียนหยู่หันไปมองรถมินิบัสของเจียงลู่ฉี เขาหวังว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะทําให้เจียงลู่ฉีตกตะลึง ในความคิดของเขาแล้ว ไม่แม้แต่ทีมผู้รอดชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุด จะสามารถทําหน้าที่สําคัญในช่วงการต่อสู้เช่นนี้ได้ ในอีกความหมายหนึ่ง ทีมผู้รอดชีวิตนั้นจะอ่อนกว่ากองทัพธรรมดาทั่วไป ตราบเท่าที่หน่วยสงครามของเขาเริ่มต่อสู้ ประสิทธิภาพจะไม่เพียงดีเยี่ยม แต่มันจะเป็นการต่อสู้ที่โหดเหี้ยมและนองเลือดอีกด้วย
ลู่เทียนหยู่มองผ่านหน้าต่างหน้ารถของเจียงลู่ฉีได้ลางๆ เขาเห็นเจียงลู่ฉีที่กําลังนั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับ เจียงลู่ฉีกําลังขมวดคิ้ว มันเหมือนกับว่าเขาไม่ได้ให้ความสนใจกับสนามรบเลยด้วยซ้ำ เมื่อเขากําลังมองไปยังที่อื่นอยู่
ลู่เทียนหยู่อดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเจียงลู่ฉีกําลังมองอะไรอยู่
หวันยี่หลิงกําลังให้ความสนใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของสนามรบ เธอค่อนข้างตื่นเต้น และเธอกระซิบอะไรบางอย่างออกมา “ออกมาแล้ว “
เป็นเรื่องปกติที่ เมื่อเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ ลู่เทียนหยู่จะได้ยินคําพูดของเธออย่างชัดเจน ก่อนที่เขาจะถามว่า เธอกําลังพูดเกี่ยวกับอะไร เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมาจากสนามรบ ลู่เทียนหยู่ประหลาดใจ และเขารีบหันกลับไปมองสนามรบ
มันมีงูกลายพันธุ์พุ่งออกมาจากเศษซากปรักหักพัง
งูกลายพันธุ์อ้าปากของมันและพ่นพิษสีเขียวขนาดใหญ่ออกมาจนทําให้ทหารหลายนายเปียกโฉกไปด้วยพิษ หลังจากนั้น พวกเขาส่งเสียงกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ผิวหนังของพวกเขาที่โผล่พ้นเสื้อก็เปลี่ยนเป็นสีดํา ทันทีที่ผิวหนังโดนพิษสัมผัสในเวลาเดียวกัน ดวงตาของทหารเปลี่ยนเป็นสีแดงจากอาการเจ็บปวด ก่อนที่จะพร่ามัวจนพวกเขามองไม่เห็น ถึงแม้ว่าพวกเขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะวิ่งหนีหลบไปทางอื่น แค่การสัมผัสกับมันเพียงเล็กน้อย ก็มากพอที่จะทําให้พวกเขาสูญเสียพลังในการต่อสู้แล้ว!
ในเวลาเดียวกัน งูกลายพันธุ์มุ่งไปหาทหารคนอื่นที่กําลังเข้ามาสนับสนุนพวกพ้อง มันใช้หางยาวๆของมันฟาดโจมตีเข้าใส่ทันที ฟาดทหารทั้งหมดกระเด็นไปชนกับกําแพง หลังจากนั้น มันยกหัวของมันขึ้นสูง เปิดเผยร่างกายอันใหญ่โตของมัน จากด้านในเศษซากปรักหักพัง เกล็ดมันวาวของมันสะท้อนกับแสงอาทิตย์ ซึ่งหมอกสีดํากําลังปกคลุมร่างกายของมันอยู่!